จักรพรรดิไฮน์ริชที่ 6 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์

จักรพรรดิไฮน์ริชที่ 6 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (อังกฤษ: Henry VI, Holy Roman Emperor) (พฤศจิกายน ค.ศ. 1165 - 28 กันยายน ค.ศ. 1197) เป็นจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์สมัยราชวงศ์โฮเอ็นชเตาเฟิน ครองราชบัลลังก์ระหว่างปี ค.ศ. 1191 จนเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 28 กันยายน ค.ศ. 1197 พระองค์เป็นพระราชโอรสในจักรพรรดิฟรีดริชที่ 1 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และพระนางเบียทริซแห่งเบอร์กันดี

จักรพรรดิไฮน์ริชที่ 6 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์

จักรพรรดิไฮน์ริชที่ 6
จักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์
ครองราชย์โรมันอันศักดิ์สิทธิ์:
ค.ศ. 1191 - ค.ศ. 1197
เยอรมนี:
ค.ศ. 1190 - ค.ศ. 1197
อิตาลี:
ค.ศ. 1191 - ค.ศ. 1197
ซิซิลี:
ค.ศ. 1194 - ค.ศ. 1197
รัชกาลก่อนหน้าจักรพรรดิฟรีดริชที่ 1 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์
รัชกาลถัดไปจักรพรรดิออทโทที่ 4 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์
ประสูติพฤศจิกายน ค.ศ. 1165
โรม ในประเทศอิตาลี
สวรรคต28 กันยายน ค.ศ. 1197
โรม ในประเทศอิตาลี
พระมเหสีสมเด็จพระราชินีคอนสแตนซ์แห่งซิซิลี
จักรพรรดิไฮน์ริชที่ 6
ราชวงศ์โฮเอ็นชเตาเฟิน
พระราชบิดาจักรพรรดิฟรีดริชที่ 1
พระราชมารดาเบียทริซแห่งเบอร์กันดี

พระโอรสในจักรพรรดิ แก้

ไฮน์ริชเป็นพระราชโอรสคนที่สองของจักรพรรดิฟรีดริชที่ 1 บาร์บารอสซากับพระมเหสีคนที่สอง คือ พระนางเบียทริกซ์แห่งบูร์กอญ ทรงเสด็จพระราชสมภพในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของ ค.ศ. 1165 ในนครไนเมเคิน (ปัจจุบันอยู่ในประเทศเนเธอร์แลนด์)

การสวรรคตของฟรีดริชผู้เป็นพระเชษฐาในปี ค.ศ. 1169 ทำให้ไฮน์ริชขึ้นเป็นทายาทในพระมหากษัตริย์ราชวงศ์โฮเอินชเตาเฟินของเยอรมนี ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1169 ในการประชุมสภานิติบัญญัติของเจ้าชายเยอรมันที่เมืองบัมแบร์ค ไฮน์ริชวัย 4 พรรษาได้รับเลือกเป็นกษัตริย์แห่งเยอรมนี ทรงเข้ารับการสวมมงกุฎที่นครอาเคินในวันที่ 15 สิงหาคม

พระเจ้าไฮน์ริชแห่งเยอรมนีบรรลุวัยวุฒิในปี ค.ศ. 1178 ทรงเริ่มเข้ามามีบทบาททางการเมือง ในเทศกาลอันยิ่งใหญ่ที่นครไมนซ์ในปี ค.ศ. 1184 พระเจ้าไฮน์ริชได้รับการติดยศอัศวินพร้อมกับฟรีดริช (ชื่อเดิมคือค็อนราท) ดยุคแห่งชวาเบินผู้เป็นพระอนุชา ในวันที่ 29 ตุลาคมของปีเดียวกันพระเจ้าไฮน์ริชได้หมั้นหมายกับคอนสแตนซ์ พระธิดาของพระเจ้าโรเจอร์ที่ 2 อดีตกษัตริย์แห่งซิซิลีและพระปิตุจฉาของพระเจ้าวิลเลียมที่ 2 กษัตริย์แห่งซิซิลีคนปัจจุบัน การสมรสเข้าราชวงศ์โฮเอินชเตาเฟินของคอนสแตนซ์จะช่วยให้สถานะของราชวงศ์อัลตาวิลลาในซิซิลีมั่นคงขึ้น และการเป็นสานสัมพันธ์กับซิซิลีจะช่วยให้จักรพรรดิฟรีดริชบาร์บารอสซามีพันธมิตรที่ทรงอำนาจในคาบสมุทรอิตาลี ทรงคาดหวังให้ไฮน์ริชมีพระโอรสเพื่อที่พระนัดดาที่เกิดมาจะได้สืบทอดบัลลังก์ซิซิลี เนื่องจากกษัตริย์แห่งซิซิลียังไม่มีพระราชบุตร ในช่วงปลายปี ค.ศ. 1185 พระเจ้าไฮน์ริชติดตามพระบิดาไปอิตาลี ปีต่อมาทรงอภิเษกสมรสกับคอนสแตนซ์ซึ่งพระชนมายุมากกว่าพระองค์ 11 พรรษา ที่นครมิลานในวันที่ 27 มกราคม ค.ศ. 1186 ขณะพระเจ้าไฮน์ริชมีพระชนมายุ 21 พรรษา

