คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช

คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช เป็นโรงเรียนแพทย์ที่ก่อตั้งขึ้นเป็นแห่งที่ 10 ของประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2536 โดยมีต้นกำเนิดมาจาก วิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานคร และได้พัฒนามาเป็นคณะแรกเริ่มแห่งมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช

คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล
มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช
Faculty of Medicine Vajira Hospital, Navamindradhiraj University
ชื่อย่อพวช.
คติพจน์สพฺเพสํ ชีวิตํ ปิยํ
(ชีวิตย่อมเป็นที่รักของทุกคน)
สถาปนา28 มกราคม พ.ศ. 2536; 31 ปีก่อน (2536-01-28) (วิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานคร)
คณบดีผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ จักราวุธ มณีฤทธิ์
ที่อยู่
วารสารวชิรเวชสาร
เพลงสดุดีมหาวชิราวุธ
สี  สีน้ำเงิน
สถานปฏิบัติวชิรพยาบาล
เว็บไซต์vajira.ac.th

ประวัติ

แก้
 
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จเปิดวชิรพยาบาล
ดูบทความหลักการก่อตั้งวชิรพยาบาลที่ วชิรพยาบาล

วชิรพยาบาล เป็นโรงพยาบาลแห่งแรก ๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย สถาปนาขึ้นโดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงสละพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จัดซื้อที่ดินพร้อมตึกและสิ่งปลูกสร้าง มอบไว้เป็นสาธารณสถานแก่ประชาชนให้เป็นที่พยาบาลผู้ป่วยไข้ต่อไป พระองค์เสด็จพระราชดำเนินมาเปิดโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2455 (นับปีปฏิทินแบบเก่า) พร้อมทั้งพระราชทานนามโรงพยาบาลว่า "วชิรพยาบาล"

วชิรพยาบาลได้ริเริ่มก่อตั้งโรงเรียนแพทย์ขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2528 ด้วยความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ซึ่งร่วมกันตั้งคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาลขึ้นภายในวชิรพยาบาล เป็นโรงเรียนแพทย์ที่ก่อตั้งขึ้นแห่งที่ 8 ของประเทศไทย นิสิตจะศึกษาชั้นปรีคลินิกที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒและศึกษาชั้นคลินิกที่วชิรพยาบาล

ภายหลังกรุงเทพมหานครได้มีแนวคิดที่จะเปิดโรงเรียนแพทย์เป็นของตนเอง วิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานคร จึงได้รับการก่อตั้งขึ้น ภายใต้สังกัด สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร โดยมีการประกาศอย่างเป็นทางการลงราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2536[1]

วิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานคร ได้เข้าเป็นสถาบันสมทบของมหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งนักศึกษาจะได้ศึกษาระดับปรีคลินิกที่ มหาวิทยาลัยมหิดล กำกับดูแลโดยคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในชั้นปีที่ 1 ถึง ภาคต้นของชั้นปีที่ 3 แล้วเข้ามาศึกษาวิชาปรีคลินิกส่วนที่เหลือ และระดับชั้นคลินิก ที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล บัณฑิตแพทย์จะได้รับพระราชทานปริญญาบัตรจากมหาวิทยาลัยมหิดล[2]

ในครั้งแรก วิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครดำเนินการสอบรับนักศึกษาร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2536 กรุงเทพมหานครประกาศเปิดรับสมัครสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อเข้าศึกษาต่อในวิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานคร ในหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต รุ่นที่ 1 จำนวน 32 คน โดยมีผู้มาสมัครสอบคัดเลือกทั้งสิ้นถึง 936 คน ในปีการศึกษาต่อมาได้รับนักศึกษาผ่านการสอบคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาโดยทบวงมหาวิทยาลัย

 
โรงพยาบาลวชิระ ที่ตั้งของคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล

พ.ศ. 2541[3] ได้มีการปรับปรุงโครงสร้างใหม่ โดยได้รวม "วิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานคร" และ "วชิรพยาบาล" เข้าเป็นหน่วยราชการเดียวกันโดยใช้ชื่อว่า "วิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาล" (วพบ.) ทำให้วิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาลได้รับการบริหารจากวชิรพยาบาลโดยตรง ในเวลานี้วชิรพยาบาลได้มีการพัฒนาและเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากนักศึกษา 32 คนในรุ่นแรก ได้รับนักศึกษาเพิ่มเป็น 50 คน จนกระทั่ง พ.ศ. 2547 ได้รับนักศึกษารุ่นละ 80 คนเป็นต้นมา

