จีนา คาราโน (อังกฤษ: Gina Carano) เกิดวันที่ 16 เมษายน ค.ศ. 1982 เป็นทั้งนักมวยไทย และนักสู้แบบผสมชาวอิตาลี-อเมริกัน และเป็นนักแสดงหญิง รวมถึงเป็นนางแบบ คาราโนปรากฏตัวในฐานะของกลาดิเอเตอร์ "ครัช" ในรายการอเมริกันกลาดิเอเตอร์ส เธอได้รับการกล่าวขานว่า "โฉมหน้าของสตรีแห่งเอ็มเอ็มเอ"[1]

จีนา คาราโน
(Gina Carano)
ชื่อจริงจีนา คาราโน
ฉายาคอนวิคชัน, ครัช
น้ำหนัก65 กก. (143 ปอนด์)
ส่วนสูง1.73 เมตร (5 ฟุต 8 นิ้ว)
เกิด (1982-04-16) 16 เมษายน ค.ศ. 1982 (42 ปี)
สหรัฐ เท็กซัส สหรัฐ
ชกทั้งหมด14 (มวยไทย)
8 (แบบผสม)
ชนะ12 (มวยไทย)
7 (แบบผสม)
ชนะน็อก3 (แบบผสม)
แพ้1 (มวยไทย)
1 (แบบผสม)
เสมอ1 (มวยไทย)

คาราโนเคยได้รับการจัดให้อยู่ในลำดับที่สาม ในการจัดอันดับนักมวยหญิงรุ่น 145 ปอนด์ของโลก สำหรับผู้หญิงตามการจัดอันดับของเอ็มเอ็มเอ[2][3]

ชีวิตช่วงต้น แก้

คาราโนถือกำเนิดในดัลลัส ครันทรี เท็กซัส เธอเป็นลูกสาวคนกลางของ เกล็น คาราโน กับ ดานา คาสัน เธอมีพี่สาวและน้องสาวรวมสองคน[4][5] พ่อของเธอเป็นนักกีฬาของทีมดัลลัสคาวบอย โดยเป็นฝ่ายสนับสนุนกองหลังตั้งแต่ปี ค.ศ. 1977 ถึง 1983 และเล่นให้กับฟุตบอลลีกสหรัฐ พิตต์สเบิร์กมูเลอร์ ในฐานะผู้ให้สัญญาณใน ค.ศ. 1984 เฉพาะปีที่พวกเขาได้ดำเนินงานเท่านั้น

เธอสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนทรินิตีคริสเตียน ในลาสเวกัส รัฐเนวาดา ซึ่งเธอได้นำทีมบาสเกตบอลสาวเข้าร่วมรายการของรัฐ นอกจากนี้เธอยังเล่นวอลเลย์บอลและซอฟท์บอล[6] เธอได้เข้ามหาวิทยาลัยเนวาดา เรโน และมหาวิทยาลัยเนวาดา ลาสเวกัส เป็นระยะเวลาสามปี ในสาขาเอกจิตวิทยา[5]

ในวงการศิลปะการต่อสู้แบบผสม แก้

คาราโนเริ่มอาชีพของเธอในกีฬามวยไทย ภายหลังจากประสบความสำเร็จในกีฬามวยไทยด้วยสถิติชนะ 12 ครั้ง แพ้ 1 ครั้ง เสมอ 1 ครั้ง[7] คาราโนได้รับการเสนอให้มีส่วนร่วมในการอนุมัติแข่งขันการต่อสู้แบบผสมประเภทหญิงครั้งแรกในรัฐเนวาดา เธอได้รับเชิญไปร่วมแสดงฝีมือในรายการเวิลด์โปรไฟท์ติ้งในลาสเวกัสกับการสู้กับ โรซี่ เซ็กส์ตัน[8] คาราโนชนะการต่อสู้โดยการน็อคเซ็กส์ตันลงในช่วงท้ายของยกที่สอง

