การล่มสลายปลายยุคสัมฤทธิ์

การล่มสลายปลายยุคสัมฤทธิ์ เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่างปลายยุคสัมฤทธิ์ถึงต้นยุคเหล็ก ในภูมิภาคตะวันออกใกล้, อานาโตเลีย, ทะเลอีเจียน, แอฟริกาเหนือ, คอเคซัส, บอลข่านและตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โดยในระหว่างปี 1200-1150 ปีก่อนคริสตกาล อาณาจักรใหญ่ เช่น อาณาจักรไมซินีในอีเจียน, จักรวรรดิฮิตไทต์ในอานาโตเลียและจักรวรรดิอียิปต์ในแอฟริกาเหนือล่มสลาย ตามมาด้วยเส้นทางการค้า วิทยาการและบันทึกต่าง ๆ ที่สูญหาย อย่างไรก็ตาม อารยธรรมอื่น ๆ เช่น เอลามและอัสซีเรียไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากเหตุการณ์นี้

การรุกรานและการอพยพของประชากร ช่วง 1200 ปีก่อนคริสตกาล

โรเบิร์ต ดรูวส์ นักประวัติศาสตร์ชาวอเมริกันกล่าวถึงเหตุการณ์นี้ว่า:

ภายในระยะเวลา 40-50 ปีของปลายศตวรรษที่ 13 ถึงต้นศตวรรษที่ 12 ก่อนคริสตกาล เมืองสำคัญเกือบทุกแห่งทางตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนถูกทำลาย และหลายเมืองก็ไม่มีผู้กลับไปอาศัยอยู่อีกเลย[1]

หลังการล่มสลาย ภูมิภาคอีเจียนเข้าสู่ยุคมืด ซึ่งเป็นยุคที่เทคโนโลยีและการรู้หนังสือขาดหาย ผู้คนอยู่อย่างกระจัดกระจาย[2], ชาวฮิตไทต์ก่อตั้งรัฐไซโร-ฮิตไทต์ ซึ่งเป็นรัฐย่อยที่ประกอบด้วยชนหลายกลุ่มในลิแวนต์และซิลีเชีย[3] ในขณะที่อียิปต์เข้าสู่ช่วงกลางที่สาม ซึ่งเป็นช่วงที่อียิปต์แตกออกเป็นดินแดนน้อยใหญ่รอบ ๆ แม่น้ำไนล์[4]

นักประวัติศาสตร์เสนอหลายสาเหตุของการล่มสลายปลายยุคสัมฤทธิ์ เช่น ปัญหาด้านภูมิอากาศจากภูเขาไฟระเบิด, ภัยแล้ง, ความล้มเหลวทางสังคม การเมืองและเศรษฐกิจ รวมถึงการถูกรุกรานจากชาวทะเลและการพัฒนาเหล็กเป็นเครื่องมือเครื่องใช้แทนสัมฤทธิ์ เป็นต้น[5]

อ้างอิง

แก้
  1. Drews, 1993, p. 4
  2. Violatti, Cristian (January 30, 2015). "Greek Dark Age". Ancient History Encyclopedia. สืบค้นเมื่อ February 11, 2019.
  3. "Neo-Hittites". Livius.org. สืบค้นเมื่อ February 11, 2019.
  4. Mark, Joshua J. (October 11, 2016). "Third Intermediate Period of Egypt". Ancient History Encyclopedia. สืบค้นเมื่อ February 11, 2019.
  5. "Bronze Age". HISTORY. สืบค้นเมื่อ February 11, 2019.