มารีอา อันนา วิคโทรีอาแห่งบาวาเรีย
มารีอา อันนา วิคโทรีอาแห่งบาวาเรีย (เยอรมัน: Maria Anna Victoria von Bayern; ฝรั่งเศส: Marie-Anne Victoire de Bavière; 28 พฤศจิกายน ค.ศ. 1660 – 20 เมษายน ค.ศ. 1690) ทรงเป็น โดฟีนแห่งฝรั่งเศส (Dauphine of France) ในฐานะพระชายาของ หลุยส์ โดแฟ็งแห่งฝรั่งเศส (Louis de France, le Grand Dauphin) พระโอรสและองค์รัชทายาทของ พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส (Louis XIV of France) พระองค์เป็นที่รู้จักในราชสำนักฝรั่งเศส ในพระนาม มาดามลาโดฟีน (Madame la Dauphine)
มารีอา อันนา วิคโทรีอาแห่งบาวาเรีย | |||||
---|---|---|---|---|---|
โดฟีนแห่งฝรั่งเศส | |||||
![]() มารีอา อันนา วิคโทรีอาแห่งบาวาเรีย | |||||
ประสูติ | 28 พฤศจิกายน ค.ศ. 1660 มิวนิก บาวาเรีย | ||||
สวรรคต | 20 เมษายน ค.ศ. 1690 (29 ปี) พระราชวังแวร์ซาย แวร์ซาย ฝรั่งเศส | ||||
ฝังพระศพ | 3 พฤษภาคม ค.ศ. 1690 มหาวิหารแซ็ง-เดอนี แซ็ง-เดอนี ฝรั่งเศส | ||||
พระสวามี | เจ้าชายหลุยส์ โดแฟ็งแห่งฝรั่งเศส | ||||
พระราชบุตร |
| ||||
| |||||
ราชวงศ์ | วิทเทลส์บัค(ประสูติ) บูร์บง(สมรส) | ||||
พระราชบิดา | แฟร์ดีนันด์ มาเรีย ผู้คัดเลือกแห่งบาวาเรีย | ||||
พระราชมารดา | เฮ็นเรียทเทอ อเดลาอิดแห่งซาวอย | ||||
ศาสนา | โรมันคาทอลิก |
ช่วงต้นพระชนม์ชีพ
แก้มารีอา อันนา วิคโทรีอา ประสูติที่เมือง มิวนิก (Munich) ประเทศบาวาเรีย (Bavaria) เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ค.ศ. 1660 ทรงเป็นธิดาองค์แรกของ แฟร์ดีนันด์ มาเรีย ผู้คัดเลือกแห่งบาวาเรีย (Ferdinand Maria, Elector of Bavaria) และ เฮ็นเรียทเทอ อเดลาอิดแห่งซาวอย (Henriette Adelaide of Savoy) การที่พระองค์มาจาก ราชวงศ์วิทเทลส์บัค ซึ่งเป็นราชวงศ์สำคัญของเยอรมนี ทำให้พระองค์มีสายสัมพันธ์กับราชวงศ์ชั้นนำอื่น ๆ ในยุโรป เช่น ราชวงศ์ซาวอย ผ่านทางพระมารดา
พระองค์ทรงได้รับการเลี้ยงดูในราชสำนักบาวาเรีย ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความหรูหราทางวัฒนธรรมและความเคร่งครัดทางศาสนา พระองค์ทรงเป็นเจ้าหญิงที่มีการศึกษาดี มีความสนใจในดนตรี ศิลปะ และ ภาษาต่าง ๆ รวมถึง ภาษาฝรั่งเศส ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเตรียมตัวสู่การอภิเษกสมรสในราชสำนักฝรั่งเศส นอกจากนี้ พระองค์ยังได้รับการสอนในเรื่องของมารยาทและพิธีการของราชสำนักที่จำเป็นสำหรับบทบาทในอนาคต ทำให้เธอเป็นหนึ่งในเจ้าหญิงที่มีคุณสมบัติเหมาะสม สำหรับบทบาทสำคัญทางการเมืองในยุโรป
การอภิเษกสมรสและชีวิตในราชสำนักฝรั่งเศส
