คิม จง-ฮย็อน

นักร้องและโปรดิวเซอร์ชาวเกาหลีใต้
(เปลี่ยนทางจาก จงฮย็อน)

คิม จง-ฮย็อน (8 เมษายน ค.ศ. 1990[1] – 18 ธันวาคม ค.ศ. 2017)[2] รู้จักกันในชื่อที่ใช้ในวงการคือ จงฮย็อน เป็นนักร้องและนักแต่งเพลงชาวเกาหลีใต้ นักจัดรายการวิทยุ และนักเขียน เขาเป็นหนึ่งในสมาชิกและนักร้องเสียงหลักของวงบอยแบนด์เกาหลีใต้ ชายนี ที่ได้เข้าร่วมกับโปรเจกต์กลุ่มนักร้องเอสเอ็มเดอะบัลลาด และยังได้เดบิวต์เป็นศิลปินเดี่ยวภายใต้ค่ายเอสเอ็มเอนเตอร์เทนเมนต์

คิม จง-ฮย็อน
จงฮย็อนที่งานเอสเอ็มทาวน์ไลฟ์ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2017
เกิด8 เมษายน ค.ศ. 1990(1990-04-08)
โซล เกาหลีใต้
เสียชีวิต18 ธันวาคม ค.ศ. 2017(2017-12-18) (27 ปี)
โซล เกาหลีใต้
สาเหตุเสียชีวิตอัตวินิบาตกรรม ด้วยภาวะเป็นพิษคาร์บอนมอนอกไซด์
อาชีพ
  • นักร้อง-นักแต่งเพลง
  • นักจัดรายการวิทยุ
  • นักเขียน
อาชีพทางดนตรี
แนวเพลง
เครื่องดนตรีเสียงร้อง
ช่วงปี2008–2017
ค่ายเพลงเอสเอ็ม
อดีตสมาชิก
ชื่อเกาหลี
ฮันกึล
ฮันจา
อาร์อาร์Gim Jong-hyeon
เอ็มอาร์Kim Chonghyŏn
ลายมือชื่อ

อาชีพ แก้

ค.ศ. 2008–2014: การเริ่มต้นอาชีพในวงการบันเทิง แก้

 
ภาพของจงฮย็อนกับสมาชิกวงชายนีในการถ่ายอัลบั้ม I'm Your Boy โปรโมตในประเทศญี่ปุ่น ปี 2014

คิม จง-ฮย็อน เคยมีวงดนตรีแนวฟังก์กับเพื่อนสมัยเรียนตอนเด็ก ๆ โดยเขามีหน้าที่ในวงคือร้องคอรัสและเล่นเบสให้กับวง ในช่วงนั้นเองความสนใจในเรื่องดนตรีทำให้เขาลงทุนเก็บเงินค่าขนมเพื่อไปซื้อกีตาร์และแอบไปทดสอบความสามารถอย่างลับ ๆ โดยช่วงแรก ๆ นั้นคุณพ่อและคุณแม่ของเขาต่อต้านทางเลือกนี้ของจงฮย็อนเป็นอย่างมาก แต่สุดท้ายแล้วทั้งสองก็ยอมรับในความสามารถของลูกชาย และได้สนับสนุนความฝันของจงฮย็อนโดยการให้เขาได้ย้ายไปเรียนที่โรงเรียนทางดนตรีโดยเฉพาะ

เมื่อมีโอกาสไปออกงานประกวดวงดนตรีของโรงเรียนที่กรุงโซล จง-ฮย็อน ก็ได้รับการแคสต์ให้เข้าสังกัดค่ายเอสเอ็มเอนเตอร์เทนเมนต์ เขามีความมุ่งมั่นที่อยากจะเป็นนักแต่งเพลงและมีเป้าหมายที่จะเป็นศิลปินที่ประสบความสำเร็จทางด้านดนตรีเป็นอย่างมาก ก่อนเปิดตัวเจ้าตัวเคยร่วมร้องเพลง “Wrongly Given Love” ในอัลบั้มเพลงภาษาจีนของอดีตรุ่นพี่ในค่ายเดียวกันอย่างจาง ลี่อิ่น

หลังจากใช้ชีวิตเป็นเด็กฝึกในค่ายอยู่ตั้งแต่อายุ 13 ปี จงฮย็อนได้เข้ามาเป็นหนึ่งในสมาชิกของวงเคป็อปชื่อดังอย่าง ชายนี (SHINee) ซึ่งมีสมาชิกอยู่ทั้งหมด 5 คน ได้แก่ จงฮย็อน, อนยู, คีย์, มินโฮ และแทมิน พวกเขาได้รับการเปิดตัวเป็นศิลปินใหม่ของค่ายเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ในปี ค.ศ. 2008[3] ด้วยเพลงโปรโมตที่มีเนื้อหาน่ารักสมวัยอย่างเพลง “Replay“ ที่ถูกปล่อยสู่สายตาสาธารณชนในวันที่ 23 พฤษภาคมภายในปีเดียวกัน หลังจากได้เดบิวต์ในนามวงชายนีแล้ว จงฮย็อนได้มีส่วนร่วมในการเขียนเนื้อร้องและทำนองเพลงมากมาย หากพูดถึงอุตสาหกรรมบันเทิงของเกาหลีที่มีศิลปินและกลุ่มนักร้องไอดอลเพิ่มขึ้นอย่างนับไม่ถ้วนตั้งแต่ช่วงแรกที่ชายนีเดบิวต์จนถึงปัจจุบันแล้วนั้นก็ถือได้ว่า จงฮย็อน คือศิลปินที่มีความสามารถในด้านดนตรีรอบด้านและได้รับการยอมรับจากคนมากมาย เป็นกำลังหลักสำคัญให้กับวงจนประสบความสำเร็จ

