ดาอิน ไอออนฟุต หรือ ดาอินที่สอง ไอออนฟุต (อังกฤษ: Dáin II Ironfoot) คือกษัตริย์คนแคระ แห่งเอเรบอร์ในจินตนิยายของเจ. อาร์. อาร์. โทลคีนที่เกี่ยวกับมิดเดิลเอิร์ธ เขาปรากฏตัวออกมาแค่ชั่วครู่หนึ่งในนิยายเดอะฮอบบิท และเรื่องราวของเขาก็ยังปรากฏในนิยายเดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์อีกด้วย

ตัวละครใน เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์
ดาอิน ไอออนฟุต
ไฟล์:ดาอิน.PNG
ดาอิน ไอออนฟุต จากภาพยนตร์เดอะฮอบบิท
ชื่อ ดาอิน ไอออนฟุต
ฉายา กษัตริย์ใต้ขุนเขา
ตำแหน่ง กษัตริย์ใต้ขุนเขาแห่งเอเรบอร์
เผ่า คนแคระ
วัฒนธรรม คนแคระ
เพศ ชาย
ดินแดน ไอออนฮิลล์
เอเรบอร์
ช่วงชีวิต ยุคที่สาม
อาวุธ ค้อน
จากภาพยนตร์ของปีเตอร์ แจ็กสัน
นักแสดง บิลลี่ คอนเนลลี่
เสียงพากย์ -

ประวัติตัวละคร

แก้

ดาอิน คือนักรบคนแคระที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่ง เขาเป็นบุตรของนาอิน และเป็นหลานของกรอร์ บุตรชายคนสุดท้ายของกษัตริย์ดาอินที่หนึ่งแห่งดูริน หลังจากที่ปู่ของเขาสิ้นพระชนม์ ดาอินได้ขึ้นครองเป็นกษัตริย์แห่งไอออนฮิลล์ นาอินผู้เป็นบิดาของเขาถูกสังหารโดยหัวหน้าออร์คนามว่า อาซ็อก ในสงครามอซานูลบิซาร์หน้าทางเข้าแห่งเหมืองมอเรีย ซึ่งเป็นมหาสงครามระหว่างคนแคระและออร์ค ดาอินชำระแค้นให้บิดาโดยการสังหารอาซ็อกจนสำเร็จในการรบกันเพียงครั้งเดียว ณ ตอนนั้นเขายังหนุ่มมาก (อายุแค่ 32 ปี ซึ่งเป็นช่วงอายุที่คนแคระบรรลุนิติภาวะพอดี หรือ เรียกว่า "วัยพร้อมออกรบ") และนี้ก็ถือว่าเป็นการประกาศศักดินาที่ดีเลยทีเดียว ดาอินเห็นว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะทวงมอเรียกลับคืนมา เพราะอสูรร้ายแห่งเหล่าดูรินยังคงอาศัยอยู่ในนั้น เขาเกลี้ยกล่อมธราอินที่สองให้ล้มเลิกความตั้งใจที่จะยึดมอเรียกลับคืนมา

ดาอินเป็นลูกพี่ลูกน้องลำดับที่สองของธอรินที่สอง และยังเคยมาช่วยธอรินในช่วงที่เขาทวงเอเรบอร์คืนด้วย ดาอินนำกองทัพคนแคระหลายพันคน และมาถึงในช่วงสงครามห้าทัพ ธอรินได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสในสงครามครั้งนี้ และหลังจากที่เขาเสียชีวิตจึงทำให้ทายาทโดยตรงของดูรินหมดสิ้นไป ดาอินจึงสืบตระกูลต่อจากธอรินในฐานะกษัตริย์ใต้ขุนเขา แม้จะไม่ใช่ทายาทโดยตรงของดูรินก็ตาม

ดาอินถูกสังหารในช่วงสงครามแหวน ในปี 3019 ของยุคที่สาม ในขณะที่กำลังปกป้องกษัตริย์แบรนด์แห่งเมืองเดล พันธมิตรของเขาที่หน้าประตูใหญ่แห่งเอเรบอร์ ณ ตอนนั้นเขาแก่ชรามากแล้ว - อายุ 252 ปีตามที่กล่าวไว้ในเดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ - แต่พละกำลังในการต่อสู้ของเขายังคงแข็งแกร่ง หลังจากสงครามจบลง ธอรินที่สาม สโตนเฮล์มลูกชายของเขาก็สืบทายาทต่อไป