นางสาวเชียงใหม่

นางสาวเชียงใหม่ เป็นการประกวดนางงามประจำจังหวัดเชียงใหม่ เริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2477 โดยมีจุดประสงค์จัดขึ้นเพื่อทำหน้าที่เป็นทูตสายสัมพันธ์การท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ โดยมี ฟองจันทร์ อินทขัติย์ ดำรงตำแหน่งนางสาวเชียงใหม่เป็นคนแรกของการประกวด และมีผู้ชนะนางสาวเชียงใหม่ไปประกวดเวทีระดับประเทศ เช่น เช่น นางสาวไทย , มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ , มิสไทยแลนด์เวิลด์ เป็นต้น จากเวทีนี้มีผู้เข้าประกวดจำนวนหนึ่งได้รับตำแหน่งในการประกวดระดับชาติและระดับสากล เช่น ดวงจันทร์ บุญศรี นางสาวเชียงใหม่ 2495 ได้รับตำแหน่งรองอันดับ 1 นางสาวไทย 2495 , รุ่งทิพย์ ภิญโญ นางสาวเชียงใหม่ 2510 ได้รับตำแหน่งรองอันดับ 1 นางสาวไทย 2510 , สรารัตน์ หรุ่มเรืองวงษ์ นางสาวเชียงใหม่ 2529 ได้รับตำแหน่งรองอันดับ 1 นางสาวไทย 2529 และ รองอันดับ 2 มิสเอเชียแปซิฟิก 2529 , ภาสินี วงษ์บุญตรี นางสาวเชียงใหม่ 2546 ได้รับตำแหน่งนางสาวถิ่นไทยงาม 2547 และ มิสยังอินเตอร์เนชั่นแนล 2550 , กฤชกร หอมบุญญาศักดิ์ นางสาวเชียงใหม่ 2553 ได้รับตำแหน่งนางสาวไทย 2553 เป็นต้น[1]

ประวัติ แก้

เวทีการประกวดความงามของสาวงามเชียงใหม่นั้นสืบสาวไปได้ราวปี พ.ศ.2473 ในงานรื่นเริงฤดูหนาวของจังหวัดเชียงใหม่ ณ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ซึ่งเป็นโรงเรียนรัฐบาลแห่งแรกของจังหวัดเชียงใหม่ ในขณะนั้น มีการประกวดสาวงามประจำท้องถิ่นโดยใช้ชื่อการประกวดว่า “นางงามประจำร้าน” กระทั่งต่อมาในปี พ.ศ.2475 ประเทศไทยได้รับพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับแรก ในยุคนั้น งานเฉลิมฉลองรัฐธรรมนูญจะมีบทบาทต่อสังคม ประชาชน อย่างมาก ในพระนครจะมีการจัดงานเฉลิมฉลองขึ้นในช่วงประมาณวันที่ 8-12 ธันวาคม ของทุก ๆ ปี

ทั้งนี้ในปี พ.ศ.2477 คณะกรรมการจัดงานฉลองรัฐธรรมนูญมีความประสงค์ที่จะสร้างสีสันและดึงดูดความสนใจจากประชาชนให้มาร่วมงานมากขึ้น จึงได้จะการประกวดนางงามขึ้นภายในงานฉลองรัฐธรรมนูญ โดยกำหนดชื่อของการประกวดว่า “นางงามสยาม” ทั้งนี้ ในปีเดียวกันนี้ จังหวัดเชียงใหม่ได้จัดงานรื่นเริงเพื่อเฉลิมฉลองรัฐธรรมนูญขี้นบ้าง โดยจัดให้มีการออกร้านของหน่วยงานราชการและเอกชนต่าง ๆ มากมาย พร้อมกันนั้นก็ได้เปลี่ยนชื่อการประกวดนางงามภายในงาน จากนางงามประจำร้าน เป็นการประกวดนางงามเชียงใหม่ ในปีนั้น มีสาวงามจากอำเภอต่าง ๆ ให้ความสนใจเข้าร่วมประกวดอย่างคึกคัก ในยุคนั้นผู้เข้าประกวดส่วนใหญ่มักจะมีอายุเพียง 16-17 ปี เท่านั้น มีการประกวดเพียงวันเดียว ไม่มีการคัดเลือกเป็นรอบๆ ดังเช่นสมัยนี้ การแต่งกายใส่ผ้าถุงห่มสไบ ไม่มีการแต่งหน้า ทำผม ไม่ใส่รองเท้า ต้องเดินเท้าเปล่า เกณฑ์การตัดสินจะดูหน้าตาและวัด X ส่วนเท่านั้น