ค.ศ. 2015–2016: BASE และ She Is แก้

ค.ศ. 2017–2018: Story Op.2 และ Poet | Artist แก้

ภาพลักษณ์ในสาธารณะ แก้

ชีวิตส่วนตัว แก้

การศึกษา แก้

  • โรงเรียนประถมศึกษาชังชิน (จบการศึกษา)
  • โรงเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นทงซ็อง (จบการศึกษา)
  • โรงเรียนมัธยมดนตรีศึกษาแห่งโซล (โรงเรียนทางเลือก)
  • สอบวัดความสามารถทางวิชาการของโรงเรียนมัธยมปลาย (ผ่าน)
  • มหาวิทยาลัยช็องอุน ภาควิชาดนตรีปฏิบัติ (สำเร็จในหลักสูตรระดับปริญญาตรี)
  • มหาวิทยาลัยมย็องจี เอกภาพยนตร์และมิวสิคัล (สำเร็จในหลักสูตรระดับปริญญาโท วิทยานิพนธ์: วิจัยการสร้างโชว์ในศิลปะการแสดง - มิวสิคัลและการจัดคอนเสิร์ต)
  • มหาวิทยาลัยมย็องจี เอกภาพยนตร์และมิวสิคัล (ก่อนเสียชีวิตอยู่ในระหว่างการเข้ารับการศึกษาในระดับปริญญาเอก)

เหตุการณ์ต่าง ๆ แก้

จงฮย็อนออกจากโรงเรียนตอนเทียบชั้นได้เกรด 10 หรือ มัธยมปลายปีที่ 4 เพื่อทำตามความฝันและย้ายเข้าไปเรียนในโรงเรียนทางเลือกที่สอนศาสตร์ทางด้านดนตรีโดยเฉพาะ[4]

ในวันที่ 20 ตุลาคม ค.ศ. 2010 จงฮย็อนและนักแสดงสาว ชิน เซ-คย็อง ถูกสื่อพบเห็นในขณะที่กำลังออกเดตกันในที่สาธารณะ โดยมีภาพบางส่วนของทั้งคู่ได้ถูกปล่อยออกมา ทางบริษัทของทั้งสองคนได้ออกมายืนยืนในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ว่าที่กำลังคบหาดูใจกันอยู่นั้นเป็นความจริงในวันที่ 26 ตุลาคม[5][6] หลังจากระยะเวลา 9 เดือนที่คบหากัน จงฮย็อน และ ชิน เซ-คย็อง ก็ได้เลิกรากันในที่สุด ทั้งคู่ได้ลดสถานะเหลือเพียงเพื่อนที่ดีต่อกันด้วยเหตุผลที่ว่าตารางงานและเวลาของทั้งสองคนนั้นไม่ตรงกัน ข่าวการเลิกราของจงฮย็อน และ ชิน เซ-คย็อง ถูกปล่อยมาในเดือนมิถุนายน ปี 2011[7][ต้องการแหล่งอ้างอิงดีกว่านี้]

ในวันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 2013 จงฮย็อนได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และบาดเจ็บบริเวณจมูก[8][ต้องการแหล่งอ้างอิงดีกว่านี้] ทางค่ายเอสเอ็มเอนเตอร์เทนเมนต์ได้ออกมาแจ้งว่าเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อรักษาตัวจากอุบัติเหตุครั้งนั้น และเนื่องด้วยภายในตอนนั้นเองชายนีกำลังอยู่ในช่วงโปรโมตเพลงจากอัลบั้มเต็มชุดที่ 3 คือเพลง 'Why So Serious' ทำให้จงฮย็อนต้องพักฟื้นโดยที่ไม่ได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการโปรโมตรวมถึงยังพลาดการถ่ายทำเอ็มวีเพลงอีกด้วย แต่อย่างไรก็ดีจงฮย็อนได้กลับเข้ามาร่วมแสดงบนเวทีในรายการเพลงร่วมกับสมาชิกคนอื่น ๆ อีกครั้งในสัปดาห์สุดท้ายของการโปรโมต[9][ต้องการแหล่งอ้างอิงดีกว่านี้]

ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2013 นั้นมีเหตุการณ์การประท้วงเพื่อมุ่งเน้นเกี่ยวกับความไม่เสมอภาคทางเพศในสังคมของเกาหลีใต้ จงฮย็อนได้เปลี่ยนรูปประจำตัวบัญชีทวิตเตอร์ส่วนตัวของเขาเป็นรูปข้อความที่ถูกเขียนขึ้นด้วยลายมือโดยผู้ประท้วงที่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยซึ่งเป็นไบเซ็กชวลหรือกลุ่มคนรักร่วมเพศ ข้อความนั้นแสดงถึงความรัดกุมทางวัฒนธรรมของประเทศเกาหลีใต้ที่สร้างบรรทัดฐานทางสังคม กีดกัน และเลือกปฏิบัติต่อกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ จงฮย็อนได้ให้กำลังใจกลุ่มคนเหล่านี้ เขาส่งข้อความไปขอบคุณนักศึกษาคนนั้นที่ออกมาเป็นเสียงแทนให้ใครหลาย ๆ คน และได้กล่าวอีกว่า "ความแตกต่างไม่ได้หมายความว่ามันเป็นสิ่งที่ผิด"[10][ต้องการแหล่งอ้างอิงดีกว่านี้] การเลือกที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นของจงฮย็อนในครั้งนี้ได้รับผลตอบรับจากสาธารณะในทั้งแง่บวกและแง่ลบ

การเสียชีวิต แก้

 
คนในวงการรวมถึงแฟนคลับร่วมไว้อาลัย ณ สถานที่จัดงานศพที่ศูนย์การแพทย์อาซัน ในวันที่ 20 ธันวาคม ปี ค.ศ. 2017

ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2017 ได้มีรายงานว่าจงฮย็อนได้เช่าอะพาร์ตเมนต์ห้องหนึ่งในแขวงช็องดัม เขตคังนัม ในกรุงโซลเป็นจำนวนสองวันด้วยกัน[11] เขาได้เช็คอินเข้าห้องพักในเวลาเที่ยงตรงตามเวลาท้องถิ่นประเทศเกาหลีใต้ ในวันที่ 18 ธันวาคม ค.ศ. 2017[12] และภายในวันเดียวกันนั้นเองเวลา 16:42 น. พี่สาวแท้ ๆ ของจงฮย็อน คิม โซ-ดัม ได้ติดต่อสายด่วนเหตุฉุกเฉินเพราะคิดว่าจงฮย็อนได้คิดฆ่าตัวตาย เนื่องจากเธอได้รับข้อความจากน้องชายของเธอผ่านแอปพลิเคชันแชต คาคาโอทอล์ก โดยเนื้อความบางส่วนนั้นได้มีเนื้อหาทำนองว่า "ลาครั้งสุดท้าย" และ "บอกสิว่าผมทำดีแล้ว"[12][13][14] จงฮย็อนถูกพบเห็นครั้งสุดท้ายในร้านสะดวกซื้อบริเวณใกล้เคียงอะพาร์ตเมนต์ที่เขาเช่า[15][16][17]

ร่างของจงฮย็อนถูกพบโดยเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินในสภาพหมดสติ เวลาประมาณ 18:10 น. ในอะพาร์ตเมนต์ที่เขาเช่าชั่วคราว เขาถูกนำตัวส่งที่โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยค็อนกุกซึ่งอยู่ใกล้ที่สุดในภาวะหัวใจหยุดเต้น จงฮย็อนได้รับการ CPR ฉุกเฉินโดยทันที [13] แต่อย่างไรก็ตามการช่วยฟื้นคืนชีพนั้นล้มเหลว จงฮย็อนได้ถูกประกาศว่าเสียชีวิตที่โรงพยาบาลเวลาโดยประมาณ 18:32 น. ด้วยอายุตามสากลคือ 27 ปี[14][18][19][20][21][22] จากการสืบสวนเชื่อว่าจงฮย็อนได้เสียชีวิตลงจากการสูดดมควันพิษเข้าปอดเป็นจำนวนมากเกินไป เนื่องจากทีมกู้ภัยได้ค้นพบก้อนถ่านถูกเผาอยู่ในกระทะขณะที่เข้าไปถึงอะพาร์ตเมนต์ที่จงฮย็อนอยู่[18] ตำรวจได้ออกมาแถลงว่าจะไม่มีการชันสูตรศพ โดยการตัดสินใจนี้เป็นไปตามความต้องการของครอบครัวของจงฮย็อนเอง[23] รวมถึงได้ประกาศสาเหตุการเสียชีวิตของจงฮย็อนว่ามีความเป็นไปได้ที่จะตั้งใจฆ่าตัวตาย[24]

การจากไปของจงฮย็อนถูกเชื่อมโยงกับโรคซึมเศร้าโดยสื่อสาธารณะและข้อมูลในอดีตต่าง ๆ มากมาย[25] ภายหลังจากการเสียชีวิตของเขา นักร้องชาวเกาหลีใต้ที่ชื่อว่า Nine9 จากวง Dear Cloud ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของจงฮย็อน ได้โพสต์ถึงจงฮย็อนลงบนบัญชีอินสตาแกรมส่วนตัวรวมถึงได้เปิดเผยจดหมายจากจงฮย็อนที่คาดว่าจะเป็นจดหมายลาครั้งสุดท้ายของเขา ซึ่งถูกส่งให้เธอราว ๆ สองถึงสามวันก่อนการแสดงคอนเสิร์ตเดี่ยวของจงฮย็อนในวันที่ 9 ธันวาคม[26][27] ข้อความภายในจดหมายกล่าวโดยสรุปนั้นมีเนื้อหาเกี่ยวกับ การ "ถูกกลืนกิน" โดยความหดหู่จากโรคซึมเศร้า การรักษาที่ไม่เห็นผลและไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างจริงจังภายในสังคม รวมถึงความทรมานของเขาในขณะที่ตนเองมีสถานะเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง[23] Nine9 เปิดเผยว่าเธอกังวลกับข้อความที่ได้รับมาก ทางต้นสังกัดของเธอเองก็ได้แนะนำให้พยายามคอยติดต่อกับจงฮย็อนไว้ เธอพยายามที่จะช่วยเขาแล้ว แต่ทั้งหมดนี้เองการจากไปของจงฮย็อนก็เกิดเพียงจากการสะสมมาเป็นระยะเวลานานซึ่งไม่ได้รับการปกป้อง และเป็นความล่าช้าของการช่วยเหลือเท่านั้น[28]

ในวันที่ 21 ธันวาคม วันสุดท้ายตามประเพณีของการจัดงานศพตามวัฒนธรรมเกาหลี หลังจากที่มีคนดังในวงการและแฟนคลับจำนวนมากเข้าร่วมไว้อาลัย ร่างของจงฮย็อนถูกย้ายจากโรงพยาบาลไปจัดงานตามประเพณีแบบส่วนตัวโดยสงวนแค่สมาชิกครอบครัวและคนสนิทเท่านั้นที่สามารถเข้าร่วมได้ รวมถึงมีการรายงานว่าร่างของจงฮย็อนได้ถูกนำฝังในสถานที่ซึ่งไม่ถูกเปิดเผย[29][30][31]

