ขุนรองปลัดชู (ภาพยนตร์)
ขุนรองปลัดชู หรือในชื่อเต็มว่า ขุนรองปลัดชู วีรชนคนถูกลืม ภาพยนตร์ไทยที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทย ในสงครามพระเจ้าอลองพญา ออกฉายในช่วงกลางปี พ.ศ. 2554 นำแสดงโดย สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ, จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม กำกับการแสดงโดย สุรัสวดี เชื้อชาติ
ขุนรองปลัดชู | |
---|---|
กำกับ | สุรัสวดี เชื้อชาติ |
เขียนบท | เอก เอี่ยมชื่น |
อำนวยการสร้าง | บุญชัย เบญจรงคกุล |
นักแสดงนำ | สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม สรนันท์ ร.เอกวัฒน์ |
ผู้บรรยาย | สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ |
ดนตรีประกอบ | คนดีไม่มีวันตาย โดย ธีร์ ไชยเดช (เพลงนำ) พงษ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา (ดนตรีประกอบ) |
ผู้จัดจำหน่าย | บีบี พิคเจอร์ จำกัด (สร้าง) ไทยพีบีเอส (เผยแพร่) |
วันฉาย | 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 (เฉพาะโรงภาพยนตร์สกาล่า) 9 กรกฎาคม ปีเดียวกัน (ทางโทรทัศน์ช่องไทยพีบีเอส) |
ภาษา | ไทย พม่า |
ทุนสร้าง | 40 ล้านบาท[1] |
เนื้อเรื่อง
แก้ในปี พ.ศ. 2302 หลังการสวรรคตของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ดาวหางฮัลเลย์ได้โคจรผ่านโลกเสมือนหนึ่งลางร้าย ขุนรองปลัดชู (สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ) ครูดาบอาตมาทและนายหมู่บ้านแขวงเมืองวิเศษไชยชาญ ได้ไปยังกรุงศรีอยุธยาพร้อมกับกรมการเมืองผู้ใหญ่ เพื่อเฝ้าสถานการณ์การผลัดแผ่นดิน
ขุนรองปลัดชูเฝ้ามองดูสถานการณ์ของบ้านเมืองด้วยความเป็นห่วง เนื่องจากการผลัดแผ่นดิน เจ้านายในพระราชวังแย่งชิงพระราชบัลลังก์ ขุนนางก็แตกแยกสนับสนุนแต่ละฝ่ายกัน เจ้าสามกรม ถูกกุมตัวไปประหารชีวิตยังวัดโคกพระยาแล้ว พระเจ้าอุทุมพร ขึ้นเสวยราชสมบัติยังมิทันได้ 2 เดือน เจ้าฟ้าเอกทัศ พระบรมเชษฐาแสดงเจตนาชัดเจนว่า ต้องการขึ้นเสวยราชย์เอง ด้วยการประทับอยู่ในพระที่นั่งสุริยาศน์อัมรินทร์ ซ้ำยังการเข้าเฝ้าบางครั้งยังพกเอาพระแสงขรรค์ขึ้นวางพาดตัก พระเจ้าอุมทุมพรยอมหลีกให้พระบรมเชษฐาขึ้นเสวยราชย์แต่โดยดี โดยพระองค์เสด็จออกผนวช แม้น กรมหมื่นเทพพิพิธจะเสด็จหนีราชภัยออกผนวชเช่นกัน แต่ก็ไม่พ้นถูกกำจัดด้วยน้ำมือของตัวขุนรองฯเอง แม้นตัวขุนรองฯจะไม่เข้าข้างผู้ใดและสลดใจกับเหตุการณ์ที่คนในชาติเดียวกันต้องมาเข่นฆ่ากันเองก็ตาม
