กีบ (สกุลเงิน)
- สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการหาคำว่ากีบ ในความหมายอื่น ดู กีบ (แก้ความกำกวม)
กีบ (ลาว: ກີບ) เป็นหน่วยเงินของประเทศลาว (รหัสสากลตาม ISO 4217 อักษรย่อ LAK) หนึ่งกีบมี 100 อัด (ลาว: ອັດ) ธนาคารแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นผู้รับผิดชอบพิมพ์เงินตราออกใช้
กีบ | |
---|---|
ธนบัตร 100,000 กีบลาว ถ่ายเมื่อ ค.ศ. 2020 | |
ISO 4217 | |
รหัส | LAK |
การตั้งชื่อ | |
หน่วยย่อย | |
1100 | อัด |
สัญลักษณ์ | ₭ หรือ ₭N |
ธนบัตร | |
ใช้บ่อย | 500, 1000, 2000, 5000, 10,000, 20,000, 50,000, 100,000 กีบ |
ไม่ค่อยใช้ | 1, 5, 10, 20, 50, 100 กีบ |
เหรียญ | |
ไม่ค่อยใช้ | 10, 20, 50 อัด |
ข้อมูลการใช้ | |
ผู้ใช้ | สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว |
การตีพิมพ์ | |
ธนาคารกลาง | ธนาคารแห่งส.ป.ป.ลาว |
เว็บไซต์ | www.bol.gov.la |
การประเมินค่า | |
อัตราเงินเฟ้อ | 25.69% |
ที่มา | Bank of the Lao P.D.R, กันยายน 2023 |
ประวัติ
แก้อินโดจีนของฝรั่งเศส
แก้ปิอาสเตอร์อินโดจีนเคยเป็นสกุลเงินของอินโดจีนของฝรั่งเศสใน ค.ศ. 1885 ถึง 1952
กีบลาวเสรี (1946)
แก้ใน ค.ศ. 1945–1946 รัฐบาลลาวเสรีในเวียงจันทน์ตีพิมพ์ชุดธนบัตรที่มีค่า 10, 20 และ 50 อัดกับ 100 กีบก่อนที่ทางการฝรั่งเศสเข้ามาควบคุมภูมิภาคนี้
กีบหลวง (1955)
แก้สกุลเงินกีบนำกลับมาใช้งานใหม่ใน ค.ศ. 1955 แทนที่สกุลเงินปิอาสเตอร์อินโดจีนตามมูลค่า กีบหนึ่งแบ่งออกเป็น 100 อัด สกุลเงินนี้ผูกค่าเงินกับฟรังก์ฝรั่งเศสที่อัตรา 10 ฟรังก์ต่อ 1 กีบ
ต่อมาในวันที่ 10 ตุลาคม ค.ศ. 1958 มีการเปลี่ยนหน่วยผูกค่าเงินไปเป็นดอลลาร์สหรัฐ และลดค่าจาก 35 ไปเป็น 80 กีบต่อดอลลาร์สหรัฐ:[1] อย่างไรก็ตาม อัตราแลกเปลี่ยนอย่างเป็นทางการไม่ได้สะท้อนถึงสภาวะตลาดในขณะนั้น โดยอัตราคู่ขนานจะสูงถึง 600 กีบต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐภายในสิ้น ค.ศ. 1963 จากนั้นทางลาวจึงลดค่ากีบอีกครั้งในวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1964 และใช้อัตราแลกเปลี่ยนอย่างเป็นทางการที่ 240 กีบต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ และอัตรา "ตลาดเสรี" ที่ประมาณ 505 กีบต่อ 1 ดอลลาร์สหรััฐ จากนั้นอัตราตลาดเสรีลดลงไปถึง 600 กีต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐในวันที่ 8 พฤศจิกายน ค.ศ. 1971 ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนอย่างเป็นทางการถูกยุบเลิกในวันที่ 4 เมษายน ค.ศ. 1972[1]
กีบปะเทดลาว (1976)
แก้ทางปะเทดลาวเริ่มใช้งานกีบเอกราชในวันที่ 12 ตุลาคม ค.ศ. 1968 โดยหมุนเวียนในพื้นที่ที่กลุ่มควบคุม ธนบัตรสำหรับกีบเอกราชที่ตีพิมพ์ในประเทศจีน ประกอบด้วย 1, 10, 20, 50, 100, 200 และ 500 กีบ[2]
รายงานจาก เสียงประชาชน สื่อมวลชนของประเทศลาว หนึ่งกีบเอกราชมีค่าเท่ากับ 6 กีบหลวงในวันที่ 20 สิงหาคม ค.ศ. 1975 (สามวันก่อนกลุ่มปะเทดลาวเดินทางเข้าเวียงจันทน์)[3] ข้อมูลอัตราแลกเปลี่ยนในอดีตจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศระบุว่า 1 ดอลลาร์สหรัฐใน ค.ศ. 1975 มีค่าเท่ากับ 725 กีบหลวง หรือ 120.83 กีบเอกราช[4]
ใน ค.ศ. 1976 รัฐบาลลาวคอมมิวนิสต์ใหม่แทนที่กีบหลวงด้วยกีบเอกราช โดยมีอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 20 กีบหลวงต่อ 1 กีบเอกราช[2]
กีบสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (1979)
แก้ณ วันที่ 16 ธันวาคม ค.ศ. 1979 มีการเปลี่ยนแทนที่อดีตกีบ “เอกราช” ของปะเทดลาวด้วยกีบลาวใหม่ ด้วยอัตราแลกเปลี่ยน 100 ต่อ 1[5]
เหรียญ
แก้หน้า | หลัง | ค่า | หน้า | หลัง | ส่วนประกอบ | วันที่ผลิต |
---|---|---|---|---|---|---|
10 อัด | ค่า, ชาวนา | ตราแผ่นดินของลาว (แบบ 1975-1991) | อะลูมิเนียม | 1980 | ||
20 อัด | ค่า, ชาวนาไถนากับโค | ตราแผ่นดินของลาว (แบบ 1975-1991) | อะลูมิเนียม | 1980 | ||
50 อัด | ค่า, ปลา | ตราแผ่นดินของลาว (แบบ 1975-1991) | อะลูมิเนียม | 1980 |
ธนบัตร
แก้กีบปะเทดลาว (1976)
แก้ในพื้นที่ควบคุมของปะเทดลาว มีการตีพิมพ์ธนบัตรใน ค.ศ. 1975 หรือก่อนหน้านั้น และมีค่า 1, 10, 20, 50, 100, 200 และ 500 กีบ[6]
กีบสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (1979)
แก้ใน ค.ศ. 1979 มีการตีพิมพ์ธนบัตรที่มีค่า 1, 5, 10, 20, 50 และ 100 กีบ โดยมีการเพิ่มธนบัตร 500 กีบใน ค.ศ. 1988 ตามมาด้วย 1000 กีบใน ค.ศ. 1992, 2000 และ 5000 กีบใน ค.ศ. 1997, 10,000 และ 20,000 กีบใน ค.ศ. 2002 และ 50,000 กีบในวันที่ 17 มกราคม ค.ศ. 2006 (แม้ว่าจะระบุเป็นปี 2004) ต่อมาในวันที่ 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 2010 มีการตีพิมพ์ธนบัตร 100,000 กีบ เพื่อฉลองครอบรอบ 450 ปีของการก่อตั้งเวียงจันทน์ เมืองหลวงของประเทศ และครอบรอบ 35 ปีการสถาปนาสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว[7][8][9]
ประธานธนาคารแห่ง สปป. ลาว ประกาศในวันที่ 25 มกราคม ค.ศ. 2012 ว่าทางธนาคารจะตีพิมพ์ธนบัตร 100,000 กีบเป็นฉบับที่ใช้งานทั่วไปในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2012 (แต่ระบุเป็นปี 2011) เพื่อส่งเสริมให้ชาวลาวใช้สกุลเงินของชาติแทนดอลลาร์สหรัฐและบาท[10][11][12] ณ ค.ศ. 2019 ธนบัตรที่ใช้หมุนเวียนที่มีค่าน้อยที่สุดคือ 500 กีบ
ชุดปัจจุบัน | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ภาพ | ค่า | รายละเอียด | วันที่ตีพิมพ์ | Series Designation | |||||
หน้า | หลัง | หน้า | หลัง | ||||||
₭1 | หน่วยทหารอาสา (ซ้าย) ตราแผ่นดิน (ขวา) | ห้องเรียน (ซ้าย) | 1979 | P-25a | |||||
₭5 | การซื้อขาย | ช้างลากซุง | 1979 | P-26a | |||||
₭10 | โรงสีไม้ (ซ้าย) ตราแผ่นดิน (ขวา) | โรงพยาบาล (ซ้าย) | 1979 | P-27a | |||||
₭20 | ตราแผ่นดิน (ซ้าย) รถถังพร้อมกองทหารแนวตรง (กลาง) | โรงงานทอผ้า (กลาง) | 1979 | P-28a | |||||
₭50 | การปลูกข้าว | เขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ | 1979 | P-29a | |||||
₭100 | การเก็บเกี่ยว | สะพาน | 1979 | P-30a | |||||
₭500 | ชลประทาน | การเก็บเกี่ยวผลไม้ | 1988 | P-31a | |||||
₭1,000 | ผู้หญิงจาก 3 กลุ่มชาติพันธุ์หลักของลาว: ลาวลุ่ม, ลาวสูง และลาวเทิง โดยมีพระธาตุหลวงเป็นฉากหลัง | ฝูงวัว | 2003 | P-39 | |||||
₭1,000 | ผู้หญิงจาก 3 กลุ่มชาติพันธุ์หลักของลาว: ลาวลุ่ม, ลาวสูง และลาวเทิง โดยมีพระธาตุหลวงเป็นฉากหลัง | ฝูงวัว | 2008 | P-39a | |||||
₭2,000 | ประธาน ไกสอน พมวิหาน (1920–1992), วัดเชียงทองที่หลวงพระบาง | อาคารไฟฟ้าพลังน้ำที่เซเสด | 1997 | ||||||
₭2,000 | ประธาน ไกสอน พมวิหาน (1920–1992), วัดเชียงทองที่หลวงพระบาง | อาคารไฟฟ้าพลังน้ำที่เซเสด | 2011 | P-41 | |||||
₭5,000 | ประธาน ไกสอน พมวิหาน; พระธาตุหลวง | โรงงานซีเมนต์ที่วังเวียง | 2003 | P-34b | |||||
₭5,000 | ประธาน ไกสอน พมวิหาน; พระธาตุหลวง | โรงงานซีเมนต์ที่วังเวียง | 2020 | ||||||
₭10,000 | ประธาน ไกสอน พมวิหาน; พระธาตุหลวง | สะพานมิตรภาพไทย–ลาว | 2003 | P-35b | |||||
₭10,000 | ประธาน ไกสอน พมวิหาน; พระธาตุหลวง | สะพานลาว-นิปปง | 2020 | ||||||
₭20,000 | ประธาน ไกสอน พมวิหาน; หอพระแก้ว | โรงไฟฟ้าพลังน้ำเทิน-หีนบูน | 2003 | P-36B | |||||
₭20,000 | ประธาน ไกสอน พมวิหาน; หอพระแก้ว | โรงไฟฟ้าพลังน้ำเทิน-หีนบูน | 2020 | ||||||
₭50,000 | ประธาน ไกสอน พมวิหาน; พระธาตุหลวง | ทำเนียบประธานาธิบดี | 2004 | P-37 | |||||
₭50,000 | ประธาน ไกสอน พมวิหาน; พระธาตุหลวง | ทำเนียบประธานาธิบดี | 2020 | ||||||
₭100,000 | ประธาน ไกสอน พมวิหาน; พระธาตุหลวง | อนุสาวรีย์ประธาน ไกสอน พมวิหาน กับพิพิธภัณฑ์ในเวียงจันทน์ | 2011 | P-42 | |||||
₭100,000 | ประธาน ไกสอน พมวิหาน; พระธาตุหลวง | ถ้ำเวียงไซที่แขวงหัวพัน | 2020 |
ธนบัตรที่ระลึก | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ภาพ | ค่า | รายละเอียด | วันที่ตีพิมพ์ | Series Designation | |||||
หน้า | หลัง | หน้า | หลัง | ||||||
₭100,000 | พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระไชยเชษฐาธิราช, พระธาตุหลวง, ดอกจำปา และนาค | หอพระแก้ว | 2010 | P-40 |
อ้างอิง
แก้- ↑ 1.0 1.1 Murray, Carol (1972). "Basic Data on the Economy of Laos". Overseas Business Reports. Washington D.C.: U.S. Department of Commerce. 72 (35): 7–8. ISSN 0082-9846. OCLC 1792851.
- ↑ 2.0 2.1 Linzmayer, Owen, บ.ก. (24 May 2019). "Laos". The Banknote Book. Owen Linzmayer. pp. 10–12.
- ↑ Siang Pasason (20 August 1975). "Economic progress made since liberation". Translations on South and East Asia. Arlington: Joint Publications Research Service. 604: 44–45. OCLC 875577232.
- ↑ International Monetary Fund (2021). "Official exchange rate (LCU per US$, period average)". The World Bank Data. Washington, D.C.: The World Bank. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (XLS)เมื่อ 16 December 2022. สืบค้นเมื่อ 16 December 2022.
- ↑ Linzmayer, Owen (2012). "Laos". The Banknote Book. San Francisco, CA: www.BanknoteNews.com.
- ↑ "Laos". Bank Note Museum. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-12-07. สืบค้นเมื่อ 2022-10-07.
- ↑ "Laos - Banknote News". banknotenews.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-11-19. สืบค้นเมื่อ 9 April 2018.
- ↑ Laos new 100,000-kip commemorative confirmed เก็บถาวร 2011-09-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน BanknoteNews.com. Retrieved 2012-01-31
- ↑ "Archived copy" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2016-03-03. สืบค้นเมื่อ 2020-02-23.
{{cite web}}
: CS1 maint: archived copy as title (ลิงก์) - ↑ "Lao central bank to issue new 100,000-kip notes - The Nation". nationmultimedia.com. สืบค้นเมื่อ 9 April 2018.
- ↑ "Archived copy" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2015-05-01. สืบค้นเมื่อ 2012-01-27.
{{cite web}}
: CS1 maint: archived copy as title (ลิงก์) - ↑ Laos new 100,000 kip note confirmed เก็บถาวร 2012-10-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน BanknoteNews.com. Retrieved 2012-02-03.