เหตุการณ์หลังความสูญเสีย แก้

หลังจากจงฮย็อนได้เสียชีวิตลงชื่อของเขาได้ขึ้นอันดับค้นหาสูงสุดในทวิตเตอร์[32] พร้อมทั้งแฮชแท็กเช่น "#StayStrongShawols"[33] (เป็นการให้กำลังใจแฟนคลับของวงชายนี) และ "#YouDidWellJonghyun."[34] (เพื่อขอบคุณจงฮย็อนที่ทำงานหนักเสมอมา) การจากไปของเขารวมถึงกรณีของโรคซึมเศร้าได้ถูกยกขึ้นเป็นกรณีตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นถึงความกดดันการแข่งขันภายในอุตสาหกรรมเพลงและการทำธุรกิจของประเทศเกาหลีใต้[35][36]

เพลงของจงฮย็อน "Lonely" ได้ขึ้นเป็นอันดับต้น ๆ บนชาร์ตเพลงรวมถึงยอดดาวน์โหลดต่าง ๆ เองก็เพิ่มขึ้นทันทีอย่างมหาศาลได้อย่างไม่ยากลำบากนัก[37] เพลงของเขาได้กลับเข้าสู่กระแสและทะยานขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ตเพลงแห่งชาติ แกออน เช่นเดียวกับผลงานอัลบั้มชุดของเขา Story Op.2 ก็ได้ขึ้นมาอยู่บนอันดับที่ 7 บนชาร์ตยอดขายอัลบั้มด้วยเช่นกัน[38] อัลบั้มเดี่ยวชุดแรกของเขา She Is อยู่ในอันดับที่ 4[39] ผลงานของเขาได้เข้าสู่ชาร์ตบิลบอร์ด ชาร์ตเพลงระดับโลกในอันดับดิจิทัลที่ 6 และอันดับที่ 5 ในชาร์ตดิจิทัลอัลบั้มได้อย่างน่าใจหาย[40]

ทางสถานีโทรทัศน์เกาหลีใต้ JTBC มีกำหนดที่จะฉาย Night Goblin รายการที่จงฮย็อนได้เข้าร่วมไว้ก่อนเสียชีวิตในวันที่ 24 ธันวาคม 2017 อย่างไรก็ดีทางสถานีก็ได้ตัดสินใจที่จะยกเลิกและไม่ทำการเผยแพร่เทปออนแอร์นั้นออกไป[41] เช่นกันกับเครือรายการวิทยุของสถานี บริษัทกระจายเสียงและแพร่ภาพมุนฮวา พูรึนบัม ได้มีแผนกำหนดวันที่จะเปิดเทปบันทึกย้อนหลังระหว่างที่จงฮย็อนได้ดำรงหน้าที่ดีเจทั้งหมดเพื่อเป็นการไว้อาลัยแด่เขาในวันที่ 21 ธันวาคม แต่จากการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วสุดท้ายก็ต้องยกเลิกไปด้วยเหตุผลที่เป็นไปได้ว่าอาจจะเกิดผลกระทบตามมาหากเปิดเทปบันทึกย้อนหลังที่มีเสียงของไอดอลหนุ่มออกไป หากทำเช่นนั้นอาจจะไปกระทบกระเทือนจิตใจของใครมากมายได้[42]

เดิมทีวงชายนี่มีกำหนดจัดคอนเสิร์ตการกลับมาครั้งใหญ่เพื่อฉลองครบรอบ 10 ปีที่ประเทศญี่ปุ่นในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2018 แต่หลังเกิดเหตุไม่คาดฝันนี้ทำให้จำเป็นต้องเลื่อนกำหนดการออกไปด้วยสภาพจิตใจที่ได้รับผลกระทบอย่างสาหัสของสมาชิกร่วมวง[43] แต่อย่างไรก็ดีภายหลังการฟื้นฟูสภาพจิตใจสมาชิกที่เหลืออีก 4 คน พวกเขาได้ออกมาบอกว่าต้องการที่จะสานต่อแผนการเดิมโดยที่จะระลึกและจดจำจงฮย็อนไว้ตลอดไป[44]

ในวันที่ 30 ธันวาคม ค.ศ. 2017 ชื่อของจงฮย็อนได้ขึ้นท็อป 50 อันดับโซเชียลของบิลบอร์ดเป็นครั้งแรกในลำดับที่ 2 ด้วยผลการค้นหาผ่านทางเว็บไซต์วิกิพีเดีย ด้วยยอดการค้นห้าทั่วโลกกว่า 425,000 ครั้ง ถือว่าเป็นยอดชมที่เพิ่มขึ้นถึง 17,974 เปอร์เซนต์เลยทีเดียว[45]

การระลึกถึง แก้

บริษัทเพลงยักษ์ใหญ่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมไอดอล คนที่มีชื่อเสียงในวงการรวมถึงนักดนตรีผู้มีชื่อเสียงมากมายได้เข้าร่วมไว้อาลัยให้กับการจากไปครั้งนี้ของจงฮย็อน ศิลปินกลุ่มสังกัดเดียวกันไม่ว่าจะเป็นรุ่นน้องวงเอ็กโซ[46], รุ่นพี่วงทงบังชินกี[47], แทย็อน[48]แห่งวงโซนยอชีแด ต่างก็ได้แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งรวมถึงยังได้ฝากข้อความไว้อาลัยแก่จงฮย็อนภายในคอนเสิร์ตเดี่ยวของพวกเขาเองด้วยเช่นกัน

