บู๊ขิวเขียม หรือ บูขิวเคียม[2] (เสียชีวิต 16 มีนาคม ค.ศ. 255)[a] มีชื่อในภาษาจีนกลางว่า กว้านชิว เจี่ยน (จีน: 毌丘儉; พินอิน: Guànqiū Jiǎn) ชื่อรอง จ้งกง (จีน: 仲恭; พินอิน: Zhònggōng) เป็นขุนพลและขุนนางของรัฐวุยก๊กในยุคสามก๊กของจีน

บู๊ขิวเขียม (กว้านชิว เจี่ยน)
毌丘儉
ขุนพลพิทักษ์ภาคตะวันออก
(鎮東將軍 เจิ้นตงเจียงจฺวิน)
ดำรงตำแหน่ง
ค.ศ. 252 (252) – 16 มีนาคม ค.ศ. 255 (255)
กษัตริย์โจฮอง / โจมอ
ก่อนหน้าจูกัดเอี๋ยน
ขุนพลพิทักษ์ภาคใต้
(鎮南將軍 เจิ้นหนานเจียงจฺวิน)
ดำรงตำแหน่ง
ค.ศ. ? (?) – ค.ศ. 252 (252)
กษัตริย์โจฮอง
ข้าหลวงมณฑลอิจิ๋ว (豫州刺史 ยฺวี่โจวชื่อฉื่อ)
ดำรงตำแหน่ง
ค.ศ. ? (?) – ค.ศ. 252 (252)
กษัตริย์โจฮอง
ขุนพลทัพซ้าย (左將軍 จั่วเจียงจฺวิน)
ดำรงตำแหน่ง
ค.ศ. ? (?) – ค.ศ. ? (?)
กษัตริย์โจฮอง
ขุพนพลข้ามแดนเลียว
(度遼將軍 ตู้เหลียวเจียงจฺวิน)
ดำรงตำแหน่ง
ค.ศ. 235 (235) – ค.ศ. ? (?)
กษัตริย์โจยอย / โจฮอง
นายพันพิทักษ์ออหวน
(護烏丸校尉 ฮู่อูหฺวานเซี่ยวเว่ย์)
ดำรงตำแหน่ง
ค.ศ. 235 (235) – ค.ศ. ? (?)
กษัตริย์โจยอย
ข้าหลวงมณฑลอิวจิ๋ว (幽州刺史 โยวโจวชื่อฉื่อ)
ดำรงตำแหน่ง
ค.ศ. 235 (235) – ค.ศ. ? (?)
กษัตริย์โจยอย
ก่อนหน้าหวาง สฺยง (王雄)
ข้าหลวงมณฑลเกงจิ๋ว (荊州刺史 จิงโจวชื่อฉื่อ)
ดำรงตำแหน่ง
ค.ศ. ? (?) – ค.ศ. ? (?)
กษัตริย์โจยอย
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิดไม่ทราบ
อำเภอเหวินสี่ มณฑลชานซี
เสียชีวิต16 มีนาคม พ.ศ. 255[a]
อำเภอเฝย์ตง มณฑลอานฮุย
บุตร
บุพการี
  • กว้านชิว ซิง (บิดา)
ญาติกว้านชิว ซิ่ว (น้องชาย)
อาชีพขุนพล, ขุนนาง
ชื่อรองจ้งกง (仲恭)
บรรดาศักดิ์อานอี้โหว (安邑侯)

ประวัติ

แก้
 
ชิ้นส่วนที่ค้นพบใหม่ของศิลาจารึกที่ระลึกบู๊ขิวเขียม

บู๊ขิวเขียมเป็นชาวอำเภอเหวินสี่ (聞喜縣 เหวินสี่เซี่ยน) เมืองฮอตั๋ง (河東 เหอตง)[3] ซึ่งปัจจุบันคืออำเภอเหวินสี่ มณฑลชานซี บิดาของบู๊ขิวเขียมคือกว้านชิว ซิง (毌丘興) รับราชการเป็นเจ้าเมืองของเมืองอู่เวย์ (武威郡 อู่เวย์จฺวิ้น) ในรัฐวุยก๊ก และมีบรรดาศักดิ์เป็น "เกาหยางเซียงโหว" (高陽鄉侯)[4] ภายหลังจากบิดาเสียชีวิต บู๊ขิวเขียมได้สืบทอดบรรดาศักดิ์ของบิดา และรับราชการเป็นเสมียนของผิง-ยฺเหวียนโหว (平原侯)[5]

