พรรคคอมมิวนิสต์ฮังการี
พรรคคอมมิวนิสต์ฮังการี (ฮังการี: Magyar Kommunista Párt, ชื่อย่อ MKP) ช่วงเริ่มแรกรู้จักกันในชื่อ พรรคคอมมิวนิสต์ในฮังการี (ฮังการี: Kommunisták Magyarországi Pártja, ชื่อย่อ KMP) เป็นพรรคการเมืองสายคอมมิวนิสต์ในประเทศฮังการีที่ดำรงอยู่ในช่วงระหว่างสงครามและในช่วงสั้น ๆ ภายหลังสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุด
พรรคคอมมิวนิสต์ในฮังการี (1918–1919; 1922–1943) พรรคสังคมนิยมฮังการี (1919) พรรคแรงงานสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ฮังการี (1919) พรรคสันติภาพ (1943–1944) พรรคคอมมิวนิสต์ฮังการี (1944–1948) | |
---|---|
ตราประจำพรรคระหว่างปี 1944 จนถึง 1948 | |
ผู้นำพรรคคนแรก | เบลอ กุน |
ผู้นำพรรคคนสุดท้าย | มาจาช ราโกชี |
ก่อตั้ง | 24 พฤศจิกายน 1918 |
ถูกยุบ | 22 กรกฎาคม 1948 |
ถัดไป | แอ็มเดเป |
อุดมการณ์ | |
จุดยืน | ซ้ายจัด |
กลุ่มระดับชาติ | กลุ่มซ้าย |
กลุ่มระดับสากล |
|
สี | แดง |
สภา (มิถุนายน 1945) | 166 / 498 |
สภา (พฤศจิกายน 1947) | 100 / 364 |
ธงประจำพรรค | |
การเมืองฮังการี รายชื่อพรรคการเมือง การเลือกตั้ง |
พรรคก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 1918 ในชื่อ "พรรคคอมมิวนิสต์ในฮังการี" และอยู่ในอำนาจในช่วงเดือนมีนาคมจนถึงสิงหาคม 1919 เมื่อ เบลอ กุน ได้สถาปนาสาธารณรัฐโซเวียตฮังการีที่มีอายุสั้น รัฐบาลคอมมิวนิสต์ถูกกองทัพโรมาเนียโค่นล้มในเวลาต่อมา กุนจึงลี้ภัยไปเวียนนา และต่อมาตัวเขาพร้อมด้วยสมาชิกคอมมิวนิสต์คนอื่น ๆ ได้ย้ายไปยังมอสโก และพรรคเริ่มมีจำนวนสมาชิกน้อยลงเรื่อย ๆ ในทุก ๆ ปี ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง พรรคได้เปลี่ยนชื่อเป็น "พรรคสันติภาพ" แต่เพียงไม่กี่เดือนต่อมา ในปี 1944 พรรคได้ใช้ชื่อใหม่ซึ่งจะคงอยู่จนถึงปี 1948 ภายหลังสงคราม พรรคเริ่มมีอำนาจมากขึ้นและจำนวนสมาชิกก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นำไปสู่การที่ มาจาช ราโกชี ได้กวาดล้างพรรคการเมืองอื่น ๆ ในประเทศ เว้นแต่พรรคประชาธิปไตยสังคมนิยมฮังการี (ซึ่งมีอุดมการณ์ร่วมกัน) เพื่อก่อตั้งรัฐพรรคการเมืองเดียว ในปี 1948 พรรคได้รวมเข้ากับพรรคประชาธิปไตยสังคมนิยมเพื่อก่อตั้ง "พรรคประชาชนแรงงานฮังการี" ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นพรรครัฐบาลต่อไปของฮังการี พรรคยังเป็นสมาชิกของโคมินเทิร์นและโคมินฟอร์มอีกด้วย
การก่อตั้งและช่วงปีแรก
แก้พรรคคอมมิวนิสต์ฮังการี (KMP) ถูกก่อตั้งขึ้นในชื่อ "พรรคคอมมิวนิสต์ในฮังการี" ในช่วงปลายปี 1918 โดย เบลอ กุน อดีตนักข่าวผู้ต่อสู้เพื่อจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง หลังจากการใช้เวลาอยู่ในค่ายเชลยศึกในรัสเซีย กุนและบรรดาเพื่อนของเขาได้ก่อตั้งกลุ่มคอมมิวนิสต์ซึ่งจะเป็นรากฐานของพรรคในอนาคตที่กรุงมอสโกในเดือนตุลาคม 1918 สมาชิกกลุ่มแรกได้กลับมายังฮังการีในเดือนพฤศจิกายน และในวันที่ 24 ได้มีการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์อย่างเป็นทางการ พรรคคอมมิวนิสต์ใช้ชื่อว่า "พรรคคอมมิวนิสต์ในฮังการี" (ฮังการี: Kommunisták Magyarországi Pártja) แทนที่จะใช้ชื่อ "พรรคคอมมิวนิสต์ฮังการี" เนื่องจากชนชั้นทางสังคมส่วนใหญ่เป็นคนงานในโรงงานในบูดาเปสต์ ซึ่งไม่ใช่ชาติพันธุ์ชาวฮังการี และมีชาวฮังการีเป็นเพียงส่วนน้อยนิดเท่านั้นในพรรคที่เพิ่งก่อตั้งใหม่[1] ในขั้นต้น