ทางค่ายเอสเอ็มเอนเตอร์เทนเมนต์ได้ปล่อยเพลงและคลิปภาพบันทึกการแสดงสดย้อนหลัง เพลง "Dear My Family" ที่ร่วมขับร้องโดยศิลปินภายในค่ายพร้อมทั้งจงฮย็อนเองเพื่อเป็นการไว้อาลัยให้แก่เขา โดยยอดขายจากเพลงนี้นั้นก็ได้รับการนำไปบริจาคเพื่อการกุศลด้วยเช่นกัน และนอกจากนี้ทางบริษัทก็ยังได้จัดสร้างอนุสรณ์รำลึกชั่วคราวเพื่อเป็นการไว้อาลัยและเพื่อเปิดให้บุคคลภายนอกได้มีโอกาสได้เข้าไปทำความเคารพจงฮย็อนได้ที่พื้นที่จัดงานแสดงในห้าง COEX SM Atrium ภายในช่วงต้นปี ค.ศ. 2018[49]

ในช่วงงานแสดงพิเศษส่งท้ายปีของประเทศเกาหลีใต้ในปี ค.ศ. 2017 ศิลปินภายใต้สังกัดเอสเอ็มเอนเตอร์เทนเมนต์ ไม่ว่าจะเป็น เอ็กโซ, เรดเวลเวต, ซูเปอร์จูเนียร์, เอ็นซีที 127 รวมถึงศิลปินนอกสังกัดอื่นอย่างวงก็อตเซเวน จากค่ายเจวายพีเอนเตอร์เทนเมนต์ ได้ติดโบสีดำที่มีตัวอักษรสีเพิร์ลอควาปักคำว่า "R.I.P. JH" ไว้ที่หน้าอกระหว่างการขึ้นแสดงบนเวทีต่าง ๆ เพื่อแสดงความเคารพและไว้อาลัยให้แก่การจากไปของจงฮย็อน

ทรัพย์สินทางปัญญา แก้

จงฮย็อนเป็นศิลปินคนแรกจากค่ายเพลงเอสเอ็มเอนเตอร์เทนเมนต์ (บริษัทแนวหน้าในอุตสาหกรรมเพลงเกาหลีใต้) ที่มีโอกาสได้แสดงความสามารถทางด้านดนตรีและได้ครอบครองลิขสิทธิ์จากความสามารถมากมายไม่ว่าจะทางด้านการเขียนเพลง, การประพันธ์ต่าง ๆ หรือแม้แต่การได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการผลิตอัลบั้มเพลงด้วยตนเอง ซึ่งโดยปกตินั้นบริษัทเอสเอ็มเอนเตอร์เทนเมนต์จะมีมาตรฐานในค่ายสูง เน้นการผลิตผลงานที่เคร่งครัดในแผน และค่อนข้างจำกัดในเรื่องของการมอบสิทธิให้แก่ศิลปินในสังกัดของตนได้ผลิตผลงานเองอย่างเสรีน้อยมาก[50] คิม ดา-ฮี แห่งสำนักข่าวเกาหลี The Korea Times ที่มีชื่อเสียงในการทำข่าวต่างประเทศ ได้ยกชื่อของ 'จงฮย็อน' ขึ้นเป็นนักดนตรี 1 ใน 4 คนร่วมกับ จี-ดรากอน, ซิโค่ และจินย็อง ที่มีความโดดเด่นมากที่สุดของวงการเพลงไอดอลเกาหลี เนื่องจาก "พรสวรรค์ในการแต่งเพลง การโปรดิวซ์ รวมถึงความเฉิดฉายในทักษะการเต้น ความสามารถเหล่านี้ส่งผลให้พวกเขาเป็นศิลปินที่ประสบความสำเร็จ"[51] จงฮย็อนนั้นได้ถูกยกย่องว่าเป็นโปรดิวเซอร์ผู้ซึ่งมีแนวเพลงที่เป็นเอกลักษณ์ ผลงานของเขาถูกกล่าวชมในด้านของการเขียนและประพันธ์มากมายโดยสื่อและผู้เชี่ยวชาญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผลงานซึ่งเขาแต่งให้เป็นส่วนหนึ่งในอัลบั้มเดี่ยวของเขาเอง[52] และนอกจากนี้เอง สำนักข่าว Insight Korea ก็ยังได้ยกให้ จงฮย็อน เป็น 1 ใน 7 ของไอดอลที่ดู "เกิดมาเพื่อทำเพลง" โดยเฉพาะ[53]

ผลงานเพลง แก้

ผลงานการแสดง แก้

ภาพยนตร์ แก้

ปี ชื่อ บทบาท หมายเหตุ อ้างอิง
2012 I Am ตนเอง สารคดีเอสเอ็มทาวน์ [54]
2015 SM Town The Stage ภาพยนตร์คอนเสิร์ตเอสเอ็มทาวน์ [55]

รายการวิทยุ แก้

ปี ชื่อ บทบาท อ้างอิง
2014–2017 MBC Blue Night [ko] ผู้จัดรายการ [56][57]

หนังสือ แก้

ปี ชื่อ ISBN อ้างอิง
2015 Skeleton Flower: Things That Have Been Released and Set Free ISBN 978-8996955481 [58]

คอนเสิร์ต แก้

  • The Story by Jonghyun (2015)[59]
  • Jonghyun – X – Inspiration (2016)[60]
  • The Agit (The Letter) (2017)[61]
  • Inspired (2017)[62]