หลังจากที่ได้รับตำแหน่ง นางงามเชียงใหม่ จะได้รับเงินรางวัล 100 บาท ในปีแรก ๆ รางวัลที่ได้รับจะเป็นเพียงสายสะพายประจำตำแหน่ง และขันน้ำพานรอง เท่านั้น โดยผู้ที่มอบรงวับ คือ ราชบุตร ณ เชียงใหม่ ต่อมาในปี พ.ศ. 2482 จึงได้เริ่มมีมงกุฎเป็นรางวัล ในการประกวดนางงามเชียงใหม่ โดยมีลักษณะเป็นแถบผ้ากำมะหยี่สีดำ ปักด้วยดิ้นเวลาสวมก็จะใช้ติดตะขอด้านหลัง มงกุฎนี้จะให้ผู้ดำรงตำแหน่งนางงามเชียงใหม่ครองเพียง 6 เดือน เท่านั้น จากนั้นจะต้องส่งมอบให้กับนางงามเชียงใหม่คนต่อไป ซึ่งมงกุฎปรากฏว่ามีผู้ที่ครอบครองอยู่เพียง 2 ท่านเท่านั้น คือ นางสาวบัวแก้ว  อินทร์สุวรรณ นางงามเชียงใหม่ปี 2483 และนางสาวลมุน พันธ์มินทร์ นางงามเชียงใหม่ปี 2484 ได้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ขึ้นจึงต้องงดการประกวดไป

หลังจากหยุดการประกวดนางงามเชียงใหม่ไปเกือบ 10 ปี มีการรื้อฟื้นการประกวดขึ้นมาอีกครั้งในปี พ.ศ. 2492 และมีการเปลี่ยนชื่อในการประกวดจากนางงามเชียงใหม่ เป็นนางสาวเชียงใหม่แทน โดยมีสางงามจาก อ.สันกำแพง นางสาวสุมิตรา กัญชนะ เป็นผู้คว้าตำแหน่งนางสาวเชียงใหม่คนแรกในยุคที่สองนี้ไปครอง การประกวดในปีนั้นถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก จนต้องขอความร่วมมือจากนางงามและคณะกรรมการว่าให้มีการประกาศผล 2 รอบ เพราะมีผู้ชมบางส่วนไม่สามารถเข้าไปชมในรอบแรก ต้องการจะดูรอบตัดสินอีกครั้ง การคัดเลือกสาวงามในยุคนี้ ช่วงแรกยังคงจัดขึ้นที่หอประชุมโรงเรียนยุพราชวิทยาลัยมีการจัดเวทีเป็นรูปตัวที่ประธานการดำเนินงาน คือ คุณชาย บุนนาค ผู้จัดการธนาคารออมสิน มีวงดนตรีเล่นเพลงประกอบการเดิน ส่วนมากใช้วงดนตรีของธนาคารออมสิน ซึ่งโด่งดังมากในสมัยนั้น เล่นเพลงนางฟ้าจำแลง ลีลาการเดินนิยมเดินแบบช้า (แบบสโลโมชั่น) เพลงที่ใช้ก็ดัดแปลงให้ช้าลงให้เข้ากับจังหวะการเดิน ผู้เข้าประกวดจะคัดเลิกเป็นรอบๆ รอบสุดท้ายเหลือ 3 คน จะมีการซ้อมเดินในตอนกลางวัน จึงต้องมีลูกเสือเดินถือร่มตาม ส่วนชุดที่ให้เดินเป็นชุดว่ายน้ำทั้งหมด โดยในสมัยนั้นจะเรียกว่า “ชุดอาบน้ำ” เป็นลักษณะชุดกระโปรง สั้น รัดรูป ผูกคอ และมีกางเกงอยู่ในข้างในอีกหนึ่งตัว ในปีต่อมา หอประชุมคับแคบลง จึงได้ย้ายการประกวดมาประกวดที่สนามฟุตบอลข้างๆ หอประชุมโรงเรียนยุพราช จัดเวทีเป็นรูปเกือกม้า ปีนั้น คุณทิม โชตนา นายช่างแขวงการทางเชียงใหม่ เป็นประธานการตัดสิน และพระองค์เจ้าพีรพงศ์ ภานุเดช เสด็จมาดูการประกวดด้วย นอกจากนี้สิ่งที่สร้างความฮือฮาให้การประกวดนางสาวเชียงใหม่ในปีนั้นเป็นอย่างมากก็คือ การที่เวทีสร้างอยู่ใกล้กับต้นงิ้ว แต่นายแพทย์อารี แสงสว่างวัฒนะ ผอ.โรงพยาบาลสวนปรุงในสมัยนั้น เห็นว่าเวทีอยู่ใต้ต้นงิ้วดูไม่ดี เลยขอแก้อาถรรพ์โดยการทำรูปขวานไปสับต้นงิ้วไว้เป็นสัญลักษณ์ว่าไปทำลายหนามงิ้วแล้ว ทำให้คนที่เข้ามาดูการประกวดสงสัย และเป็นที่ฮือฮาอย่างมาก ในปี พ.ศ. 2494 มีการริเริ่มจัดการประกวดนางสาวถิ่นไทยงาม โดยเปิดโอกาสให้สาวงามจาก 8 จังหวัดภาคเหนือ สามารถเข้ามาสมัครได้ เนื่องจากเวทีการประกวดนางสาวเชียงใหม่นั้นจะเปิดรับสมัครเฉพาะผู้ที่อยู่ในจังหวัดเชียงใหม่เท่านั้น ทั้งนี้ ผู้เข้าประกวดเวทีนางสาวเชียงใหม่สามารถลงสมัครเวทีนางสาวถิ่นไทยงามได้ แต่ผู้เข้าประกวดนางสาวถิ่นไทยงามจะไม่สามารถเข้าประกวดนางสาวเชียงใหม่ หากขาดคุณสมบัติดังกล่าว

