ตำนานพระทอง-นางนาค

พระทอง (พระเจ้าเกาฑิณยะวรมันเทวะ) และ นางนาค (พระราชินีโสมา) เป็นเรื่องแต่งขึ้นของชาวกัมพูชา เพื่อผูกโยงถึงพระเจ้าชัยวรมัน การอภิเษกสมรสของพระทองและนางนาคถือเป็นจุดกำเนิดของประเทศกัมพูชา ทำให้เกิดอาณาจักรเขมรโบราณก่อนยุคเมืองพระนครหรืออาณาจักรฟูนันขึ้น

ตามตำนานพระทองจะเกาะสไบนางนาคในการอภิเษกสมรส
การแต่งงานตามตำนานพระทองนางนาค

ในปัจจุบันประเพณีการแต่งงานของเขมรส่วนใหญ่สามารถสืบย้อนกลับไปได้ถึงการแต่งงานของพระทองและยุคกลาง

แผนที่แสดงการอ้างสิทธิ์อาณาเขตของอาณาจักรเขมรสุวรรณภูมิที่เชื่อว่าเคยเป็นดินแดนอาณาจักรฟูนัน อ้างสิทธิ์ในสมัยสังคมราษฎรนิยมของพระนโรดม สีหนุ

ชาวกัมพูชาอ้างว่ามีบันทึกของเอกสารนักสำรวจชาวจีนสองคนได้แก่ คัง ไตและจู หยิง ในศตวรรษที่ 1 รัฐฟูนันก่อตั้งขึ้นโดยพราหมณ์ชาวอินเดีย นามว่ากามพู สวยัมภูวะ หรือ เกาฑินยะ ได้เดินทางมายังชายฝั่งของดินแดนเขมรสุวรรณภูมิ เกาฑินยะได้รับคำสั่งในความฝันให้เอาธนูวิเศษจากวิหารเพื่อเอาชนะเจ้าหญิงนาคนามว่า โสมา (ตามเอกสารจีน:หลิวเย่), ธิดาของราชาพญานาค เกาฑินยะได้เสกเวทมนตร์คาถายิงธนูวิเศษมาที่เรือธิดาพญานาค ทำให้นางตกพระทัยกลัว แล้วยินยอมอภิเษกด้วย ส่วนพญานาคผู้บิดาได้ทรงดื่มน้ำทะเลจนเหือดแห้งเพื่อสร้างอาณาจักรให้ราชบุตรเขยและธิดา

เมื่อเจ้าหญิงโสมาได้อภิเษกสมรสกับเกาฑินยะ (เอกสารจีน: ฮุนเตียน) ถือกำเนิดเชื้อสายปฐมวงศ์ของราชวงศ์วรมัน

ส่วนเกาฑินยะได้ทรงขึ้นเป็นพระเจ้าเกาฑินยะวรมันเทวะ (พระมหากษัตริย์กัมพูชาพระองค์แรกแห่งอาณาจักรฟูนัน) ต่อมาพระองค์ได้สร้างเมืองหลวงและเปลี่ยนชื่อประเทศเป็น กัมโพชะ หรือ กัมพูชา[1][2]

อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้เป็นเพียงนิทานจากชาวกัมพูชาที่ถูกแต่งขึ้นไม่สามารถอ้างอิงจากประวัติศาสตร์ที่สามารถพิสูจน์ตามหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ใดๆได้ และการแต่งกายในอดีตล้วนต้องได้รับอิทธิพลการแต่งกายจากอินเดียเป็นหลัก แต่ปัจจุบันนั้นชาวกัมพูชาพยายามแต่งกายเลียนแบบชาวสยามเพื่อผูกโยงกับนิทานเรื่องดังกล่าวอีกทอดหนึ่ง

ราชานุสาวรีย์ตำนานพระทองนางนาค

แก้
ราชานุสาวรีย์ตำนานพระทองนางนาค
រូបសំណាកព្រះថោងនាងនាគ
 
ที่ตั้งวงเวียนพระทองนางนาค, สีหนุวิลล์, ประเทศกัมพูชา
วัสดุทองแดง (60 ตัน)
ความสูง
  • รูปปั้น: 21 เมตร (69 ฟุต)
  • ฐาน: 6.34 เมตร (20.8 ฟุต)
[3]
สร้างเสร็จค.ศ. 2022

ราชานุสาวรีย์ตำนานพระทองนางนาค ตั้งอยู่ที่วงเวียนหมู่บ้านโกกี (ตะเคียน) ตำบลเบิตตาง อำเภอไปรนุบ จังหวัดพระสีหนุ ถือเป็น สัญลักษณ์แห่งการถือกำเนิดประวัติศาสตร์และอารยธรรมเขมร อนุสาวรีย์แห่งนี้สร้างขึ้นจากทองแดง ออกแบบโดยชาวกัมพูชา โดยทำการหล่อโลหะขึ้นรูป มีความสูง 21 เมตร น้ำหนัก 40 ตัน หันหน้าออกไปทางทะเล อนุสาวรีย์ก่อสร้างสำเร็จและเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2565 โดยดำริของนายกรัฐมนตรีสมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุนเซน[4]

พระทองนางนาค มีที่มาจากตำนานโบราณของกัมพูชา เกี่ยวข้องกับการถือกำเนิดของอารยธรรมเขมร อนุสาวรีย์เป็นรูปพระทอง ถือชายสไบของนางนาค เพื่อดำน้ำตามไปยังเมืองบาดาล ไปพบบิดาและมารดาของนาง ซึ่งเป็นพญานาค โดยถือเป็นสัญลักษณ์ของการถือกำเนิดแผ่นดิน อารยธรรม วัฒนธรรม และจารีตประเพณีของกัมพูชา

วัฒนธรรมสมัยนิยม

แก้

ดูเพิ่ม

แก้

อ้างอิง

แก้
  1. Chad, Raymond (1 เมษายน 2005). "Regional Geographic Influence on Two Khmer Polities". Salve Regina University, Faculty and Staff: Articles and Papers: 137. สืบค้นเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2015.
  2. Sanyal, Sanjeev (10 สิงหาคม 2016). The Ocean of Churn: How the Indian Ocean Shaped Human History (ภาษาอังกฤษ). Penguin UK. pp. 82–84. ISBN 978-93-86057-61-7.
  3. "Cambodia's largest copper statue, "Preah Thong Neang Neak" inaugurated - Khmer Times". 16 April 2022.
  4. กัมพูชาเปิดตัวรูปปั้นผู้ก่อตั้ง ‘อาณาจักรฟูนันโบราณ’