ดูแรนดูแรน

(เปลี่ยนทางจาก ดูแรน ดูแรน)

ดูแรนดูแรน (อังกฤษ: Duran Duran) เป็นกลุ่มดนตรีแนว นิว เวฟ จากอังกฤษ มีผลงานดังในยุค 80s มากมายเช่น The Reflex, A View To A Kill, Hungry Like The Wolf เป็นต้น ด้วยสถิติยอดขายมากกว่า 100 ล้านก๊อปปี้ทั่วโลกและเป็นเจ้าของ 2 รางวัลแกรมมี่

ดูแรนดูแรน
ข้อมูลพื้นฐาน
ที่เกิดอังกฤษ
แนวเพลงร็อก
นิว เวฟ[1][2][3][4]
ป็อปร็อก
ซินธ์ป็อป
อัลเทอร์เนทีฟ[5][6]
ช่วงปีค.ศ. 1978 - ปัจจุบัน
ค่ายเพลงEMI
Capitol Records
Parlophone
Hollywood Records
Epic Records
สมาชิกSimon Le Bon
Nick Rhodes
John Taylor
Roger Taylor
Dominic Brown
อดีตสมาชิกAndy Taylor
Sterling Campbell
Warren Cuccurullo
Stephen Duffy
Andy Wickett
Simon Colley
Alan Curtis
Jeff Thomas
เว็บไซต์duranduran.com

สมาชิกปัจจุบันประกอบด้วย แก้

  • Simon LeBon (ร้องนำ)
  • Nick Rhodes (คีย์บอร์ด)
  • John Taylor (เบส)
  • Dominic Brown (กีต้าร์)
  • Roger Taylor (กลอง)

ประวัติ แก้

พวกเขาเริ่มก่อตั้งวงในปี 1978 ที่ เบอร์มิงแฮม (Birmingham) ในประเทศอังกฤษ ก่อนที่จะมาลงตัวกับ 5 สมาชิกที่ถือเป็นไลน์อัพที่ดีที่สุดของวง ในปี 1981 ดูแรนดูแรน ออก ผลงานชุดแรกของเขา ที่ใช้ชื่อเดียวกับชื่อวง ทำยอดขายได้มากถึง 2.5 ล้านก๊อปปี้ ตามด้วย “Rio” ผลงานชุดที่สองที่มีเพลงฮิตอย่าง “Hungry Like The Wolf”, “Rio” และ “Save The Prayer”

แล้วดูแรนดูแรน ก็สามารถครองความสำเร็จด้วยอันดับ #1 ใน บิลบอร์ด ของอเมริกาด้วยผลงานชุดที่ 3 “Seven And the Ragged Tiger” อัลบั้มชุดนี้ยังมีชิงเกิ้ลอีก2เพลงได้แก่ "Union Of The Snake" ถูกปล่อยออกมาวันที่17ตค1983 สามารถขึ้นไปถึงอันดับ3ในUS Billboard Chart ซึ่งอยู่นานต่อเนื่องกันถึง3สัปดาห์ และ "New Moon On Monday" ที่ถูกปล่อยออกมาเมื่อ 23 มค1984สามารถขึ้นถึงอันดับ10ในUS top10 chart จากที่เริ่มเข้าสู่ชาร์ทในอันดับที่56 จนทำให้นิตยสารโรลลิ่ง สโตน ขนานนาม ดูแรนดูแรนว่า “The Fab Five” หรือ “5 มหัศจรรย์”เลยทีเดียว ในปี 1985 ดูแรนดูแรนได้รับเชิญให้แต่งเพลงประกอบสุดยอดภาพยนตร์อย่างเจมส์ บอนด์ ในเพลง “A View To Kill” ซึ่งก็สร้างประวัติศาสตร์เป็นซาวนด์แทรคเพลงแรกและเพลงเดียวจนถึงทุกวันนี้ของเจมส์ บอนด์ ที่ขึ้นถึงอันดับ 1 บนชาร์ทบิลบอร์ด

หลังจากได้รับความสำเร็จจนอิ่มตัว สมาชิกของดูแรนดูแรน ก็เริ่มแยกย้ายกันไปทำโปรเจกต์และผลงานส่วนตัว จนทำให้ผลงานในฐานะของดูแรนดูแรน ไม่เป็นที่ฮือฮาเท่าที่ควร จนกระทั่งในปี 1993 กับผลงานชุด “Duran Duran2” หรือที่รู้จักในนาม “The Wedding Album” คืออัลบั้มที่ทำให้ดูแรนดูแรน กลับมาประสบความสำเร็จอีกครั้ง ด้วยเพลงฮิตอย่าง “Ordinary World” และ “Come Undone” แต่หลังจากนั้นอัลบั้มชุดต่อมาๆก็ล้มเหลวทั้งยอดขายและคำวิจารณ์

ในปี 2004 ดูแรนดูแรนกลับมาอีกครั้งกับอัลบั้ม “Astronaut” ซึ่งถือเป็นอัลบั้มชุดแรกในรอบ 18 ปีที่ทั้ง 5 ได้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง พร้อมด้วยซิงเกิลแรกอย่าง “(Reach Up For The) Sunrise” ในอัลบั้ม “Astronaut” ชุดนี้ดูแรนดูแรน ยังได้ร่วมงานกับสุดยอดโปรดิวเซอร์ฝีมือเยี่ยมอย่างดอน กิลมอร์ (Don Gilmore) ที่ทำเพลงให้กับ ลินคิน พาร์ค‎ (Linkin Park), เอฟริล ลาวีน (Avril Lavigne) / ไนล์ ร็อดเจอร์ส (Nile Rodgers) ที่ทำเพลงให้กับ มาดอนน่า,ไดอาน่า รอส และ ดัลลาส ออสติน (Dallas Austin) ที่เคยทำเพลงให้กับ ไมเคิล แจ็กสัน ,มาดอนน่า, บอยซ์ ทู เม็น

ปี 2007 ออกผลงานอัลบั้ม “Red Carpet Massacre” ชุดนี้ ดูแรนดูแรนได้ร่วมงานกับทิมบาแลนด์โปรดิวเซอร์ชื่อดัง, Nate “Danja” Hills โปรดิวเซอร์ของบริทนีย์ สเปียร์สในเพลง “Gimme More” และ จัสติน ทิมเบอร์เลคศิลปินหนุ่มชื่อดังมาช่วยแต่งและร้องเพลง “Falling Down” ซึ่ง Andy Taylor ออกจากวงไปก่อนที่อัลบั้ม “Red Carpet Massacre” จะทำเสร็จ จึงใช้บริการของ Dominic Brown แทน อย่างไรก็ตาม “Red Carpet Massacre” กลับเป็นอัลบั้มที่ล้มเหลวในเรื่องยอดขาย แต่ยังคงประสบความสำเร็จในการออกแสดงสด

ในปี 2010 โดย Dominic Brown กลายเป็นสมาชิกวงอย่างเป็นทางการ

ผลงานอัลบั้ม แก้

  • Duran Duran (1981)
  • Rio (1982)
  • Seven and the Ragged Tiger (1983)
  • Arena (1984)
  • Notorious (1986)
  • Big Thing (1988)
  • Liberty (1990)
  • Duran Duran หรือ The Wedding Album (1993)
  • Thank You (1995)
  • Medazzaland (1997)
  • Pop Trash (2000)
  • Astronaut (2004)
  • Red Carpet Massacre (2007)
  • All You Need Is Now (2010)
  • Paper Gods (2015)
  • Future Past (2021)

อ้างอิง แก้

แหล่งข้อมูลอื่น แก้