จากนั้นในวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 ทางวิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาล ร่วมกับ วิทยาลัยพยาบาลเกื้อการุณย์ ซึ่งเป็นโรงเรียนพยาบาลในสังกัด สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร ได้ร่วมกันก่อตั้งมหาวิทยาลัยแห่งใหม่ขึ้นมา ในนาม มหาวิทยาลัยกรุงเทพมหานคร ทำให้วิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาลมีสถานะเป็นคณะแพทยศาสตร์ในมหาวิทยาลัย โดยใช้ชื่อคณะเป็น "คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยกรุงเทพมหานคร" ได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการลงราชกิจจานุเบกษา และมีผลบังคับใช้ใน วันเสาร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553[4] ต่อมาเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2554 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อมหาวิทยาลัยว่า “มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช” โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 [5]

หลังจากคณะฯ ได้ยกสถานะตามบทเฉพาะการในพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช พ.ศ. 2553 แล้ว คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล ได้ยกเลิกการเป็นสถาบันสมทบของมหาวิทยาลัยมหิดล โดยมีสถานะเป็นสถาบันร่วมผลิตแพทย์[6] โดยนักศึกษาที่เข้าเรียนตั้งแต่ปีการศึกษา 2554 เป็นต้นไป เมื่อจบการศึกษาจะได้รับพระราชทานปริญญาบัตรจากมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช และ ตั้งแต่ปีการศึกษา 2557 เป็นต้นมา คณะฯ ได้เริ่มย้ายการจัดการเรียนการสอนภาคปรีคลินิก ชั้นปีที่ 3 ภาคต้น ของหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต จากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล มาจัดการเรียนการสอนเองโดยภาควิชาพยาธิวิทยาคลินิก และ ภาควิชาพยาธิวิทยากายวิภาค ส่วนรายวิชาปรีคลินิกในชั้นปีที่ 2 อยู่ระหว่างการพัฒนาบุคลากรและสถานที่จัดการเรียนการสอน และยังจัดการเรียนการสอนคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ตามเดิม

ในปีการศึกษา 2557 คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล ได้รับการอนุมัติจากสภามหาวิทยาลัย ให้เปิดดำเนินการเรียนการสอนหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ อีกหลักสูตรหนึ่ง และต่อมาในปีการศึกษา 2561 คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล ได้รับการอนุมัติจากสภามหาวิทยาลัย ให้เปิดดำเนินการเรียนการสอนหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชารังสีเทคนิค ซึ่งเป็นหลักสูตรวิทยาศาสตร์สุขภาพลำดับที่สอง นับเป็นการขยายขีดความสามารถในการผลิตบัณฑิตในสาขาที่ขาดแคลน และเป็นที่ต้องการของสังคม

ต่อมาในปีการศึกษา 2562 สภามหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ได้อนุมัติหลักการให้คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล ดำเนินการปรับปรุงหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2562) สำหรับนักศึกษาแพทย์ที่เข้าศึกษาในปีการศึกษา 2562 เป็นต้นไป โดยย้ายสถานที่จัดการเรียนการสอนรายวิชาศึกษาทั่วไป เตรียมแพทย์ และปรีคลินิกจาก มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ในชั้นปีที่ 1 และ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล พญาไท ในชั้นปีที่ 2 มาจัดการเรียนการสอนโดยมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราชตลอดทั้งหลักสูตร พร้อมทั้งเพิ่มศักยภาพในการผลิตแพทย์จากเดิม 80 คน เป็น 100 คน โดยแบ่งเป็นปฏิบัติงานในชั้นคลินิกที่วชิรพยาบาล จำนวน 80 คน และ โรงพยาบาลตากสิน สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร อีก 20 คน ทั้งนี้สำหรับนักศึกษาที่เข้าศึกษาก่อนปีการศึกษา 2562 ยังคงศึกษาชั้นปีที่ 2 ที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ตามเดิม