รางวัลและการเสนอชื่อเข้าชิง แก้

ชื่อพิธีมอบรางวัล ปีที่เสนอ ประเภท ผู้ได้รับการเสนอชื่อ และผลการเสนอชื่อ
พิธีมอบรางวัล ปี ประเภท เสนอชื่อ/ผลงาน ผล อ้างอิง
แกออนชาร์ตมิวสิกอะวอดส์ 2019 Album of the Year – 1st Quarter Poet | Artist เสนอชื่อเข้าชิง [63]
โกลเดนดิสก์อะวอดส์ 2016 Disk Bonsang Base ชนะ [64]
Disk Daesang เสนอชื่อเข้าชิง
Digital Bonsang "Déjà-Boo" เสนอชื่อเข้าชิง [65]
2017 Disk Bonsang She Is เสนอชื่อเข้าชิง [66]
2019 Disc Bonsang Poet | Artist ชนะ [67]
Disc Daesang เสนอชื่อเข้าชิง
Special Disk Bonsang Fans Choice ชนะ
Popularity Award เสนอชื่อเข้าชิง
เอ็มบีซีเอนเตอร์เทนเมนต์อะวอดส์ 2015 Excellence Award – Radio Blue Night Radio ชนะ [68]
เมลอนมิวสิกอะวอดส์ 2015 Best Dance – Male "Déjà-Boo" เสนอชื่อเข้าชิง [69]
เอ็มเน็ตเอเชียนมิวสิกอะวอดส์ 2015 Best Male Artist เสนอชื่อเข้าชิง [70]
ซูมปีอะวอดส์ 2019 Hallyu Special Award ชนะ [71]