กลุ่มยังมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับพรรคประชาธิปไตยสังคมนิยมฮังการี อย่างไรก็ตาม ความไม่มั่นคงทางการเมืองของรัฐบาลภายใต้การนำของ มิฮาย กาโรยี และความนิยมที่เพิ่มขึ้นของขบวนการบอลเชวิค ทำให้พรรคประชาธิปไตยสังคมนิยมต้องการเป็นพันธมิตรกับพรรคคอมมิวนิสต์ สำหรับพรรคประชาธิปไตยสังคมนิยม การเป็นพันธมิตรกับพรรคคอมมิวนิสต์ไม่เพียงแต่เพิ่มจุดยืนของตนกับผู้คนทั่วไปเท่านั้น แต่ยังทำให้พรรคเชื่อมโยงกับพรรคคอมมิวนิสต์รัสเซียที่มีอำนาจมากขึ้นอีกด้วย เนื่องจากกุนมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับบอลเชวิครัสเซีย
หลังจากการประกาศจัดตั้งสาธารณรัฐโซเวียตฮังการีในเดือนมีนาคม 1919 กุนได้เริ่มดำเนินการให้อุตสาหกรรมเอกชนเป็นของรัฐทั้งหมด ได้มีการเริ่มโครงการนารวมขนาดใหญ่ นอกจากนี้ เขายังได้ดำเนินการเพื่อทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับมหาอำนาจไตรภาคีกลับสู่สภาวะปกติ มีความพยายามทวงคืนดินแดนบางส่วนของฮังการีที่สูญเสียไปในการเจรจาหลังสงครามกลับคืนมา เป็นระยะเวลา 133 วัน ที่สาธารณรัฐโซเวียตฮังการีดำรงอยู่ พรรคคอมมิวนิสต์มุ่งเน้นไปที่การพยายามแก้ไขความวุ่นวายทางเศรษฐกิจที่แพร่กระจาย อันเป็นผลมาจากความพ่ายแพ้ของฮังการีในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เป็นที่น่าเสียดายที่นโยบายทางเศรษฐกิจของกุนได้สร้างอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและทำให้เกิดการขาดแคลนอาหารทั่วประเทศ ฝ่ายต่อต้านที่นำโดย มิกโลช โฮร์ตี เริ่มแข็งแกร่งขึ้น และในเดือนมิถุนายน ได้เกิดความพยายามในการรัฐประหาร ทำให้พรรคคอมมิวนิสต์เริ่มกวาดล้างฝ่ายตรงข้ามอย่างรุนแรงโดยตำรวจลับ สาธารณรัฐโซเวียตสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 1919 หลังจากกองทัพฮังการีพ่ายแพ้สงครามต่อโรมาเนีย เมื่อกองทัพโรมาเนียเข้ารุกบูดาเปสต์ กุจึงลี้ภัยไปยังเวียนนา และยอมให้พรรคคอมมิวนิสต์มอบอำนาจให้แก่พรรคประชาธิปไตยสังคมนิยม
สมัยระหว่างสงครามและพลัดถิ่น
แก้ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
สงครามโลกครั้งที่สองและคอมมิวนิสต์ขึ้นสู่อำนาจ
แก้ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ประวัติการเลือกตั้ง
แก้การเลือกตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
แก้ปีที่เลือกตั้ง | ผู้นำ | จำนวนที่นั่ง | พันธมิตร | ลำดับที่ |
---|---|---|---|---|
1944 | มาจาช ราโกชี | 166 / 498
|
FKGP–MKP–MSZDP–NPP–PDP | 1 |
1945 | มาจาช ราโกชี | 70 / 409
|
FKGP–MKP–MSZDP–NPP | 3 |
1947 | มาจาช ราโกชี | 100 / 411
|
FKGP–MKP–MSZDP–NPP | 1 |
ผู้นำ
แก้- เบลอ กุน (1918–1936)
- ยาโนช กาดาร์ (1943–1944)
- มาจาช ราโกชี (1944–1948)
สมาชิกหลัก
แก้ดูเพิ่ม
แก้อ้างอิง
แก้- ↑ E. Raffay, Trianon Titkai (Secrets of Trianon), Szikra Press, Budapest 1990 (ISBN 9632174771) - PAGE: 13
บรรณานุกรม
แก้- Crampton, R.J. Eastern Europe in the Twentieth Century - And After, 2nd Ed. Routledge Press, 1994.
- Kenez, Peter Hungary from the Nazis to the Soviets: The Establishment of the Communist Regime in Hungary, 1944-1948, Cambridge University Press, 2006
- Kovrig, Bennett. Communism in Hungary: From Kun to Kadar. Hoover Institution Press. Stanford, 1979
- Molnár, Miklós From Béla Kun to János Kádár: Seventy Years of Hungarian Communism, Berg Publishers, 1990