ทำเนียบคณบดี

แก้
ทำเนียบผู้อำนวยการวชิรพยาบาล
รายนามผู้อำนวยการ วาระการดำรงตำแหน่ง
1. เสวกเอก พระยาวิรัชเวช (ดร. ติลลีกี) 2 มกราคม พ.ศ. 2455 - 1 กันยายน พ.ศ. 2474
2. ร้อยเอก หลวงแพทย์โกศล (นายแพทย์ ขำ รักกุศล) 1 กันยายน พ.ศ. 2474 - 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2488
3. นายแพทย์กร เกรียงไกร 14 มีนาคม พ.ศ. 2488 - 1 มิถุนายน พ.ศ. 2494
4. นายแพทย์ประพนธ์ เสรีรัตน์ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2494 - 6 มิถุนายน พ.ศ. 2497
5. นายแพทย์เสนอ ตัณฑเศรษฐี 6 มิถุนายน พ.ศ. 2497 - 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2517
6. นายแพทย์ประเสริฐ นุตกุล 1 ธันวาคม พ.ศ. 2517 - 28 มกราคม พ.ศ. 2519
7. ศาสตราจารย์ นายแพทย์ประพฤติ ธีรคุปต์ 28 มกราคม พ.ศ. 2519 - 30 กันยายน พ.ศ. 2528
8. นายแพทย์ปรีชา ตาปสนันท์ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2528 - 8 มกราคม พ.ศ. 2530
9. นายแพทย์ยศพร จิตตะเสนีย์ 9 มกราคม พ.ศ. 2530 - 31 ธันวาคม พ.ศ. 2530
10. นายแพทย์อุทัย ตู้จินดา 7 มกราคม พ.ศ. 2530 - 1 ตุลาคม พ.ศ. 2532
11. นายแพทย์สุวัฒน์ จันทรจำนง 2 ตุลาคม พ.ศ. 2532 - 9 ตุลาคม พ.ศ. 2533
12. นายแพทย์ธรรมนูญ วานิยะพงศ์ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2533 - 30 กันยายน พ.ศ. 2534
13. นายแพทย์สมัย ขาววิจิตร 1 ตุลาคม พ.ศ. 2534 - 4 มกราคม พ.ศ. 2539
ทำเนียบผู้อำนวยการวิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานคร สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร
รายนามผู้อำนวยการ วาระการดำรงตำแหน่ง
1. ศาสตราจารย์ (พิเศษ) นายแพทย์นคร สมบูรณ์วิทย์ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2539 - 30 กันยายน พ.ศ. 2540
2. ศาสตราจารย์ (พิเศษ) นายแพทย์วีระวัฒน์ หาญทวิชัย 1 ตุลาคม พ.ศ. 2540 - 30 มิถุนายน พ.ศ. 2543
ทำเนียบผู้อำนวยการวิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาล สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร
รายนามผู้อำนวยการ วาระการดำรงตำแหน่ง
1. นายแพทย์มาโนชญ์ ลีโทชวลิต 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2543 - 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2544
2. นายแพทย์ธานี บุณยประสิทธิ์ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2544 - 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2546
3. นายแพทย์วิวัฒน์ วนาโรจน์ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2546 - 30 กันยายน พ.ศ. 2548
3. นายแพทย์โอกาส ไทยพิสุทธิกุล 4 ตุลาคม พ.ศ. 2548 - 30 กันยายน พ.ศ. 2549
4. ศาสตราจารย์ (พิเศษ) นายแพทย์มานิต ศรีประโมทย์  1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 - พ.ศ. 2550
5. นายแพทย์ชัยวัน เจริญโชคทวี พ.ศ. 2551 - 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
ทำเนียบคณบดีคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยกรุงเทพมหานคร
รายนามคณบดี วาระการดำรงตำแหน่ง
1. นายแพทย์ชัยวัน เจริญโชคทวี 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 - 20 มิถุนายน พ.ศ. 2556
ทำเนียบคณบดีคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช
รายนามคณบดี วาระการดำรงตำแหน่ง
1. นายแพทย์ชัยวัน เจริญโชคทวี 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 [7]
2. นายแพทย์มาโนชญ์ ลีโทชวลิต 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 30 มิถุนายน พ.ศ. 2557 (รักษาการ)
3. รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ประยุทธ ศิริวงษ์ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 - 30 เมษายน พ.ศ. 2564
4. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์จักราวุธ มณีฤทธิ์ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 - ปัจจุบัน