ในปี พ.ศ. 2496 ประธานาธิบดี ซูกาโน่ ของฟิลิปปินส์เยือนประเทศไทย และได้เดินทางมาจังหวัดเชียงใหม่ ในครั้งนั้น นางสาวบัวเขียว โสมนัส ซึ่งเป็นนางสาวเชียงใหม่ ได้ให้การรับรองสร้างความประทับใจแก่ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ยิ่งนัก ซึ่งต่อมาเวลามีพระราชอาคันตุกะหรือแขกบ้านแขกเมืองที่มาเยือนจังหวัดเชียงใหม่ มักจะให้นางสาวเชียงใหม่เป็นผู้ให้การรับรองจนกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติและกลายเป็นภารกิจหนึ่งของนางสาวเชียงใหม่ในยุคต่อมา  จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2498 ทางจังหวัดได้ย้ายการจัดงานรื่นเริงฤดูหนาวจังหวัดเชียงใหม่ ไปยังสนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่ จึงได้ย้ายเวทีการประกวดนางสาวเชียงใหม่ไปด้วยในช่วงนั้นการประกวดนางสาวเชียงใหม่ ถือเป็นหัวใจสำคัญของงานฤดูหนาว จนเกิดเป็นเรื่องล้อเลียนว่า หากงานฤดูหนาวปีไหนไม่มีการประกวดนางสาวเชียงใหม่ ปีนั้นประชาชนจะพากันเรียกงานฤดูหนาวว่าเป็น งานปอยหลวงวัดกู่เต้า (เนื่องจากสนามกีฬาเทศบาลอยู่ในบริเวณเดียวกับวัดกู่เต้า) ลักษณะของการจัดงานจะให้หน่วยงานรัฐหรือองค์กรต่างๆ เช่น สมาคมชมรมสโมสร เข้ามารับผิดชอบจัดงานเป็นปี ๆ ไป โยจะดูแลครอบคลุมทั้งงาน มิใช่แยกเป็นส่วน ๆ ดังเช่นปัจจุบันในส่วนของการจัดการประกวดนางสาวเชียงใหม่จะมีการล้อมรั้วอีกชั้น แล้วขายบัตรให้คนเข้าไปนั่งดู โดยบัตรมี 2 ราคา คือชั้นริงไซด์ จะมีเครื่องดื่มไว้บริการ และชั้นธรรมดา ประกวดกันประมาณ 5 - 6 คืน (งานฤดูหนาวสมัยนั้นมี 7 คืน) คืนแรกจะเป็นการเดินโชว์ตัว จากนั้นก็จะประกวดกันเป็นรอบ ๆ ไปจนถึงคืนสุดท้ายเป็นการตัดสิน ในส่วนของสื่อก็จะไห้ความสำคัญการการประกวดนางสาวเชียงใหม่อย่างมาก มิใช่เพียงสื่อท้องถิ่นเท่านั้น หากยังรวมถึงสื่อส่วนกลางจากกรุงเทพมหานครอีกด้วย ก่อนการประกวดจะมีการเผยแพร่รูปนางสาวเชียงใหม่มีการเขียนวิพากษ์วิจารณ์ว่าใครเป็นตัวเก็ง ในช่วงของการประกวดก็จะเอารูปนางงามไปลงนสพ.หน้าหนึ่งมีการติดตามการประกวดทุกวัน

สมัยนั้นงานฤดูหนาวของจังหวัดเชียงใหม่ เป็นงานที่หนาวจริงๆ หลังเวทีก็จะมีเตาอั้งโล่ให้นางงาม นั่งผิงไฟคลายหนาว ช่างภาพก็จะพยายามเข้าไปถ่ายรูปด้านหลังเวที เป็นการประกวดที่มีบรรยากาศคึกคัก มีการเชียร์ โดยแต่ละอำเภอก็จะพากันมาเชียร์นางงามของตนเอง ขณะนั้นไม่มีนางงามเดินสาย ผู้เข้าประกวดจะเป็นตัวแทนของแต่ละอำเภอ เป็นงานที่มีความสำคัญมากที่สุดของงานฤดูหนาวในช่วงปี 2514 มีการท้วงติงเกี่ยวกับความเหมาะสมของการแต่งกายของผู้เข้าประกวด ที่ต้องใส่ชุดว่ายน้ำเดินประกวด อย่างไรก็ตาม ปีนั้นยังคงมีการจัดการประกวดขึ้น โดยเลี่ยงไปใช้ชื่อการประกวดว่า “ยอดพธูแผ่นดินทอง” และให้ยกเลิกการใส่ชุดว่ายน้ำ โดยใส่ชุดไทยแทนจากนั้น ได้งดการประกวดลงอีครั้งในช่วงปี 2515 - 2518 และจัดการประกวดอีกครั้งในปี พ.ศ. 2519 โดยคุณปวีณา แสงศิริ  สาวงามจากลำพูน เป็นผู้คว้ามงกุฎไปครอง จากนั้นงดการประกวดลงอีกครั้งจนถึงปี พ.ศ. 2526

