นางสิบสอง

นิทานพื้นบ้านไทย

นางสิบสอง หรือ พระรถเมรี หรือ พระรถเสน และในกัมพูชาเรียก พุทธแสนนางกังรี (រឿងភ្នំនាងកង្រី​​) เป็นนิทานพื้นบ้านที่ได้รับความนิยมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่าง ประเทศไทย กัมพูชา พม่า และลาว รวมถึงในมาเลเซียที่เผยแพร่ผ่านชาวมาเลเซียเชื้อสายสยามจนภายหลังได้รับความนิยมในหมู่ชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน[1]

ประวัติและฉบับ

แก้

ราว พ.ศ. 2000 พระภิกษุชาวเชียงใหม่ได้แต่งชาดกในคัมภีร์พุทธศาสนาเรื่อง รถเสนชาดก ในปัญญาสชาดกเป็นภาษาบาลี[2]

วรรณคดีสมัยอยุธยาที่เอ่ยถึง นางสิบสอง เช่น โคลงนิราศหริภุญชัย กาพย์ห่อโคลงพระศรีมโหสถ นอกจากนี้หนังสือ จินดามณี ของพระโหราธิบดีซึ่งเชื่อว่าแต่งขึ้นในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้นำเอาข้อความซึ่งน่าจะตัดมาจากเรื่อง นางสิบสอง สำนวนใดสำนวนหนึ่งมาแสดงตัวอย่างการประพันธ์ "สุรางคณาปทุมฉันท์"

นางสิบสอง เป็นเรื่องที่สังคมไทยโบราณรู้จักแพร่หลาย มีการนำมาแต่งเป็นคำประพันธ์กาพย์ขับไม้ คำฉันท์ กลอนสวด หรือกาพย์ และคำกลอน โดยเฉพาะคำฉันท์นั้น พบไม่น้อยกว่า 3 สำนวน คำกลอนพบไม่น้อยกว่า 10 สำนวน เรื่อง พระรถคำฉันท์ ที่พบต้นฉบับและกรมศิลปากรจัดพิมพ์เผยแพร่แล้วมี 3 สำนวน ได้แก่ พระรถคำฉันท์ สำนวนที่ 1 บอกชื่อไว้ในเอกสารต้นฉบับว่า พระรถนิราศคำฉันท์ สันนิษฐานว่าน่าจะแต่งขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลายหลังรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระรถคำฉันท์ สำนวนที่ 2 เข้าใจว่าน่าจะปรับปรุงแก้ไขจากพระรถคำฉันท์ สำนวนที่ 1 และ พระรถคำฉันท์ สำนวนที่ 3 บอกชื่อเรื่องไว้ในเอกสารสมุดไทยว่า พระรถคำหวน สำนวนนี้น่าจะแต่งขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ส่วน พระรถนิราศ ในลักษณะคำกลอน น่าจะเป็นผลงานของเจ้าพระยาพระคลัง (หน)[3]

ในภาคเหนือและภาคอีสานของไทยรวมถึงในลาวปรากฏชื่อว่า พุทธเสนกะ พุทธเสน พุทธเสนากะ และ นางสิบสอง เขตไทใหญ่ของรัฐฉานเรียก นางสิบสองเมืองนาย เขตไทลื้อและไทขึนเรียก จันทโสภานางสิบสอง[4]

พงศาวดารล้านช้างกล่าวถึงตำนานของชาวล้านช้างซึ่งเป็นชนเผ่าไทยกลุ่มหนึ่งว่าสืบเชื้อสายมาจากนางกังรีหรือนางเมรีในเรื่องพระรถเสน

ฉบับตีพิมพ์ หลวงศรีอมรญาณที่รวมรวมเรียบเรียงพิมพ์เมื่อ พ.ศ. 2476 ในชื่อ นิทานร้อยแก้วเรื่องพระรถเสน ฉบับ พระรถ สำนวนนายบุศย์ พิมพ์ที่โรงพิมพ์ราษฎร์เจริญในปี พ.ศ. 2492 ที่เป็นกลอนอ่านมี พระรถเมรีกลอนสุภาพ ของ ส.เลี้ยงถนอม พิมพ์ พ.ศ. 2512[5]