อ้างอิง แก้

  1. Mark Russell (April 29, 2014). K-Pop Now!: The Korean Music Revolution. Tuttle Publishing. p. 67. ISBN 978-1-4629-1411-1. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 27, 2016. สืบค้นเมื่อ October 30, 2016.
  2. "Shinee singer Jonghyun: K-pop boy band superstar dies". BBC News. December 18, 2017. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 18, 2017. สืบค้นเมื่อ December 18, 2017.
  3. "SM 대형 신인 '샤이니' 25일 '인기가요' 통해 데뷔" [SM's new rookie group Shinee to debut with 'popular music' on 25 May]. HanKyung (ภาษาเกาหลี). 20 สิงหาคม 2008. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 กรกฎาคม 2016. สืบค้นเมื่อ 2011-06-20.
  4. "푸른 밤 종현이었습니다" [Esquire Korea Interview - Blue Night Jonghyun]. Esquire Korea (ภาษาเกาหลี). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-12-31. สืบค้นเมื่อ 2017-12-27.
  5. "จงฮยอน SHINee คบหากับ ชินเซคยอง (Shin Se Kyung) ต้นสังกัดยอมรับ 'เป็นความจริง'". tlcthai. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-01-13. สืบค้นเมื่อ 2018-01-21.
  6. "ยืนยันแล้ว! จง ฮยอน Shinee กำลังคบกัน ชิน เซคยอง". teenee. 27 ตุลาคม 2010. สืบค้นเมื่อ 2018-01-21.
  7. "ชินเซคยอง และจงฮยอน แห่ง SHINee กลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเรียบร้อยแล้ว". PINGBOOK. 20 มิถุนายน 2011. สืบค้นเมื่อ 2018-01-21.
  8. "จงฮยอน (Jong Hyun) แห่ง SHINee รถชนจมูกหัก ต้นสังกัดเผยรอตัดสินใจงาน Dream Girl". PINGBOOK. 1 เมษายน 2013.
  9. "ชายนี่ (SHINee) ลุยโชว์เพลงใหม่ Chapter 2 จงฮยอน (Jong Hyun) ขอพักก่อน". 4 เมษายน 2013.
  10. "7 ไอดอลเกาหลีที่ออกตัว "สนับสนุน" ชาวรักร่วมเพศ #LGBT #LoveWin". Dek-D. 4 พฤศจิกายน 2016. สืบค้นเมื่อ 2018-01-21.
  11. "경찰 "샤이니 종현, 사망 이틀전 누나에 우울증 호소"" (ภาษาเกาหลี). Naver. 18 ธันวาคม 2017. สืบค้นเมื่อ 2017-12-23.
  12. 12.0 12.1 "샤이니 종현,레지던스서 갈탄 자살.."침대와 테이블 사이 방바닥..구토 흔적도" (종합)". Aju Business Daily (ภาษาเกาหลี). 18 ธันวาคม 2017. สืบค้นเมื่อ 2017-12-24.
  13. 13.0 13.1 "What Is Jonghyun's Cause of Death? K-Pop Band SHINee's Singer Dead". International Business Times. 18 ธันวาคม 2017. สืบค้นเมื่อ 2017-12-18.
  14. 14.0 14.1 "[Update] SHINee's Jonghyun dies in hospital". The Korea Herald. 18 ธันวาคม 2017. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-12-18. สืบค้นเมื่อ 2017-12-18.
  15. "CCTV에 담긴 종현의 생전 마지막 모습" (ภาษาเกาหลี). Joins. 20 ธันวาคม 2017. สืบค้นเมื่อ 2017-12-24.
  16. "샤이니 종현 사망…서울아산병원 빈소 마련 / SBS". SBS News (ภาษาเกาหลี). 18 ธันวาคม 2017. สืบค้นเมื่อ 2017-12-24.
  17. ""종현은 두 개의 '나' 사이에서 고민했던 것 같다"". Chosun (ภาษาเกาหลี). 19 ธันวาคม 2017. สืบค้นเมื่อ 2017-12-24.
  18. 18.0 18.1 "(LEAD) SHINee member Jonghyun dies in apparent suicide: police". Yonhap News Agency. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 18 ธันวาคม 2017. สืบค้นเมื่อ 2017-12-18.
  19. "Lead singer of South Korean boy band Shinee dies". The Guardian. 18 ธันวาคม 2017. ISSN 0261-3077. สืบค้นเมื่อ 2017-12-18.
  20. "SHINee's Jonghyun joins ill-fated '27 Club'". ABS-CBN News (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2017-12-21.
  21. "27 Club: K-pop star Jonghyun reveals reason for suicide in heart-breaking farewell note". International Business Times UK (ภาษาอังกฤษ). 19 ธันวาคม 2017. สืบค้นเมื่อ 2017-12-21.
  22. "K-Pop Star's Suicide Makes Him Part of Infamous '27 Club'". News18. สืบค้นเมื่อ 2017-12-21.
  23. 23.0 23.1 "Jonghyun: Note shows K-pop star's struggles with depression". BBC. 19 ธันวาคม 2017. สืบค้นเมื่อ 2017-12-19.
  24. "경찰, 故샤이니 종현 부검 안해..."스스로 목숨 끊은 듯"" (ภาษาเกาหลี). Naver. 19 ธันวาคม 2017. สืบค้นเมื่อ 2017-12-23.
  25. ""작은 한숨 내뱉기도 어려운 하루를 보냈단 걸" 샤이니 종현, 그는…". Joins (ภาษาเกาหลี). 18 ธันวาคม 2017. สืบค้นเมื่อ 2017-12-24.
  26. 윤상근 (19 ธันวาคม 2017). "나인 소속사 대표 "나인, 故종현 끝까지 붙잡았지만"(인터뷰)" (ภาษาเกาหลี). Naver. สืบค้นเมื่อ 2017-12-23.
  27. Nine9 (18 ธันวาคม 2017). "โพสต์อินสตาแกรม". อินสตาแกรม. สืบค้นเมื่อ 2017-12-26.
  28. "Jonghyun's coffin carried by K-pop stars at funeral". Entertainment Weekly. 21 ธันวาคม 2017. สืบค้นเมื่อ 2017-12-21.
  29. "Jonghyun: K-pop stars carry SHINee singer's coffin". BBC News. 21 ธันวาคม 2017. สืบค้นเมื่อ 2017-12-21.
  30. "K-pop stars carry SHINee singer Jonghyun's coffin after suicide". Channel News Asia. 21 ธันวาคม 2017. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-12-22. สืบค้นเมื่อ 2017-12-21.
  31. "SHINee's Jonghyun Laid to Rest In Private Ceremony". Billboard. 21 ธันวาคม 2017. สืบค้นเมื่อ 2017-12-22.
  32. "Fans everywhere pay their respects to SHINee's Jonghyun". SBS PopAsia HQ. December 19, 2017. สืบค้นเมื่อ December 25, 2017.
  33. "Jonghyun, Star K-Pop Producer And Singer, Dead At 27". NPR. December 18, 2017. สืบค้นเมื่อ December 25, 2017.
  34. "Jonghyun fans take comfort in 'pearl aqua Moon' images". BBC News Asia. December 21, 2017. สืบค้นเมื่อ December 25, 2017.
  35. "정은지 "故 종현 비보에 눈물..건강한 연예계 됐으면.."" (ภาษาเกาหลี). Naver. 20 December 2017. สืบค้นเมื่อ 24 December 2017.
  36. "정은지, 샤이니 종현 비보에 "오보였으면 좋겠단 생각에 눈물"" (ภาษาเกาหลี). Naver. 20 December 2017. สืบค้นเมื่อ 24 December 2017.
  37. "[芸能]死亡のSHINee・ジョンヒョンさん ソロ曲がチャート1位に". Yonhap News (ภาษาญี่ปุ่น). December 19, 2017. สืบค้นเมื่อ December 24, 2017.
  38. Jeong, Jee-won (December 29, 2017). [공식입장] 故종현 'Lonely' 가온차트 2관왕, 마지막까지 화려했다. Osen (ภาษาเกาหลี). สืบค้นเมื่อ December 29, 2017.
  39. Park, Dong-seon (December 29, 2017). '세계적 아티스트의 유작, 차트재조명 되다' 故 샤이니 종현(JONGHYUN), 51주차 가온차트 주요 분야 점령. RPM9 (ภาษาเกาหลี). สืบค้นเมื่อ December 29, 2017.
  40. Benjamin, Jeff (December 27, 2017). "Jonghyun & SHINee Music Returns to New Highs on the Charts After His Death". Billboard. สืบค้นเมื่อ December 28, 2017.