ในปี ค.ศ. 226 หลังโจยอยจักรพรรดิลำดับที่ 2 ของวุยก๊กขึ้นครองราชย์ พระองค์แต่งตั้งบู๊ขิวเขียมให้เป็นเจ้าหน้าที่สำนักราชเลขาธิการ (尚書郎 ช่างชูหลาง) และหัวหน้าหน่วยทหารราชองครักษ์[6] เนื่องจากบู๊ขิวเขียมเดิมเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ช่วยของโจยอยเมื่อครั้งที่พระองค์ยังคงมีฐานะเป็นรัชทายาท โจยอยจึงทรงปฏิบัติต่อบู๊ขิวเขียมเป็นอย่างดีเป็นพิเศษ[7] ต่อมาบู๊ขิวเขียมขึ้นมามีตำแหน่งขุนนางนิคมการเกษตรแห่งลกเอี๋ยง (洛陽典農 ลั่วหยางเตี่ยนหนง)[8] ในช่วงเวลานั้น บู๊ขิวเขียมเขียนฎีกาถึงโจยอย ทูลแนะนำให้พระองค์ลดขนาดโครงการการก่อสร้างพระราชวังที่ใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย[9] ต่อมาบู๊ขิวเขียมได้รับการเลื่อนขั้นขึ้นเป็นข้าหลวงมณฑล (刺史 ชื่อฉื่อ) ของมณฑลเกงจิ๋ว[10]

ในปี ค.ศ. 237 บู๊ขิวเขียมนำทัพไปเลียวตั๋งเพื่อโจมตีขุนศึกกองซุนเอี๋ยนซึ่งเคยเป็นผู้ปกครองรัฐประเทศราชของวุยก๊กแต่ตัดสินใจก่อกบฏต่อต้านการปกครองของวุยก๊ก อย่างไรก็ตาม การทัพถูกยกเลิกไปเนื่องจากน้ำท่วมหนัก[11] ในปีถัดมา บู๊ขิวเขียมและสุมาอี้นำการทัพรบกับกองซุนเอี๋ยนอีกครั้งและเอาชนะได้ ฟื้นฟูความสงบในเลียวตั๋ง[12] จากความดีความชอบในการทัพ โจยอยจึงเลื่อนบรรดาศักดิ์ของบู๊ขิวเขียมจากโหวระดับตำบลเป็นโหวระดับอำเภอในชื่อบรรดาศักดิ์ว่า "อานอี้โหว" (安邑候) หรือโหวแห่งอำเภออันอิบ (安邑 อานอี้)[13]

ในปี ค.ศ. 244 บู๊ขิวเขียมยกทัพบุกอาณาจักรโคกูรยอ นำไปสู่สงครามโคกูรยอ-วุยก๊ก บู๊ขิวเขียมเอาชนะทัพโคกูรยอที่นำโดยพระเจ้าทงช็อนใกล้กับแม่น้ำหุน (浑江 หุนเจียง) จากนั้นก็ยึดได้ฮวันโดนครหลวงของโคกูรยอ ในการทัพครั้งถัดมาในปีถัดไป บู๊ขิวเขียมยึดได้ฮวันโดอีกครั้งและบีบให้พระเจ้าทงช็อนต้องเสด็จหนีไปทางตะวันออกเฉียงใต้ กองกำลังย่อยในทัพของบู๊ขิวเขียมยกไปถึงชายฝั่งตะวันออกของคาบสมุทร อีกกองกำลังย่อยยกไปถึงตอนเหนือของแมนจูเรีย แต่ต่อมาไม่นานก็ถอนทัพกลับ มีการสลักศิลาจารึกเพื่อระลึกถึงชัยชนะของบู๊ขิวเขียมในการทัพ ในปี ค.ศ. 1905 มีการค้นพบชิ้นส่วนของศิลาจารึก ซึ่งถูกเรียกว่าศิลาจารึกบันทึกผลงานของบู๊ขิวเขียม (毌丘儉紀功碑 กวานชิว เจี่ยนจี้กงเปย์)

ในปี ค.ศ. 255 บู๊ขิวเขียมและบุนขิมเริ่มก่อกบฏในฉิวฉุน (壽春 โช่วชุน; อยู่บริเวณอำเภอโช่ว มณฑลอานฮุยในปัจจุบัน) ต่อต้านสุมาสูผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์แห่งวุยก๊กผู้ขึ้นมามีอำนาจในปี ค.ศ. 251 และผูกขาดอำนาจรัฐ ทำให้จักรพรรดิวุยก๊กกลายเป็นผู้ปกครองหุ่นเชิด นักประวัติศาสตร์บางคนมีความเห็นว่าบู๊ขิวเขียมก่อกบฏเพราะยังคงภักดีต่อจักรพรรดิแห่งวุยก๊กคือโจมอ และไม่พอใจที่ตระกูลสุมาควบคุมราชสำนักอยู่เบื้องหลัง อีกแหล่งข้อมูลระบุว่าบู๊ขิวเขียมสนิทกับแฮเฮาเหียนซึ่งถูกสุมาสูกำจัดในปี ค.ศ. 254 ในช่วงเวลาที่สุมาสูปลดโจฮองจักรพรรดิลำดับที่ 3 ของวุยก๊กจากตำแหน่งจักรพรรดิและตั้งโจมอขึ้นแทน บู๊ขิวเขียมกลัวว่าตนจะลงเอยเหมือนแฮเฮาเหียนจึงตัดสินใจก่อกบฏต่อสุมาสู กบฏถูกปราบปรามราบคาบภายในไม่กี่เดือน บู๊ขิวเขียมถูกสังหารโดยจาง ฉู่ (張屬) ภายหลังจากที่บู๊ขิวเขียมหลบหนีจากฉิวฉุนมาที่อำเภอซิมก๋วน (慎縣 เชิ่นเซี่ยน; ปัจจุบันคืออำเภอเฝย์ตง มณฑลอานฮุย) สมาชิกในครอบครัวของบู๊ขิวเขียมส่วนใหญ่ถูกสังหาร ในขณะที่ผู้รอดชีวิตหนีไปเข้าด้วยง่อก๊กที่เป็นรัฐอริของวุยก๊ก

ชื่อ

แก้

ชื่อของบู๊ขิวเขียมหรือกว้านชิว เจี่ยนมักอ่านเป็น อู๋ชิว เจี่ยน (毋丘儉) เช่นตามที่ปรากฏในจือจื้อทงเจี้ยนของซือหม่า กวางเล่มที่ 73 อย่างไรก็ตาม อู๋ จินหฺวา (吳金華) แย้งว่าคำอ่านดั้งเดิมเป็น หมู่ชิว (母丘; หรือเขียนเป็น อู๋ชิว 毋丘 และ ม่านชิว 曼丘) และว่ากว้านชิว (毌丘) เป็นความผิดพลาดของการคัดลอกในภายหลังย้อนกลับไปถึงช่วงยุคราชวงศ์ถังและราชวงศ์ซ่ง อู๋ จินหฺวายกหลักฐานสนับสนุนข้อโต้แย้งของตนด้วยการปรากฏของชื่อสกุลหมู่ชิวบนศิลาจารึกของสุสานจากยุคสามก๊กและในรื่อจือลู่ (日知錄) โดยกู้ เหยียนอู่ (顧炎武) นักวิชาการต้นยุคราชวงศ์ชิง รวมถึงการปรากฏของชื่อสกุลอู๋ชิวบนตราประทับโบราณและแถบไม้ไผ่จากสุสานอิ่นวาน (尹灣) สุสานยุคราชวงศ์ฮั่นที่ขุดพบในปี ค.ศ. 1993 อู๋ จินหฺวายังชี้ให้เห็นว่าขุนพลชื่อม่านชิว เฉิน (曼丘臣) ถูกกล่าวถึงในบรรพ 2 ของพระราชประวัติพระเจ้าฮั่นโกโจ (漢高祖 ฮั่นเกาจู่) ในฮั่นชู (漢書) และอรรถาธิบายโดยเหยียน ชือกู่ (顏師古) นักประวัติศาสตร์ในยุคราชวงศ์ถังก็กล่าวว่า "เดิมทีม่านชิวและหมู่ชิวเป็นชื่อสกุลเดียวกัน"[14]

ดูเพิ่ม

แก้

หมายเหตุ

แก้
  1. 1.0 1.1 พระราชประวัติโจมอในสามก๊กจี่บันทึกว่าบู๊ขิวเขียมเสียชีวิตในวันเจี่ยเฉินของเดือนอธิกสุรทินในศักราชไกเจ้งปีที่ 2 ในรัชสมัยของโจมอ[1] วันที่นี้เทียบเท่ากับวันที่ 16 มีนาคม ค.ศ. 255 ในปฏิทินกริโกเรียน

อ้างอิง

แก้
  1. ([正元二年閏月]甲辰,安風津都尉斬[毌丘]儉,傳首京都。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 4.
  2. ("ครั้นอยู่มามีหนังสือบูขิวเคียมเจ้าเมืองอิ๋วจิ๋ว บอกมาให้ทูลพระเจ้าโจยอยว่า กองซุนเอี๋ยนบุตรก๋งซุนของเจ้าเมืองเสียวตั๋งคิดขบถ ยกตัวเปนเจ้าเอียนอ๋อง ตั้งแต่งขุนนางขึ้นเปนอันมาก ให้สร้างเวียงวังค่ายคูประตูหอรบไว้เปนมั่นคง แล้วซ่องสุมทแกล้วทหารได้ร้อยหมื่นจะยกมาตีเมืองลกเอี๋ยง") "สามก๊ก ตอนที่ ๗๙". วัชรญาณ. สืบค้นเมื่อ July 18, 2024.
  3. (毌丘儉字仲恭,河東聞喜人也。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 28.
  4. (父興,黃初中為武威太守,伐叛柔服,開通河右,名次金城太守蘇則。討賊張進及討叛胡有功,封高陽鄉侯。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 28.
  5. (儉襲父爵,為平原侯文學。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 28.
  6. (明帝即位,為尚書郎,遷羽林監。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 28.
  7. (以東宮之舊,甚見親待。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 28.
  8. (出為洛陽典農。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 28.
  9. (時取農民以治宮室,儉上疏曰:「臣愚以為天下所急除者二賊,所急務者衣食。誠使二賊不滅,士民飢凍,雖崇美宮室,猶無益也。」) สามก๊กจี่ เล่มที่ 28.
  10. (遷荊州刺史。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 28.
  11. (青龍中,帝圖討遼東,以儉有幹策,徙為幽州刺史,加度遼將軍,使持節,護烏丸校尉。率幽州諸軍至襄平,屯遼隧。右北平烏丸單于寇婁敦、遼西烏丸都督率眾王護留等,昔隨袁尚奔遼東者,率眾五千餘人降。寇婁敦遣弟阿羅槃等詣闕朝貢,封其渠率二十餘人為侯、王,賜輿馬繒採各有差。公孫淵逆與儉戰,不利,引還。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 28.
  12. (明年,帝遣太尉司馬宣王統中軍及儉等眾數万討淵,定遼東。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 28.
  13. (儉以功進封安邑侯,食邑三千九百戶。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 28.
  14. Wu Jinhua, "Sanguo Zhi jiaoyi xuli", 59-60

บรรณานุกรม

แก้