การฉาบปูนขาว

(เปลี่ยนทางจาก การเคลือบสีขาว)

การฉาบปูนขาว[1] (อังกฤษ: whitewashing) เป็นคำพังเพยในสังคมตะวันตก หมายถึง "ปกปิดหรือซ่อนเร้นความชั่ว ความผิด หรือความอัปยศ หรือทำให้พ้นข้อครหา โดยใช้วิธีสืบสวนแบบขอไปที หรือนำเสนอข้อมูลข่าวสารอันมากด้วยอคติ"[2] ทำนองเดียวกับสำนวนไทยว่า "ผักชีโรยหน้า" หรือ "ข้างนอกสุกใส ข้างในเป็นโพรง โดยถ้อยคำ "ฉาบปูนขาว" นี้มักใช้เปรียบเปรยในวงการเมือง หรือในแวดวงบริษัทหรือองค์กรต่าง ๆ

ศัพทมูล แก้

คำว่า "ฉาบปูนขาว" (whitewash) นั้น ปรากฏว่าใช้ครั้งแรกใน ค.ศ. 1591 โดยในสมัยนั้น ฉาบปูนขาว คือ ทาหรือโบกปูนขาว (calcium hydroxide) ราคาถูกลงบนเสื้อผ้าอาภรณ์เพื่อให้ดูขาวสะอาด ต่อมาใน ค.ศ. 1800 มีการนำถ้อยคำนี้ไปใช้ในบริบททางการเมือง เมื่อหนังสือพิมพ์ ออโรรา (Aurora) ของฟิลลาเดเฟีย ลงบทบรรณาธิการ ความตอนหนึ่งว่า "ถ้าไม่รีบฉาบปูนขาวให้ใต้เท้าแอดัมส์ ความสกปรกของเขาก็จะลามเลียไปยังพรรคด้วยเหมือนกับแมลงวันแห่มาตอมขี้ แล้วก็จะทำให้ทั้งเขาทั้งพรรคเป็นด่างเป็นดวงราวกับกำแพงโสโครก และดำปื๋อดุจพระกาฬทีเดียว"[3] [2]

การใช้ในวัฒนธรรมร่วมสมัย แก้

รัฐเผด็จการและรัฐอำนาจนิยม รวมถึงรัฐประชาธิปไตยด้วย มักใช้วิธีฉาบปูนขาวเพื่อทำให้ผลลัพธ์บางประการออกมาดูดี

ในยุคโซเวียต โจเซฟ สตาลิน (Iosif Stalin) ตัดต่อรูปที่ตนถ่ายคู่กับวลาดิมีร์ เลนิน (Vladimir Lenin) โดยเขยิบรูปตนเองให้ใกล้เลนินมากขึ้น จะได้ให้ความรู้สึกว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์อันดี ต่อมา ในระหว่างที่โซเวียตยกพลขึ้นบกเชโกสโลวาเกียหลังจากเหตุการณ์ที่เรียก "ปรากสปริง" (Prague Spring) ใน ค.ศ. 1968 สื่อมวลชนของโซเวียตเผยแพร่ประมวล "ข้อเท็จจริง, เอกสาร, รายงานข่าว และคำบอกเล่าของประจักษ์พยาน" ซึ่งได้รับสมัญญาว่า "หนังสือสีขาว" (The White Book) เพราะมีปกสีขาวด้วยประการหนึ่ง และมีวัตถุประสงค์จะ "ฉาบปูนขาว" ให้แก่การยกพลขึ้นบกนั้นโดยเน้นย้ำว่า ประเทศภาคีแห่งกติกาสัญญาวอร์ซอมีสิทธิและมีหน้าที่จะรุกรานได้ อีกประการหนึ่ง[4]

สถานีวิทยุของเกาหลีเหนือมักไขข่าวแพร่หลายในประเทศว่า ประเทศมีเสบียงเกียกกายเหลือหลาย แม้ว่ารัฐบาลตนต้องร้องขอความช่วยเหลือด้านอาหารจากต่างประเทศเสมอ[5]

ญี่ปุ่นเองก็ถูกหาว่า ฉาบปูนขาวใส่ประวัติศาสตร์ด้านการยุทธและจักรวรรดินิยมของตน โดยละทิ้งหรือลดทอนประเด็นหลาย ๆ ประเด็นในหนังสือเรียน เช่น ที่เกี่ยวกับการสังหารหมู่ที่นานกิง[6]

การใช้ในไบเบิล แก้

ในไบเบิล ภาคพันธสัญญาใหม่ มัทธิว บทที่ 23 ข้อที่ 27 ก็มีการใช้สำนวน "ฉาบปูนขาว" นี้ ตอนที่เยซูบริภาษเดียรถีย์แห่งฟาริสีว่า กำลังฉาบปูนขาวใส่ตนเองให้ดูดี แล้วอำพรางอกุศลกรรมของตน โดยเยซูตรัสว่า "วิบัติแก่เจ้า พวกธรรมาจารย์และพวกฟาริสี คนหน้าซื่อใจคด เพราะว่า เจ้าเป็นเหมือนอุโมงค์ฝังศพซึ่งฉาบด้วยปูนขาว ข้างนอกดูงดงามจริง ๆ แต่ข้างในเต็มไปด้วยกระดูกคนตาย และการโสโครกสารพัด"[7] [1] จอห์น กิล (John Gill), แอลเบิร์ต บานส์ (Albert Barnes) และ อดัม คลาร์ก (Adam Clarke) นักเทววิทยาทั้งสาม ได้ทำอรรถาธิบายข้อดังกล่าวว่า มาจากธรรมเนียมที่มักใช้ชอล์กสีขาวหรือปูนขาวขีดเตือนให้ชาวยิวทราบถึงที่ต้องห้าม เช่น สุสานที่โสโครก[8]

ถ้อยคำทำนองเดียวกัน แก้

เชิงอรรถและอ้างอิง แก้

อ้างอิง แก้

  1. 1.0 1.1 ภาคพันธสัญญาใหม่, มัทธิว, บทที่ 23, ข้อที่ 27:

    "วิบัติแก่เจ้า พวกธรรมาจารย์และพวกฟาริสี คนหน้าซื่อใจคด เพราะว่า เจ้าเป็นเหมือนอุโมงค์ฝังศพซึ่งฉาบด้วยปูนขาว ข้างนอกดูงดงามจริง ๆ แต่ข้างในเต็มไปด้วยกระดูกคนตาย และการโสโครกสารพัด"

    "...like whitewashed tombs, which look beautiful on the outside but on the inside are full of dead men's bones."

  2. 2.0 2.1 "Whitewash",Encyclopedia Britannica, 2003 DVD Ultimate reference suite.

    "To whitewash is a metaphor meaning to gloss over or cover up vices, crimes or scandals or to exonerate by means of a perfunctory investigation or through biased presentation of data."

  3. "if you do not whitewash President Adams speedily, the Democrats, like swarms of flies, will bespatter him all over, and make you both as speckled as a dirty wall, and as black as the devil."
  4. The Commissar Vanishes เก็บถาวร 2007-03-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน - site explaining the whitewashes by Stalin.
  5. Dafna Linzer (2005-06-23). "U.S. Offers Food Aid to N. Korea". The Washington Post. สืบค้นเมื่อ 2006-10-27.
  6. "China Raps Japanese Politician for Whitewashing History". สืบค้นเมื่อ 2006-10-27.
  7. Matthew, 23:27 : "Woe unto you, scribes and Pharisees, hypocrites! for ye are like unto whited sepulchres, which indeed appear beautiful outward, but are within full of dead [men’s] bones, and of all uncleanness."
  8. http://bible.cc/matthew/23-27.htm
  9. "Terrachoice.com - Definition of Greenwashing". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-08-28. สืบค้นเมื่อ 2011-08-22.
  10. "LP: 'The biggest environmental crime in history'". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-09-06. สืบค้นเมื่อ 2011-08-22.