แก้การอภิเษกสมรสของ มารีอา อันนา กับ หลุยส์ โดแฟ็งแห่งฝรั่งเศส (Louis, Dauphin of France) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนาม หลุยส์ แกรนด์โดแฟง (Louis, Grand Dauphin) ไม่ได้มาจากความรักส่วนตัว แต่เป็นการตกลงกันตามผลประโยชน์ทางการเมือง เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่าง ฝรั่งเศส (France) และ บาวาเรีย (Bavaria) ซึ่งเป็นรัฐสำคัญใน จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (Holy Roman Empire) พิธีอภิเษกสมรสแบบมอบฉันทะ (marriage by proxy) เกิดขึ้น ในวันที่ 28 มกราคม ค.ศ. 1680 ที่เมือง มิวนิก (Munich) โดยมีเจ้าชายบาวาเรียเป็นผู้แทนเจ้าบ่าว ส่วนพิธีอภิเษกสมรสจริงมีขึ้นที่เมือง ชาลอนส์-ซูร์-มาร์น (Châlons-sur-Marne) ในวันที่ 7 มีนาคม ค.ศ. 1680 หลังจากนั้น มารีอา อันนาได้เดินทางมายังราชสำนักฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการ
เมื่อมาถึงราชสำนักแวร์ซาย (Court of Versailles) มารีอา อันนา ในฐานะโดฟีนแห่งฝรั่งเศส (Dauphine of France) ซึ่งเป็นพระอิสริยยศของพระชายาในองค์รัชทายาท ทรงเผชิญกับความท้าทายอย่างมาก พระองค์ทรงพบว่าการปรับตัวเข้ากับชีวิตที่เต็มไปด้วยพิธีรีตอง และ กฎเกณฑ์อันซับซ้อน ของราชสำนักฝรั่งเศสนั้นเป็นเรื่องยากอย่างยิ่ง แม้จะพยายามเรียนรู้ภาษาฝรั่งเศส และวัฒนธรรมต่าง ๆ แต่บุคลิกที่ ขี้อาย และ เก็บตัว ของพระองค์ก็ทำให้ทรงไม่สามารถเข้ากับสังคมชั้นสูงของแวร์ซายได้อย่างเต็มที่นัก ซึ่งแตกต่างจากพระสวามีและบุคคลอื่นๆ ในราชสำนักที่คุ้นเคยกับความหรูหราและการแสดงออก
พระสวามีของพระองค์ หลุยส์ แกรนด์โดแฟง ไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งหรือโรแมนติกกับพระองค์มากนัก และทรงมีพระสนมรักหลายคน ซึ่งเป็นเรื่องปกติในราชสำนักยุคนั้น สิ่งนี้ทำให้มารีอา อันนารู้สึกโดดเดี่ยว และ ถูกทอดทิ้ง ในราชสำนักที่ฟุ่มเฟือยและเต็มไปด้วยการแก่งแย่งแข่งขัน พระองค์ทรงใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับห้องชุดของพระองค์ที่แวร์ซาย และไม่ได้มีบทบาททางการเมืองที่โดดเด่นนัก แต่ทรงอุทิศเวลาให้กับการอบรมเลี้ยงดูพระโอรสแทน
พระองค์ทรงให้กำเนิดพระโอรส 3 พระองค์ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการสืบทอดราชบัลลังก์ฝรั่งเศสและสเปนในอนาคต:
- หลุยส์ ดยุกแห่งบูร์กอญ (Louis, Duke of Burgundy; 6 สิงหาคม ค.ศ. 1682 – 18 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1712): เป็นพระบิดาของ พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศส (Louis XV of France)
- ฟีลิป ดยุกแห่งอองชู (Philippe, Duke of Anjou; 19 ธันวาคม ค.ศ. 1683 – 9 กรกฎาคม ค.ศ. 1746): ต่อมาได้เป็น พระเจ้าเฟลิเปที่ 5 แห่งสเปน (Philip V of Spain) กษัตริย์องค์แรกของ ราชวงศ์บูร์บงแห่งสเปน (Bourbon Spain)
- ชาร์ลส์ ดยุกแห่งแบร์รี (Charles, Duke of Berry; 31 กรกฎาคม ค.1686 – 5 พฤษภาคม ค.1714): อภิเษกสมรส กับ มารี หลุยส์ เอลีซาแบ็ตแห่งออร์เลออง (Marie Louise Élisabeth d'Orléans) สิ้นพระชนม์อย่างกะทันหัน เมื่อพระชนมายุ 27 พรรษา โดยไม่มีทายาท
ช่วงท้ายพระชนม์ชีพและการสิ้นพระชนม์
แก้สุขภาพของ มารีอา อันนา วิคโทรีอา เริ่มทรุดโทรมลงตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ สันนิษฐานว่าอาจเป็นเพราะอาการซึมเศร้าที่เกิดจากการปรับตัวเข้ากับราชสำนักแวร์ซายไม่ได้ และการต้องทนกับความไม่ซื่อสัตย์ของพระสวามี พระองค์ทรงเจ็บป่วยบ่อยครั้ง และมักจะใช้เวลาอยู่กับห้องของพระองค์มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยแทบจะไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณะ ซึ่งทำให้พระองค์ถูกเรียกว่า "โดฟีนผู้โดดเดี่ยว" (The Melancholy Dauphine) หรือ "โดฟีนดำ" (The Black Dauphine) เนื่องจากทรงไว้ทุกข์ให้พระองค์เองจากความทุกข์ระทม
มารีอา อันนา วิคโทรีอาแห่งบาวาเรีย สิ้นพระชนม์ที่ พระราชวังแวร์ซาย (Versailles Palace) เมื่อวันที่ 20 เมษายน ค.ศ. 1690 ด้วยพระชนม์เพียง 29 พรรษา สาเหตุการสิ้นพระชนม์ยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่เชื่อกันว่าเป็นผลมาจากภาวะสุขภาพกายและใจที่ย่ำแย่มาอย่างต่อเนื่อง การจากไปของพระองค์ทำให้ หลุยส์ แกรนด์โดแฟง เป็นหม้าย และต่อมาทรงอภิเษกสมรสใหม่เป็นการลับกับ มารี-เอมีลี เดอ ริชาร์ด (Marie-Émilie de Joly de Choin) ซึ่งเป็นสนมที่ทรงโปรดปราน
พระศพของพระองค์ถูกฝังไว้ที่ มหาวิหารแซงต์-เดอนี (Basilica of Saint-Denis) ซึ่งเป็นสถานที่ฝังพระศพตามประเพณีของพระมหากษัตริย์และพระราชินีแห่งฝรั่งเศส การสิ้นพระชนม์ของมารีอา อันนา เป็นการปิดฉากชีวิตของโดฟีนผู้โศกเศร้า ผู้ซึ่งไม่เคยพบความสุขที่แท้จริงในราชสำนักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป
มรดก
แก้แม้ว่าพระชนม์ชีพของ มารีอา อันนา วิคโทรีอาแห่งบาวาเรีย จะเต็มไปด้วยความยากลำบากส่วนตัว และบทบาทในราชสำนักที่จำกัดจากการที่ทรงมีพระสวามีที่มีพระสนมและทรงมีบุคลิกที่ค่อนข้างเก็บตัว แต่พระองค์ก็ทรงทิ้งมรดกที่สำคัญและยั่งยืนไว้ในประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศส และ สเปน
มรดกที่สำคัญที่สุดของพระองค์คือ การให้กำเนิดพระโอรสสามพระองค์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการสืบราชสันตติวงศ์ของราชวงศ์บูร์บง การที่พระโอรสทั้งสามประสูติจากพระชายาที่ถูกต้องตามกฎหมายของ หลุยส์ แกรนด์โดแฟง ซึ่งเป็นองค์รัชทายาท ทำให้สายเลือดของราชวงศ์มีความมั่นคงอย่างยิ่ง:
- หลุยส์ ดยุกแห่งบูร์กอญ (Louis, Duke of Burgundy): พระโอรสองค์โตของพระองค์ แม้จะสิ้นพระชนม์ก่อนพระบิดาและพระอัยกา (พระเจ้าหลุยส์ที่ 14) แต่ก็ทรงเป็นพระบิดาของ พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศส (Louis XV of France) ซึ่งต่อมาได้ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์แห่งฝรั่งเศส การถือกำเนิดของพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 ทำให้มั่นใจได้ว่าราชบัลลังก์ฝรั่งเศสจะยังคงอยู่ในสายของราชวงศ์บูร์บงต่อไป
- ฟีลิป ดยุกแห่งอองชู (Philippe, Duke of Anjou): พระโอรสองค์ที่สองของมารีอา อันนา ทรงเป็นบุคคลสำคัญที่ได้รับเลือกให้ขึ้นครองราชบัลลังก์สเปน ในฐานะ พระเจ้าเฟลิเปที่ 5 แห่งสเปน (Philip V of Spain) หลังจากการสิ้นพระชนม์ของ พระเจ้าการ์โลสที่ 2 แห่งสเปน (Charles II of Spain) แห่งราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค การขึ้นครองราชย์ของฟีลิปนำไปสู่ สงครามสืบราชบัลลังก์สเปน (War of the Spanish Succession) แต่ท้ายที่สุดก็ทำให้ราชวงศ์บูร์บงได้ขึ้นปกครองสเปน ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในแผนที่อำนาจของยุโรปและเป็นมรดกทางประวัติศาสตร์โดยตรงจากสายเลือดของมารีอา อันนา
- ชาร์ลส์ ดยุกแห่งแบร์รี (Charles, Duke of Berry): แม้พระโอรสองค์สุดท้องนี้จะสิ้นพระชนม์โดยไม่มีทายาทสืบสกุลและไม่ได้ขึ้นครองราชย์ แต่การมีอยู่ของพระองค์ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งของสายราชวงศ์ ในช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอนทางการเมือง
นอกจากบทบาทในการเป็นมารดาของเชื้อพระวงศ์คนสำคัญแล้ว ชีวิตของมารีอา อันนา วิคโทรีอา ยังเป็นภาพสะท้อนของ ความเปราะบางของสตรีในราชวงศ์ที่ชีวิตส่วนตัวมักถูกกลืนกินด้วยหน้าที่ทางการเมือง และแรงกดดันอันมหาศาลจากราชสำนักที่ยิ่งใหญ่และซับซ้อนอย่างแวร์ซาย แม้เธอจะไม่ได้รับความสุขจากชีวิตสมรสมากนัก และถูกมองว่าเป็น "โดฟีนผู้โดดเดี่ยว" แต่การอุทิศตนเพื่อหน้าที่ในฐานะมารดาของรัชทายาทกลับเป็นสิ่งที่สร้างความมั่นคงให้แก่ราชวงศ์และมีผลกระทบยาวนานต่อประวัติศาสตร์ของทวีปยุโรป
พระอิสริยยศ
แก้- 28 พฤศจิกายน ค.ศ. 1660 – 7 มีนาคม ค.ศ. 1680: ดัชเชสแห่งบาวาเรีย (Duchess of Bavaria)
- 7 มีนาคม ค.ศ. 1680 – 20 เมษายน ค.ศ. 1690: โดฟีนแห่งฝรั่งเศส (Dauphine of France)
อ้างอิง
แก้- Fraser, Antonia. (2006). Love and Louis XIV: The Women in the Life of the Sun King. Doubleday.
- Mitford, Nancy. (1966). The Sun King: Louis XIV at Versailles. Hamish Hamilton.
- Wolf, John B. (1968). Louis XIV. W. W. Norton & Company.
- De Rouvroy, Louis de, duc de Saint-Simon.
- https://en.wikipedia.org/wiki/Louis,_Grand_Dauphin
- https://www.google.com/search?q=https://en.chateauversailles.fr/discover/history/key-dates/louis-xiv-and-his-family
- https://www.google.com/search?q=https://www.museodelprado.es/en/the-collection/art-work/maria-anna-victoria-of-bavaria-dauphine-of-france/6a8d6f51-2470-4f57-bd7f-94a2b9a7f34c
- https://www.google.com/search?q=https://historica.fandom.com/wiki/Maria_Anna_Victoria_of_Bavaria