พระนาลกะ
พระนาลกเถระ หรือ พระนาลกะ เป็นพระภิกษุสาวกเอตทัคคะของพระพุทธเจ้า นับเนื่องในพระอสีติมหาสาวก 80 องค์สำคัญในพระพุทธศาสนาในสมัยพุทธกาล
พระนาลกเถระ | |
---|---|
ข้อมูลทั่วไป | |
ชื่อเดิม | นาลกะ |
สถานที่เกิด | กรุงกบิลพัสดุ์ |
สถานที่บวช | วัดนิโครธาราม |
วิธีบวช | เอหิภิกขุอุปสัมปทา |
ฐานะเดิม | |
ชาวเมือง | เมืองกบิลพัสดุ์ แคว้นสักกะ |
มารดา | ผู้เป็นน้องชายของอสิตดาบส (กาฬเทวิลดาบส) |
วรรณะเดิม | พราหมณ์ |
หมายเหตุ | |
ผู้บำเพ็ญโมเนยยปฏิปทา | |
![]() |
ประวัติ
แก้พระนาละกะ เกิดในวรรณะพราหมณ์ เมืองกบิลพัสดุ์ แคว้นสักกะ มารดาของท่านเป็นน้องสาวของอสิตะดาบส (กาฬเทวิลดาบส) อาจารย์ของพระเจ้าสุทโธทนะพระชนกของพระพุทธเจ้า ท่านจึงเป็นหลานของอสิตะดาบส เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะประสูติได้ 3 วัน ท่านอะสิตะดาบสได้ไปเยี่ยมพระเจ้าสุทโธทะนะเพื่อดูพระโอรส จึงทราบว่าอีกไม่นานพระโอรสเจ้าตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแน่นอน ท่านได้กลับมาบอกนาละกะหลานชายว่า เจ้าชายสิทธัตถะจะได้เป็นศาสดาเอกของโลก ให้นาละกะออกบวชเป็นฤๅษีบำเพ็ญฌานรอจนกว่าเจ้าชายสิทธัตถะบรรลุธรรม และให้กลับมาขอให้ทรงประทานโมเนยยะปฏิบัติ (การปฏิบัติของมุนี) ซึ่งเป็นชื่อเรียกการปฏิบัติให้บรรลุธรรมในยุคที่พระพุทธเจ้ายังไม่ตรัสรู้
การออกบวชและบรรลุธรรม
แก้หลังจากฤๅษีนาลกะได้บรรลุสมาบัติ 8 และต่อมาเมื่อพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นในโลก ฤๅษีนาลกะผู้ซึ่งรอมานานได้ยินข่าวว่าเจ้าชายสิทธัตถะเป็นศาสดาเอกแล้ว จึงรีบเหาะมาเข้าเฝ้า และขอโมเนยยปฏิบัติตามคำของลุง ในวันที่ 7 นับจากวันที่ทรงแสดงปฐมเทศนาธัมมจักกัปปวัตตนสูตร พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงแสดงพระธรรมเทศนาเรื่องปฏิปทาของมุนีและทรงประทานโมเนยยปฏิบัติเป็นพระคาถา 4 บาท ว่า "อย่าเที่ยวภิกขาจารในที่เดิมซ้ำ อย่านอนในที่เดิมซ้ำ เพื่อไม่ตัดสินว่าใครดีชั่ว เพื่อไม่พิจารณาว่าที่นี้หยาบปราณีต" เมื่อพระนาลกะได้รู้โมเนยยปฏิบัติแล้ว จึงขอประทานการอุปสมบท พระนาลกะครั้นตั้งจิตยึดถือตามหลักมักน้อย 4 ประการนี้แล้ว ก็ทูลลาพระพุทธเจ้าไปอยู่ที่เชิงเขาตามลำพัง ท่านปฏิบัติตามข้อปฏิบัติของมุนีอย่างเคร่งครัด คือไม่อยู่ในป่าแห่งเดียวถึง 2 วัน ไม่นั่งที่โคนต้นไม้ต้นเดียวกันถึง 2 วัน ไม่บิณฑบาตที่บ้านเดียวถึง 2 วัน ดังนั้นท่านจึงออกจากป่าโน้นไปยังป่านี้ ออกจากต้นไม้นี้ไปยังต้นไม้โน้น และได้ประพฤติโมเนยยปฏิบัติ อย่างอุกฤษฏ์ 5 ประการ เป็นเวลา 7 เดือน คือ 1. ไม่ยึดติดสนิทสนมต่อบุคคล 2. ไม่ยึดติดถิ่นสถานที่อยู่ 3. เป็นผู้สันโดษในการเห็น 4. เป็นผู้สันโดษในการฟัง 5. เป็นผู้สันโดษในการถาม จึงได้บรรลุพระอรหันต์
โมเนยยปฏิบัติ