ภาควิชาและหน่วยงาน

แก้

หลักสูตรที่เปิดสอน

แก้
ระดับปริญญาตรี

หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต

  • สาขาวิชาแพทยศาสตร์ (หลักสูตรปริญญาตรี 6 ปี)
  • สาขาวิชาแพทยศาสตร์ โครงการพัฒนาแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวและเวชศาสตร์ฉุกเฉิน (หลักสูตรปริญญาตรี 6 ปี ควบ วุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขาเวชศาสตร์ครอบครัว หรือ เวชศาสตร์ฉุกเฉิน)

หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต

ระดับหลังปริญญา
วุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม

การฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้าน และ การฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านต่อยอด

การเรียนการสอนในหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต

แก้

หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2554)[17]

แก้
หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2554) ได้ปรับปรุงจากหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2549) เดิม ขณะมีสถานะเป็นสถาบันสมทบของมหาวิทยาลัยมหิดล เล็กน้อย มีศักยภาพในการรับนักศึกษาประมาณ 80 คนต่อปี

หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2554 ได้รับการรับรองมาตรฐานจากสถาบันรับรองมาตรฐานแพทยศาสตรศึกษา (IMEAc) ซึ่งใช้มาตรฐานจากเกณฑ์มาตรฐานแพทยศาสตร์ศึกษาสากล (WFME) โดยได้การรับรองถึงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565[18]

หลักสูตรนี้มีการแบ่งการเรียนการสอนเป็น 3 ช่วง ได้แก่

ชั้นปีที่ 1 เตรียมแพทยศาสตร์

ศึกษาวิชาพื้นฐานทั่วไปและวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ซึ่งศึกษาที่มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา วิชาที่เรียนจะประกอบด้วยวิทยาศาสตร์พื้นฐาน เช่น ชีววิทยา เคมี เคมีอินทรีย์ แคลคูลัส สถิติ และฟิสิกส์ แล้วมีวิชาทางภาษาได้แก่ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และวิชาศึกษาทั่วไป (MUGE) นอกจากนี้ในการชั้นปีที่ 1 ที่นี่จะมีวิชาปรีคลินิกด้วย 1 วิชา คือชีวเคมี นักศึกษาจะได้เรียนร่วมกับนักศึกษาคณะอื่นๆของมหาวิทยาลัยมหิดล รวมถึง คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี กลุ่มนักศึกษาแพทย์สถาบันพระบรมราชชนก คณะทันตแพทยศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ และคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

ชั้นปีที่ 2-3 ปรีคลินิก

ศึกษาวิชาแพทย์พื้นฐานและวิทยาศาสตร์การแพทย์ เช่นวิชา กายวิภาคศาสตร์ สรีวิทยา เภสัชวิทยา ที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล พญาไท การที่ได้เรียนกับคณะวิทยาศาสตร์ นักศึกษาจะได้รับแนวคิดด้านวิทยาศาสตร์และการวิจัยซึ่งเป็นประโยชน์ในการนำไปสู่ ความเป็นเลิศด้านการศึกษาและวิจัย และการพัฒนาศาสตร์การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง จากนั้นนักศึกษาจะเข้าสู่ปีที่ 3 ได้แก่ วิทยาภูมิคุ้มกัน จุลชีววิทยา เวชพันธุศาสตร์ และพยาธิวิทยา โดยศึกษาที่คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล

ชั้นปีที่ 4-6 คลินิก

ศึกษาและฝึกอบรมที่วชิรพยาบาล สำหรับนักศึกษาปีที่ 6 (extern) จะมีการเรียนเสมือนการทำงานจริง ดูแลควบคุมโดยอาจารย์แพทย์และแพทย์ประจำบ้าน (residence) อย่างใกล้ชิด แล้วจะมีการศึกษาดูงานที่โรงพยาบาลในสำนักการแพทย์กรุงเทพมหานครหลายๆแห่งด้วย

หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2562)[19]

แก้
หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2562) ได้ปรับปรุงจากหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2554) โดยมีการย้ายสถานที่จัดการศึกษามายังมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราชตลอดทั้งหลักสูตร มีศักยภาพในการผลิตนักศึกษาแพทย์ประมาณ 100 คนต่อปี

