คณะรัฐมนตรีไทย คณะที่ 58
คณะรัฐมนตรีคณะที่ 58 ( 24 กันยายน พ.ศ. 2551 – 19 ธันวาคม พ.ศ. 2551) หรือที่รู้จักกันในชื่อ คณะรัฐมนตรีสมชาย (ครม.สมชาย 1)
คณะรัฐมนตรีสมชาย คณะรัฐมนตรีคณะที่ 58 แห่งราชอาณาจักรไทย | |
กันยายน - ธันวาคม พ.ศ. 2551 | |
![]() | |
วันแต่งตั้ง | 24 กันยายน พ.ศ. 2551 |
วันสิ้นสุด | 19 ธันวาคม พ.ศ. 2551 (0 ปี 86 วัน) |
บุคคลและองค์กร | |
ประมุขแห่งรัฐ | พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร |
หัวหน้าคณะรัฐมนตรี | สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ชวรัตน์ ชาญวีรกูล ปฏิบัติหน้าที่แทน |
จำนวนรัฐมนตรีทั้งหมด | 35 |
พรรคร่วมรัฐบาล | พรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย พรรคเพื่อแผ่นดิน พรรคมัชฌิมาธิปไตย พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา พรรคประชาราช พรรคเพื่อไทย |
สถานะในสภานิติบัญญัติ | รัฐบาลผสม 298 / 466
|
พรรคฝ่ายค้าน | พรรคประชาธิปัตย์ |
ผู้นำฝ่ายค้าน | อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ |
ประวัติ | |
การเลือกตั้ง | – |
การลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี | 17 กันยายน พ.ศ. 2551 |
สภานิติบัญญัติ | สภาผู้แทนราษฎรไทย ชุดที่ 23 |
วาระสภานิติบัญญัติ | 4 ปี |
ก่อนหน้า | คณะรัฐมนตรีไทย คณะที่ 57 |
ถัดไป | คณะรัฐมนตรีไทย คณะที่ 59 |
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ตามประกาศพระบรมราชโองการ เมื่อวันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2551 พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงลงพระปรมาภิไธยในประกาศ โดยมีนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ และในวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2551 ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยมี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ เป็นคณะรัฐมนตรีคณะแรกที่ไม่เคยทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลเลย เนื่องจากเกิดเหตุการณ์ยึดทำเนียบรัฐบาล โดยกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
รายชื่อคณะรัฐมนตรีแก้ไข
รัฐมนตรีว่าการกระทรวง | ดำรงตำแหน่งเมื่อตั้งคณะรัฐมนตรี | ดำรงตำแหน่งจนสิ้นสุดคณะรัฐมนตรี | ||
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง | แต่งตั้งเพิ่ม | เปลี่ยนแปลง/โยกย้ายไปตำแหน่งอื่น | ||
รัฐมนตรีลอย | ย้ายมาจากตำแหน่งอื่น | ออกจากตำแหน่ง |
- พรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย พรรคเพื่อแผ่นดิน
พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา พรรคมัชฌิมาธิปไตย พรรคประชาราช
การเปลี่ยนแปลงคณะรัฐมนตรีแก้ไข
- วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2551 - พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ลาออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี
นโยบายและผลงานแก้ไข
- เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์
ความมั่นคงแก้ไข
- แก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้
- ส่งเสริมความร่วมมือในการพัฒนาและสร้างสัมพันธไมตรีที่ดีในภูมิภาค
- จัดตั้งสภาเกษตรกรและสร้างระบบประกันความเสี่ยง
เศรษฐกิจแก้ไข
- แก้ไขปัญหาวิกฤติสถาบันการเงินในประเทศ
- เร่งรัดการลงทุนที่สำคัญของประเทศ
- สร้างกลไกในการบริหารจัดการความเสี่ยงที่เกิดจากวิกฤติการเงินของโลกที่ส่งผลต่อการเคลื่อนย้ายเงินทุนทั้งระยะสั้นและระยะยาว
- เดินหน้าโครงการ 6 มาตรการ 6 เดือน ช่วยคนจน
สิทธิมนุษยชนแก้ไข
- เร่งรัดปราบปรามการค้ายาเสพติด ปราบปรามผู้มีอิทธิพล อบายมุขและสิ่งยั่วยุเยาวชน
อื่นๆแก้ไข
- รายการ "รัฐบาลของประชาชน"