เนื้อหา

แก้

ชื่อและเนื้อหาปลีกย่อยแต่ละสำนวนแตกต่างกันไป แต่มีเนื้อเรื่องทำนองว่าพ่อแม่ยากจนเข็ญใจพาลูกสาว 12 คนไปปล่อยป่า นางยักษ์มาพบ จึงไปเลี้ยงจนโต นางยักษ์ก็มีหลายชื่อเช่น สารตรา กังรี พอนางสิบสองนางรู้ความจริงว่าเป็นยักษ์ จึงคิดหนีโดยหนีไปแต่งงานกับพระราชา ได้เป็นมเหสีทั้งสิบสององค์

นางยักษ์ตามไปแก้แค้น แปลงเป็นสาวสวยหลอกให้พระราชารัก นางยักษ์ควักลูกตานางทั้งสิบสองแล้วเอาไปขังไว้ทั้งสิบสองนางมีลูก คลอดลูก แล้วต้องฆ่าลูกตัวเองกินเพราะหิว

นางสิบสองคนสุดท้องไม่ยอมฆ่า แอบเลี้ยงลูกจนโตคือ พระรถ หรือพระรถเสน เมื่อนางยักษ์รู้ หลอกพระรถให้ไปเมืองยักษ์ ฝากสารลับให้นางเมรี (ลูกสาว) ฆ่าพระรถ มีคนช่วยแปลงสารลับให้เป็นสารรัก นางเมรีจึงแต่งงานกับพระรถ

พระรถมอมเหล้านางเมรี หลอกถามความลับเอาดวงตาและของวิเศษกลับมาช่วยแม่และป้า นางเมรีตามมา พระรถไม่ยอมกลับ นางเมรีเลยตรอมใจตาย ส่วนสิบสองนางได้ตาคืน อยู่ดีมีความสุข นางยักษ์เห็นพระรถเลยกระอักเลือดตาย แล้วเมื่อพระรถเสนเห็นนางเมรีตาย จึงต้องตายตามกันไป โดยนางเมรีได้อธิษฐานไว้ว่า "ชาตินี้น้องตามพี่มา ชาติหน้านี้ขอให้พี่ตามน้องไป" จึงทำให้พระรถเสนเกิดใหม่เป็นพระสุธน และนางเมรีเกิดใหม่เป็นนางมโนราห์ และเป็นที่มาของ พระสุธน มโนราห์

สถานที่อันเกี่ยวเนื่องกับนิทาน

แก้

ภาคตะวันออกของประเทศไทยแถบจังหวัดชลบุรี ฉะเชิงเทรา และปราจีนบุรี มีสถานที่เกี่ยวข้องกับนิทานหลายแห่ง โดยเฉพาะที่อำเภอพนัสนิคม อย่างเมืองที่ชื่อ เมืองพระรถ ถ้ำนางสิบสอง หมอนนางสิบสอง สระสี่เหลี่ยม มีเมืองพญาเร่ตั้งอยู่ที่อำเภอบ่อทอง จังหวัดชลบุรี[6]

ที่จังหวัดพังงามีเขาอกเมรี ที่จังหวัดนครศรีธรรมราชมีหมู่บ้านสนทรา[7] ที่กัมพูชามีภูเขานางกังรี ในจังหวัดกำปงฉนัง ปราสาทซัวปรัตในเสียมเรียบ ชาวบ้านเรียกปราสาทนี้ว่าเป็นปราสาทนางสิบสอง[8]

อ้างอิง

แก้
  1. "The Thai Menora in Malaysia: Adapting to the Penang Chinese Community" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-08-12. สืบค้นเมื่อ 2012-09-15.
  2. ธนกฤต ก้องเวหา. "รักรันทด "พระรถเมรี" เรื่อง(เบื้อง)หลังสำนวน "ฤๅษีแปลงสาร"". ศิลปวัฒนธรรม.
  3. บุญเตือน ศรีวรพจน์. "พระรถเสน: จากกาพย์ขับไม้สู่บทมโหรี". มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
  4. ดวงหทัย ลือดัง. "พุทธเสนกะกับภาพสะท้อนสังคมล้านนา". มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
  5. "พระรถเมรี มากกว่าโศกนาฏกรรม ของความรัก" (PDF). วัฒนธรรม. โรงพิมพ์สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ. 55 (2): 38.
  6. "ตำนานพระรถเมรี อำเภอพนัสนิคม". ศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรม.
  7. อินทิรา บุณยาทร. "การศึกษาพระรถเมรี ฉบับตำบลร่อนพิบูลย์" (PDF). มหาวิทยาลัยศิลปากร.
  8. จริยา สุพรรณ. "นิทานเรื่องนางสิบสอง-พระรถเมรีที่ประเทศกัมพูชา: เรื่องเล่าจากภาคสนาม". มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.