หลักสูตรได้รับการรับรองมาตรฐานจากสถาบันรับรองมาตรฐานแพทยศาสตรศึกษา (IMEAc) ซึ่งใช้มาตรฐานจากเกณฑ์มาตรฐานแพทยศาสตร์ศึกษาสากล (WFME) โดยได้การรับรองถึงวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2567[18]

หลักสูตรนี้มีการแบ่งการเรียนการสอนเป็น 3 ช่วง

ชั้นปีที่ 1 เตรียมแพทยศาสตร์

จะศึกษาวิชาศึกษาทั่วไปที่มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราชกำหนด เช่น วิชาภาษาอังกฤษ การสื่อสาร วิชาที่สนับสนุนอัตลักษณ์ของบัณฑิตของมหาวิทยาลัย และวิทยาศาสตร์พื้นฐาน เช่น เคมี สถิติ และ ฟิสิกส์ นอกจากนี้ในการชั้นปีที่ 1 ในภาคเรียนที่ 2 จะมีเริ่มเรียนวิชาปรีคลินิกด้วย คือ ชีวเคมีและชีววิทยาโมเลกุล และ ชีววิทยาของเซลล์ รวมทั้งวิชาพื้นฐานวิชาชีพที่เรียนต่อเนื่องตลอดหลักสูตร เช่น วิชาเวชจริยศาสตร์ วิชาระบบสุขภาพเขตเมืองเพื่อส่งเสริมจุดเน้นด้านเวชศาสตร์เขตเมืองของสถาบัน

ชั้นปีที่ 2-3 ปรีคลินิก

เป็นการศึกษาระดับปรีคลินิก จะศึกษาวิชาวิทยาศาสตร์การแพทย์พื้นฐาน โดยมีการบูรณาการวิชาต่าง ๆ เช่น มหกายวิภาคศาสตร์ จุลกายวิภาคศาสตร์ เอมบริโอวิทยา สรีรวิทยา จุลชีววิทยา วิทยาภูมิคุ้มกัน พยาธิวิทยา และ เภสัชวิทยา เป็นตามระบบต่าง ๆ ของร่างกายเพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงกันขององค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์พื้นฐานรวมทั้งการนำความรู้ไปใช้ในระดับชั้นคลินิกต่อไป และศึกษาวิชาพื้นฐานวิชาชีพที่ต่อเนื่องจากชั้นปีที่ 1

ชั้นปีที่ 4-6 คลินิก

เข้าสู่การศึกษาระดับคลินิก ซึ่งศึกษาและฝึกอบรมในโรงพยาบาล แบ่งเป็นศึกษาที่วชิรพยาบาล จำนวน 80 คน และที่โรงพยาบาลตากสิน จำนวน 20 คน สำหรับนักศึกษาปีที่ 6 (extern) จะมีการเรียนเสมือนการปฏิบัติงานจริง ดูแลควบคุมโดยอาจารย์แพทย์และแพทย์ประจำบ้าน นอกจากนี้ยังมีการศึกษาดูงานที่โรงพยาบาลที่มีความร่วมมือกับคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล

คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาลเป็นโรงเรียนแพทย์ที่มุ่งเน้นไปทางการให้บริการประชาชน (public service) โดยเฉพาะในเขตชุมชนเมือง ดั่งเช่นกรุงเทพมหานคร โดยมีการจัดการเรียนการสอนแบบ Community-Based Learning : CBL (ใช้ชุมชนเป็นฐาน) มีการไปออกชุมชนอยู่อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังเป็นคณะแพทย์แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยที่เปิดสอนวิชาเวชศาสตร์เขตเมือง (urban medicine) ซึ่งสอนที่เจาะจงในการแก้ปัญหาสุขภาพชาวเมืองโดยเฉพาะ เป็นการเข้าสู่การมุ่งเน้นในการผลิตแพทย์ที่ทำงานบริการประชาชนเขตเมื่องอย่างแท้จริง