จนกระทั่งปี พ.ศ. 2527 มีการริเริ่มจัดการประกวดนางสาวเชียงใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง ในปี พ.ศ. 2529 สมัยผู้ว่าชัยยา พูนศิริวงศ์ ได้ติดต่อไปทางสโมสรไลออนส์เชียงใหม่ โฮสต์ ให้เข้ามาดำเนินการจัดงานฤดูหนาวและกาชาดจังหวัดเชียงใหม่รวมถึงการประกวดนางสาวเชียงใหม่ด้วย ในปีพ.ศ. 2530 ทางกองประกวดได้พาคณะผู้เข้าประกวดเดินทางไปประชาสัมพันธ์การประกวดนางสาวเชียงใหม่ที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งก็ได้รับการต้อนรับจากนสพ.ต่างๆ เป็นอย่างดี โดยเฉพาะนสพ.ไทยรัฐถึงกับเปิดห้องประชุมที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ต้อนรับคณะผู้เข้าประกวดนางสาวเชียงใหม่เป็นคณะแรกเลยทีเดียว ในช่วงนั้น มีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 ทั้งนี้ เวทีการประกวดนางสาวเชียงใหม่ในขณะนั่นเป็นเวทีที่ยิ่งใหญ่และได้รับความสนใจอย่างมากเพราะเป็นรองเพียงแค่เวทีนางสาวไทยเท่านั้น

คอนเซ็ปต์ของการประกวดที่เป็นที่นิยมในช่วงนั้นก็จะเน้นความเป็นล้านนา เอกลักษณ์ของชาวเหนือ ในส่วนของการจัดกิจกรรมต่างๆ ก็มักจะเกี่ยวข้องกับการส่งเสริม วัฒนธรรมประเพณี ของชาวเหนือ ในปี พ.ศ. 2536 เริ่มมีบริษัทจากส่วนกลาง เข้ามาดำเนินการจักการประกวดคือ บริษัท มีเดีย ออฟ มีเดีย จำกัด ซึ้งหลังจากเสร็จสิ้นการประกวดแล้ว ผู้ที่ดำรงตำแหน่งนางสาวเชียงใหม่ในปีนั้น คือ ประภัสสร บุญญาภรณ์ ก็ได้ทำสัญญา เป็นนักแสดงกับทางบริษัท เป็นเวลา 1 ปี และหลังจากนั่นก็จะมีหน่วยงาน องค์กร หรือบริษัทในท้องถิ่น สลับกับริษัทจากส่วนกลาง เข้ามาดำเนินงาน สมัยก่อนเวทีนางสาวเชียงใหม่ได้รับการออกแบบอย่างสวยงามอลังการอย่างมาก ส่วนมากเป็นคอนเซ็ปต์เกี่ยวกับ สถานที่ท่องเที่ยวและวัฒนธรรมประเพณีของชาวเหนือ บางปีก็ถึงกับให้นางงามนั่งสะพานลื่นไหลลงมา หรือใช้ไฮโดรลิกหมุนขึ้นมาเพื่อเปิดตัวเลยทีเดียว ผู้จัดให้ความสำคัญกับการจัดงานอย่างมาก เป็นการจำลองแบบ มาจากร้านค้าจริงๆ ใช้เวลาสร้างร่วมเดือนเลยทำเดียว ในช่วงที่ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัด โดยนายองค์กรบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ นายอุดรพันธ์ จันทรวิโรจน์ เข้ามาดูแลการจัดงานนั้นเป็นปีที่ฮือฮาอย่างมาก เนื่องจากการประกวดนางสาวเชียงใหม่ มีการให้เงินรางวัลสูงสุดเป็นประวัติกาล โดยให้เงินรางวัลแก่ผู้ที่ได้รับเลือกให้เป็นนางสาวเชียงใหม่ 300,000 บาทพร้อมรถยนต์เก๋งอีก 1 คัน และในปีนั้นมีการเปิดกว้างรับสมัครผู้เข้าประกวดทั่วประเทศ ทำให้มีสาวงามจากที่ต่าง ๆ เข้ามาร่วมประกวดอย่างคึกคัก และมีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 หลังจากที่มีการสร้างศาลากลางหลังใหม่ที่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ได้ประมาณ 2 ปี ต่อมาก็มีการย้ายการจัดงานฤดูหนาวไปจัดภายในบริเวณสนามด้านหลังศาลากลางหลังใหม่ เนื่องจากสถานที่จัดงานเดิมนั้นอยู่ในอำเภอเมือง และการจัดงานแต่ละครั้งทำให้สนามกีฬาเสียหาย ยิ่งในช่วงหลังที่เพิ่มการจัดงานจาก 7 วัน เป็น 10 วัน ทำให้เกิคความเสียหายกับสนามกีฬาเป็นอย่างมาก หลังจากเสร็จงานแล้วก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพื่อซ่อมแซมสนามกีฬา สูญเสียงบประมาณไปเป็นอันมาก จึงมีความพยายามผลักดันให้มีการย้ายการจัดงานออกไปยังบริเวณด้านหลังศาลากลางและจัดเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน และในปี 2549 นี้ 70 กว่าปี แห่งความทรงจำบทบันทึกความงามของเอื้องเหนือกับการประกวดนางสาวเชียงใหม่ได้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ภายใต้แนวคิด 70 ปี นางสาวเชียงใหม่ ดอกเอื้องเวียงพิงค์ สายสัมพันธ์แห่งอารยธรรม ดำเนินงานโดย บริษัท แมค มีเดีย เชียงใหม่ จำกัด รับสมัครสาวเหนือ 8 จังหวัด ทั้งนี้ ความพิเศษของเวทีนางสาวเชียงใหม่ปี 2549 นี้คือการที่ทูลกระหม่อมหญิง อุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงประทานมงกุฎและถ้วยรางวัล ซึ่งเป็นที่น่าภาคภูมิใจและเป็นเกียรติยศอย่างสูงแก่คณะผู้จัดการประกวดและนางสาวเชียงใหม่[2]