การราชาภิเษกเป็นจักรพรรดิและสงครามกับราชอาณาจักรซิซิลี แก้

พระเจ้าไฮน์ริชอยู่ในอิตาลีจนถึงปี ค.ศ. 1187 ในช่วงฤดูใบไม้ผลิข่าวความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ที่ฮัตตินและนครเยรูซาเล็มแตกให้เศาะลาฮุดดีนแล้วมาถึง จักรพรรดิไฮน์ริชบาร์บารอสซาและดยุคฟรีดริชแห่งชวาเบินรับกางเขนในการประชุมสภาพระเยซูคริสต์ที่นครไมนซ์ในวันที่ 27 มีนาคม ค.ศ. 1188 ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1189 จักรพรรดิฟรีดริชบาร์บารอสซาผู้เป็นพระบิดาออกเดินทางไปทำสงครามครูเสด พระเจ้าเฮนรีปกครองจักรวรรดิแทนพระบิดา พระองค์ได้ปราบกบฏไฮน์ริชสิงห์ ดยุคแห่งไบเอิร์นและซัคเซิน

ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1189 พระเจ้าวิลเลียมที่ 2 แห่งซิซิลีสวรรคต คอนสแตนซ์ พระมเหสีของพระเจ้าไฮน์ริชซึ่งพระขนิษฐาในพระบิดาของพระเจ้าวิลเลียมได้สืบทอดราชอาณาจักรซิซิลีอันประกอบด้วยเกาะซิซิลีและพื้นที่ทางตอนใต้ของคาบสมุทรอิตาลี พระเจ้าไฮน์ริชได้สืบทอดบัลลังก์ซิซิลีผ่านทางพระนางคอนสแตนซ์ผู้เป็นพระมเหสี แต่ขุนนางเนเปิลส์และซิซิลีที่ไม่ต้องการอยู่ภายใต้การปกครองของกษัตริย์เยอรมันจึงตั้งแทนเครด เคานต์แห่งเลชเช บุตรชายนอกสมรสของโรเจอร์ พระเชษฐาของพระนางคอนสแตนซ์ และพระเชษฐานอกสมรสต่างมารดาของพระเจ้าวิลเลียมที่ 2 เป็นกษัตริย์แห่งซิซิลี จักรพรรดิไฮน์ริชทำสันติภาพกับไฮน์ริชสิงห์ ศัตรูในเยอรมนี และรีบเดินทางไปอิตาลีเพื่ออ้างสิทธิในบัลลังก์ตามสิทธิของพระมเหสี แต่แผนการต้องพับในช่วยฤดูใบไม้ร่วงของปีนั้นเมื่อทราบข่าวว่าจักรพรรดิฟรีดริชบาร์บารอสซาที่อยู่ระหว่างทำสงครามครูเสดจมน้ำสวรรคตในแคว้นซิลิชา (อานาโตเลีย) เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ค.ศ. 1190 ในช่วงต้นปี ค.ศ. 1191 พระเจ้าไฮน์ริชข้ามเทือกเขาแอลป์ไปเข้ารับการสวมมงกุฎเป็นจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ในวันที่ 11 เมษายนในนครโรมโดยสมเด็จพระสันตะปาปาเซเลสทีนที่ 3