กิจกรรมนักศึกษาแพทย์

แก้

สโมสรนักศึกษาแพทย์วชิรพยาบาล เป็นหน่วยงานหลักในการจัดกิจกรรมต่างๆของคณะ โดยส่วนมากจะเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นโดยคณะ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมที่จัดขึ้นพร้อมกับคณะอื่นในมหาวิทยาลัยมหิดล หรือคณะแพทย์แห่งอื่นๆในประเทศไทย และกิจกรรมที่ทางคณะเข้าร่วม ซึ่งทางสโมสรจะเป็นผู้ติดต่อประสานงานและดำเนิดกิจกรรมต่างๆ

ค่ายเปิดเสื้อกาวน์

แก้

ค่ายเปิดเสื้อกาวน์ (Opengown Camp) เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นให้นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ได้เข้ามาสัมผัสชีวิตการเรียนแพทย์ ชีวิตนักศึกษาแพทย์ การทำงานของแพทย์ ได้รู้จักความเป็นโรงเรียนแพทย์ รู้จักคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาลมากขึ้น และที่สำคัญคือ ผู้เข้าร่วมโครงการค่ายเปิดเสื้อกาวน์จะสามารถค้นพบตนเองได้ว่า ตนเองนั้นชอบและรักวิชาชีพแพทย์หรือไม่ หรือมีความเหมาะสมในการเรียนแพทย์มากน้อยเพียงใด

กิจกรรมนี่จัดขึ้นในเดือนตุลาคมของทุกปี โดยเริ่มรับสมัครนักเรียนตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม ค่ายเปิดเสื้อกาวน์เป็นค่ายที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดแห่งหนึ่ง มีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมากจากทั่วประเทศ และมีกระแสตอบรับทั้งก่อนและหลังการเข้าค่ายเป็นอย่างดี

รับน้อง & ค่ายฉันจะไปเรียนหมอล่ะ

แก้

กิจกรรมรับน้อง เป็นกิจกรรมที่ทางสโมสรจัดขึ้นให้นักศึกษาแพทย์ ขั้นปีที่ 1 ที่เข้ามาใหม่ เพื่อให้ได้รู้จักคณะและมหาวิทยาลัยมากขึ้น ให้ปรับตัวให้เข้ากับเพื่อนใหม่ๆ เสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้อง กิจกรรมรับน้องนี้รวมไปด้วยหลายๆกิจกรรมที่จัดขึ้นในช่วงปิดภาคเรียนแรก ระหว่างเดือน เมษายน-พฤษภาคม

"แรกพบ-ทวิภพ" เป็นกิจกรรมแรกที่มีขึ้น เป็นการรวมตัวกับครั้งแรกของนักศึกษาแพทย์ ชั้นปีที่1 จัดขึ้นให้นักศึกษาใหม่ได้รู้จักกัน และแนะนำให้รู้จักกับคณะและมหาวิทยาลัย กิจกรรมนี้จะจัดขึ้น 2 วัน ในวันแรกจัดขึ้นที่วชิรพยาบาล ให้ได้รู้จักกับคณะมากขึ้น และในวันที่ 2 จัดที่มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา เป็นการให้นักศึกษาได้รู้จักกับศาลายา เพื่อเตรียมพร้อมกับการศึกษาที่นี่ กิจกรรม "สอนน้องร้องเพลง" เป็นการสอนร้องเพลงคณะเพลงมหาวิทยาลัยและเพลงต่างๆ "ค่ายฉันจะไปเรียนหมอล่ะ" จะจัดขึ้นในช่วงเดือนพฤกษภาคม เสริมสร้างความสัมพันธ์ในรุ่นและคณะนักศึกษา ในงานนี้นักศึกษาจะเข้าใจถึงความเป็น "นักศึกษาแพทย์วชิรพยาบาล" อย่างแท้จริง และกิจกรรมสุดท้ายคือ "Conc day" (วันวิชาการ) เป็นวันแนะแนวการเรียนการสอน ในงานจะมีรุ่นพี่นักศึกษาแพทย์ถ่ายทอดและแนะนำวิธีการเรียนในมหาวิทยาลัย วิธีการอ่านหนังสืออย่างมีประสิทธิภาพ และเตรียมตัวสอบในทุกๆวิชา ให้นักศึกษาได้เตรียมพร้อมกับการเรียนในมหาวิทยาลัยอย่างเต็มตัว