  41. "'밤도깨비' 측 "故 종현, 촬영분 방송 NO…스페셜로 대체"[공식]". Naver (ภาษาเกาหลี). 2017-12-21. สืบค้นเมื่อ 2017-12-24.
  42. "故종현, 라디오로 다시 만난다…'푸른밤' 22일 추모방송". Nate (ภาษาเกาหลี). December 20, 2017. สืบค้นเมื่อ December 23, 2017.
  43. "샤이니 측 "내년 日 공연, 신중히 생각하고 있어"[공식]". Naver (ภาษาเกาหลี). 2017-12-23. สืบค้นเมื่อ 2017-12-24.
  44. "[입장전문] 샤이니, 손편지 공개.."日공연 진행..종현과 함께란 생각"" (ภาษาเกาหลี). สืบค้นเมื่อ 2018-01-09.
  45. Rutherford, Kevin (December 30, 2017). "Jonghyun, SHINee Debut on Social 50 Chart Following Singer's Death". Billboard. สืบค้นเมื่อ January 1, 2018.
  46. "EXO、日本コンサートでSHINee ジョンヒョンさんを追悼「とても恋しく大好きです…永遠に忘れません」". KStyle News (ภาษาญี่ปุ่น). December 23, 2017. สืบค้นเมื่อ December 23, 2017.
  47. "東方神起、東京ドーム公演でSHINee ジョンヒョンさんに追悼のメッセージ「彼を忘れないで」". KStyle News (ภาษาญี่ปุ่น). December 22, 2017. สืบค้นเมื่อ December 23, 2017.
  48. "少女時代 テヨン、コンサート前にSHINee ジョンヒョンさんを追悼「私の声が聞こえるように歌います」". KStyle News (ภาษาญี่ปุ่น). December 23, 2017. สืบค้นเมื่อ December 23, 2017.
  49. Baillie, Katie (January 15, 2018). "SM to create permanent memorial of SHINee's Jonghyun after vandals strike". Metro. สืบค้นเมื่อ January 26, 2018.
  50. "SHINee Jonghyun Breaks Loose with Creative Artistry in 2015: A Walk Through Two EPs 'Base,' 'Story Op.1,' A Lyric Novel, Concert Series". Venture Capital Post. December 17, 2015. สืบค้นเมื่อ September 10, 2016.
  51. Kim Da-hee (April 12, 2016). "Four K-pop musicians defy 'mass-produced' brand". The Korea Times. สืบค้นเมื่อ September 10, 2016.
  52. Lee Da-rae (June 28, 2017). "지드래곤의 뒤를 이을 '차세대' 아이돌 작곡가 7인" [Seven of the 'next generation' idol composers]. Insight Korea. สืบค้นเมื่อ August 11, 2017.
  53. Lee Da-rae (June 28, 2017). "지드래곤의 뒤를 이을 '차세대' 아이돌 작곡가 7인" [Seven of the 'next generation' idol composers]. Insight Korea. สืบค้นเมื่อ August 11, 2017.
  54. "Documentary Shows Top K-Pop Singers Behind the Scenes". The Chosun Ilbo. พฤษภาคม 2, 2012. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ ธันวาคม 22, 2017. สืบค้นเมื่อ พฤษภาคม 4, 2012.
  55. Lee, Edmund (พฤศจิกายน 24, 2015). "Film review: SMTown: The Stage". South China Morning Post. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ พฤศจิกายน 25, 2015. สืบค้นเมื่อ เมษายน 8, 2016.
  56. Lee, Sun-min (January 24, 2014). "Shinee singer joins MBC radio". Korea JoongAng Daily. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 19, 2016. สืบค้นเมื่อ January 26, 2014.
  57. Yoon, Ji-hye (March 9, 2017). [공식입장] MBC 측 "샤이니 종현, '푸른 밤' DJ 하차...후임 미정" [[Official position] MBC: "Shinee's Jonghyun leaves DJ role at 'Blue Night'... Successor undecided"]. Osen (ภาษาเกาหลี). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 12, 2017. สืบค้นเมื่อ March 9, 2017.
  58. Kim, Yu-jin (November 12, 2015). "SHINee Jonghyun's book to be released". Kpop Herald. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 11, 2016. สืบค้นเมื่อ August 2, 2016.
  59. Ahn, Sung-mi (October 16, 2015). "Jonghyun to go live ahead of first solo concert". Kpop Herald. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 11, 2016. สืบค้นเมื่อ July 18, 2016.
  60. Ahn, Woo-rim (October 19, 2016). "Jonghyun Throws His Solo Concerts in Seoul and Busan". BNT News. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 20, 2016. สืบค้นเมื่อ October 20, 2016.
  61. Lee, Joel (May 11, 2017). "Jonghyun to hold extra concerts". Kpop Herald. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 29, 2017. สืบค้นเมื่อ July 5, 2017.
  62. Jo, Yoon-seon (November 7, 2017). [공식] 샤이니 종현, 12월 솔로 콘서트 개최…15일 예매 오픈 [[Formal] Shinee's Jonghyun hold a solo concert in December... ticket sale open on the 15th]. Sports Chosun (ภาษาเกาหลี). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 31, 2018. สืบค้นเมื่อ November 7, 2017.
  63. "8th Gaon Chart Music Awards 2018". Gaon Chart Music Awards (ภาษาเกาหลี). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 23, 2019. สืบค้นเมื่อ November 30, 2021.
  64. Lee, Yoon-min (January 21, 2016). '골든디스크' 엑소·샤이니 종현 3관왕 'SM 쌍끌이 활약' [종합] ['Golden Disc Awards': Exo and Shinee's Jonghyun both won three awards]. TV Daily. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 28, 2016. สืบค้นเมื่อ January 22, 2014.
  65. "The 30th Golden Disc Awards in Shenzhen China!". Golden Disc Awards. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 14, 2015. สืบค้นเมื่อ November 29, 2021.
  66. "31st Golden Disc Nominees – Album Nominees". Golden Disc Awards. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 5, 2016. สืบค้นเมื่อ November 29, 2021.
  67. Yoon, So-yeon. "BTS shines bright at Golden Disc Awards". Korea JoongAng Daily. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 8, 2019. สืบค้นเมื่อ August 6, 2020.
  68. Ra, Hyo-jin (December 29, 2015). 샤이니 종현·이진우, 라디오부문 우수상 [Shinee's Jonghyun and Lee Jin-woo won Excellence Awards in the radio category]. The Chosun Ilbo (ภาษาเกาหลี). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 8, 2016. สืบค้นเมื่อ July 18, 2016.
  69. Park, So-hyun (November 7, 2015). '멜론뮤직어워드' 방탄소년단 댄스킹 등극 "아미 감사해요" ['Melon Music Awards' BTS became the dance king: "Thank you, ARMY"]. Wow TV (ภาษาเกาหลี). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 29, 2021. สืบค้นเมื่อ November 29, 2021 – โดยทาง Naver.
  70. "Nominees – Best Male Artist". Mnet Asian Music Awards. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 19, 2016.
  71. Herman, Tamar (April 16, 2018). "BTS, GOT7 & Other K-Pop Acts Win Big at Soompi Awards". Billboard. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 8, 2019. สืบค้นเมื่อ January 8, 2019.

แหล่งข้อมูลอื่น แก้