ปัจจุบันเวทีนางสาวเชียงใหม่ ได้สรรหาเพื่อเฟ้นหาตัวแทนร่วมประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ซึ่งมีหลายท่านที่สร้างผลงาน เช่น นฤมล สิทธิวัง นางสาวเชียงใหม่ 2562 เจ้าของตำแหน่ง Top 20 Miss Universe Thailand 2019 , เทียน อัจฉรี บัวเขียว นางสาวเชียงใหม่ เจ้าของตำแหน่งรองอันดับ 1 Miss Universe Thailand 2016 , โบว์ สุภาภรณ์ ฤทธิพฤกษ์ นางสาวเชียงใหม่ 2560 เจ้าของตำแหน่งรองอันดับ 1 Miss Universe Thailand 2017 ผู้ชนะคนล่าสุดคือ แก้วทิพย์ นรนิธิวรรณ

รายชื่อผู้ดำรงตำแหน่งนางสาวเชียงใหม่ แก้

ต่อไปนี้เป็นรายชื่อผู้ดำรงตำแหน่งนางสาวเชียงใหม่[3]

ปี พ.ศ. ลำดับที่ นางสาวเชียงใหม่ รองอันดับ 1 รองอันดับ 2 รองอันดับ 3 รองอันดับ 4 รายละเอียด
2477 1 ฟองจันทร์ อินทขัติย์
2478 2 ประภา ไวเวกข์
2479 3 สมถวิล แควน้อย
2480 4 บัวเที่ยง พรหมชนะ
2481 5 กาพแก้ว เทพมา
2482 6 บัวแก้ว อินทร์สุวรรณ
2484 7 ลมุน พันธุมินทร์
2492 8 สุมิตรา กัญชนะ
2493 9 อร โศภนะศุกร์
2494 10 จันทรา อุปนันท์
2495 11 ดวงจันทร์ บุญศรี
2496 12 บัวเขียว โสมนัส
2497 13 ประทุมพร สมเกตุ
2498 14 นวลอนงค์ แก้วยานะ
2499 15 พรรณนิภา นันทยา
2500 16 สำรวย อุดมศรี
2501 17 สำราญ อุดมศรี
2502 18 ศิรินาถ ขัดสงคราม
2503 19 จันทร์ฉาย วรมิตร์
2504 20 รัชฎาพร ศรีวิชัย
2505 21 ฉวีวรรณ ไชยทา
2506 22 วาสนา บุตรโสภา
2507 23 ประภัสสร ไชยยศ
2508 24 ศิริพรรณ จอมวัง
2509 25 เรวดี มูลประการ
2510 26 รุ่งทิพย์ ภิญโญ
2511 27 เนตรทราย ชลาธาร
2512 28 สุพัตรา กัญชนะ
2513 29 เบญจวรรณ วรรณประกาย
2514 30 จารุณี ชัยมงคล
2519 31 ปวีณา แสงศิริ
2527 32 วิจิตรา กุลวารินทร์
2528 33 วราวรรณ กรใหม่
2529 34 จันทิพา ไชยวารินทร์ (สรารัตน์ หรุ่มเรืองวงษ์)
2530 35 มัลลิกา เกรียงไกร
2531 36 พิมพิไล ไชยโย
2532 37 อรัญญา เดชารัตน์
2533 38 วิภาวรรณ จันทรวงค์
2534 39 วาสนา มงคลรอบ
2535 40 นริศรา เมืองเงิน (ถูกถอดออกจากตำแหน่ง)
2536 41 ประภัสสร บุญญาภรณ์
2537 42 กาญจนา รุ่งเรืองมณีรัตน์
2538 43 แสงเทียน ศรีนพรัตน์
2539 44 วริศรา อัศวรานนท์ (นิรัชยา คำยา)
2540 45 อิสรีย์ ศรีจันทร์เที่ยง
2541 46 กนกรัตน์ งามจิตต์
2542 47 ชนัญชิดา สิรภัทร
2543 48 ฉัตรวิไล สินธุไชย
2544 49 ดวงใจ วินิจกุล
2545 50 ณภาพร เจริญทรัพย์
2546 51 ภาสินี วงษ์บุญศรี (วาสนา วงษ์บุญตรี)
2547 52 วันจุฬา ศรลัมพ์
2549 53 ตรีชฎา วาณิชย์กุล
2550 54 รยากร สุวรรณ์
2551 55 เสาวลักษณ์ พรหมศร วิลาวัณย์ เป็งปัน วรางคณา มงคลทวีกุล มนัฐษญา จินเจา สุทธิดา แก้วรัตน์
เสาวลักษณ์ พรมศร เข้ารอบ 10 สุดท้าย นางสาวไทย 2551 และรางวัลพิเศษ Miss Think Positive
2552 56 ผ่องพรรณ แก้วมโน รังสิมา โรจน์รันตน์ ชญาณิศา เจิดจำรัส อมรรัตน์ ปัญญา สุวลักษณ์ ก้องสมุท
ผ่องพรรณ แก้วมะโน ได้รองอันดับ 2 มิสทัวร์ลิซึมควีนเอเชีย 2013 ที่ซีถาง, ประเทศจีน
2553 57 กฤชกร หอมบุญญาศักดิ์ ธัญนุช สิงห์คำ ชนันภรณ์ วงศ์ษา อาทิตยา คุณนะลาภัทร มัชฌิมาลา สุทธนะ