แก้โมเนยยปฏิบัตินั้น หากประพฤติอย่างต่อเนื่อง โดยปฏิบัติอย่างอุกฤษฏ์ ผู้ปฏิบัติก็จะคงมีชีวิตอยู่ต่อไปได้เพียง 7 เดือน ถ้าปฏิบัติเป็นมัชฌิมะปานกลาง ก็จะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ 7 ปี ถ้าปฏิบัติเป็นมันทะ คือ อย่างอ่อน ก็คงจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้นานถึง 16 ปี แต่โมเนยยปฏิบัติเป็นวัตรปฏิบัติพิเศษที่ไม่ทรงบังคับ แต่ตรัสเตือนไว้ว่าถ้าประพฤติต่อเนื่องโดยไม่หยุดพักเลยมากเกินไปจะเสียชีวิตได้ จึงควรหยุดพักเพื่อฟื้นฟูร่างกาย อย่าโหมเดินทางจาริกเกินไป แต่ก็เป็นข้อวัตรปฏิบัติสำคัญในการขัดเกลากิเลส และเป็นการอนุเคราะสัตว์โลก ถึงขนาดว่าในเรื่องโกลาหล 5 มีโมเนยยปฏิบัติอยู่ด้วย เพราะเพียงเทวดาได้ข่าวว่าพระพุทธเจ้าจะตรัสบอกโมเนยยปฏิบัติในอีก 7 ปีข้างหน้า สวรรค์ถึงกับโกลาหล เพราะโมเนยยปฏิบัติเป็นวัตรปฏิบัติพิเศษที่กำหนดให้พระภิกษุต้องออกเดินทางไปในที่ต่าง ๆ ทำให้คนมีโอกาสทำบุญมากมายจนมาเกิดเป็นเทวดาได้มากมาย โมเนยยปฏิบัติเมื่อเริ่มตั้งใจอธิษฐานฝึกแล้วจะรับบิณฑบาตจากสถานที่ใดก็รับที่นั้นเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ไม่อาจจะรับครั้งที่สองอีก, เทศนาให้ใครฟังจะไม่เทศน์ในสถานที่นั้นฟังซ้ำอีกเป็นครั้งที่สอง เพราะต้องเดินทางเปลี่ยนสถานที่ต่อไป, ไปพักใต้โคนไม้ที่ไหน หรือกุฏิไหนก็พักได้แค่คืนเดียว จะไม่หวนกลับมาพักครั้งที่สองอีก ฯลฯ ประพฤติแบบนี้ไปตลอดชีวิต เพราะฉะนั้นจึงต้องสัญจรเร่ร่อนไปเรื่อย ๆ และกลับมาซ้ำที่เดิมอีกก็ไม่ได้, พระเจ้าอโศกมหาราช องค์ที่ทรงอุปถัมภ์การสังคายนาพระธรรมวินัยครั้งที่ 3 ในอินเดีย (ของฝ่ายเถรวาท) เมื่อ พ.ศ. 235 นั้น พระองค์ท่านทรงพอพระทัยและตรัสสรรเสริญวิธีการฝึกแบบโมเนยยะนี้มากที่สุด ถึงกับมีพระราชโองการออกมาว่า พระภิกษุสงฆ์ในศาสนาพุทธควรจะประพฤติตนตามหลักการแห่งโมเนยยปฏิปทานี้
บั้นปลายชีวิต
แก้แต่เนื่องจากพระนาลกะมีอายุมาก ซ้ำประพฤติโมเนยยะอย่างอุกฤษฏ์ สังขารร่างกายจึงบอบช้ำมาก จึงได้พิจารณาอัตตภาพตน พบว่าถ้าประพฤติโมเนยยปฏิบัติอย่างอุกฤษฏ์ต่อไปจะตายภายใน 7 วัน แต่ได้นึกถึงว่าจะรักษาธรรมหรือจะรักษาชีวิตพิจารณาว่าจะรักษาธรรม จึงประพฤติต่อไป มีกล่าวไว้ว่า วันที่จะนิพพานนั้น ท่านรู้ตัวดีจึงสรงน้ำชำระกายแล้วครองผ้าอย่างเรียบร้อย ท่านยืนหันหน้าไปทางที่พระพุทธเจ้าประทับอยู่ ซึ่งคาดว่าขณะนั้นพระพุทธเจ้าคงประทับอยู่ ณ วัดเวฬุวัน เมืองราชคฤห์ แคว้นมคธ จากนั้นท่านก็ก้มลงกราบด้วยเบญจางคประดิษฐ์แล้วลุกขึ้นยืนพิงภูเขาหิงคุละ ประนมมือนิพพานด้วยอาการสงบ เมื่อพระพุทธเจ้าทรงทราบด้วยพระญาณว่าพระนาลกะนิพพานแล้ว พระพุทธเจ้าก็เสด็จมายังภูเขาหิงคุละพร้อมด้วยพระสาวกหลายรูป ครั้นรับสั่งให้ฌาปนกิจศพท่านแล้วก็ทรงรับสั่งให้สร้างพระเจดีย์บนภูเขาหิงคุละและนำอัฐิของท่านไปบรรจุไว้ในพระเจดีย์ เพื่อให้พุทธบริษัทได้สักการะ