Open House แพทย์วชิระ

แก้

จัดขึ้นที่คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียน และผู้สนใจ โดยเฉพาะผู้ที่สนใจจะเข้าศึกษาต่อในสาขาแพทยศาสตร์ ได้เข้าชมคณะ ชมโรงพยาบาล ในงานนี้จะมีกิจกรรมต่างๆจัดขึ้นโดนคณะ ให้ผู้สนใจมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการศึกษาต่อในวิชาชีพแพทย์มากขึ้น สัมผัสกับความเป็นโรงเรียนแพทย์ นอกจากนี้นักเรียนมัธยมยังสามารถปรึกษารับคำแนะนำจากรุ่นพี่นักศึกษา ในการเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยได้ด้วย

กิจกรรมระหว่างคณะ

แก้
กีฬาเข็มสัมพันธ์

จัดขึ้นโดย สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์แห่งประเทศไทย (สพท.) เป็นกิจกรรมกีฬาที่รวมตัวโรงเรียนแพทย์ทุกแห่งในประเทศ

โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย

แก้
โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย จังหวัด สังกัด
วชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช
สถาบันร่วมผลิตแพทย์ จังหวัด สังกัด
ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก โรงพยาบาลตากสิน เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร

ดูเพิ่ม

แก้

แหล่งข้อมูลอื่น

แก้

อ้างอิง

แก้
  1. ประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง การแบ่งส่วนราชการภายในหน่วยงานและการกำหนดอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการกรุงเทพมหานคร (ฉบับที่ 16)
  2. ประกาศทบวงมหาวิทยาลัย เรื่อง การรับวิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครเข้าเป็นสถาบันสมทบของมหาวิทยาลัยมหิดล พ.ศ. ๒๕๓๖
  3. ประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง การแบ่งส่วนราชการภายในหน่วยงานและการกำหนดอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการกรุงเทพมหานคร (ฉบับที่ 38)
  4. พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2553
  5. พระราชบัญญัติ เปลี่ยนชื่อมหาวิทยาลัยกรุงเทพมหานครเป็นมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช พ.ศ. 2556
  6. http://www.op.mahidol.ac.th/oraa/files/joined_institute_annouced_1n.pdf
  7. http://www.ryt9.com/s/bmnd/1864037
  8. หลักสูตรฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้าน เพื่อวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขากุมารเวชศาสตร์ พ.ศ. 2561
  9. เกณฑ์หลักสูตรการฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านเพื่อวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำานาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขาจักษุวิทยา (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2560)
  10. หลักสูตรการฝึกอบรมแพทย์ประจาบ้านเพื่อวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชานาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขาเวชศาสตร์ฉุกเฉิน
  11. หลักสูตรและเกณฑ์การฝึกอบรมแพทย์ประจา บ้าน เพื่อวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขาศัลยศาสตร์ ราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่งประเทศไทย ฉบับ พ.ศ. 2560
  12. หลักสูตรและเกณฑ์การฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านเพื่อวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทยฉบบั พ.ศ. 2561
  13. ภาคผนวก 4 งานวิจัยเพื่อวุฒิบัตรฯ สาขาโสต ศอ นาสิกวิทยา
  14. "มติที่ประชุมโดยย่อ การประชุมคณะอนุกรรมการด้านมาตรฐานการอุดมศึกษา ครั้งที่ 4/2551" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2021-01-22. สืบค้นเมื่อ 2020-01-14.
  15. "เกณฑ์หลักสูตรการฝึกอบรมแพทย์ประจาบ้าน เพื่อวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชานาญ ในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขาออร์โธปิดิกส์ ฉบับ พ.ศ. 2561" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2019-07-13. สืบค้นเมื่อ 2020-01-14.
  16. มาตรฐานคุณวุฒิความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขาอายุรศาสตร์ ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย
  17. "หลักสูตรแพทยศาสตร์บัณฑิต (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2554)". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-12-22. สืบค้นเมื่อ 2019-12-22.
  18. 18.0 18.1 "Accreditation status from IMEAc". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-12-22. สืบค้นเมื่อ 2019-12-22.
  19. "เนื้อหาสาระสำคัญของหลักสูตรหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2562) คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2019-12-22. สืบค้นเมื่อ 2019-12-22.
  • หนังสือ 96 ปี วชิรพยาบาล
  • นิทรรศการ ๑๐๐ ปี วชิรพยาบาล