หลังพิธีราชาภิเษก จักรพรรดิไฮน์ริชที่ 6 มุ่งมั่นกับการพิชิตราชอาณาจักรซิซิลี ชาวลอมบาร์ดอยู่ฝ่ายเดียวกับพระองค์ ทรงปิดล้อมนครเนเปิลส์ ทว่าประสบความล้มเหลว พระนางคอนสแตนซ์ถูกจับคุมขัง จักรพรรดิไฮน์ริชยังคงอยู่ในที่มั่นในอิตาลี ขณะเดียวกันก็ต้องพะวงกับรักษาตำแหน่งในเยอรมนี เมื่อไฮน์ริชสิงห์ยังคงพยายามแย่งชิงบัลลังก์ สมเด็จพระสันตะปาปาพยายามเจรจาสันติภาพระหว่างจักรพรรดิไฮน์ริชกับพระเจ้าแทนเครด แต่ไม่ค่อยได้ผล ในปี ค.ศ. 1192 พระนางคอนสแตนซ์ได้รับการปล่อยตัว สถานะการเข้าข้างฝ่ายจักรพรรดิไฮน์ริช ที่นครมิลาน พระองค์ได้พบกับพระเจ้าฟีลิปที่ 2 ออกุสตุสแห่งฝรั่งเศสที่อยู่ระหว่างเดินทางกลับจากการทำสงครามครูเสดครั้งที่สาม จักรพรรดิไฮน์ริชกับพระเจ้าฟีลิปจับมือเป็นพันธมิตรร่วมกันต่อกรกับพระเจ้าริชาร์ดที่ 1 ใจสิงห์แห่งอังกฤษ ซึ่งเป็นทั้งพันธมิตรของพระเจ้าแทนเครดแห่งซิซิลีและพันธมิตรของฝ่ายเวล์ฟ ศัตรูของพระองค์ในเยอรมนี แต่ไฮน์ริชสิงห์กับพรรคพวกรวมตัวกันก่อกบฏต่อพระองค์อีกครั้ง จักรพรรดิจึงต้องถอยทัพกลับเยอรมนีในเดือนสิงหาคม

การจัมกุมตัวพระเจ้าริชาร์ดใจสิงห์ แก้

ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1192 พระเจ้าริชาร์ดที่ 1 ใจสิงห์แห่งอังกฤษถูกดยุคเลโอปอลด์แห่งออสเตรียจับกุมตัวได้บริเวณใกล้กับนครเวียนนา ระหว่างเดินทางกลับจากทำสงครามครูเสดครั้งที่สาม พระองค์ถูกจองจำที่ปราสาทเดิร์นชไตน์ ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ดยุคส่งตัวพระเจ้าริชาร์ดให้จักรพรรดิ ในปี ค.ศ. 1193 จักรพรรดิไฮน์ริชที่ 6 ตั้งเงื่อนไขในการปล่อยตัวพระเจ้าริชาร์ด โดยกำหนดค่าไถ่ตัวเป็นเงิน 150,000 มาร์ค ซึ่งดยุคแห่งออสเตรียจะได้รับเงินหนึ่งในสามของค่าไถ่ตัว กษัตริย์อังกฤษต้องยอมเป็นข้าศักดินาของจักรพรรดิเยอรมนีและต้องสนับสนุนเรือ 50 ลำเพื่อใช้ในการทำศึกในซิซิลี เงื่อนไขดังกล่าวได้รับการปฏิบัติตาม กษัตริย์แห่งอังกฤษจึงได้รับการปล่อยตัวในปี ค.ศ. 1194

การพิชิตราชอาณาจักรซิซิลี แก้

ในเดือนมกราคม ค.ศ. 1194 ทรงบรรลุการทำสนธิสัญญาแวร์เชลลีกับเมืองต่างๆ ของลอมบาร์ดีซึ่งยอมจงรักภักดีต่อพระองค์ ในเดือนมีนาคมจักรพรรดิไฮน์ริชที่ 6 บรรลุข้อตกลงกับไฮน์ริชสิงห์ ทำให้สามารถกลับไปมุ่งมั่นกับซิซิลีได้อย่างเต็มที่ ภารกิจของพระองค์ง่ายขึ้นเมื่อพระเจ้าแทนเครดสวรรคตในเดือนกุมภาพันธ์ของปีเดียวกัน พระเจ้าวิลเลียมที่ 3 ทายาทของพระองค์ยังเป็นเพียงเด็กน้อย ในเดือนพฤษภาคมจักรพรรดิไฮน์ริชยกทัพลงใต้ กองทัพของพระองค์ประกอบด้วยทหาร 20,000 นายและกองเรือหนุนจากเจนัวและปิซา กองทัพเข้าโจมตีราชอาณาจักรซิซิลีในเดือนสิงหาคม เข้ายึดและปล้นทำลายนครซาแลร์โนในเดือนกันยายน นครต่างๆ ทยอยยอมจำนน จักรพรรดิเดินทางถึงนครปาแลร์โมในวันที่ 20 พฤศจิกายนและเข้ารับการสวมมงกุฎเป็นกษัตริย์แห่งซิซิลีในวันที่ 25 ธันวาคม วันต่อมาพระนางคอนสแตนซ์ให้กำเนิดพระราชโอรสที่ถูกตั้งชื่อว่าฟรีดริช โรเจอร์ ตามชื่อของพระอัยกาทั้งสองฝั่ง

