การสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรเสด็จสวรรคตเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 15.52 น. ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช รัฐบาลประกาศไว้ทุกข์ถวายความอาลัยเป็นเวลา 1 ปี สำนักพระราชวังมีหมายกำหนดการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพระหว่างวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2559 ถึง 21 มกราคม พ.ศ. 2560 ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง คณะรัฐมนตรีมีมติประกาศให้วันที่ 13 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตและวันหยุดราชการเพื่อให้ประชาชนน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ[1] [2] และได้กำหนดให้มีพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพขึ้นในวันที่ 25 - 29 ตุลาคม พ.ศ. 2560[3] รวมถึงได้ประกาศให้วันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2560 ซึ่งเป็นวันถวายพระเพลิงพระบรมศพเป็นวันหยุดราชการเป็นกรณีพิเศษ[4]
พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร | |
---|---|
![]() ริ้วกระบวนเชิญพระมหาพิชัยราชรถทรงพระโกศทองใหญ่ประกอบพระบรมราชอิสริยยศพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร | |
การสวรรคต | |
พระปรมาภิไธย | พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร |
วันสวรรคต | 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 |
สถานที่สวรรคต | อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช |
ประดิษฐานพระบรมศพ | พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง |
พระโกศ | พระโกศทองใหญ่ |
ฉัตร | นพปฎลมหาเศวตฉัตร |
พระเมรุ | พระเมรุมาศ ท้องสนามหลวง |
วันถวายพระเพลิงพระบรมศพ | 26 ตุลาคม พ.ศ. 2560 |
ประดิษฐานพระบรมอัฐิ | พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง |
ประดิษฐานพระบรมราชสรีรางคาร | วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร และวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร |
พระอาการประชวร
วันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 สำนักพระราชวังแจ้งว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จะเสด็จพระราชดำเนินมาประทับ ณ ชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช ตามคำกราบบังคมทูลเชิญเพื่อมาตรวจพระวรกายของคณะแพทย์ ผลการตรวจพบว่าพระโลหิต อุณหภูมิพระวรกาย ความดันพระโลหิต พระหทัย และระบบการหายพระทัยเป็นปกติ[5]
ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2559 เป็นต้นมา สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์ประชวร ว่ามีพระปรอทต่ำ หายพระทัยเร็ว มีพระเสมหะ พระปับผาสะซ้ายอักเสบ มีพระโลหิตเป็นกรด และพบว่ามีน้ำคั่งในช่องเยื่อหุ้มพระปัปผาสะเล็กน้อย[6]
ในวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2559 มีความดันพระโลหิตลดต่ำลง คณะแพทย์จึงรักษาด้วยพระโอสถปฏิชีวนะ และใช้สายสวนเข้าหลอดพระโลหิตดำเพื่อฟอกพระโลหิตระยะยาว แต่มีพระความดันพระโลหิตต่ำจึงใช้เครื่องช่วยหายพระทัย และมีการฟอกไต พระอาการไม่คงที่[7] ก่อนที่พระอาการจะเริ่มทรุดลงเรื่อย ๆ ทรงมีการติดเชื้อและการทำงานของพระยกนะ (ตับ) ผิดปกติ และมีแถลงการณ์สำนักพระราชวัง ฉบับที่ 38 ความว่า[8]
วันนี้ คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้รายงานว่า เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2559 ความดันพระโลหิตลดต่ำลงอีก พระชีพจรเร็วขึ้น ร่วมกับภาวะพระโลหิตมีความเป็นกรดเพิ่มขึ้นอีก ผลของการถวายตรวจพระโลหิตบ่งชี้ว่า มีภาวะการติดเชื้อและการทำงานของพระยกนะ (ตับ) ผิดปรกติ คณะแพทย์ฯ ได้ถวายพระโอสถปฏิชีวนะและแก้ไขภาวะพระโลหิตมีความเป็นกรด ตลอดจนถวายพระโอสถควบคุมความดันพระโลหิตเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งถวายเครื่องช่วยหายพระทัย (Ventilator) และถวายการรักษาด้วยวิธีทดแทนไต (CRRT) พระอาการประชวรโดยรวมยังไม่คงที่ ต้องควบคุมด้วยพระโอสถ คณะแพทย์ฯ ได้เฝ้าติดตามพระอาการและถวายการรักษาอย่างใกล้ชิด
วันที่ 12 ตุลาคม พระราชโอรส-ธิดาทั้งสี่พระองค์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ และพระเจ้าหลานเธออีกสองพระองค์เข้าเยี่ยมพระอาการประชวร[9] โดยนับตั้งแต่สำนักพระราชวังได้แถลงการณ์พระอาการประชวร ฉบับที่ 37 ประชาชนจำนวนมากได้เดินทางมายังโรงพยาบาลศิริราชเพื่อถวายพระพรให้ทรงหายจากพระอาการประชวร กิจกรรมสำคัญคือการสวดบทโพชฌังคปริตร ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นบทสวดมนต์ปัดเป่าโรคร้าย[10] พร้อมทั้งมีการเชิญชวนประชาชนสวมเสื้อสีชมพูซึ่งเป็นสีเสริมดวงพระราชสมภพและมีการร่วมกันถวายพระพรทั่วทั้งสื่อสังคม[11] วันที่ 13 ตุลาคม พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์เสด็จฯ มายังโรงพยาบาลศิริราช[12]
สวรรคต
สำนักพระราชวังมีประกาศเรื่องพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร สวรรคต เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 ความว่า
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินไปประทับรักษาพระอาการประชวร ณ โรงพยาบาลศิริราช ตั้งแต่วันศุกร์ ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2557 ตามที่สำนักพระราชวังได้แถลงให้ทราบเป็นระยะแล้วนั้น แม้คณะแพทย์ได้ถวายการรักษาอย่างใกล้ชิดจนสุดความสามารถ แต่พระอาการประชวรหาคลายไม่ ได้ทรุดหนักลงตามลำดับ ถึงวันพฤหัสบดี ที่ 13 ตุลาคม พุทธศักราช 2559 เวลา 15 นาฬิกา 52 นาที เสด็จสวรรคต ณ โรงพยาบาลศิริราช ด้วยพระอาการสงบ สิริพระชนมพรรษาปีที่ 89 ทรงครองราชสมบัติได้ 70 ปี
— สำนักพระราชวัง 13 ตุลาคม พุทธศักราช 2559
มีคลิปศาสตราจารย์ นพ.นิพนธ์ พวงวรินทร์ แพทย์ผู้อยู่ถวายการรักษาขณะสวรรคต ให้สัมภาษณ์ว่าเสด็จสวรรคตด้วยภาวะเลือดแข็งตัวในหลอดเลือดแบบแพร่กระจาย[13] หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ถูกเลิกจ้าง โดยคำสั่งคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุเหตุผลว่า "...เนื่องจากได้มีการนำข้อมูลของผู้ป่วยไปเผยแพร่ในที่สาธารณะ"[14]
เคลื่อนพระบรมศพสู่พระบรมมหาราชวัง
วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 16.00 น. พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ครั้งยังเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ได้เสด็จพระราชดำเนินไปโรงพยาบาลศิริราช เพื่อเคลื่อนพระบรมศพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชไปพระบรมมหาราชวัง เพื่อประกอบพระราชพิธีสรงน้ำพระบรมศพ ณ พระที่นั่งพิมานรัตยา โดยขบวนเคลื่อนออกจากโรงพยาบาลศิริราชทางถนนอรุณอมรินทร์ ผ่านไปยังแยกอรุณอมรินทร์ขึ้นสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า เคลื่อนต่อไปถนนราชดำเนินในสู่พระบรมมหาราชวังทางถนนหน้าพระลานที่ประตูพิมานไชยศรีและประตูเทวาภิรมย์[15]
ประชาชนถวายน้ำสรงพระบรมศพ
ตั้งแต่เวลา 08.00 – 14.00 น. สำนักพระราชวังให้ประชาชนเข้าถวายน้ำสรงพระบรมศพ หน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง[16]
ประชาชนถวายสักการะหน้าพระบรมฉายาลักษณ์
สำนักพระราชวังให้ประชาชนเข้าถวายสักการะหน้าพระบรมฉายาลักษณ์[17] และได้จัดสมุดลงนามถวายความอาลัย ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2559 จนถึงวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2559 ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง
ประชาชนถวายสักการะพระบรมศพ
สำนักพระราชวังได้รับพระราชานุญาต ให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เวลา 05.00–21.00 น. และร่วมบริจาคเงินสมทบทุน ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2559[18] จนถึงวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2560[19] ยกเว้นกรณีต่อไปนี้ ซึ่งมีประกาศให้งดการถวายสักการะพระบรมศพจากสำนักพระราชวัง
วันที่ | พระราชพิธีหรืองานสำคัญ | อ้างอิง |
---|---|---|
1 – 2 ธันวาคม พ.ศ. 2559 | พระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัญญาสมวาร (50 วัน) | [20] |
1 มกราคม พ.ศ. 2560 | วันขึ้นปีใหม่ พ.ศ. 2560 | [21] |
20 – 21 มกราคม พ.ศ. 2560 | พระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสตมวาร (100 วัน) | [22] |
ในวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2560 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพ สำนักพระราชวังได้สรุปยอดรวมมีประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพรวม 12,739,531 คน[23]รวมระยะเวลาที่สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพ 337 วัน
การแสดงความอาลัย
ภายในประเทศ
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย แสดงความเสียใจต่อการสวรรคต ขอให้ประชาชนร่วมถวายความอาลัยและดำเนินชีวิตต่อไป[24]
รัฐบาลประกาศให้สถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ และสถานศึกษาทุกแห่งลดธงครึ่งเสา มีกำหนด 30 วัน และให้ข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจไว้ทุกข์ มีกำหนด 1 ปี เริ่มนับแต่วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2559[25] โดยต่อมาได้มีการขยายระยะเวลาไว้ทุกข์ต่อไปอีก 14 วัน[26](ยกเว้นประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลาม[27] และในวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2560 เฉพาะงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9[28]) รวมทั้งยังมีประกาศขอความร่วมมือให้งดจัดงานรื่นเริงต่าง ๆ เป็นเวลา 30 วัน ส่งผลให้การแสดงรื่นรมย์ต่าง ๆ เช่น คอนเสิร์ต งานมหกรรม กิจกรรมกีฬา การแสดงต่าง ๆ ต่างยกเลิกหรือเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด รวมทั้งสถานบันเทิงต่าง ๆ หลายแห่งปิดการให้บริการชั่วคราว[29] และยังมีการประกาศให้วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เป็นวันหยุดราชการด้วย[30]
การแสดงความอาลัยในสื่อสังคม
ในสื่อสังคมต่าง ๆ มีการแสดงความอาลัยเป็นจำนวนมาก เช่นในเฟซบุ๊ก มีผู้ใช้งานจำนวนมากเปลี่ยนภาพผู้ใช้เพื่อแสดงความอาลัย เพจดังต่าง ๆ ลงภาพแสดงความอาลัยและงดลงเนื้อหาบันเทิงเป็นการชั่วคราว[31] รวมทั้งทางเฟซบุ๊กยังประกาศงดโฆษณาในเว็บไซต์ภาคภาษาไทยอย่างไม่มีกำหนดเพื่อแสดงความอาลัย,[32] กูเกิลประเทศไทยมีการเปลี่ยนดูเดิลเป็นสีดำเพื่อแสดงความอาลัย,[33] ยูทูบงดโฆษณา 7 วันเช่นกัน, ดาราและนักแสดงต่างร่วมกันแสดงความอาลัยผ่านทางอินสตาแกรมและทวิตเตอร์[34] นอกจากนี้เว็บไซต์ต่าง ๆ ทั่วประเทศได้เปลี่ยนสีเว็บเป็นขาวดำเพื่อแสดงความอาลัยด้วย [35]จนกระทั่งภายหลังได้ปรับสีเว็บเข้าสู่สีปกติ โดยมีการประดับริบบิ้นสีดำที่มุมหน้าจอ
และชาวต่างประเทศ อาทิ โชโกะ คาริยาซากิ โยชิมิ โทคุอิ ฮัม อึนจอง ถวายความอาลัยผ่านยูทูบและอินสตาแกรม[36]
การดำเนินการของสถานีโทรทัศน์ภายหลังการสวรรคต
สถานีโทรทัศน์ในประเทศไทยทุกช่องออกอากาศรายการพิเศษจากโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย เป็นการฉายสารคดีพระราชกรณียกิจตลอดรัชกาล สลับกับการแถลงการณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสวรรคต วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2559 มีการถ่ายทอดสดการเชิญพระบรมศพจากโรงพยาบาลศิริราชไปยังพระที่นั่งพิมานรัตยาในพระบรมมหาราชวัง และพระราชพิธีสรงน้ำพระบรมศพ กระทั่งเวลา 00.00 น. วันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2559 จึงเริ่มการออกอากาศรายการต่าง ๆ ตามปกติ เดิมพลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด แถลงว่า รัฐบาลขอความร่วมมืองดรายการตามปกติและรับสัญญาณจากโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยเป็นเวลา 30 วัน ก่อนถูกยกเลิกไป[37] สำนักงาน กสทช. ได้ขอความร่วมมือให้งดรายการรื่นเริงต่าง ๆ เป็นเวลา 30 วัน[38]
ต่อมาในวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2559 สำนักงาน กสทช. ออกแนวปฏิบัติในการนำเสนอรายการทางโทรทัศน์ โดยในช่วง 15-30 วันหลังการสวรรคต ให้สถานีโทรทัศน์ต่าง ๆ ระมัดระวังและตรวจสอบการนำเสนอเนื้อหา การวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งแสดงถึงหรือกล่าวถึงความขัดแย้งในด้านต่าง ๆ ที่อาจนำไปสู่ความแตกแยกในสังคม และขอความร่วมมือในการปรับสีรายการต่าง ๆ ไม่ให้ฉูดฉาดจนเกินไป ในช่วง 31-37 วันถัดมา สามารถนำรายการเด็ก รายการทั่วไป และรายการแนะนำเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี ออกอากาศได้ โดยมีการควบคุมเนื้อหา และตั้งแต่วันที่ 38-100 หลังการสวรรคต สามารถนำรายการแนะนำเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ออกอากาศได้ แต่ไม่ควรมีเรื่องของความรุนแรง เรื่องทางเพศ และถ้อยคำหยาบคาย[39]
ต่อมาในวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2560 สำนักงาน กสทช. ได้ออกแนวปฏิบัติในการนำเสนอรายการทางโทรทัศน์ เมื่อล่วงพ้นระยะเวลา 100 วัน หลังการเสด็จสวรรคต โดยให้นำรายการปกติมาออกอากาศได้ แต่ต้องปฏิบัติตามประกาศ หลักเกณฑ์ เกี่ยวกับการกำกับเนื้อหารายการผังรายการ และการจัดระดับความเหมาะสมของรายการตามที่ กสทช. กำหนดโดยเคร่งครัด รวมทั้งควรสอดแทรกรายการที่เกี่ยวกับการพระราชกรณียกิจ แนวความคิด และปรัชญาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสารคดีเทิดพระเกียรติพระกรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์อย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะเสร็จสิ้นพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ นอกจากนี้ กรณีที่มีการถ่ายทอดสดพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล และพระราชพิธีต่าง ๆ รวมถึงรายการ "ศาสตร์แห่งพระราชาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน" จากโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ให้ทุกสถานีเชื่อมโยงสัญญาณในทันที[40]สถานีโทรทัศน์ยังรายงานกรณีบุคคลที่มีชื่อเสียงเข้าถวายความเคารพพระบรมศพอาทิ หมี เสว่[41]ดินีช เมธา[42]
ระดับนานาชาติ
วันพุธที่ 25 มกราคม 2560 บริษัท ไทยเจียระไน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) [43] ผู้ผลิตสื่อนิตยสารจีน @Mangu (แอดม่านกู่) ร่วมกับ บริษัท ซีแอนด์จี เอ็นไวรอนเมนทอล โปรเท็คชั่น (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมด้วยตัวแทนผู้บริหาร พนักงาน สมาคม องค์กร นักศึกษาและกลุ่มชาวจีนที่ประกอบธุรกิจและอาศัยอยู่ในผืนแผ่นดินไทย รวมใจกันขับร้อง เพลงสรรเสริญพระบารมี ภาษาจีน ในชื่อเพลง "Royal Anthem King Bhumibhol Chinese Language" เพื่อถวายความจงรักภักดีและน้อมแสดงความอาลัยในวาระครบ 100 วัน การเสด็จสู่สวรรคาลัยของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ [44]
ผลกระทบ
ประชาชนบางส่วนโจมตีผู้ไม่สวมเสื้อสีดำ แสดงการไว้ทุกข์ เกิดเหตุการณ์ล่าแม่มด บางส่วนมีพฤติกรรมรุนแรง ถึงขั้นประจานทางสื่อออนไลน์[45] จากเหตุการณ์ดังกล่าว พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด รักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์และโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เสนอให้ประชาชนที่ไม่สามารถจัดหาเสื้อผ้าสีดำหรือสีขาวมาร่วมแสดงความอาลัยได้ ติดริบบิ้นหรือโบว์สีดำบนหน้าอกเสื้อหรือที่แขนเสื้อบริเวณต้นแขนเพื่อเป็นการแสดงสัญลักษณ์ความอาลัยแทน[46][47]
นอกจากนี้ ในวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2559 มีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งในจังหวัดภูเก็ตปิดล้อมบ้านของลูกชายเจ้าของร้านน้ำเต้าหู้ที่โพสต์ข้อความที่เข้าข่ายผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112[48] เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าโพสต์นั้นมิได้มีเนื้อหาหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เข้าควบคุมตัวชายคนนั้นในข้อหาดังกล่าว นอกจากนี้ยังเกิดเหตุการณ์คล้ายกันในจังหวัดพังงา[49]
กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ประกาศใส่เสื้อสีแดงในวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและป้อนภาพลงสู่เฟซบุ๊ก อาทิ จรรยา ยิ้มประเสริฐ ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ และเอกชัย หงส์กังวาน ซึ่งต่อมาเอกชัยถูกทำร้ายร่างกาย กระดูกฝ่ามือหัก คาดว่าสาเหตุของการทำร้ายร่างกายมาจากการประกาศใส่เสื้อสีแดงในวันดังกล่าว[50]
รายการผู้แทนต่างประเทศที่ร่วมพระราชพิธีพระบรมศพ
ผู้นำและประมุขของแต่ละประเทศ ตลอดจนผู้แทนพระองค์หรือผู้แทนพิเศษของประเทศต่าง ๆ ที่เสด็จพระราชดำเนิน เสด็จ และเดินทางมาร่วมวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท และลงพระนามและลงนามแสดงความอาลัย ณ ศาลาว่าการพระราชวัง และอาคารสำนักราชเลขาธิการ มีรายพระนามและรายนามดังต่อไปนี้
รายพระนามและรายนามผู้นำ พระราชวงศ์ และผู้แทนต่างประเทศที่ร่วมพระราชพิธีพระบรมศพ | |||
---|---|---|---|
ประเทศ | ตำแหน่ง | พระนามหรือชื่อ | วัน |
ภูฏาน | สมเด็จพระราชาธิบดี | สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก | 16 ตุลาคม พ.ศ. 2559[51] |
สมเด็จพระราชินี | สมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก | ||
บาห์เรน | นายกรัฐมนตรี | เคาะลีฟะฮ์ บิน ซัลมาน อัลเคาะลีฟะฮ์ | 18 ตุลาคม พ.ศ. 2559[52] |
สิงคโปร์ | นายกรัฐมนตรี | ลี เซียนลุง | 21 ตุลาคม พ.ศ. 2559[53] |
มัลดีฟส์ | ผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดี | โมฮัมเหม็ด ซาอิด (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาเศรษฐกิจ) | 21 ตุลาคม พ.ศ. 2559[54] |
มาเลเซีย | นายกรัฐมนตรี | นาจิบ ราซะก์ | 22 ตุลาคม พ.ศ. 2559[55] |
กัมพูชา | นายกรัฐมนตรี | สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน | 22 ตุลาคม พ.ศ. 2559[56] |
รองนายกรัฐมนตรี | เตีย บัญ | ||
จีน | ผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดี | หลี่ หยวนเฉา (รองประธานาธิบดี) | 22 ตุลาคม พ.ศ. 2559[57] |
ลาว | นายกรัฐมนตรี | ทองลุน สีสุลิด | 24 ตุลาคม พ.ศ. 2559[58] |
สิงคโปร์ | ประธานาธิบดี | โทนี ตัน เค็ง ยัม | 24 ตุลาคม พ.ศ. 2559[59] |
อินโดนีเซีย | ประธานาธิบดี | โจโก วีโดโด | 25 ตุลาคม พ.ศ. 2559[60] |
แกมเบีย | ผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดี | บาลา การ์บา จาฮุมปา (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โยธาธิการ และการสื่อสาร) |
25 ตุลาคม พ.ศ. 2559[61] |
เวียดนาม | นายกรัฐมนตรี | เหงียน ซวน ฟุก | 28 ตุลาคม พ.ศ. 2559[62] |
ศรีลังกา | ประธานาธิบดี | ไมตรีพาลา สิริเสนา | 30 ตุลาคม พ.ศ. 2559[63] |
เลโซโท | สมเด็จพระราชาธิบดี | สมเด็จพระราชาธิบดีเลตซีที่ 3 แห่งเลโซโท | 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559[64] |
พม่า | ประธานาธิบดี | ถิ่น จอ | 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559[65] |
ฟิลิปปินส์ | ประธานาธิบดี | โรดรีโก ดูแตร์เต | 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559[66] |
เบลเยียม | ผู้แทนพระองค์สมเด็จพระราชาธิบดี | นิโคลัส นิอง (อุปทูตสถานเอกอัครราชทูตเบลเยียมประจำประเทศไทย) | 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559[67] |
อินเดีย | นายกรัฐมนตรี | นเรนทระ โมที | 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559[68] |
บังกลาเทศ | ผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดี | เบกุม ตารานา ฮาลิม (รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงไปรษณีย์ โทรคมนาคม และเทคโนโลยีสารสนเทศ) | 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559[69] |
ตองงา | มกุฎราชกุมาร | เจ้าชายตูโปอูโตอา อูลูกาลาลา | 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559[70] |
ติมอร์-เลสเต | ผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดี | แอร์นานี ฟีโลเมนา โกเอลยา ดา ซิลวา (นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือสาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต) | 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559[71] |
รัสเซีย | ผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดี | อันเดรย์ คลีซัส (ประธานคณะกรรมาธิการกฎหมายรัฐธรรมนูญแห่งรัฐสภาสหพันธรัฐรัสเซีย) | 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559[72] |
ภูฏาน | สมเด็จพระอัยยิกา | สมเด็จพระราชินีเกซัง โชเดน | 20 ธันวาคม พ.ศ. 2559[73] |
สมเด็จพระปิตุฉา | สมเด็จพระปิตุฉาเปมา ลา-ดน วังชุก | ||
ญี่ปุ่น | สมเด็จพระจักรพรรดิ | สมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ | 5 มีนาคม พ.ศ. 2560[74] |
สมเด็จพระจักรพรรดินี | สมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ | ||
บาห์เรน | สมเด็จพระราชาธิบดี | สมเด็จพระราชาธิบดีฮะมัด บิน อีซา อัลเคาะลีฟะฮ์ | 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2560[75] |
เนปาล | ประธานาธิบดี | พิทยา เทวี ภัณทารี | 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2560[76] |
ลิทัวเนีย | ประธานาธิบดี | ดาเลีย กรีบาวสเคท | 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2560[77] |
ชิลี | ผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดี | เอดูอาร์โด เฟรย์-รูอิซ ตาเกล (อดีตประธานาธิบดีและผู้แทนพิเศษสำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก) | 1 มิถุนายน พ.ศ. 2560[78] |
นิวซีแลนด์ | ผู้แทนผู้แทนพิเศษของรัฐบาล | ทอดด์ แมกเคลย์ (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้า และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ) | 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 [79] |
ออสเตรเลีย | ผู้แทนผู้แทนพิเศษของนายกรัฐมนตรี | จูลี บิชอป (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ) | 3 สิงหาคม พ.ศ. 2560 [80] |
ฮ่องกง | ผู้บริหารสูงสุด | แคร์รี หล่ำ | 4 สิงหาคม พ.ศ. 2560 [81] |
สหรัฐ | รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ | เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน | 8 สิงหาคม พ.ศ. 2560[82] |
ตองงา | สมเด็จพระราชาธิบดี | สมเด็จพระราชาธิบดีตูโปอูที่ 6 | 27 กันยายน พ.ศ. 2560[83] |
สมเด็จพระราชินี | สมเด็จพระราชินีนานาซีเปาอู ตูกูอาโฮ | ||
ภูฏาน | สมเด็จพระบรมราชชนนี | สมเด็จพระราชชนนีเชอริง ยังดน วังชุก | 6 ตุลาคม พ.ศ. 2560[84] |
สมเด็จพระราชชนนี | สมเด็จพระราชชนนีซังเก โชเดน วังชุก |
พระราชพิธีถวายน้ำสรงพระบรมศพ
วันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 17.00 นาฬิกาโดยประมาณ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ครั้งยังเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินยังพระที่นั่งพิมานรัตยา ในพระบรมมหาราชวังในการถวายสรงน้ำพระบรมศพ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จเข้าสู่ภายในพระฉาก ซึ่งพระบรมศพบรรทมอยู่บนพระแท่น
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสำหรับพระบรมศพบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยราชสักการะพระบรมศพ ทรงรับขวดน้ำพระสุคนธ์ โถน้ำอบไทยและโถน้ำขมิ้น ถวายสรงที่พระบาทพระบรมศพ ต่อจากนั้น ทรงหวีเส้นพระเจ้าพระบรมศพขึ้นครั้งหนึ่ง หวีลงอีกครั้งหนึ่ง แล้วหวีขึ้นอีกครั้งหนึ่ง แล้วทรงหักพระสางนั้นวางไว้ในพานซึ่งเจ้าพนักงานเชิญอยู่ จากนั้นเสด็จฯ ไปทรงถวายซองพระศรีบรรจุดอกบัวและธูปเทียน แผ่นทองคำจำหลักลายปิดพระพักตร์ พระชฎาห้ายอดวางข้างพระเศียรพระบรมศพ
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพนักงานเชิญพระบรมศพลงสู่หีบ ทหารราชวัลลภรักษาพระองค์เชิญหีบพระบรมศพไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมารและพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จพระราชดำเนินและเสด็จตาม ตำรวจหลวงเชิญหีบพระบรมศพขึ้นประดิษฐานเหนือพระแท่นแว่นฟ้าเบื้องหลังพระฉากและพระแท่นสุวรรณเบญจดล ประกอบพระลองทองใหญ่ ภายใต้นพปฎลเศวตฉัตร แวดล้อมด้วยเครื่องสูงหักทองขวาง บังแทรก ชุมสาย ต้นไม้ทองเงิน ณ มุขตะวันตก พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
เสร็จแล้ว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงวางพวงมาลาที่หน้าพระโกศพระบรมศพ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยและเครื่องราชสักการะพระบรมศพ ทรงกราบ แล้วทรงจุดเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวารที่หน้าพระแท่นมหาเศวตฉัตร ทรงกราบ เจ้าพนักงานนิมนต์พระสงฆ์เที่ยวละ 10 รูป ทรงทอดผ้าไตรเที่ยวละ 10 ไตร พระสงฆ์สดับปกรณ์ เมื่อครบ 100 รูป ทรงหลั่งทักษิโณทก ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมารเสด็จพระราชดำเนินไปที่หน้าพระโกศพระบรมศพ ทรงกราบ และเสด็จพระราชดำเนินไปที่หน้าพระพุทธรูปประจำพระชนมวารที่ประดิษฐานอยู่บนพระแท่นมหาเศวตฉัตร ทรงกราบ จากนั้นทรงจุดธูปเทียนเครื่องบูชากระบะมุกที่หน้าพระแท่นเตียงพระสวดพระอภิธรรม ณ มุขหน้าพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท จากนั้น เสด็จลงบันไดมุขกระสันด้านทิศเหนือพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ
ในขณะพระราชพิธีถวายน้ำสรงพระบรมศพ ชาวพนักงานประโคมกระทั่งมโหระทึก สังข์ แตรงอน แตรฝรั่ง ปี่ไฉน กลองชนะ ทหารกองเกียรติยศสำหรับพระบรมศพถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทหารปืนใหญ่ยิงสลุตถวายพระเกียรตินาทีละ 1 นัดจนกระทั่งพระบรมศพประดิษฐานที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทจึงหยุดยิง
การบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพฯ
หมายกำหนดการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพฯ
สำนักพระราชวัง กำหนดการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ถวายพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ดังนี้[85]
พระราชพิธี | ระยะเวลา | วันที่ |
---|---|---|
พระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสัตตมวาร | 7 วัน | 19 – 20 ตุลาคม พ.ศ. 2559 |
พระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัณรสมวาร | 15 วัน | 27 – 28 ตุลาคม พ.ศ. 2559 |
พระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัญญาสมวาร | 50 วัน | 1 – 2 ธันวาคม พ.ศ. 2559 |
พระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสตมวาร | 100 วัน | 20 – 21 มกราคม พ.ศ. 2560 |
พระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลครบรอบ 1 ปี วันสวรรคต | 365 วัน | 13 – 14 ตุลาคม พ.ศ. 2560 |
พิธีถวายเลี้ยงภัตตาหารเช้าและเพลแด่พระพิธีธรรม
ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2559 พระบรมวงศานุวงศ์เสด็จฯ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพฯ ในการถวายภัตตาหารเช้าและเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ ระหว่างการพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระศพ ครบทั้ง 100 วัน ถึง วันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2560 ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เวลา 7 นาฬิกา และเวลา 11 นาฬิกา
พระพิธีธรรมพิธีสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ
ตั้งแต่คืนวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2559 พระบรมวงศานุวงศ์เสด็จฯ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพฯ ในการพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพตลอด 100 วัน ถึงวันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2560 ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ในเวลา 15 นาฬิกา เวลา 19 นาฬิกา และเวลา 21 นาฬิกา
การบำเพ็ญกุศลพิธีกงเต็กถวายพระบรมศพ
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้คณะสงฆ์จีนนิกาย คณะสงฆ์อนัมนิกาย นายกองเอก[86] เจริญ สิริวัฒนภักดี และ คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี พร้อมครอบครัวสิริวัฒนภักดี สมาคมนักธุรกิจสัมพันธ์แห่งประเทศไทย และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลพิธีกงเต็ก ถวายพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2560 วันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2560 วันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 และวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2560 ตามลำดับ[87]
การให้หน่วยงานหรือบุคคลต่าง ๆ ร่วมเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรม
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ราชสกุล องคมนตรี คณะรัฐมนตรี กระทรวง ทบวง กรม องค์กรอิสระ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ร่วมเป็นเจ้าภาพในการบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ หลังจากการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัญญาสมวาร (50 วัน)
หีบพระบรมศพ
นายพรเทพ สุริยา เจ้าของร้านสุริยาหีบศพ กล่าวว่า สำนักพระราชวังได้ติดต่อให้จัดสร้างหีบพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยสร้างหีบพระบรมศพทรงหลุยส์ผสมทองคำแท้ 100% จากแผ่นไม้สักทองอายุมากกว่า 100 ปีขนาดใหญ่เพียงแผ่นเดียวไม่มีรอยต่อ ขนาดความกว้าง 29 นิ้ว ความยาว 2.15 เมตร วัดรอบหีบทั้งใบ 229 นิ้ว ทั้งนี้ใช้เวลาประกอบทันทีหลังการเสด็จสวรรคต เจ้าของร้านสุริยาหีบศพ กล่าวเพิ่มเติมว่า หีบพระบรมศพดังกล่าวแกะสลักลายกุหลาบไทยผสมผสานลายหลุยส์ รอบหีบปิดด้วยทองคำแท้ ภายในหีบพระบรมศพ ใช้ผ้าไหมสีงาช้าง มีที่รองที่บรรทม และซีลภายในเพื่อความแข็งแรง ส่วนผ้าคลุมเป็นผ้าไหมปักดิ้นทอง ซึ่งทางสุริยาเป็นผู้ออกแบบเองทั้งหมด[88]
การประโคมย่ำยาม
ในการประโคมงานพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีหน่วยงานเข้าร่วมประโคม วงประโคมของงานเครื่องสูง สำนักพระราชวัง (วงแตรสังข์และวงปี่ไฉนกลองชนะและกลองมโหรทึก) และวงปี่พาทย์นางหงส์ ของกลุ่มดุริยางค์ไทย สำนักการสังคีต กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม
นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ
นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ใช้ชื่อว่า "เย็นศิระ เพราะพระบริบาล" จัดขึ้น ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 โดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จไปทรงเปิดนิทรรศการด้วยพระองค์เอง ภายในนิทรรศการมีการจัดนิทรรศการทั้งหมด 5 โซน ได้แก่ โซนที่ 1 บุญของแผ่นดินไทย โซนที่ 2 พระราชาผู้ทรงธรรม (ทำ) โซนที่ 3 กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ โซนที่ 4 พระมิ่งขวัญชาวไทย และโซนที่ 5 ร้อยใจไทย นอกจากนั้นในบริเวณจัดแสดงนิทรรศการยังมีการจัดแสดงพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิตด้วย[89]
ต่อมาเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เจ้าหน้าที่กองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง ได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่กำลังรอคิวเข้าสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชว่า นิทรรศการนี้จะเปิดให้เข้าชมในวันที่ 15 พฤษภาคม เป็นวันสุดท้าย และวันที่ 16 พฤษภาคม จะให้คณะรัฐมนตรีเข้าชมอีกครั้งก่อนจะปิดนิทรรศการ
โดยสาเหตุที่ต้องปิดนิทรรศการเร็วขึ้นเนื่องจากกรมศิลปากรกังวลเรื่องการก่อสร้างพระเมรุมาศ ถ้าต้องปิดตามกำหนดเดิมวันที่ 15 มิถุนายน แล้วค่อยส่งคืนพื้นที่จะทำให้งานล่าช้าหรืออาจเสร็จไม่ทัน เพราะขณะนี้เริ่มจะเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว และยังต้องใช้เวลารื้อถอนประมาณ 15 วัน ซึ่งงานก่อสร้างพระเมรุมาศเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเป็นลำดับแรก จึงจำเป็นต้องปิดการเข้าชมให้เร็วกว่าที่กำหนดไว้ 1 เดือน ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีประชาชนเข้าชมแล้วประมาณ 4 แสนคน สำหรับที่ตั้งนิทรรศการเย็นศิระฯ แห่งใหม่ยังไม่ได้กำหนด แต่จะเก็บรักษาอุปกรณ์และเครื่องมือที่ไว้จัดแสดงไว้ก่อน ถ้าได้สถานที่ที่เหมาะสม ก็จะนำกลับไปติดตั้งตามเดิม[90]
และภายหลังจากที่รัฐบาลได้จัดนิทรรศการนี้บริเวณท้องสนามหลวง ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ เป็นต้นมา เพื่อเฉลิมพระเกียรติสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติ และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ล่าสุดมีจำนวนผู้เข้าชม 395,050 คน ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมาย และหลังจากนี้กรมศิลปากรจะใช้พื้นที่ภายในท้องสนามหลวงเป็นเส้นทางขนส่งวัสดุอุปกรณ์ เพื่อเร่งก่อสร้างพระเมรุมาศพร้อมสิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศให้แล้วเสร็จตามกำหนด รัฐบาลจึงได้ปิดให้เข้าชมนิทรรศการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยมีการจัดทำนิทรรศการในรูปแบบเสมือนจริง ผ่านทางเว็บไซต์ เย็นศิระ เก็บถาวร 2017-09-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน เพื่อจำลองบรรยากาศของนิทรรศการที่จัดแสดง ณ ท้องสนามหลวง รวมทั้งผู้เข้าชมและประมวลภาพกิจกรรมต่าง ๆ จนถึงงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ให้ประชาชนได้เข้าชมและเรียนรู้เรื่องราวของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยได้ทุกที่ ทุกเวลา รวมทั้งเก็บบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ให้แก่คนรุ่นหลังได้ศึกษาต่อไป[91]
พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ
พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นพระราชพิธีที่รัฐบาลไทยจัดเพื่อถวายความอาลัยเป็นครั้งสุดท้ายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยรัฐบาลกำหนดวันพระราชพิธีระหว่างวันที่ 25-29 ตุลาคม พ.ศ. 2560 และได้ประกาศให้วันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2560 ซึ่งเป็นวันถวายพระเพลิงพระบรมศพ เป็นวันหยุดราชการเป็นกรณีพิเศษ[92]
สำหรับการดำเนินการพระราชพิธีฯ นั้น คณะทำงานทุกฝ่ายได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง มีการสร้างพระเมรุมาศและอาคารประกอบ เช่น พระที่นั่งทรงธรรม ศาลาลูกขุน เป็นต้น ส่วนการบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถ ราชยาน รวมทั้งประติมากรรมประกอบพระเมรุมาศในพระราชพิธีครั้งนี้ได้มีการปรับปรุงให้มีความร่วมสมัย[93] คาดการณ์ว่าการจัดสร้างพระเมรุมาศจะแล้วเสร็จประมาณเดือนกันยายน พ.ศ. 2560[94] โดยมีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงเป็นองค์วินิจฉัยในการจัดสร้างพระเมรุมาศ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานอำนวยการพระราชพิธี[95] และเครื่องประกอบพระราชพิธีนั้น ได้มีการซ่อมแซมพระมหาพิชัยราชรถ พระยานมาศสามลำคาน ราชรถน้อย พระที่นั่งราเชนทรยาน และพระวอสีวิกากาญจน์ เพื่อพร้อมใช้ในพิธีจริง นอกจากนี้ยังมีการจัดสร้างราชรถ ราชยานขึ้นมาใหม่ คือ ราชรถปืนใหญ่และพระที่นั่งราเชนทรยานน้อย[96] ซึ่งราชรถ ราชยาน และเครื่องประกอบเหล่านี้ได้ใช้ในการซ้อมย่อยเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม และ 15 ตุลาคม รวมถึงการการซ้อมใหญ่ในวันที่ 21 ตุลาคม
คณะรัฐมนตรีได้กำหนดการพระราชพิธีถวายเพลิงพระบรมศพ โดยมีพระราชพิธีสำคัญ ได้แก่ พระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลออกพระเมรุ ในวันที่ 25 ตุลาคม, พระราชพิธีเชิญพระบรมโกศออกพระเมรุมาศ และถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในวันที่ 26 ตุลาคม ซึ่งคณะรัฐมนตรีกำหนดให้เป็นวันหยุดราชการเป็นกรณีพิเศษด้วย, พระราชพิธีเก็บพระบรมอัฐิและเชิญพระบรมอัฐิและพระบรมราชสรีรางคารกลับเข้าสู่พระบรมมหาราชวัง ในวันที่ 27 ตุลาคม, พระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมอัฐิ ในวันที่ 28 ตุลาคม, พระราชพิธีเลี้ยงพระ และเชิญพระบรมอัฐิขึ้นประดิษฐาน ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท และพระราชพิธีบรรจุพระบรมราชสรีรางคาร ในวันที่ 29 ตุลาคม[97]
วันพุธที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 15:01 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลออกพระเมรุ
วันพฤหัสบดีที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 07:24 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพระราชพิธีเชิญพระบรมโกศออกพระเมรุมาศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง โดยพระราชาคณะ 30 รูป สดับปกรณ์ก่อนเชิญพระบรมโกศลงจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท โปรดเกล้า ฯ ให้เปลื้องพระลองทองใหญ่ประกอบพระบรมโกศออก และอัญเชิญพระบรมโกศไปประดิษฐานที่พระยานมาศสามลำคาน
หลังจากนั้น ริ้วขบวนที่ 1 จะอัญเชิญพระบรมโกศ โดยพระยานมาศสามลำคาน จากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง ไปยังพระมหาพิชัยราชรถที่รออยู่ที่บริเวณหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เส้นทางจากประตูศรีสุนทร ประตูเทวาภิรมย์ ถนนมหาราช ถนนท้ายวังและถนนสนามไชย
จากนั้น ริ้วขบวนที่ 2 จะอัญเชิญพระบรมโกศโดยพระมหาพิชัยราชรถจากหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ไปยังพระเมรุมาศ ท้องสนามหลวง เส้นทางจากหน้าวัดพระเชตุพนฯ ถนนสนามไชย ถนนราชดำเนิน เข้าถนนกลาง ท้องสนามหลวง
ต่อด้วย ริ้วขบวนที่ 3 เชิญพระบรมโกศโดยราชรถปืนใหญ่ เวียนรอบพระเมรุมาศโดยอุตราวัฎ (เวียนซ้าย) 3 รอบ แล้วอัญเชิญพระบรมโกศขึ้นประดิษฐานบนพระเมรุมาศ
เวลา 17:15 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปยังพระเมรุมาศ ท้องสนามหลวงในการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ[98] และในเวลา 22:30 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นพระเมรุมาศ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ในการถวายพระเพลิงพระบรมศพ (จริง)[99]
วันศุกร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2560 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปยังพระเมรุมาศ ท้องสนามหลวงในการพระราชพิธีเก็บพระบรมอัฐิและอัญเชิญพระบรมอัฐิและพระบรมราชสรีรางคารกลับสู่พระบรมมหาราชวัง
โดยริ้วขบวนที่ 4 อัญเชิญพระโกศพระบรมอัฐิโดยพระที่นั่งราเชนทรยานและอัญเชิญพระบรมราชสรีรางคารโดยพระที่นั่งราเชนทรยานน้อย จากพระเมรุมาศ ท้องสนามหลวง ไปยังพระบรมมหาราชวัง เส้นทางจากถนนกลางท้องสนามหลวง ออกถนนราชดำเนินใน เลี้ยวขวาเข้าถนนหน้าพระลาน เข้าสู่พระบรมมหาราชวัง และแยกเป็น 2 สาย โดยสายพระที่นั่งราเชนทรยานจะอัญเชิญพระบรมอัฐิไปประดิษฐานไว้ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท และสายพระที่นั่งราเชนทรยานน้อย อัญเชิญพระบรมราชสรีรางคารไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และประดิษฐานพักไว้ในพระศรีรัตนเจดีย์[100]
วันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 17:32 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมอัฐิ[101]
วันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 10:43 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ในการพระราชพิธีพระราชพิธีเลี้ยงพระและเชิญพระบรมอัฐิประดิษฐาน ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท โดยริ้วขบวนที่ 5[102] และในเวลา 17:28 น. เสด็จพระราชดำเนินไปยังวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามและวัดบวรนิเวศวิหาร โดยริ้วขบวนที่ 6 ในการพระราชพิธีบรรจุพระบรมราชสรีรางคาร[103]
ของที่ระลึกเนื่องในพระราชพิธีพระบรมศพ
หนังสือที่ระลึกงานพระบรมศพ
หนังสือพระราชทาน
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมารทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สำนักราชเลขาธิการจัดพิมพ์หนังสือพระราชทาน สำหรับพระราชทานแก่พระบรมวงศานุวงศ์ พระราชวงศ์ องคมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ และผู้ที่เข้าร่วมในการพระราชพิธีเป็นที่ระลึกอนุสรณ์วิทยาทาน เนื่องในโอกาสพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ครบ 7 วัน 15 วัน 50 วัน และ 100 วัน[104][105][106]
หนังสือที่จัดทำโดยรัฐบาล
ทางรัฐบาลและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ รวมถึงหน่วยงาน องค์กรในพระบรมราชูปถัมภ์ได้ร่วมกันจัดทำหนังสือเพื่อเทิดพระเกียรติเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ในวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2560 คณะกรรมการฝ่ายจัดทำหนังสือที่ระลึกและจดหมายเหตุงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้เห็นชอบให้จัดทำหนังสือจดหมายเหตุและหนังสือที่ระลึกงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพจำนวน 11 รายการ ดังนี้[107]
- หนังสือจดหมายเหตุงานพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร
- หนังสือจดหมายเหตุงานพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ฉบับประชาชน
- หนังสือจดหมายเหตุงานพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จากหนังสือพิมพ์ ฉบับสื่อมวลชน
- หนังสือจดหมายเหตุและซีดีบทเพลงแสดงความอาลัยแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
- หนังสือจดหมายเหตุกานท์กวีคีตการปวงประชา น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
จดหมายเหตุทั้ง 4 เล่มนี้จัดพิมพ์โดย กระทรวงวัฒนธรรม และสำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร
- หนังสือพระเมรุมาศสมัยรัตนโกสินทร์และพระเมรุ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช' 'จัดพิมพ์โดย กระทรวงวัฒนธรรม สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และสำนักสถาปัตยกรรม กรมศิลปากร
- หนังสือนวมินทราศิรวาทราชสดุดี ร้อยกรองเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
- หนังสือพระราชพิธีในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร
- หนังสือพระมหากรุณาธิคุณและพระอัจฉริยภาพในงานด้านศาสนาและศิลปวัฒนธรรม
- หนังสือศาสตร์ของพระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน
หนังสือทั้ง 4 เล่มนี้จัดพิมพ์โดย กระทรวงวัฒนธรรม และสำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร
- หนังสือเครื่องประกอบพระราชอิสริยยศงานพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชจัดพิมพ์โดย กระทรวงวัฒนธรรม และสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร
สิ่งเทิดพระเกียรติอื่น ๆ
สปริงกรุ๊ป ได้จัดทำสมุดภาพเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ชุดสรรเสริญพระบารมี จำนวน 2 เล่ม เล่มแรกมีตอนเดียวคือ "นพพระภูมิบาล" ส่วนเล่มที่ 2 มี 4 ตอน คือ "เอกบรมจักริน" "พระสยามินทร์" "พระยศยิ่งยง" ซึ่งในสมุดภาพทั้งสองเล่มรวมสี่ตอนนี้จะเป็นการถ่ายทอดพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และตอนพิเศษ "ยงยศยงศักดา มหาวชิราลงกรณ" ซึ่งเป็นการถ่ายทอดพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รวมถึงยังได้รวบรวมเพลงสรรเสริญพระบารมีจำนวน 9 รูปแบบ มาไว้ในสมุดภาพเล่มที่ 2 ด้วย โดยผ่านการคัดสรรจากหน่วยงาน องค์กร และบุคคลที่มีความเชื่อมโยงกับพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชแล้ว[108][109]
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- ↑ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดวันสำคัญของชาติไทย (วันที่ ๒๘ กรกฎาคม และวันที่ ๑๓ ตุลาคม)
- ↑ "ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดเวลาทำงานและวันหยุดราชการ (ฉบับที่ ๒๓) พ.ศ. ๒๕๖๐" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2017-05-16. สืบค้นเมื่อ 2017-07-24.
- ↑ โปรดเกล้าฯ กำหนดวันถวายพระเพลิงพระบรมศพ 26 ตุลาคม 2560[ลิงก์เสีย]
- ↑ ครม.ให้ 26ต.ค.60 หยุดราชการ เพื่อ ปชช.ร่วมถวายพระเพลิงพระบรมศพ ร.9
- ↑ ""ในหลวง"เสด็จ"รพ.ศิริราช" แพทย์ถวายตรวจพระอาการ". เดลินิวส์. 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2558. สืบค้นเมื่อ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2558.
{{cite news}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|date=
(help) - ↑ "แถลงการณ์พระอาการ "ในหลวง" ฉบับที่ 36". มติชน. 1 ตุลาคม 2559. สืบค้นเมื่อ 13 ตุลาคม 2559.
{{cite news}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "แถลงฉบับที่ 37-พระอาการ "ในหลวง" คณะแพทย์เฝ้าติดตามถวายการรักษาใกล้ชิด". ข่าวสด. 10 ตุลาคม 2559. สืบค้นเมื่อ 13 ตุลาคม 2559.
{{cite news}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "แถลงการณ์ ฉ.38 ในหลวงพระโลหิตติดเชื้อ พระอาการไม่คงที่ ถวายรักษาใกล้ชิด". ไทยรัฐ. 12 ตุลาคม 2559. สืบค้นเมื่อ 13 ตุลาคม 2559.
{{cite news}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "พระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จฯ รพ.ศิริราช". ไทยรัฐ. 12 ตุลาคม 2559. สืบค้นเมื่อ 13 ตุลาคม 2559.
{{cite news}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "พสกนิกรทยอย"ศิริราช"ร่วมสวดมนต์ถวายพระพร". โพสต์ทูเดย์. 13 ตุลาคม 2559. สืบค้นเมื่อ 5 พฤษภาคม 2560.
{{cite news}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "คนไทยถวายพระพรในหลวงผ่านโซเชียลฯ". วอยซ์ทีวี. 13 ตุลาคม 2559. สืบค้นเมื่อ 5 พฤษภาคม 2560.
{{cite news}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help)[ลิงก์เสีย] - ↑ "พระบรมวงศานุวงศ์เสด็จศิริราชครบทุกพระองค์ พสกนิกรเปล่งเสียง"ทรงพระเจริญ"". ข่าวสด. 13 ตุลาคม 2559. สืบค้นเมื่อ 5 พฤษภาคม 2560.
{{cite news}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ คลิปหลุด หมอนิพนธ์ เล่าวันสุดท้ายแห่งพระชนชีพ ร.9
- ↑ ที่ ศธ 0517.07/17489 เรื่อง ขอยกเลิกสัญญาจ้างผู้มีความรู้ความสามารถพิเศษเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย. ฝ่ายทรัพยากรบุคคล สำนักงานคณบดี คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ลงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2559
- ↑ พระบรมฯ อัญเชิญ พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ
- ↑ พสกนิกรนับหมื่นร่วมถวายน้ำสรงพระบรมศพ ปลายแถวยาวถึงเชิงสะพานปิ่นเกล้า
- ↑ "ประกาศ การถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2016-10-18. สืบค้นเมื่อ 2016-10-14.
- ↑ สำนักพระราชวัง ให้เข้าถวายสักการะ “พระบรมศพ” บนพระที่นั่งดุสิตเริ่ม 29 ต.ค. ตั้งแต่ 08.00–21.00 น.
- ↑ โปรดเกล้าฯ เลื่อนกำหนดวันสุดท้าย กราบถวายบังคมพระบรมศพ 'ร.9' ถึง 5 ต.ค. 60
- ↑ "สำนักพระราชวังแจ้งงดสักการะพระบรมศพ 1-2 ธ.ค. และ 5-6 ธ.ค.พระราชพิธีทักษิณานุปทาน ร.9". มติชน. 22 พฤศจิกายน 2559. สืบค้นเมื่อ 23 กรกฎาคม 2560.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "งดถวายสักการะพระบรมศพ 'ร.9' ในวันขึ้นปีใหม่". กรุงเทพธุรกิจ. 20 ธันวาคม 2559. สืบค้นเมื่อ 23 กรกฎาคม 2560.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "งดเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ 20-21 ม.ค." โพสต์ทูเดย์. 6 มกราคม 2560. สืบค้นเมื่อ 23 กรกฎาคม 2560.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ สำนักพระราชวังสรุปยอดประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพฯ รวม 12.7 ล้านคน
- ↑ นายกฯ แถลงเรื่องในหลวง"เสด็จสวรรคตวันที่ 13 ต.ค.59
- ↑ "ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสวรรคต". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-10-17. สืบค้นเมื่อ 2016-10-14.
- ↑ ลดธงครึ่งเสา หยุดราชการ 26 ต.ค.วันเดียว งดรายการบันเทิงตลอดเดือน
- ↑ "ประกาศสำนักจุฬาฯ มุสลิมแต่งดำไว้ทุกข์ผิดหลักอิสลาม". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-11-02. สืบค้นเมื่อ 2017-09-28.
- ↑ กำหนดการและการแต่งกาย วันที่ 12 สิงหาคม 2560 เนื่องในวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9[ลิงก์เสีย]
- ↑ รัฐบาลประกาศขอความร่วมมือ สถานประกอบการ-สถานบันเทิง งดกิจกรรมรื่นเริง
- ↑ ครม.อนุมัติ14ตค.เป็นวันหยุดราชการ-งดจัดงานรื่นเริงมหรสพ 1 เดือน
- ↑ "หัวใจสลาย...โลกออนไลน์กลายเป็นสีดำ". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-10-17. สืบค้นเมื่อ 2016-10-15.
- ↑ "Facebook ประกาศ งดลงโฆษณาในไทยชั่วคราว". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-10-17. สืบค้นเมื่อ 2016-10-15.
- ↑ "Google ร่วมถวายความอาลัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-10-17. สืบค้นเมื่อ 2016-10-15.
- ↑ "คนบันเทิงน้อมถวายความอาลัย"พ่อหลวง"เสด็จสู่สวรรคาลัย". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-10-16. สืบค้นเมื่อ 2016-10-15.
- ↑ ความเปลี่ยนแปลงของโซเชียลมีเดียในไทย ต่อกรณีสวรรคต
- ↑ สองศิลปินจากแดนปลาดิบส่งคลิปถวายความอาลัยแด่ในหลวงรัชกาลที่๙ พร้อมให้กำลังใจคนไทย
- ↑ 'ไก่อู' แจง รบ.ขอความร่วมมือทีวีงดรายการปกติ เป็นเวลา 30วัน ตลอด 24ชม.
- ↑ กสทช.แจ้ง 'วิทยุทีวี' งดรายการบันเทิง30วัน
- ↑ กสท.สรุปข้อปฏิบัติรายการทีวีใน 30 วันห้ามฉายเนื้อหาสร้างความแตกแยก
- ↑ "กสทช." แจงเกณฑ์ออกทีวีหลังครบ100วันในหลวงร.9ทุกช่องยังต้องเชื่อมสัญญาณจากทรท.อย่างเคร่งครัด
- ↑ 'หมีเซียะ' เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ รัชกาลที่ 9
- ↑ นักแสดงซีรีส์ "พระพุทธเจ้า" เดินทางมาร่วมสักการะพระบรมศพ
- ↑ "Media Brand - jrnen". jrnen.co.th.
- ↑ [1] [2] [ชาวจีนในประเทศไทยร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีเป็นภาษาจีน ถวายอาลัย 100 วัน เสด็จสวรรค]
- ↑ Ultra-Royalists Guilt-Shame People Who Don’t Wear Mourning Black
- ↑ [www.komchadluek.net/news/politic/246179 นายกฯ เชื่อคนไทยรักในหลวง แม้ไม่มีเสื้อดำใส่ทุกวัน]
- ↑ รัฐบาล แนะ ติดริบบิ้นดำทดแทนชุดขาว-ดำได้ ขอสังคมอย่าจับผิด[ลิงก์เสีย]
- ↑ ชาวภูเก็ตฮือล้อมบ้านลูกชายร้านเต้าหู้กลางดึก อ้างโพสต์FBจาบจ้วง-แจ้งความม.112แล้ว
- ↑ ฝูงชนพังงาปิดล้อมร้านโรตีไล่ล่าผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าโพสต์หมิ่น
- ↑ https://www.matichon.co.th/politics/news_1096884
- ↑ "Bhutanese royals pay respects to King". Bangkok Post. 2016-10-16. สืบค้นเมื่อ 2016-10-18.
- ↑ "Bahraini PM pays respects to late king". Bangkok Post. 2016-10-19. สืบค้นเมื่อ 2016-10-22.
- ↑ "PM Lee Hsien Loong pays respects to late Thai King Bhumibol Adulyadej in Bangkok". Straits Times. 2016-10-21. สืบค้นเมื่อ 2016-10-22.
- ↑ "Special Envoy of the President departs to Thailand to pay respect to the Late King". The President Office. 2016-10-20. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-10-29. สืบค้นเมื่อ 2016-10-22.
- ↑ "Death of King Bhumibol felt by all in Southeast Asia, says Najib". New Straits Times. 2016-10-22. สืบค้นเมื่อ 2016-10-22.
- ↑ "นายกฯ กัมพูชาถวายสักการะพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9". Dailynews. 2016-10-22. สืบค้นเมื่อ 2016-10-22.
- ↑ "Special envoy of Chinese president pays respects to late Thai King". Global Times. 2016-10-23. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-09-23. สืบค้นเมื่อ 2016-10-24.
- ↑ "ปธน.สิงคโปร์-นายกฯ ลาว วางพวงมาลาถวายสักการะพระบรมศพ". The Straits Times. 2016-10-24. สืบค้นเมื่อ 2016-11-2.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "President Tony Tan pays respects to late Thai King Bhumibol Adulyadej in Bangkok". The Straits Times. 2016-10-24. สืบค้นเมื่อ 2016-10-25.
- ↑ "Jokowi pays respects to King". Bangkok Post. 2016-10-25. สืบค้นเมื่อ 2016-10-25.
- ↑ "ผู้นำต่างประเทศวางพวงมาลาถวายสักการะพระบรมศพ". The Government Public Relations Department. 2016-10-26. สืบค้นเมื่อ 2016-10-27.
- ↑ "Viet Nam pays homage to Thai King". Viet Nam News. 2016-10-29. สืบค้นเมื่อ 2016-11-2.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "President pays last respects to the late king of Thailand". The Official website of the President. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-11-04. สืบค้นเมื่อ 2016-11-2.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "กษัตริย์เลโซโท เสด็จฯ มาถวายราชสักการะพระบรมศพ". Komchadluek. 2016-11-2. สืบค้นเมื่อ 2016-11-2.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|date=
(help) - ↑ "ผู้นำหลายประเทศวางพวงมาลาถวายสักการะพระบรมศพ". Matichon. 2016-11-9. สืบค้นเมื่อ 2016-11-9.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|date=
(help) - ↑ "Duterte pays respects to King". Bangkok Post. 2016-11-9. สืบค้นเมื่อ 2016-11-9.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|date=
(help) - ↑ "สมเด็จพระราชาธิบดีฟีลิป และสมเด็จพระราชินีมาทิลเดอ แห่งราชอาณาจักรเบลเยียม ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นาย Nicholas Nihon อุปทูต ณ สถานเอกอัครราชทูตเบลเยียม ประจำประเทศไทย ผู้แทนพระองค์ วางพวงมาลาถวายสักการะพระบรมศพฯ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช". The Government Public Relations Department. 2016-11-9. สืบค้นเมื่อ 2016-11-17.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|date=
(help)[ลิงก์เสีย] - ↑ "PM Narendra Modi Makes Stopover In Thailand To Pay Respects To Late King". NDTV. 2016-11-10. สืบค้นเมื่อ 2016-11-10.
- ↑ "รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงไปรษณีย์ โทรคมนาคม และเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ วางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช". The Government Public Relations Department. 2016-11-16. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-11-23. สืบค้นเมื่อ 2016-11-16.
- ↑ "มกุฎราชกุมารตูโปโตอา อูลูกาลาลาแห่งตองงา เสด็จฯ ทรงลงพระหัตถ์ถวายความอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร". The Government Public Relations Department. 2016-11-15. สืบค้นเมื่อ 2016-11-18.[ลิงก์เสีย]
- ↑ "ผู้แทนบุคคลสำคัญ และองค์กรจากต่างประเทศ วางพวงมาลาและลงนามแสดงความอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในขณะที่ประชาชนจากภูมิภาคต่าง ๆ ไปกราบถวายบังคมพระบรมศพอย่างต่อเนื่อง". Ch7. 2016-11-23. สืบค้นเมื่อ 2016-11-24.[ลิงก์เสีย]
- ↑ "ผู้แทนบุคคลสำคัญจากต่างประเทศ และประชาชนชาวไทย ไปถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช = Ch7". 2016-11-30. สืบค้นเมื่อ 2016-12-1.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help)[ลิงก์เสีย] - ↑ "พระราชวงศ์ภูฏานถวายสักการะพระบรมศพ". ช่อง 8. 2016-12-20. สืบค้นเมื่อ 2017-06-11.
- ↑ "จักรพรรดิญี่ปุ่นเสด็จฯ มาถวายราชสักการะพระบรมศพ". ข่าวสนุก. 2017-03-05. สืบค้นเมื่อ 2017-06-11.
- ↑ "กษัตริย์บาห์เรนเสด็จฯ ถวายราชสักการะพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9". ข่าวสด. 2017-05-05. สืบค้นเมื่อ 2017-05-14.
- ↑ "ประธานาธิบดีแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล วางพวงมาลาถวายสักการะ และลงนามถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขณะที่ประชาชนเดินทางไปกราบถวายบังคมพระบรมศพ อย่างต่อเนื่อง". สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7. 2017-05-12. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-05-17. สืบค้นเมื่อ 2017-05-15.
- ↑ "ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐลิทัวเนีย ถวายความอาลัยในหลวง ร.9". ข่าวสด. 2017-05-14. สืบค้นเมื่อ 2017-05-14.
- ↑ "อดีตประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐชิลี ถวายความอาลัยในหลวง ร.9". สปริงเรดิโอ. 2017-06-01. สืบค้นเมื่อ 2017-06-11.[ลิงก์เสีย]
- ↑ "คณะผู้แทนจากประเทศนิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา พร้อมคณะเดินทางมาร่วมแสดงความอาลัย ในหลวง ร.9". คมชัดลึก. 2017-07-24. สืบค้นเมื่อ 2017-07-30.
- ↑ "ผู้แทนพิเศษเครือรัฐออสเตรเลีย วางพวงมาลาถวายความอาลัยหน้าพระบรมโกศพระบรมศพ". ผู้จัดการ. 2017-08-03. สืบค้นเมื่อ 2017-08-13.[ลิงก์เสีย]
- ↑ "ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง วางพวงมาลาถวายความอาลัย". คมชัดลึก. 2017-08-04. สืบค้นเมื่อ 2017-08-05.
- ↑ "นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ". สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา. 2017-08-08. สืบค้นเมื่อ 2017-10-13.
- ↑ "สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งตองงาเสด็จฯ มาถวายราชสักการะพระบรมศพ". ข่าวสด. 2017-09-27. สืบค้นเมื่อ 2017-09-27.
- ↑ "สมเด็จพระราชชนนีแห่งภูฏานเสด็จฯ มาถวายราชสักการะพระบรมศพ". ช่อง 7. 2017-10-06. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-10-13. สืบค้นเมื่อ 2017-10-13.
- ↑ สำนักพระราชวัง เก็บถาวร 2016-10-21 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. (2559, 17 ตุลาคม). งานพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เก็บถาวร 2016-10-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. เข้าถึงได้จาก: http://www.brh.thaigov.net/information/Buket%20Data/KingBhumibol/Data/13102016_04/4.1_13102016.pdf[ลิงก์เสีย]. (เข้าถึงเมื่อ 22 ตุลาคม 2559).
- ↑ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2556/B/001/10.PDF
- ↑ คาดช่วงปีใหม่คนนับแสน จะมาสักการะ'พระบรมศพ' . (เข้าถึงเมื่อ 30 ธันวาคม 2559).
- ↑ เปิดตัวผู้ทำหีบบรรจุพระบรมศพ ไม้สักทองแผ่นเดียวไร้รอยต่อ อายุกว่า 100 ปี
- ↑ "ร.10ทรงเปิด'นิทรรศการ' เย็นศิระเพราะพระบริบาล". ไทยรัฐ. 10 กุมภาพันธ์ 2560. สืบค้นเมื่อ 26 เมษายน 2560.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "15 พ.ค. เปิดให้ชมนิทรรศการ 'เย็นศิระฯ' วันสุดท้าย". มติชน. 15 พฤษภาคม 2560. สืบค้นเมื่อ 19 พฤษภาคม 2560.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "รบ.เตรียมแพร่นิทรรศการ "เย็นศิระ เพราะพระบริบาล" ผ่านเว็บไซต์ 1 มิ.ย.นี้". ผู้จัดการออนไลน์. 19 พฤษภาคม 2560. สืบค้นเมื่อ 19 พฤษภาคม 2560.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help)[ลิงก์เสีย] - ↑ ครม.ให้ 26ต.ค.60 หยุดราชการ เพื่อ ปชช.ร่วมถวายพระเพลิงพระบรมศพ ร.9
- ↑ 14 ประติมากรรม ประดับตกแต่งพระเมรุมาศ 'ร.9'
- ↑ เผยภาพแบบก่อสร้างพระเมรุมาศในหลวงร.9
- ↑ "กทม. ลงปรับพื้นที่สนามหลวง เตรียมการก่อสร้างพระเมรุมาศช่วงต้นปีหน้า". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-11-04. สืบค้นเมื่อ 2016-11-07.
- ↑ "เตรียมสร้าง"ราชรถรางปืน-พระที่นั่งราเชนทรยานน้อย"องค์ใหม่". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-08-10. สืบค้นเมื่อ 2017-04-01.
- ↑ "หมายกำหนดการ พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 25 ตุลาคม 2560. สืบค้นเมื่อ 25 ตุลาคม 2560.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนิน ประกอบพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ". ประชาชาติธุรกิจ. 26 ตุลาคม 2560. สืบค้นเมื่อ 26 ตุลาคม 2560.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "ควันสีขาวลอยเหนือพระเมรุมาศ 'ในหลวง'เสด็จฯถวายพระเพลิงพระบรมศพจริง". ข่าวสด. 26 ตุลาคม 2560. สืบค้นเมื่อ 27 ตุลาคม 2560.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระวงศานุวงศ์ อัญเชิญพระบรมโกศพระบรมอัฐิ สู่พระบรมมหาราชวัง". คมชัดลึก. 27 ตุลาคม 2560. สืบค้นเมื่อ 27 ตุลาคม 2560.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "ในหลวง ร.10 เสด็จฯ ในการพระราชกุศลพระบรมอัฐิ". ประชาชาติธุรกิจ. 28 ตุลาคม 2560. สืบค้นเมื่อ 28 ตุลาคม 2560.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "ในหลวงเสด็จฯริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศที่5 เชิญพระบรมอัฐิประดิษฐานพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท". ประชาชาติธุรกิจ. 29 ตุลาคม 2560. สืบค้นเมื่อ 29 ตุลาคม 2560.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "พระราชพิธีบรรจุพระบรมราชสรีรางคาร ณ วัดราชบพิธฯ-วัดบวรฯ". สนุก.คอม. 29 ตุลาคม 2560. สืบค้นเมื่อ 29 ตุลาคม 2560.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "พระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลสัตตมวาร"พระบรมศพ"โปรดเกล้าฯ จัดพิมพ์หนังสือพระอภิธรรมภาษาบาลีและภาษาไทย เป็นอนุสรณ์วิทยาทานผู้เข้าร่วมพระราชพิธี". Headtnews. 2016-10-20. สืบค้นเมื่อ 2016-11-19.[ลิงก์เสีย]
- ↑ "สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัณรสมวาร ถวายพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช". Ch7. 2016-11-18. สืบค้นเมื่อ 2016-11-19.[ลิงก์เสีย]
- ↑ "สมเด็จพระบรมฯ เสด็จฯ พระราชพิธี "ปัญญาสมวาร" พระเทพฯ ทรงคม". Matichon Online. 2016-12-1. สืบค้นเมื่อ 2016-12-2.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|date=
(help) - ↑ "เล็งพิมพ์หนังสือที่ระลึก 5 ล้านเล่มแจกงานถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในหลวง ร.๙". Manager Online. 2017-01-9. สืบค้นเมื่อ 2017-01-17.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|date=
(help)[ลิงก์เสีย] - ↑ "สปริง กรุ๊ปแจกสมุดภาพเทิดพระเกียรติ 15 ธ.ค.!ทั่วไทย". ฐานเศรษฐกิจ. 14 ธันวาคม 2559. สืบค้นเมื่อ 26 เมษายน 2560.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "สมุดภาพ สรรเสริญพระบารมี เอกบรมจักริน พระสยามินทร์ พระยศยิ่งยง". ฐานเศรษฐกิจ. 26 มีนาคม 2560. สืบค้นเมื่อ 26 เมษายน 2560.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help)