กิโยตีน

(เปลี่ยนทางจาก กิโยติน)

กิโยตีน (ฝรั่งเศส: guillotine) เป็นชื่อเรียกของอุปกรณ์การประหารชีวิตของฝรั่งเศส ถูกประดิษฐ์ขึ้นในช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศสเพื่อใช้ตัดคอนักโทษ กิโยตีนประกอบโครงโดยส่วนมากจะเป็นไม้ ไว้สำหรับแขวนใบมีดรูปสี่เหลี่ยมคางหมู น้ำหนักประมาณ 40 กก. ใบมีดจะถูกแขวนไว้ในส่วนบนสุด ภายใต้ใบมีดจะเป็นส่วนที่ให้ผู้ถูกลงโทษวางศีรษะ เมื่อเชือกได้ถูกปล่อยหรือตัดลง ใบมีดที่หนักจะหล่นลงไม้ในระยะทางประมาณ 2.3 เมตร และตัดศีรษะผู้ถูกประหาร (ความสูงและน้ำหนักตามมาตรฐานกิโยตีนฝรั่งเศส)

กีโยตีนในอังกฤษ
การประหารพระเจ้าหลุยส์ที่ 16
การประหาร พระราชินีมารี อ็องตัวแน็ต 16 ตุลาคม ค.ศ. 1793
โฌแซ็ฟ-อีญัส กียอแต็ง ผู้เสนอให้ประหารชีวิตโดยการตัดคอ แต่ตัวเขาไม่ใช่ผู้ประดิษฐ์กิโยตีน

ประเทศฝรั่งเศสได้ชื่อว่าเป็นประเทศแรกที่ใช้การประหารชีวิตด้วยกิโยตีน นายนีกอลา ฌัก แปลตีแย (Nicolas J. Pelletier) โจรปล้นสัญจรถูกประหารชีวิตด้วยกิโยตีนเป็นคนแรกเมื่อวันที่ 25 เมษายน ค.ศ. 1792 ในช่วงเวลาใกล้เคียงกันในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16 สหราชอาณาจักร มีเครื่องลงโทษลักษณะที่คล้ายกันชื่อกรงเหล็กตะแลงแกง และมีเครื่องลงโทษลักษณะคล้ายกันในประเทศอิตาลีและสวิตเซอร์แลนด์

นายแพทย์อ็องตวน หลุยส์ สมาชิกสมาคมศัลยศาสตร์ (Académie Chirurgical) เป็นบุคคลที่คิดค้นการทำงานของเครื่องกิโยตีน โดยเครื่องกิโยตีนตอนแรกได้ใช้ชื่อว่า ลูยซง (Louison) หรือลูยแซ็ต (Louisette) แต่ได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น "กิโยตีน" ตามชื่อของ ดร.โฌแซ็ฟ-อีญัส กียอแต็ง แพทย์ชาวฝรั่งเศสเป็นผู้เสนอแนะการประหารชีวิตโดยการตัดคอ ภายหลัง ดร.กิโยตีน ได้เปลี่ยนนามสกุล เนื่องจากไม่ต้องการใช้ชื่อสกุลเป็นคำเดียวกับวิธีการประหารชีวิต ทั้งนี้ก่อนการปฏิวัติฝรั่งเศส ผู้มีชื่อเสียงมักถูกตัดคอโดยดาบหรือขวาน ในขณะที่ชาวบ้านทั่วไปจะถูกแขวนคอ หรือวิธีการประหลาดต่าง ๆ ในช่วงของยุคกลาง (เช่น ถูกเผาหรือมัดกับล้อไม้) ในการตัดคอ มีหลายครั้งที่ตัดคอไม่สำเร็จในดาบแรก ทำให้เกิดความทรมานต่อผู้ถูกประหารชีวิต การใช้กิโยตีนจะทำให้ผู้ถูกประหารชีวิตเจ็บปวดน้อยที่สุด ในช่วงปฏิวัติฝรั่งเศส มีผู้ถูกประหารชีวิตด้วยกิโยตีนอย่างน้อย 20,000 คน โดยการประหารด้วยกิโยตีนถือเป็นที่สนใจของบุคคลทั่วไปเช่นกัน

กิโยตีนถือเป็นเครื่องประหารชนิดเดียวที่ถูกกฎหมาย จนกระทั่งยกเลิกกฎหมายประหารชีวิตในปี ค.ศ. 1881 อย่างไรก็ตาม ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ทวีปยุโรปได้ตกอยู่ภายใต้การยึดครองของนาซีเยอรมนี นาซีได้นำเครื่องกิโยตีนมาใช้ในการประหารชีวิตผู้ที่ต่อต้านระบอบนาซีในเยอรมนี บุคคลสุดท้ายที่ถูกประหารชีวิตด้วยกิโยตีนในฝรั่งเศสในที่สาธารณะ คือ ออยเกิน ไวด์มันน์ (Eugen Weidmann) อายุ 31 ปี ฆาตกรสังหาร 6 ศพชาวเยอรมัน โดยถูกตัดศีรษะเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ค.ศ. 1939 เวลา 16.32 น. ภายนอกคุกแซ็ง-ปีแยร์ (Saint-Pierre) ที่เมืองแวร์ซาย ส่วนบุคคลสุดท้ายที่ถูกประหารชีวิตด้วยกิโยตีนและเป็นผู้ถูกประหารชีวิตคนสุดท้ายในฝรั่งเศส คือ ฮามิดา จันดูบี (Hamida Djandoubi) อายุ 27 ปี ฆาตกรชาวตูนีเซียที่ลักพาตัว ทรมาน และสังหารเอลิซาเบธ บูสเกต์ อายุ 22 ปีโดยถูกตัดศีรษะที่ที่เรือนจำบัลเมต(Baumettes Prison) ในเมืองมาร์แซย์ เมื่อวันที่ 10 กันยายน ค.ศ. 1977 เวลา 04:40 น.[1]

อ้างอิง

แก้

แหล่งข้อมูลอื่น

แก้