คาราโนได้เผชิญกับเอไลนา แมกซ์เวลล์ ที่รายการสไตรค์ฟอร์ซ: ทริปเปิลทรีท เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ค.ศ. 2006 เธอได้ชนะการต่อสู้ผ่านการตัดสินอย่างเป็นเอกฉันท์[9] คาราโนยังได้พิสูจน์ว่าสิ่งที่นักวิจารณ์เป็นสิ่งไม่ถูกต้องเมื่อเธอชนะแมกซ์เวลเป็นครั้งที่สอง อันเป็นชัยชนะครั้งแรกจากการแข่งขันมวยไทย การต่อสู้ดังกล่าวยังถือเป็นการต่อสู้ประเภทหญิงรายการแรกของสไตรค์ฟอร์ซ

เธอเข้ารายการต่อสู้วันที่ 10 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2007 ในรายการ โชว์ไทม์อีลิท XC โดยสามารถเอาชนะจูลี เคดซี ด้วยการชนะการตัดสินอย่างเป็นเอกฉันท์ในช่วงการแข่ง "ไฟท์ออฟเดอะไนท์"[10] ซึ่งเป็นรายการโทรทัศน์การต่อสู้ประเภทหญิงรายการแรกของโชว์ไทม์

ตารางการแข่งของเธอกับแจน ฟินเลย์ ในรายการอีลิท XC/เค-วัน ไดนาไมท์!! ยูเอสเอ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ค.ศ. 2007 ได้ถูกยกเลิกไปเนื่องจากการเจ็บป่วย ช่องเดอะไฟท์เน็ตเวิร์กและข่าวอื่นๆรายงานว่าเธอรีบไปโรงพยาบาลโดยรถพยาบาลเนื่องจากร่างกายขาดน้ำขณะเข้าร่วมกิจกรรมเวิลด์เอ็กซ์ตรีมเคจไฟท์ติ้งในฐานะของผู้สังเกตการณ์คนหนึ่ง[11]

คาราโนแข่งต่อสู้ในวันที่ 15 กันยายน ค.ศ. 2007 ในรายการ โชว์ไทม์อีลิท XC ซึ่งเธอสามารถเอาชนะทอนย่า เอวินเจอร์ โดยการรัดด้านข้าง ซึ่งเป็นการเอาชนะครั้งแรกของอาชีพเธอโดยให้การอีกฝ่ายยอมจำนน[12] คาราโนได้สร้างความประทับใจต่อนักวิจารณ์ โดยการถือครองพื้นที่ของเธอก่อนที่จะส่งให้เอวินเจอร์แพ้ไปในช่วงปลายยกแรก

คาราโนกำจัดแชมเปี้ยนผู้มาจากรายการฮุคแอนด์ชู้ต ที่มีชื่อว่าเคทลิน ยัง ในรายการ อีลิท XC: ไพร์มไทม์ เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ค.ศ. 2008 [13] หนึ่งวันก่อนการแข่งขัน คาราโนล้มเหลวในการควบคุมน้ำหนักสำหรับการต่อสู้ของเธอหลังจากชั่งน้ำหนักได้ 144.5 ปอนด์ (65.5 กก.) แม้ว่าองค์กรเอ็มเอ็มเอส่วนใหญ่จะกำหนดน้ำหนักที่ระดับ 135 ปอนด์ (ในรุ่นแบนตัมเวท) และ 145 ปอนด์ (ในรุ่นเฟเธอร์เวท) (61.2 และ 65.8 กิโลกรัมตามลำดับ) อีลิท XC เลือกที่จะสร้างรุ่นน้ำหนักหญิงที่ 140 ปอนด์[14] คาราโน่เห็นด้วยกับการถูกปรับ 12.5% ของการแสดงให้กับยัง และรายการต่อสู้ยังคงอยู่บนสูจิบัตร[15]

การนำไปสู่การต่อสู้กับเคลลี โคโบลด์ ของเธอ ได้มีการถกเถียงกันมากขึ้นว่าจีนาจะไม่สามารถควบคุมน้ำหนักสำหรับการต่อสู้ได้ ในขณะที่เธอได้ต่อสู้เพียงครั้งเดียวในปีที่ผ่านมา และล้มเหลวในการควบคุมน้ำหนัก จีน่ามั่นใจเช่นเดียวกับนักวิจารณ์ที่ว่าเธอจะสามารถควบคุมน้ำหนักได้ตั้งแต่เธอได้เริ่มว่าจ้างนักโภชนาการมามีส่วนช่วยในการอดอาหารของเธอ โดยน้ำหนักสำหรับรายการต่อสู้โคบอลท์ในวันที่ 3 ตุลาคม ค.ศ. 2008 จีนา คาราโน มีน้ำหนักอยู่ที่ 142.75 ปอนด์จากความพยายามครั้งแรกของเธอ[16] หลังจากถอดชุดกีฬาชั้นในของเธอ แล้วคลุมด้วยผ้าขนหนู คาราโน่ชั่งน้ำหนักในครั้งที่สองได้ที่ระดับ 142.5 ปอนด์[17] ในความพยายามครั้งที่สามของเธอ โดยไม่มีเสื้อผ้าใด ๆ คาราโนชั่งน้ำหนักได้ 141 ปอนด์[18] และประสบความสำเร็จในการทำน้ำหนัก

ในช่วงต้น โคโบลท์ มีเจตนาที่จะกดคาราโนในการกอดกันในขณะที่ทำการดันลงตลอดการต่อสู้ โคโบลท์ยังทำการกดลงในในยกที่สอง แต่เมื่อสิ้นสุดยกก่อนที่เธอจะใช้ความได้เปรียบนี้เอง คาราโนได้ใช้โอกาสนี้ตีโคโบลท์ทุกครั้งในช่วงที่ทั้งคู่ได้แยกออกจากกัน ขณะเดียวกันก็เกิดแผลลึกมากในบริเวณคิ้วของคู่ต่อสู้ในยกแรก[19] ในช่วงท้ายของยกที่สาม คาราโน่ได้มองหาทางจบการต่อสู้ เธอไม่ได้เตะศีรษะของคู่ต่อสู้ส่งลงสู่พื้นล่างโดยให้คางของโคโบลท์สัมผัสกับพื้น แต่โคโบลท์ก็ยังคงอยู่แทบเท้าเธอ และการต่อสู้ก็ได้สิ้นสุดลง[20]

คาราโนชนะโดยการตัดสินอย่างเป็นเอกฉันท์ (29-28, 30-27, 30-27)[21] และยังคงไม่เคยพ่ายแพ้ต่อใคร หลังจากเธอได้รับชัยชนะ เธอได้อุทิศการต่อสู้ให้แก่ปู่ของเธอ

การต่อสู้รายการสไตร์คฟอร์ซชิงแชมป์หญิงรุ่นมิดเดิลเวท แก้

หลังจากสไตร์คฟอร์ซซื้อทรัพย์สินของโปรอีไลท์ คาราโนพร้อมด้วยนักสู้คนอื่นต่างอยู่ในช่วงหมดอายุสัญญา ได้กลายมาเป็นสัญญาที่ถูกเชื่อมกับสไตร์คฟอร์ซ หลังจากหลายเดือนที่ประสบทางตันเกี่ยวกับสถานะของตัวแทนอิสระ[22]

ซึ่งได้มีการประกาศที่รายการ สไตร์คฟอร์ซ: ลอว์เลอร์ vs. ชีลด์ โดยคาราโนได้เผชิญการต่อสู้กับคริสเตียน ซานโตส ที่จัดขึ้นในวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 2009 ที่รายการสไตร์คฟอร์ซ: คาราโน vs. ไซบอร์ก ซึ่งรายการสไตร์คฟอร์ซยังได้สร้างการแข่งขันชิงแชมป์หญิงเป็นครั้งแรก

แม้ว่าการแบ่งรุ่น 145 ปอนด์ ส่วนใหญ่จะอ้างที่รุ่นเฟเธอร์เวท, สกอต โคเกอร์ ซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการสไตร์คฟอร์ซ ได้กล่าวว่าชื่อรายการจะเป็นที่รู้จักกันในชื่อของ สไตร์คฟอร์ซวีเมนไลท์เวทแชมเปี้ยนชิป[23] โดยในภายหลังชื่อรายการได้เปลี่ยนใหม่เป็นสไตร์คฟอร์ซวีเมนมิดเดิลเวทแชมเปี้ยนชิป[24]

คาราโนแพ้ให้กับการต่อสู้กับซานโตสโดยเป็นฝ่ายแพ้ TKO ที่เวลา 4 นาที 59 วินาทีในยกแรก[25] หลังจากนั้นกินเวลากว่าหนึ่งปีที่คาราโนพ่ายแพ้ให้กับซานโตส, สกอต โคเกอร์ ซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการสไตร์คฟอร์ซ กล่าวว่าความรู้สึกจากข้างในของเขาคือการหวังว่าเธอจะกลับมาในที่สุด และเขาหวังว่าจะเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 2011 [26] ซึ่งการกลับมาของคาราโนได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2011 [27]

นอกวงการศิลปะการต่อสู้แบบผสม แก้

คาราโนได้แสดงในภาพยนตร์คัลท์เรื่องริงเกิร์ลส์[28] โดยสร้างมาจากเรื่องจริง ริงเกิร์ลส์เป็นการดำเนินเรื่องอย่างรวดเร็วเกี่ยวกับหญิงสาวห้าคนชาวอเมริกันจากลาสเวกัส ซึ่งทำในสิ่งท้าทายอย่างที่สุดของการเป็นนักมวยไทยหญิงที่ดีที่สุดในโลก[29]

พร้อมกันกับลิซา คิง คาราโนทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงในการผลักดันนักสู้สาวในช่องโทรทัศน์ ออกซิเจน รายการเรียลลิตี้ที่มีชื่อว่า ไฟท์เกิร์ล เธอปรากฏตัวในฐานะของ "ครัช" ในการแสดงเอ็นบีซี ที่มีชื่อว่า อเมริกันกราดิเอเตอร์ส ซึ่งเธอยังได้แสดงในวิดีโอออกกำลังกายของการแสดงพร้อมกับโมนิกา คาร์ลสัน (เจ็ท), เจนิเฟอร์ ไวเดอร์สตอร์ม (ฟีนิกซ์), ไมเคิล โอ'เฮิร์น (ไตตัน), ทาโนไอ รีด (โทอา) และดอน "ฮอลีวูด" เยทส์ (วูลฟ์) ซึ่งดีวีดีได้ออกเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ค.ศ. 2008 เธอยังได้ปรากฏตัวในภาพยนตร์ของไมเคิล ไจ ไวท์ เรื่องโคตรคนกำปั้นสั่งตาย ด้วยเช่นกัน[30]

ข้อมูลส่วนตัวของเธอได้รับการเปิดเผยในรายการ ESPN ซีรีส์ E:60 และได้รับการโหวตให้เป็น "ผู้หญิงที่โด่งดังที่สุดในอเมริกา" โดยบิกบิซแมกกาซีน ในฉบับฤดูใบไม้ผลิ 2008 [31] ในวันที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ. 2008 "Gina Carano" ได้กลายเป็นคำที่มีผู้ค้นหามากที่สุดในกูเกิล และเป็นชื่อบุคคลที่มีคนค้นหามากที่สุดเป็นอันดับสามในยาฮู![4][32] เธอยังได้ปรากฏตัวในคอมมานด์ & คองเคอร์: เรดอเลิร์ท 3 โดยรับบทเป็นนาตาชา[33] ซึ่งสามารถจัดหาได้ในฝ่ายตัวละครหลัก ในฉากตัดของพลซุ่มยิงและคอมมานโด

เธอได้รับการจัดอยู่ในอันดับ 5 ของรายชื่อ "ทอปเท็นหญิงที่มีอิทธิพลใน ค.ศ. 2008" ในยาฮู![34] ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2009 ได้มีการประกาศว่าคาราโน่ได้รับการจัดอันดับที่ 16 ในรายชื่อ 100 ผู้มีความร้อนแรงของนิตยสารแมกซิม และวันที่ 16 กันยายน ค.ศ. 2009 ได้รับการรายงานว่าเธอได้รับบทนำเป็นสปายคนใหม่ในภาพยนตร์ทริลเลอร์ที่มีชื่อว่า เธอแรง หยุดโลก ที่กำกับโดย สตีเวน โซเดอเบิร์ก[35][36] รวมทั้งเธอเป็นหนึ่งในนักกีฬาที่ได้ขึ้นปกของนิตยสาร ESPN เดอะแมกกาซีนฉบับบอดี้ ของวันที่ 19 ตุลาคม ค.ศ. 2009