ซิบีลลา พระราชินีม่ายของพระเจ้าแทนเครดและพระเจ้าวิลเลียมยอมสละสิทธิ์ในบัลลังก์ซิซิลีหลังจักรพรรดิรับปากว่าจะยกเคาน์ตีเลชเชและตาเรนตุมให้ ทว่าเพียงสี่วันหลังพิธีราชาภิเษก จักรพรรดิไฮน์ริชกล่าวหาพระราชินีซิบีลลาว่าคิดวางแผนร้ายต่อพระองค์ พระนางถูกจับกุมตัวและถูกคุมขัง พระธิดาของพระนางถูกส่งตัวเข้าอาราม ฝ่ายสนับสนุนราชวงศ์นอร์มันทั้งหมด รวมถึงพระเจ้าวิลเลียม ถูกจับกุมและถูกประหารชีวิต

การวางแผนทำสงครามครูเสดและแผนการสืบทอดตำแหน่ง แก้

อำนาจของจักรรพรรดิไฮน์ริชเกรียงไกรทั่วแคว้นเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1195 ทรงรับกางเขนและเตรียมเดินทางไปทำสงครามครูเสดในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ด้วยหวังว่าจะทำให้พระสันตะปาปายอมเห็นดีเห็นงามกับแผนการสืบทอดการปกครองจักวรรดิและซิซิลีผ่านทางสายเลือดราชวงศ์โฮเอินชเตาเฟิน แต่จักรพรรดิไฮน์ริชยังไม่สามารถตกลงกับสมเด็จพระสันตะปาปาเซเลสทีนที่ 3 ได้ ในการประชุมสภานิติบัญญัติที่นครไมนซ์ในเดือนเมษายน ค.ศ. 1196 จักรพรรดิโน้มน้าวให้เจ้าชายราว 50 คนรับรองให้ตำแหน่งจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิเป็นตำแหน่งที่สืบทอดผ่านทางสายเลือด ทว่าเหล่าเจ้าชายและสมเด็จพระสันตะปาปาไม่เห็นด้วย พระองค์จึงได้แค่ทำให้ฟรีดริช พระโอรสวัย 2 พรรษา ได้รับเลือกเป็นกษัตริย์แห่งเยอรมนีในเดือนธันวาคม

ในปี ค.ศ. 1196 จักรพรรดิเดินทางไปซิซิลีเพื่อปราบกบฏขุนนางท้องถิ่นที่รวมหัวกันวางแผนปลงพระชนม์พระองค์ แผนการของฝ่ายกบฏล้มเหลว จักรพรรดิไฮน์ริชลงโทษผู้ร่วมแผนการอย่างรุนแรง ทรงสั่งให้ตอกมงกุฎเหล็กลงบนศีรษะของศัตรู และสั่งให้เผาผู้ร่วมสมคบคิดคนอื่นๆ ทั้งเป็นหรือไม่ก็จับกดน้ำ

การสวรรคต แก้

จักรพรรดิกลับไปที่ราชอาณาจักรซิซิลีในเดือนเมษายน ค.ศ. 1197 เพื่อเตรียมการทำสงครามครูเสด ในช่วงปลายฤดูร้อนของปี ค.ศ. 1197 พระองค์เดินทางถึงนครเมสซีนาเพื่อร่วมทำสงครามครูเสดด้วยพระองค์เอง แต่แผนการชะงักกลางคันเมื่อจักรพรรดิติดเชื้อมาลาเรียจนสวรรคตในวันที่ 28 กันยายน ด้วยวัยเพียง 32 พรรษา ร่างของพระองค์ถูกฝังในอาสนวิหารปาแลร์โม ทรงเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แต่น่าเสียดายที่พระชนมายุสั้น

พระอิสริยยศ แก้

อ้างอิง แก้

ดูเพิ่ม แก้