พระฝางจำลอง เป็นพระพุทธรูปสร้างใหม่ ประดิษฐานที่อุโบสถวัดพระฝางสว่างคบุรีมุนีนาถ อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ พระพุทธรูปองค์นี้จำลองมาจาก พระพุทธรูปพระฝาง ที่ประดิษฐาน ณ วัดเบญจมบพิตร ทั้งองค์จำลองและองค์จริงมีพุทธลักษณะปางมารวิชัย ทรงเครื่องอย่างจักรพรรดิราช ศิลปะสมัยอยุธยาวัสดุโลหะลงรักปิดทอง (องค์จริงโลหะสัมฤทธิ์ปิดทอง) หน้าตักกว้าง 1 ศอก 1 คืบเศษ (31 นิ้ว)

พระฝางจำลอง
ชื่อเต็มพระฝางจำลอง
ชื่อสามัญพระฝางจำลอง
ประเภทพระพุทธรูป
ศิลปะศิลปะอยุธยา ปางมารวิชัย
ความกว้าง1 ศอก
วัสดุโลหะ
สถานที่ประดิษฐานอุโบสถ วัดพระฝางสว่างคบุรีมุนีนาถ
icon สถานีย่อยพระพุทธศาสนา

พระพุทธรูปองค์นี้ คณะนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร หลักสูตรป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 41 และหลักสูตรป้องกันราชอาณาจักรภาครัฐร่วมเอกชนรุ่นที่ 11, จังหวัดอุตรดิตถ์, กรมศิลปากร และพุทธศาสนิกชน ร่วมใจกันจัดสร้างขึ้นแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2550 และได้อัญเชิญมาประดิษฐานยังวัดพระฝางสวางคบุรี เมื่อวันที่1 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 เพื่อนำมาประดิษฐาน ณ ฐานพระเปล่าในอุโบสถวัดพระฝาง สถานที่ ๆ เคยประดิษฐานพระพุทธรูปพระฝางในอดีต พระพุทธรูปที่รัชกาลที่ 5 โปรดให้อัญเชิญองค์พระมาประดิษฐานที่มุขเด็จ พระวิหารสมเด็จ วัดเบญจมบพิตร กรุงเทพมหานคร ในปี พ.ศ. 2444 และยังคงประดิษฐานอยู่ที่นั่นมาจนถึงปัจจุบัน

การจัดสร้างองค์พระฝางจำลอง

แก้
 
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงประกอบพิธีเททองหล่อพระฝางทรงเครื่อง ณ วัดเบญจมบพิตร เมื่อวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2549

พ.ศ. 2547 คณะนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร หลักสูตรป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 41 และหลักสูตรป้องกันราชอาณาจักรภาครัฐร่วมเอกชนรุ่นที่ 11, จังหวัดอุตรดิตถ์, กรมศิลปากร และพุทธศาสนิกชน ได้ร่วมกันบูรณปฏิสังขรณ์วัดพระฝางสวางคบุรี และจัดสร้างบานประตูวัดพระฝางจำลอง รวมทั้งจัดสร้างองค์พระฝางจำลองเพื่อนำกลับไปประดิษฐาน ณ วัดพระฝางสวางคบุรี

โดยคณะกรรมการ วปรอ. 41-11 ได้ทำการขอพระบรมราชานุญาตจากองค์พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรเพื่อจัดสร้างองค์พระฝางจำลองในปี พ.ศ. 2547 ตามหนังสือพระราชทานพระบรมราชานุญาตที่ 112/47 ลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2547 [1]

พิธีหล่อพระฝางทรงเครื่อง (จำลอง) องค์ใหม่ จัดขึ้นที่ วัดเบญจมบพิตร โดยมีสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงประกอบพิธีเททองหล่อพระฝางทรงเครื่อง เมื่อวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2549 และวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2551 พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ครั้นยงทรงเป็นพระอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมุฎราชกุมาร ทรงประกอบพิธีเบิกพระเนตร พระพุทธรูปพระฝางจำลอง ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง กรุงเทพมหานคร[2]

การจัดสร้างองค์พระฝางจำลองแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2550 และได้อัญเชิญมาประดิษฐานยังวัดพระฝางสวางคบุรี เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 โดยอัญเชิญมาจากกรุงเทพมหานครโดยเครื่องบินมายังสนามบินพิษณุโลก ในวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2551 โดยมีการจัดงานเฉลิมฉลอง​ที่จังหวัดพิษณุโลก 7 วัน​ 7 ​คืน​ในวันที่ 24 ถึง30 เมษายน พ.ศ. 2551 และได้อัญเชิญมายังวัดพระฝางสวางคบุรีในวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 โดยมีการจัดพิธีต้อนรับพระฝางทรงเครื่องจำลองและมีการจัดมหรสพสมโภช การแสดงแสงสีเสียง ประวัติของเมืองฝางและพระพุทธรูปพระฝาง อย่างยิ่งใหญ่ 9 วัน 9 คืน[3]

ปัจจุบันพระพุทธรูปพระฝางจำลองได้ประดิษฐาน ณ อุโบสถวัดพระฝางตามเดิม หลังจากพระพุทธรูปพระฝางองค์จริงได้จากเมืองอุตรดิตถ์ไปครบ 100 ปี การอัญเชิญพระพุทธรูปพระฝางจำลองกลับคืนสู่จังหวัดอุตรดิตถ์ในปี พ.ศ. 2551 นี้ นับว่าเป็นมงคลสมัยครบรอบ 100 ปี นับแต่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชหัตถเลขารับสั่งให้นำพระฝางกลับคืนยังเมืองฝาง ยังความปลื้มปีติแก่ชาวอุตรดิตถ์เป็นล้นพ้น จากพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9[4]


ดูเพิ่ม

แก้

อ้างอิง

แก้

แหล่งข้อมูลอื่น

แก้