ชีวิตส่วนตัว แก้

เควิน รอส แฟนหนุ่มคนพิเศษของจีนา เป็นผู้มีส่วนร่วมในกีฬามวยไทยเช่นเดียวกับเธอ[37]

สถิติการแข่งขันแบบผสม แก้

ผล คะแนน คู่ชก วิธีชนะ รายการ วันที่ ยก เวลา สถานที่ หมายเหตุ
แพ้ 7-1   คริสเตียน ซานโตส TKO (การอ้างหยุด) สไตรค์ฟอร์ซ: คาราโน่ vs. ไซบอร์ก 15 สิงหาคม ค.ศ. 2009 1 4:59   แซนโฮเซ แคลิฟอร์เนีย สหรัฐ สำหรับรายการวีเมนส์มิดเดิลเวทแชมเปี้ยนชิป (145 ปอนด์)
ชนะ 7-0   เคลลี โคโบลด์ กรรมการตัดสิน (เป็นเอกฉันท์) อีลิท XC: ฮีท 4 ตุลาคม ค.ศ. 2008 3 3:00   ซันไรส์ รัฐฟลอริดา สหรัฐ
ชนะ 6-0   เคทลิน ยัง TKO (แพทย์สั่งหยุด) อีลิท XC: ไพร์มไทม์ 31 พฤษภาคม ค.ศ. 2008 2 3:00   นวร์ก รัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐ
ชนะ 5-0   ทอนยา เอวินเจอร์ ยอมจำนน (รัดด้านข้าง) อีลิท XC: อัพไรซิง 15 กันยายน ค.ศ. 2007 1 2:53   เกาะโอวาฮู รัฐฮาวาย สหรัฐ
ชนะ 4-0   จูลี เคดซี กรรมการตัดสิน (เป็นเอกฉันท์) อีลิท XC: เดสตินี่ 10 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2007 3 3:00   เซาท์ฮาเวน รัฐมิสซิสซิปปี สหรัฐ
ชนะ 3-0   เอไลนา แมกซ์เวลล์ กรรมการตัดสิน (เป็นเอกฉันท์) สไตรค์ฟอร์ซ: ทริปเปิลทรีท 8 ธันวาคม ค.ศ. 2006 3 2:00   แซนโฮเซ แคลิฟอร์เนีย สหรัฐ
ชนะ 2-0   โรซี เซ็กส์ตัน KO (ชก) WPFC 1 - เวิลด์โปรไฟท์ติ้ง แชมเปี้ยนชิป 15 กันยายน ค.ศ. 2006 2 4:55   ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐ
ชนะ 1-0   เลทิเซีย เปสโตวา KO (ชกและศอก) WEF - เวิลด์เอ็กซ์ตรีม ไฟท์ติ้ง 10 มิถุนายน ค.ศ. 2006 1 0:38   ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐ

อ้างอิง แก้

  1. "Gina Carano refutes position as "face of women's MMA"". MMAJUNKIE.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-05-24. สืบค้นเมื่อ 2008-09-21.
  2. "Unified Women's Mixed Martial Arts Rankings". MMARising.com. สืบค้นเมื่อ August 1, 2010.
  3. "Unified Women's Rankings". FighterGirls.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-06-21. สืบค้นเมื่อ August 1, 2010.
  4. 4.0 4.1 Kevin Iole (May 28, 2008). Carano wants to be fighter first, star later. Yahoo Sports. Alt: [1]. Retrieved 2008-08-01.
  5. 5.0 5.1 "interview Gina Carano". mat-magazine.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-11-05. สืบค้นเมื่อ 2008-09-16.
  6. Jack Sheehan (September 1, 2007) Don't let her good looks fool you Stunning Gina Carano has a near-perfect record in mixed martial arts Las Vegas Sun. Retrieved 2008-01-01.
  7. "Full Transcript Of Exclusive Gina Carano Interview". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-10-06.
  8. "World Pro Fighting - Las Vegas, September 15, 2006". WPFight.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-09-28. สืบค้นเมื่อ 2007-09-16.
  9. "Le Wins on Cut, Southworth Takes Strikeforce Belt". SHERDOG.com. 2006-12-08. สืบค้นเมื่อ 2010-05-05.
  10. "EXC live coverage from Southaven, MS". WrestlingObserver.com. สืบค้นเมื่อ 2007-09-16.
  11. Sick Carano Off EliteXC Card (May 17, 2008) Sherdog.com'.' Retrieved 2007-05-17.
  12. "Elite XC notes: Carano carries torch for sport". Yahoo! Sports. 2007-06-16. สืบค้นเมื่อ 2009-08-09.
  13. Ariel Helwani (May 28, 2008) Carano: 'I just didn't really want to stay out of the ring' Fox Sports'.' Retrieved 2008-05-29.
  14. "GinaCarano and Weight Cutting". BLOODYELBOW.com. 2007-09-26. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-02-27. สืบค้นเมื่อ 2009-08-09.
  15. Carano Misses Weight (May 30, 2008) Sherdog.com'.' Retrieved 2008-08-01.
  16. "Gina Carano Gets Naked on the Scale to Make Weight for EliteXC Fight". MMAFANHOUSE.com. 2008-10-04. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-04-20. สืบค้นเมื่อ 2009-08-09.
  17. "164mph.com". 164mph.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-07. สืบค้นเมื่อ 2010-11-12.
  18. ""EliteXC: Heat" weigh-in results". MMAJUNKIE.com. 2008-10-03. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-04-20. สืบค้นเมื่อ 2009-08-09.
  19. "Shields Armbars Daley; Arlovski Flattens Nelson at 'Heat'". SHERDOG.com. 2008-10-05. สืบค้นเมื่อ 2010-02-10.
  20. "GINA CARANO DEFEATS KOBOLD, REMAINS UNBEATEN". MMAWEEKLY.com. 2008-10-04. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-10-06. สืบค้นเมื่อ 2009-08-09.
  21. ""EliteXC: Heat" live round-by-round updates and official results". MMAJUNKIE.com. 2008-10-04. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-04-20. สืบค้นเมื่อ 2009-08-09.
  22. "Strikeforce completes deal to buy limited ProElite asset". CNN. 2009-02-04. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-12-30. สืบค้นเมื่อ 2010-05-03.
  23. "Strikeforce Post-Fight Press Conference Recap". MMARising.com. สืบค้นเมื่อ 2009-08-26.
  24. "Strikeforce Champions". Strikeforce.com. สืบค้นเมื่อ 2010-06-01.
  25. "'Cyborg' Finishes Carano in First Round". SHERDOG.com. 2009-08-16. สืบค้นเมื่อ 2010-02-10.
  26. "Strikeforce Hopes for Gina Carano Return in 2011, But No Discussions Yet". MMAWeekly.com. 2010-11-04. สืบค้นเมื่อ 2010-11-05.
  27. Luke Thomas (February 12, 2011). Strikeforce: Fedor Vs. Silva Results: Gina Carano Returns To Strikeforce. sbnation.com. Accessed 2010-02-15.
  28. "Ring Girls Review (2006)". Thespinningimage.co.uk. สืบค้นเมื่อ 2010-11-12.
  29. "Muay Thai Ring Girls (UK) (DVD Details) - MyReviewer.com". Dvd.reviewer.co.uk. 2006-09-30. สืบค้นเมื่อ 2010-11-12.
  30. "Gina Carano N Michael Jai White Kick ass in Blood and Bone". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-01-29. สืบค้นเมื่อ 2008-01-23.
  31. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-07-14. สืบค้นเมื่อ 2011-03-20.
  32. Google trends - Gina Carano (May 13, 2008) Google'.' Retrieved 2008-08-01.
  33. Gina Carano as Natasha in Red Alert 3. (May 30, 2008) IGN. Retrieved 2008-08-01.
  34. "Women - Yahoo! 2008 Year in Review". Yahoo!. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-01-23. สืบค้นเมื่อ 2009-04-08.
  35. Fleming,Mike. "Soderbergh, Carano in "Knockout" pairing". Variety. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-09-13. สืบค้นเมื่อ 2011-03-20.
  36. "Gina Carano to Star in Major Film". Fightburger. 2009-09-08. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-05-19. สืบค้นเมื่อ 2010-11-12.
  37. "It takes two to tangle Las Vegas native's desire to fight inspired top female MMA fighter to take up sport". LASVEGASSUN.com. 2009-07-23. สืบค้นเมื่อ 2009-08-05.

แหล่งข้อมูลอื่น แก้