เอตทัคคะ
แก้ได้รับเอตทัคคะว่าเป็นผู้เลิศด้วยการประพฤติโมเนยยปฏิบัติ ในพระศาสนาของพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง จะมีผู้ประพฤติโมเนยยปฏิบัติอย่างอุกฤษฏ์และบรรลุพระอรหัตจากการประพฤติโมเนยยปฏิบัติ จะมีได้แค่เพียงรูปเดียวในศาสนาพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง ๆ
อดีตชาติ
แก้พระนาลกะมิได้รับแต่งตั้งไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะ ทั้งนี้เป็นด้วยท่านตั้งจิต ปรารถนาเพียงเพื่อเป็นพระมหาสาวกเท่านั้น แต่มิได้ตั้งจิตปรารถนาเพื่อได้ตำแหน่งเอตทัคคะ ส่วนเรื่องราวในอดีต ชาติของท่านมีกล่าวว่า ท่านได้พบพระพุทธเจ้าปทุมุตตระ ฟังธรรมแล้วเกิดความเลื่อมใส จึงตั้งจิตปรารถนาขอให้ได้บรรลุอรหัตผลและเป็นพระมหาสาวก
ซึ่งพระพุทธเจ้าปทุมุตตระทรงพยากรณ์ว่า ท่านจะได้บวชเป็นสาวกของพระพุทธเจ้าโคดมในอีก 100,000 กัปข้างหน้า จักได้บรรลุอรหัตผล ท่านได้ฟังพระพุทธเจ้าตรัสพยากรณ์แล้วเกิดปีติโสมนัสเป็นอย่างยิ่ง ได้ทำบุญอื่น ๆ สนับสนุนอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต จากชาตินั้นบุญส่งผลให้เวียนว่ายตายเกิดในภพภูมิต่าง ๆ จนมาถึงพุทธุปบาทกาลของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ท่านได้มาเกิด เป็นหลานของฤๅษีอสิตะในเมืองกบิลพัสดุ์ ครั้นออกบวชก็ได้บรรลุอรหัตผลดังกล่าวแล้ว และเป็นพระมหาสาวกรูปหนึ่งในศาสนาของพระองค์
อ้างอิง
แก้- พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม 1 ภาค 6 - หน้าที่ 627 นาลกสูตร
- พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม 1 ภาค 6 - หน้าที่ 631 อรรถกถานาลกสูตรที่ 11_1
- พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม 1 ภาค 6 - หน้าที่ 660 [ปรมัตถโชติกา]
- สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส. (2525). ธรรมวิภาคปริเฉทที่ 2. พิมพ์ครั้งที่ 23. กรุงเทพฯ: คณะกรรมการแผนกตำรา มหามกุฏราชวิทยาลัย.
- หนังสือ สู่แดนพระพุทธองค์ โดย พระราชรัตนรังษี (ว.ป. วีรยุทโธ)
- พระพุทธกิจ 45 พรรษา ของ สุรีย์และ วิเชียร มีผลกิจ
- นครราชคฤห์ เมืองหลักพระพุทธศาสนา ของ พระมหา ดร. วิเชียร วชิรวังโส และ พระมหาดาวสยาม วชิรปัญโญ
- 45 พรรษา ของพระพุทธเจ้า พระนิพนธ์ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก
- คำบรรยาย พระไตรปิฏก ของศาสตราจารย์พิเศษ เสฐียรพงษ์ วรรณปก ราชบัณฑิต
- สวดมนต์แปล วัดจันทาราม (วักท่าซุง) อ.เมือง อุทัยธานี
- พุทธสาวก พุทธสวิกา ของ เสถียรพงษ์ วรรณปก
ดูเพิ่ม
แก้แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- เว็บไซต์ 84000
- เว็บไชต ธรรมะ เกตเวย์ เก็บถาวร 2009-04-15 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน