บุรจญ์เคาะลีฟะฮ์
บุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ หรือ เบิร์จคาลิฟา[2] (อาหรับ: برج خليفة, อักษรโรมัน: Burj Khalifa; "หอคอยเคาะลีฟะฮ์") หรือเดิมชื่อ บุรจญ์ดูไบ (อาหรับ: برج دبي, อักษรโรมัน: Burj Dubai; "หอคอยดูไบ") เป็นตึกระฟ้าสูงยวดยิ่ง ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2552 และเปิดให้ใช้ได้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2553 เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาขนาดยักษ์มีที่ตั้ง ณ "ชุมทางเชื่อมต่างระดับที่ 1" ของถนนชิค ซาเยดและถนนโดฮา
บุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ | |
---|---|
برج خليفة | |
บุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ (สูงสุดในภาพ) ในทิวย่านดาวน์ทาวน์ของนครดูไบ | |
สถิติความสูง | |
เป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลก ตั้งแต่ 2009[I] | |
ก่อนหน้านี้ | ไทเป 101 |
ข้อมูลทั่วไป | |
สถานะ | เสร็จสมบูรณ์ |
ประเภท | ผสมผสาน |
สถาปัตยกรรม | Neo-futurism |
ที่ตั้ง | ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ |
ที่อยู่ | 1 Sheikh Mohammed bin Rashid Boulevard |
ตั้งชื่อให้ | ชีกห์ เคาะลีฟะฮ์ |
เริ่มสร้าง | 6 มกราคม 2004 |
วางยอด | 17 มกราคม 2009 |
แล้วเสร็จ | 1 ตุลาคม 2009 |
เปิดใช้งาน | 4 มกราคม 2010 |
ค่าก่อสร้าง | 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ |
เจ้าของ | เอมาร์พรอปเพอร์ทีส์ |
ความสูง | |
ตัวอาคาร | 828 เมตร (2,717 ฟุต) |
ปลายยอด | 829.8 เมตร (2,722 ฟุต) |
เสาอากาศ | 242.5 เมตร (796 ฟุต) |
หลังคา | 739.4 เมตร (2,426 ฟุต) |
ชั้นบนสุด | 585.4 เมตร (1,921 ฟุต) |
ดาดฟ้า | 555.7 เมตร (1,823 ฟุต) |
ข้อมูลทางเทคนิค | |
โครงสร้าง | คอนกรีตเสริมแรง, เหล็กกล้า และอะลูมิเนียม |
จำนวนชั้น | 154 + 9 บำรุงรักษา |
พื้นที่แต่ละชั้น | 309,473 ตารางเมตร (3,331,100 ตารางฟุต) |
ลิฟต์ | 57 |
การออกแบบและการก่อสร้าง | |
สถาปนิก | เอเดรียน สมิธ |
บริษัทออกแบบ | สกิดมอร์, โอวิงส์ และเมอร์ริล |
วิศวกรโครงสร้าง | บิลล์ เบเคอร์ |
ผู้รับเหมาก่อสร้าง | ซัมซุง ซีแอนด์ที |
ข้อมูลอื่น | |
ที่จอดรถ | 2 ชั้นใต้ดิน |
เว็บไซต์ | |
www | |
อ้างอิง | |
[1] |
ผู้ออกแบบอาคารนี้ คือ เอเดรียน สมิธ สถาปนิกชาวชิคาโกจากสำนักงานสถาปนิกเอสโอเอ็ม วิศวกรโครงสร้างของตึก คือ บิลล์ เบเกอร์[3]
วันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2551 ตัวอาคารได้ก่อสร้างขึ้นสูงถึง 629 เมตร ซึ่งสูงยิ่งกว่าเสา KVLY-TV สูง 628.8 เมตร ที่ตั้งอยู่ในสหรัฐ จึงเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลก ปัจจุบันมีความสูงกว่า 828 เมตร
วันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2553 มีพิธีเปิดอาคาร และเปลี่ยนชื่ออาคารจาก "บุรจญ์ดูไบ" เป็น "บุรจญ์เคาะลีฟะฮ์" เพื่อเป็นเกียรติแก่ชีกห์เคาะลีฟะฮ์ บิน ซายิด อัลนะฮ์ยาน เจ้าผู้ครองนครอาบูดาบีและประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์[4][5]
การบริหารจัดการอาคารนั้น 37 ชั้นล่างจัดเป็นเป็นโรงแรมอาร์มานี ชั้น 45 ถึง 108 เป็นอพาร์ตเมนต์ ชั้นที่ 123 และ 124 เป็นจุดชมทิวทัศน์ ส่วนบนของตึกเป็นเสาอากาศสื่อสาร ชั้น 78 มีสระว่ายน้ำกลางแจ้งขนาดใหญ่ ที่เหลือเป็นสำนักงาน อาคารยังติดตั้งลิฟต์ที่เร็วที่สุดในโลก มีความเร็ว 18 เมตรต่อวินาที (65 กิโลเมตร หรือ 40 ไมล์ ต่อชั่วโมง)
ความสูง
แก้- ในวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 แอนโทนี วูดส์ ประธาน "สมัชชาอาคารสูงและที่อยู่อาศัยในชุมชนเมือง" ได้ให้การรับรองในชั้นต้นว่า บุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ "เป็นอาคารที่สูงที่สูงเกินอาคารไทเป 101 ในเชิงโครงสร้าง (คอนกรีต) แล้ว" แต่ยังไม่ถือเป็นทางการ จนกว่าอาคารบุรจญ์เคาะลีฟะฮ์จะแล้วเสร็จสมบูรณ์และเปิดใช้งานแล้วเป็นบางส่วน เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์อย่างโครงการอาคาร "รยูกย็อง" ของเกาหลี (330 เมตร) ดังนั้น อาคารไทเป 101 ของไต้หวัน จึงถือเป็นอาคารระฟ้าที่สูงที่สุดในโลกอย่างเป็นทางการต่อไป
- ในเดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 บุรจญ์เคาะลีฟะฮ์สูงเลยความสูงของอาคารเซียร์ซึ่งเป็นอาคารที่มีจำนวนชั้นมากที่สุดในโลก (108 ชั้น)
- วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 ผู้ก่อสร้างบุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ได้รายงานว่าการก่อสร้างได้บรรลุถึงความสูง 512.1 เมตรแล้ว มีจำนวนชั้นที่สร้างเสร็จ 141 ชั้น สูงเลยอาคารที่สูงที่สุดในโลกเมื่อวัดถึงหลังคา คือ ไทเป 101 (449.2 เมตร) ไปแล้ว
- ในเดือน กันยายน พ.ศ. 2550 บุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ ได้ทำลายสถิติหอคอยที่สูงที่สุดในโลก "หอคอยซีเอ็น" ที่ โทรอนโท ประเทศแคนาดา ซึ่งมีความสูง 553.3 เมตร และแซงหน้าสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดที่มนุษย์เคยสร้างมา นั่นคือ เสาอากาศโทรทัศน์ KVLY-TV Mast ที่สหรัฐอเมริกา
- 31 สิงหาคม พ.ศ. 2551 ห้างสรรพสินค้าในบุรจญ์เคาะลีฟะฮ์เปิดบริการ ทำให้บุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ เข้ารับตำแหน่ง ตึกที่สูงที่สุดในโลก ไทเป 101 จึงตกเป็นที่สองแล้วในปัจจุบัน
- 17 มกราคม พ.ศ. 2552 บุรจญ์เคาะลีฟะฮ์สร้างถึงจุดสูงสุดของตึก ที่ความสูง 828 เมตร (2,717 ฟุต)
- 1 ตุลาคม พ.ศ. 2552 บริษัทเอมาร์ประกาศว่าส่วนภายนอกตึกได้ก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว[6] มีความสูงถึง 818 เมตร จะกลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีความสูงที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยสร้างบนโลกใบนี้
สถิติที่บุรจญ์ดูไบครองอยู่ในปัจจุบัน
แก้- อาคารที่มีจำนวนชั้นมากที่สุด: 162 (เดิมอาคารเซียร์ -108 ชั้น)
- ตึกระฟ้าสูงที่สุดในโลกนับถึงชั้นหลังคา: 546 เมตร วันที่ 27 สิงหาคม 2550 (เดิมอาคารไทเป 101 -449.2 เมตร)
- ปั๊มคอนกรีตทางดิ่งที่สูงที่สุดในโลก (สำหรับการสร้างอาคาร) 512.1 เมตร (เดิมอาคารไทเป 101 -439.2 เมตร)
- ปล่องลิฟต์ที่ยาวที่สุดในโลก 514 เมตร
ศูนย์กลางดูไบ
แก้บุรจญ์เคาะลีฟะฮ์เป็นหนึ่งในโครงการก่อสร้างที่สำคัญของดูไบ ซึ่งประกอบด้วย บุรญุลอะร็อบ โรงแรมที่หรูที่สุดในโลก และ หมู่เกาะต้นปาล์ม รวมไปถึง ดูไบมารีนา ดูไบมอลล์ โดยมีก่อสร้างเสร็จทั้งหมดจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ โดยโครงการทั้งหมดรับรองโดยทางรัฐบาลของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยทางการท่องเที่ยวของประเทศต้องการให้ประเทศเป็นจุดสนใจที่สำคัญจุดหนึ่งของโลก
นอกจากนี้ ในฉากสำคัญของภาพยนตร์ มิชชั่น:อิมพอสซิเบิ้ล ปฏิบัติการไร้เงา ซึ่งเป็นภาคสี่ของซีรีส์ภาพยนตร์ มิชชั่น:อิมพอสซิเบิ้ล ยังได้ถ่ายทำฉาก และสถานที่โดยรอบบุรจญ์เคาะลีฟะฮ์นี้ด้วย ซึ่งรวมไปจนถึงการแสดงฉากผาดโผน ณ ด้านนอกของอาคาร[7]
แผนผัง
แก้ตารางด้านล่างคือแผนผังในอาคาร[8][9]
Floors | Use | ||
---|---|---|---|
164–209 | ยอดตึก | ||
160–163 | ห้องเครื่องยนต์ | ||
156–159 | เสาโทรคมนาคมและโทรทัศน์ | ||
155 | ห้องเครื่องยนต์ | ||
148 | ชั้นชมทัศนียภาพ "เดอะ นิว เดค" | ||
139–154 | ห้องคอร์ปอเรทสวีท | ||
136–138 | ห้องเครื่องยนต์ | ||
125–135 | ห้องคอร์ปอเรทสวีท | ||
124 | ชั้นชมทัศนียภาพ "แอท เดอะ ท็อป" | ||
123 | สกายล็อบบี้ | ||
122 | ภัตตาคาร "แอท.มอสเฟียร์" | ||
111–121 | ห้องคอร์ปอเรทสวีท | ||
109–110 | ห้องเครื่องยนต์ | ||
77–108 | ห้องชุดเพื่อการพักอาศัย อาร์มานี | ||
76 | สกายล็อบบี้ | ||
73–75 | ห้องเครื่องยนต์ | ||
44–72 | ห้องชุดเพื่อการพักอาศัย อาร์มานี | ||
43 | สกายล็อบบี้ | ||
40–42 | ห้องเครื่องยนต์ | ||
38–39 | ห้องสวีทของโรงแรมอาร์มานี | ||
19–37 | ห้องชุดเพื่อการพักอาศัย อาร์มานี | ||
17–18 | ห้องเครื่องยนต์ | ||
9–16 | ห้องชุดเพื่อการพักอาศัย อาร์มานี | ||
1–8 | โรงแรมอาร์มานี | ||
กราวด์ | โรงแรมอาร์มานี | ||
คองคอร์ส | โรงแรมอาร์มานี | ||
B1–B2 | ลานจอดรถ, ห้องเครื่องยนต์ |
ดูเพิ่ม
แก้อ้างอิง
แก้- ↑ "บุรจญ์เคาะลีฟะฮ์". CTBUH Skyscraper Center.
- ↑ ปรากฏการใช้ชื่อนี้ในแหล่งข้อมูลภาษาไทย ทั้ง ไทยพีบีเอส, ไทยรัฐ, กรุงเทพธุรกิจ, บีบีซีไทย, อิศรา
- ↑ Engineer Bill Baker Is the King of Superstable 150-Story Structures
- ↑ Bianchi, Stefania; Andrew Critchlow (4 January 2010). "World's Tallest Skyscraper Opens in Dubai". The Wall Street Journal. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 February 2021. สืบค้นเมื่อ 4 January 2010.
- ↑ "828-metre Burj Dubai renamed Burj Khalifa". Maktoob Group. 4 January 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 February 2010. สืบค้นเมื่อ 10 February 2010.
- ↑ "Burj Dubai exterior done, to open this year". Maktoob. 2009-10-01. สืบค้นเมื่อ 2009-10-01.
- ↑ "Sitting on top of the world! Is that Tom Cruise performing a death-defying stunt on the planet's highest skyscraper?". dailymail. 2010-11-25. สืบค้นเมื่อ 2011-10-27.
- ↑ "Structural Elements – Elevator, Spire, and More". BurjDubai.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 December 2009. สืบค้นเมื่อ 31 December 2009.
- ↑ "Inside the Burj Dubai". Maktoob News. 28 December 2009. สืบค้นเมื่อ 10 January 2010.
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- เว็บไซต์ทางการ
- "The Burj Dubai Tower Wind Engineering" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2023-12-08. สืบค้นเมื่อ 2023-11-30. (597 KB) (Structure magazine, June 2006)
- "The Wind Engineering of the Burj Dubai Tower" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 กันยายน 2017.
{{cite web}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์) (620 KB) (Irwin et al., November 2006) - BBC reports: Burj Khalifa opening, with video and links; Maintaining the world's tallest building
- สารสนเทศภูมิศาสตร์เกี่ยวกับ บุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ ที่ โอเพินสตรีตแมป