ตะบูนขาว
ตะบูนขาว | |
---|---|
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Plantae |
หมวด: | Tracheophyta |
ชั้น: | Magnoliopsida |
อันดับ: | Sapindales |
วงศ์: | Meliaceae |
สกุล: | Xylocarpus |
สปีชีส์: | X. granatum |
ชื่อทวินาม | |
Xylocarpus granatum K.D.Koenig |
ตะบูนขาว (ชื่อวิทยาศาสตร์: Xylocarpus granatum) เป็นไม้ยืนต้นในวงศ์ Meliaceae เป็นไม้ผลัดใบ พบในป่าชายเลน พบได้ทั่วไปในเอเชีย แอฟริกา ออสเตรเลีย และหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก[1][2] รากมีพูพอน แผ่ออกจากโคนต้น มีรากหายใจค่อนข้างแบน เปลือกเรียบ สีน้ำตาลอมเหลือง เปลือกหลุดออกเป็นแผ่นบางๆ ใบเป็นใบประกอบแบบขนนกชั้นเดียว ใบสีเขียวอ่อน ผิวใบเป็นมัน ดอกเป็นดอกช่อ แตกออกจากง่ามใบ ดอกสีขาว กลีบดอกมีสี่กลีบ ผลเป็นผลกลม สีน้ำตาลอมเขียว แก่แล้วเป็นสีน้ำตาลแก่ ภายในมีเมล็ดขนาดใหญ่ อัดแน่นภายในผล
การนำตะบูนขาวมาใช้ประโยชน์นั้น เปลือกให้น้ำฝาดใช้ย้อมผ้า เปลือกและผลแก้อหิวาตกโรค
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
แก้ตะบูนขาวเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงกลาง สูง 10-15 เมตร ไม่ผลัดใบ ลำต้นสั้นแตกกิ่งใกล้โคนต้น มีพูพอนแผ่ออกคดเคี้ยว ต่อเนื่องกับรากหายใจที่แบนคล้ายแผ่นกระดาษ เปลือกเรียบบางสีเหลืองแต้มเขียวอ่อน หรือสีน้ำตาลอ่อน ถึงน้ำตาลแกมชมพู ลักษณะคล้ายเปลือกต้นฝรั่ง หรือตะแบก เปลือกหลุดออกเป็นแผ่นรูปทรงไม่แน่นอน ใบประกอบแบบขนนกปลาย ไม่มีใบยอด เรียงสลับ ใบย่อยมักมี 1-2 คู่เรียงตรงข้าม หรือเยื้องกันเล็กน้อย แผ่นใบรูปไข่กลับ หรือรูปขอบขนานแกมรูปไข่กลับขนาด 2-5 x 7-14 ซม. แผ่นใบสมมาตรกันปลายใบกลม ฐานใบรูปลิ่มใบ ดอกออกเป็นช่อที่ง่ามใบ ช่อดอกแบบช่อแยกแขนง ยาว 3-8 ซม. แต่ละช่อมี 8-20 ดอก เส้นผ่านศูนย์กลาง 1-1.2 ซม. เป็นดอกแยกเพศ ก้านดอกย่อยยาว 0.4-1 ซม. กลีบเลี้ยง 4 กลีบ ยาว 0.2 ซม. กลีบดอก 4 กลีบไม่ติดกัน สีขาวครีม เกสรเพศผู้ 8 อัน ดอกมีกลิ่นหอม ตั้งแต่บ่ายถึงค่ำ ผลมีลักษณะกลม เส้นผ่าศูนย์กลาง 15-20 ซม. แบ่งเป็น 4 พู เท่าๆกัน แต่ละผลมี 7-17 เมล็ด ลักษณะโค้งนูนหนึ่งด้าน กว้าง 6-10 ซม. ผลแก่สีน้ำตาลแดงคล้ายผลทับทิม ออกดอกและผลตลอดทั้งปี
อ้างอิง
แก้- มัณฑนา นวลเจริญ. 2552. สารานุกรมความหลากหลายทางชีวภาพตำบลคลองประสงค์ อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่. กทม. สำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- ↑ J. S. Bunt, W. T. Williams & N. C. Duke (March 1982). "Mangrove distributions in north-east Australia". Journal of Biogeography. 9 (2): 111–120. JSTOR 2844696.
- ↑ "Taxon: Xylocarpus granatum J. Koenig". Germplasm Resources Information Network (GRIN). United States Department of Agriculture, Agricultural Research Service, Beltsville Area. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-10-11. สืบค้นเมื่อ 27 March 2011.