การสิ้นสุดของคณะรัฐมนตรีแก้ไข
เมื่อเวลา 12.30 น. ของวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ศาลรัฐธรรมนูญได้อ่านคำวินิจฉัยคดียุบพรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย อันเนื่องมาจากกรณีทุจริตการเลือกตั้งของนายยงยุทธ ติยะไพรัช ภายหลังนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย และนางอนงค์วรรณ เทพสุทิน หัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย แถลงด้วยวาจาเสร็จสิ้นแล้ว โดยไม่รอพรรคพลังประชาชนไม่ได้ส่งตัวเข้าแถลงปิดคดีแต่อย่างใด
ต่อมา ศาลรัฐธรรมนูญได้อ่านคำวินิจฉัยในส่วนของพรรคพลังประชาชน ด้วยมติเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 ให้ยุบพรรคพลังประชาชน และตัดสิทธิทางการเมืองหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค 5 ปี (รวม 37 คน) เท่ากับว่านายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชนต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยปริยาย โดยคณะกรรมการบริหารพรรคที่ไม่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี และที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ให้รักษาการต่อไปเรื่อย ๆ โดย แต่งตั้งให้นายชวรัตน์ ชาญวีรกุล ทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ทั้งคณะ ต้องปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีการลงมติเลือกนายกคนใหม่ และจนกระทั่งได้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่
จากนั้นศาลรัฐธรรมนูญได้อ่านคำวินิจฉัยในส่วนของพรรคมัชฌิมาธิปไตย โดยมีมติให้ยุบพรรคมัฌชิมาฯ และตัดสิทธิทางการเมืองหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค 5 ปี (รวม 43 คน)
ต่อมาศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 8 ต่อ 1 ให้ยุบพรรคชาติไทยตามไปอีกพรรค โดยศาลฯได้วินิจฉัยว่ามีความผิดตามมาตรา 237 วรรค 2 และมาตรา 68 ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ถือว่าเป็นข้อเท็จจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ และกฎหมายได้เอาไว้เป็นเด็ดขาด แม้จะมีการโต้แย้งว่าหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคคนอื่นฟังไม่ขึ้น (รวม 29 คน) [1]
คำชื่นชมแก้ไข
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
คำวิจารณ์แก้ไข
หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ใช้แก๊สน้ำตาในการสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่หน้าอาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม คณาจารย์ส่วนหนึ่งของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้ตั้งสมญานามแก่รัฐบาลชุดนี้ว่า รัฐบาลมือเปื้อนเลือด[2]
วันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 อาจารย์ธีรยุทธ บุญมี อาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ทางการเมือง ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ พร้อมทั้ง ตั้งฉายารัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ว่าเป็น "รัฐบาลชายกระโปรง"[3]
อ้างอิงแก้ไข
- ↑ ผู้จัดการออนไลน์, ศาล รธน.มติเอกฉันท์! สั่งยุบ “พปช.” ตัดสิทธิ กก.บห.5 ปี - “ชายอำมหิต” หลุดเก้าอี้ เก็บถาวร 2011-08-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เรียกข้อมูลวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2551
- ↑ “นิด้า” รุมสับ รบ.มือเปื้อนเลือด นับถอยหลังตายยกเข่ง เก็บถาวร 2012-11-01 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เข้าถึงข้อมูลวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2551
- ↑ Sanook.com, ธีรยุทธขาประจำมาแล้ว ตั้งรัฐบาล 'ชายกระโปรง' เข้าถึงข้อมูลวันที่ 28 พฤศจิกายน 2551