2554 58 เก็ตถวา วิศัทวัฒนา รุ้งสินี ปัญจบุรี ฑิตยา บำรุงรัตน์ ชนิศา เหลี่ยวไชยพันธุ์ ณัฐธิดา ทองเกษม
2555 59 สิริน ไตรวุฒิพิพัฒนกุล เสาวลักษณ์ แปงใจ นัฐนรี ศรีบัว กรรณิกา ขันแก้ว ปรางทิพย์ ภัณฑารักษ์สกุล
2556 60 พัทยาภรณ์ เทพวีระพงศ์ เรวิญานันท์ ทาเกิด คเณพร อินต๊ะมูล บงกช อิ่นคำ ธัญญารัตน์ ปิฎิโชติ
2557 61 วรลักษณ์ ใจจา วีนัส นันทะชัย สุวัสสาวิ ปันเขต ธนพร โพธาติ๊บ สาลิกา ฟอร์เมิรต
2558 62 อลิษา สันติธรรม วริญร์ ชื่นชอบ กวินทิพย์ จินดารัศมี วริศรา ชัยเลิศ วรารัตน์ เต็มปัน
ส่วนรองอันดับ 2 มี 3 คน
2559 63 อัจฉวี บัวเขียว จิณณ์ณิตา บุดดี นิสารัตน์ วงศ์ชมพู สุทธิดา บังใบ ณัฎชญาภา ศรีจุมพล
ส่วนรองอันดับ 2 มี 2 คน และรองอันดับ 3 มี 1 คน
2560 64 สุภาภรณ์ ฤทธิพฤกษ์ ประภาศิริ อินทะรังษี ชญานิศ ต.เจริญ พิจิกา กองสถาน วาลุลี ดวงวะนา
ส่วนรองอันดับ 2 มี 3 คน
สุภาภรณ์ ฤทธิพฤกษ์ รองอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2560 และชนะเลิศมิสไทยแลนด์อินเตอร์เนชั่นแนล 2023 เป็นตัวแทนเข้าร่วมประกวดนางงามนานาชาติ 2023 และผ่านเข้ารอบ 7 คนสุดท้าย (ลำดับที่ 6) ที่โตเกียว, ประเทศญี่ปุ่น
2561 65 วธูสิริ ใจกลาง วรรณษภรณ์ วุฒิวัฒนากุล ลิขิตภัคษรณ์ วจิตรสุวรรณ กันยารัตน์ วัจรินทร์ ดารารัตน์ ศรีเบญจรัตน์
ส่วนรองอันดับ 2 มี 3 คน
วธูสิริ ใจกลาง เข้ารอบ 15 สุดท้าย มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2561 และถูกแต่ตั้งให้เป็นนางสาวเชียงใหม่ 2561 และเป็นตัวแทนภาคเหนือภูมิภาคละ 10 คน เข้าร่วมประกวดนางสาวไทย 2562 และผ่านเข้ารอบ 20 สุดท้าย
2562 66 นฤมล สิทธิวัง กัญจน์รัตน์ ตันติฤทธิพร ภัสสร บุษดี ธัญญา เทพวงศ์ ภัทราวดี จันทร์แจ้ง
นฤมล สิทธิวัง เข้ารอบ 20 สุดท้าย มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2562
2563 67 อเล็กซานดร้า แฮงกี่ กัลย์สุดา ชนาคีรี พิมพ์ผกา สุวรรณรัตน์ วชิราภรณ์ นันทวาศ ชุติกาญจน์ อารีลักษณ์
อเล็กซานดร้า แฮงกี่ รองอันดับ 4 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2563 รางวัลพิเศษMiss Prissana Popular Vote และกัลย์สุดา ชนาคีรี เข้ารอบ 20 สุดท้าย มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2562 และเข้ารอบ 15 สุดท้ายมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2564
2564 68 ชนนิกานต์ สุพิทยาพร ธัญจิรา ยารังษี ธิดาพร เกตุทอง ปิยธิดา ใจดี สุจารี กาญจนกฤต
ชนนิกานต์ สุพิทยาพร ชนะเลิศนางสาวไทย 2566 และเป็นตัวแทนเข้าร่วมประกวดมิสโกลบอล 2023 ที่เวียดนาม และกัมพูชา
2565 69 ศิรดา โล บูลโย่ วิชญฎา วิชญพงษ์กุล สุพรรณิการ์ จำเริญชัย ปฏิมาภรณ์ ขยันชม ปิยมน ปกปิงเมือง
2566 70 เกศวริน ศรีปิ่นเป้า สุพรรษา กันนะ กวินธิดา วสุวัต สกุณา ปาปวน การศึกษา ปองทิพย์ธิดา วจิตรสุวรรณ
เกศวริน ศรีปิ่นเป้า ได้รองอันดับ 3 มิสซูปราเนชันแนลไทยแลนด์ 2023 รางวัลพิเศษ C2 Influencer และSwimsuit Challenge
2567 71 แก้วทิพย์ นรนิธิวรรณ จิณณ์พัชญ์ชา กนกรัตนาธรรม ศิริญาณี ลิ้มทองเจริญ สุชาวดี ฤกษนันทน์ กัญญารัตน์ สายสวาท

รายชื่อผู้ดำรงตำแหน่งมิสเตอร์เชียงใหม่ แก้

ต่อไปนี้เป็นรายชื่อผู้ดำรงตำแหน่งมิสเตอร์เชียงใหม่

ปี พ.ศ. ลำดับที่ มิสเตอร์เชียงใหม่ รองอันดับ 1 รองอันดับ 2 รองอันดับ 3 รองอันดับ 4 รายละเอียด
2559 1 ธวัชชัย ใจคาร กิตติคุณ ตันสุหัส ณาธิป ธวิตอังกูร ภานุพงศ์ นันตา ศักดิ์ดา สารพันธ์
ส่วนรองอันดับ 2 มี 3 คน
ธวัชชัย ใจคาร ชนะเลิศมิสเตอร์โกลบอลไทยแลนด์ 2016 และรางวัลพิเศษหนุ่มเจ้าเสน่ห์ เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมประกวดมิสเตอร์โกลบอล 2016 ได้รองอันดับ 1 และรางวัลพิเศษพีเพิลส์ชอยซ์อะวอดส์ ที่เชียงใหม่, ประเทศไทย
2560 2 ถิรวัฒน์ มาตยบุญ เดชาวัต หงอกชัย พงศกรณ์ สุริยะดี นนทกร อัมพุธ ตรีทศ แก้วไทรเกิด
ถิรวัฒน์ มาตยบุญ ชนะเลิศมิสเตอร์ยูนิเวอร์แซลแอมบาสซเดอร์ไทยแลนด์ 2017 และรางวัลพิเศษหนุ่มเจ้าเสน่ห์ เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมประกวดมิสเตอร์ยูนิเวอร์แซลแอมบาสซเดอร์ 2017 ได้ผ่านเข้ารอบ 10 คนสุดท้าย ที่ประเทศอินโดนีเซีย
2561 3 สถาพร มูลลิสาร ภีรวัฒน์ สารีวงษ์ ธนพัตฒ์ คนึงเหตุ โชตินรินท์ ชูนำชัย ศิรวัชร พลพิพัฒนพงศ์
สถาพร มูลลิสาร เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมประกวดมิสเตอร์โกลบอล 2018 ได้รองอันดับ 1 ที่กรุงเทพมหานคร, ประเทศไทย
2566 4 พทิตย์ธฎา โพธาเจริญ กมลภพ แก้วเดียว ธีรภัทร สิทธิชัย ธีรศักดิ์ แก้วยอดดี จิรายุ ทักเกอร์
พทิตย์ธฎา โพธาเจริญ ได้รองอันดับ 1 มิสเตอร์ซูปราเนชันแนลไทยแลนด์ 2023 และรางวัลพิเศษUS Master Polo Club และActing Challenge

กมลภพ แก้วเดียว รองอันดับ 2 แมนฮันต์ไทยแลนด์ 2023 และรางวัลพิเศษCHAT Influencer เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมประกวดแมนออฟเดอะเยียร์ 2023 ได้รองอันดับ 4 และรางวัลพิเศษแมนออฟเดอะเยียร์ซุปเปอร์โมเดล ที่ประเทศอินโดนีเซีย

ธีรภัทร์ สิทธิชัย รองอันดับ 4 แมนฮันต์ไทยแลนด์ 2023 และรางวัลพิเศษCHAT Influencer เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมประกวดมิสเตอร์ทัวริซึมเวิลด์ 2023 ได้รับรางวัลชนะเลิศ และรางวัลพิเศษ, ชุดว่ายน้ำยอดเยี่ยม, ร่างกายยอดเยี่ยม, รองอันดับ 1 ชุดประจำชาติยอดเยี่ยม, รองอันดับ 1 ความสามารถพิเศษยอดเยี่ยม, และรองอันดับ 2 มิสเตอร์ป๊อบปูลาร์รีตี ที่ประเทศบราซิล
2567 5 อาร์คอส เบค ชินโชติ คำสุวัตร์ ธาดา ตาวงค์ ธนกร รัตนสิทธิ์ ศักดา แซ่ซวง

รายชื่อผู้ดำรงตำแหน่งนางสาวเชียงใหม่ในดวงใจ แก้

ต่อไปนี้เป็นรายชื่อผู้ดำรงตำแหน่งนางสาวเชียงใหม่ในดวงใจ

ปี พ.ศ. ลำดับที่ นางสาวเชียงใหม่ในดวงใจ รองอันดับ 1 รองอันดับ 2 รองอันดับ 3 รองอันดับ 4 รายละเอียด
2560 1 วัชรากานต์ กันใหม่
"พิมพิไล ไชโย"
พีรานันท์ บุญมา
"แสงเทียน ศรีนพรัตน์"
แก้วลอดฟ้า รัตนภาเทวี
"พรรณิภา นันทยา"
ตะวัน วงค์ใจ
"วรลักษณ์ ใจจา"

2561 2 หยาดพิรุณ ปู่หลุ่น
"อลิษา สันติธรรม"




2562 3




2563 4 ศรุดา ธนาดุลกุลนันท์




2564 5 ธนัชพันธ์ บูรณาชีวาวิไล
"อเล็กซานดร้า แฮงกี่"
นาตาเลีย เพลียแคม
"อเล็กซานดร้า แฮงกี่"



2565 6 กานต์รวี ศรีตระพันธ์
"ประภัสสร บุญญาภรณ์"
จิรสิตา หลิมภากรกุล
"ฟองจันทร์ อินทขัติย์"
พิมพ์นิภา เดชกุล
"สรารัตน์ หรุ่มเรืองวงศ์"
ทิพย์เกสร อุปโยคิน
"ฟองจันทร์ อินทขัติย์"
วรัญญา วงค์ปัญญา
"รยากร สุวรรณ์"
จิรสิตา หลิมภากรกุล รองอันดับ 2 UNIVERSE IS U "จักรวาลนี้คือเธอ" 2022
2566 7 นาตาเลีย เพลียแคม
"ฟองจันทร์ อินทรขัติย์"
ปิยะนุช ฉ่ำบุญ
"เสาวลักษณ์ พรหมศร"
นริศรา ซื่อตรง
"เสาวลักษณ์ พรหมศร"
เหมือนกุลสตรี ศรีเชียงใหม่
"ลมุน พันธุมินทร์"
ไหมแก้ว สิงห์แก้วฟู
"นวลอนงค์ แก้วยานะ"
2567 8 รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น
สรารัตน์ หรุ่มเรืองวงษ์
ลลิลทิพย์ อนาตาเซีย
มนปรียา ปริยัติสกุล
แคทนริน วิลสัน
เอมธิดา จารุวรรณกร
อภิสรา ปรียาธนะสกุล
แทมมี่ แทมมี่
ส่วนรองอันดับ 2 มี 5 คน

อ้างอิง แก้

  1. "นางสาวเชียงใหม่". lib.payap.ac.th. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-04-08. สืบค้นเมื่อ 2023-01-21.
  2. "8 ทศวรรษ... นางสาวเชียงใหม่ เอื้องฟ้าแห่งนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ | Dek-D.com". Dek-D.com > Board (ภาษาอังกฤษ).
  3. ""The Power of Unity" "พลังแห่งความสามัคคี"มาส่งกำลังใจเชียร์ฟ้าใส คว้ามงกุฎนางงามจักรวาล คนที่3 ของประเทศไทย พรุ่งนี้เช้า 7.00 ตามเวลาประเทศไทย... | By Yupparaj Wittayalai School | Facebook". www.facebook.com.

แหล่งข้อมูลอื่น แก้