ในเวลาเดียวกัน ทางอังวะ พระเจ้าอลองพญาสถาปนาตนเองขึ้นครองราชย์ หลังจากปราบปรามมอญได้สิ้น โดยมีพระราชบุตรมังระ (จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม) และมังฆ้องนรธา เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญ ที่ตะนาวศรีทางฝ่ายอยุธยาได้ริบเรือสินค้าของอังวะไป พระเจ้าอลองพญาเห็นเป็นจังหวะเหมาะ ประกอบกับได้สดับรู้ความของพระเจ้าแผ่นดินองค์ใหม่ของอยุธยาว่า โฉดเขลา ไม่เป็นที่ยอมรับของราษฎร โดยที่พระองค์ต้องการจะทำสงครามเพื่อให้อาณาประชาราษฎร์และสมณชีพราหมณ์ได้เป็นอยู่อย่างเป็นสุข
เมื่อขุนรองฯได้กลับวิเศษไชยชาญ ได้เล่าเรื่องราวที่ตนเองประสบพบเจอมาที่อยุธยา พร้อมย้ำอยู่เสมอว่า บ้านเมืองอ่อนแอ เหมือนบ้านไม้ที่ถูกปลวกมอดกัดแทะ แม้ต้องลมเพียงนิดก็จะพังทลายทั้งหมด ต้องเตรียมทำสงคราม สู้เพื่อวิเศษไชยชาญ โดยรวบรวมอาสาสมัครได้ 400 คน ฝึกดาบอาตมาท และอาบน้ำว่านเพื่อปลุกขวัญกำลังใจและอยู่ยงคงกระพัน เดินทางไปยังด่านสิงขรเพื่อสกัดกั้นทัพพม่า โดยที่กรมการเมืองวิเศษไชยชาญได้แจ้งไปยัง พระยารัตนาธิเบศร์ ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ในอยุธยาได้ทราบแล้ว และจะยกทัพไปสมทบ
แต่เมื่อได้ปะทะกับทางพม่าแล้ว ขุนรองฯได้ใช้ป่าชายเลนริมหาดซุ่มโจมตี แม้ตัดกำลังพม่าได้ส่วนหนึ่ง แต่เมื่อทางพม่าโต้กลับก็มิอาจทานได้ ทั้งหมดจึงหนีไปอยู่ริมหาด และถูกฆ่าตายทั้งหมดด้วยการจับกดน้ำและใช้ช้างกระทืบ ด้วยทั้งตัวขุนรองปลัดชูด้วย ก่อนตาย ขุนรองฯเหลือบเห็นทัพของพระยารัตนาธิเบศร์ที่สัญญาว่าจะยกมาช่วยยืนมองอยู่ห่าง ๆ โดยไม่มาช่วยจริงดังคำที่ว่าไว้ ขุนรองฯรู้สึกสลดกับเหตุการณ์และระลึกถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ต้น
เบื้องหลังและการออกฉาย
แก้ขุนรองปลัดชู เป็นภาพยนตร์ที่สร้างมาจากเนื้อหาเพียง 2 บรรทัดที่จารึกลงในพงศาวดารที่ว่าถึง ขุนรองปลัดชู ขุนนางระดับล่างของวิเศษไชยชาญได้รวบรวมอาสาสมัครซึ่งเป็นชาวบ้านธรรมดา ๆ จำนวน 400 คน ยกลงไปสู้รบกับพม่าที่หาดหว้าขาว ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของอ่าวมะนาว ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งทั้งหมดได้ตายหมดสิ้น
ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างขึ้นมาจากแนวความคิดของ บุญชัย เบญจรงคกุล ผู้บริหารของบริษัท ดีแทค ในโครงการสำนึกรักบ้านเกิด ที่ดำริถึงวีรกรรมของขุนรองปลัดชู ที่เหมือนกับสถานการณ์ความแตกแยกของบ้านเมืองในเวลาปัจจุบันเพื่อสะท้อนสำนึกของคนในชาติ ว่าในอดีตเคยมีคนตัวเล็ก ๆ ที่ลุกขึ้นมาสู้เพื่อบ้านเมือง โดยไม่หวังอะไรตอบแทนและรู้ดีว่าจุดจบของตนเองจะเป็นเช่นไร โดยมี สุรัสวดี เชื้อชาติ ที่เคยร่วมงานกำกับภาพยนตร์โฆษณาของดีแทคมาร่วม 10 ปี รับหน้าที่กำกับภาพยนตร์ และได้ สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ พิธีกรรายการ คนค้นฅน ทางช่อง 9 รับบทเป็น ขุนรองปลัดชู ตัวเอกของเรื่อง[2][3][1]
ออกฉายครั้งแรกในรายการไทยเธียเตอร์ ทางไทยพีบีเอส เมื่อวันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม เวลา 22.00 น. และออกซ้ำอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 18 กรกฎาคม เวลา 13.00 น. ซึ่งตรงกับวันหยุดชดเชยวันเข้าพรรษา
และออกฉายในโรงภาพยนตร์เฉพาะโรงภาพยนตร์สกาล่าเท่านั้น โดยเปิดให้เข้าชมฟรี โดยการรับบัตรผ่านทางเว็บไซต์ มีทั้งหมด 5 รอบ ระหว่างวันที่ 7-8 กรกฎาคม ในรอบเวลา 20.15 น. และวันที่ 9-11 กรกฎาคม ในรอบเวลา 12.00 น.[4]
นอกจากนี้แล้ว ยังมีการนำเนื้อหาของเรื่องมาถกและวิเคราะห์กันเพิ่มเติมจากผู้ที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์และผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาแง่มุมในด้านต่าง ๆ ในรายการ ถกหนังเห็นคน วีรชนคนถูกลืม ทางไทยพีบีเอส เริ่มออกอากาศในตอนแรกในวันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม เวลา 23.00 น.
เมื่อออกฉายแล้ว ได้รับเสียงวิจารณ์ว่าเป็นภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดออกมาในแบบขาวดำ ในภาพบางช่วงตัดสลับเป็นภาพสี ดำเนินเรื่องคล้ายกับสารคดีให้ความรู้สึกเหมือนจริง โดยมีเสียงบรรยายความโดยตัวขุนรองฯเอง เล่าความตั้งแต่ต้น ด้วยบทสนทนามีการสอดแทรกประเด็นทางสังคมที่ร่วมสมัย แม้เป็นคำพูดภาษาโบราณ แต่ทว่าสะท้อนถึงปัญหาของบ้านเมืองในยุคนี้ได้อย่างถึงแก่น ขณะที่ตัวนักแสดงนำ คือ สุทธิพงษ์ ถือว่ารับบทนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้ผู้ชมเชื่อได้ว่า คือขุนรองฯเองจริง ๆ ถึงขนาดเมื่อฉายจบในโรงภาพยนตร์สกาล่า ผู้ชมได้ปรบมือและบางคนถึงกับหลั่งน้ำตา[5][6] และบ้างก็นำไปเปรียบเทียบกับภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง 300 ที่มีเนื้อหาวีรกรรมคล้ายคลึงกัน[7]
อ้างอิง
แก้- ↑ 1.0 1.1 บทสัมภาษณ์พี่ใหญ่[ลิงก์เสีย]
- ↑ เจาะใจ : เฃ็ค สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ Part 3 จากรายการเจาะใจ
- ↑ เจาะใจ : เฃ็ค สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ Part 4
- ↑ ขุนรองปลัดชู วีรชนคนถูกลืม จากกระปุกดอตคอม
- ↑ "ขุนรองปลัดชู ชีวิตกูพลีเพื่อแผ่นดิน". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-11-03. สืบค้นเมื่อ 2011-08-17.
- ↑ [ลิงก์เสีย] "ขุนรองปลัดชู" วีรชนที่จะไม่ถูกลืม/ไก่ อำนาจ จากผู้จัดการออนไลน์
- ↑ ขุนรองปลัดชู 400 VS ลีโอนิดัส 300 จากมติชนเก็บถาวร 2011-07-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
ดูเพิ่ม
แก้แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- เว็บไซต์รายการ วีรชนคนถูกลืม เก็บถาวร 2011-08-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของภาพยนตร์ เก็บถาวร 2021-03-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน