กอนต์เล็ตดาร์กเลกาซี

กอนต์เล็ตดาร์กเลกาซี (อังกฤษ: Gauntlet Dark Legacy) เป็นวิดีโอเกมที่เปิดตัวครั้งแรกในระบบอาร์เคดใน ค.ศ. 2000 โดยเป็นผลงานลำดับที่หกในซีรีส์กอนต์เล็ต และเป็นภาคเสริมของกอนต์เล็ตเลเจนส์ซึ่งเป็นภาคก่อนหน้าในซีรีส์ ภาคเสริมนี้เพิ่มระดับใหม่ห้าระดับ และคลาสตัวละครใหม่สี่คลาส ได้แก่ คนแคระ, อัศวิน, ตัวตลก และแม่มด นอกจากนี้ ยังเพิ่มตัวละครลับจำนวนมากซึ่งบางตัวสามารถปลดล็อกได้ในเกม ในขณะที่คนอื่น ๆ สามารถเข้าถึงได้โดยการป้อนรหัสโกงโดยเฉพาะเท่านั้น

กอนต์เล็ตดาร์กเลกาซี
ใบปลิวฝ่ายขายที่แสดงคลาสตัวละครใหม่สี่คลาสและตู้อาร์เคดเฉพาะ
ผู้พัฒนามิดเวย์เกมส์เวสต์ (เพลย์สเตชัน 2, เกมคิวบ์, เอกซ์บอกซ์)
พ็อคเกตสตูดิโอส์ (เกมบอยอัดวานซ์)
ผู้จัดจำหน่ายมิดเวย์เกมส์
ชุดกอนต์เล็ต
เครื่องเล่นอาร์เคด, เพลย์สเตชัน 2, เกมคิวบ์, เอกซ์บอกซ์, เกมบอยอัดวานซ์
วางจำหน่ายอาร์เคด
เพลย์สเตชัน 2[1]
เกมคิวบ์[2]
เอกซ์บอกซ์[3]
เกมบอยอัดวานซ์[4]
แนวสับและเฉือน, ตะลุยดันเจียน
รูปแบบผู้เล่นเดี่ยว, หลายผู้เล่น (ผู้เล่นสูงสุด 4 คน)
ระบบอาร์เคดมิดเวย์เวกัส

องค์ประกอบจากภาคดาร์กเลกาซีได้รับการรวมเข้ากับพอร์ตดรีมแคสต์ของกอนต์เล็ตเลเจนส์ ส่วนพอร์ตโดยตรงสู่เพลย์สเตชัน 2 เปิดตัวใน ค.ศ. 2001 ตามด้วยเวอร์ชันสำหรับเกมบอยอัดวานซ์, เกมคิวบ์ และเอกซ์บอกซ์ ที่วางจำหน่ายใน ค.ศ. 2002

รูปแบบการเล่น แก้

กอนต์เล็ตดาร์กเลกาซีในฐานะภาคเสริมของกอนต์เล็ตเลเจนส์จะเล่นในลักษณะเดียวกัน แต่มีเลเวล, ไอเทม, ตัวละคร และความสามารถใหม่ในการต่อสู้ ผู้เล่นมีตัวเลือกในการโจมตีแบบช้า ๆ, โจมตีรุนแรง หรือโจมตีที่รวดเร็ว และอ่อนกว่าเมื่อเทียบกับภาคเลเจนส์ที่มีการโจมตีเพียงประเภทเดียว ในกอนต์เล็ตดาร์กเลกาซี ผู้เล่นสามารถทำคอมโบได้โดยใช้การโจมตีแบบช้า ๆ และการโจมตีอย่างรวดเร็วตามลำดับในขณะต่อสู้ระยะประชิด การทำคอมโบนั้นแข็งแกร่งกว่าการโจมตีปกติมาก และโดยปกติจะสามารถกำจัดศัตรูหลายตัวพร้อมกันได้ เช่นเดียวกับในภาคเลเจนส์ ผู้เล่นแต่ละคนจะมีมาตรวัดเทอร์โบที่เติมอย่างช้า ๆ และอัตโนมัติ มาตรวัดเทอร์โบนี้ช่วยให้ผู้เล่นสามารถใช้การโจมตีเทอร์โบ ซึ่งสร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้างหรือในระยะไกล และสามารถเจาะทะลุศัตรูและกำแพงได้หลายตัว เมื่อมาตรวัดเทอร์โบว่างเปล่าจะไม่สามารถใช้การโจมตีเทอร์โบได้จนกว่าจะเต็มอีกครั้ง ภาคดาร์กเลกาซีเพิ่มความสามารถให้แก่ผู้เล่นสองคนที่ยืนอยู่ติดกันเพื่อทำการโจมตีเทอร์โบร่วมกัน ซึ่งโดยปกติจะบรรจุกำลังจำนวนมาก (และระบายครึ่งหนึ่งของมาตรวัดเทอร์โบของผู้เล่นที่เริ่มการรวมเทอร์โบ)

ผู้เล่นสามารถรวบรวมไอเทมจากในเลเวลหรือซื้อในร้านค้า ไอเทมจะเปิดใช้งานเมื่อเก็บขึ้น แต่สามารถปิดใช้งานได้โดยใช้เมนูไอเทม โดยไอเทมเอื้ออำนวยประโยชน์และหายไปภายในเวลาที่กำหนดหรือจำนวนการใช้งานที่กำหนด ภาคดาร์กเลกาซีมีไอเทมมากกว่าของเดิม แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วจะมีราคาแพงกว่า สิ่งนี้ให้ความสำคัญต่อการตัดสินใจซื้อไอเทมมากขึ้น

ในภาคดาร์กเลกาซี ผู้เล่นมีความสามารถเพิ่มเติมในการบล็อก, การชาร์จ และการยิงกราด การยิงกราดทำให้ผู้เล่นหันหน้าไปทางเดียวตลอดเวลา และยิงโจมตีด้วยความเร็วปานกลาง ส่วนการบล็อกทำให้ตัวละครของผู้เล่นหยุดนิ่งในตำแหน่งป้องกันเป็นเวลาหนึ่งหรือสองวินาที ซึ่งการโจมตีใด ๆ ที่ทำกับผู้เล่นจะถูกลบล้างหรือสร้างความเสียหายน้อยลงอย่างมาก เมื่อทำการชาร์จผู้เล่นจะวิ่งไปข้างหน้าพร้อมกับอาวุธที่ทำหน้าที่เหมือนทวนในขณะที่บล็อกไปพร้อม ๆ กัน ผู้เล่นสามารถสังหารศัตรูข้างหน้าได้ในขณะที่บล็อกการโจมตี อย่างไรก็ตาม การชาร์จจะใช้มาตรวัดเทอร์โบเล็กน้อยในแต่ละครั้งที่ใช้งาน

รูปแบบการเล่นมีรากฐานมาจากเกมกอนต์เล็ตดั้งเดิม ระดับส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการวิ่งไปตามเส้นทางที่กำหนด ทำลายศัตรูก่อนที่จะสามารถสังหารผู้เล่นได้ เช่นเดียวกับในกอนต์เล็ต และกอนต์เล็ต II เหล่าศัตรูจะเกิดจากตัวก่อกำเนิด เฉพาะเมื่อตัวก่อกำเนิดถูกทำลาย ศัตรูจะหยุดการกำเนิด ตัวก่อกำเนิดบางตัวจะถูกโจมตีหลายครั้งเพื่อทำลาย เมื่อตัวก่อกำเนิดอ่อนแอลง มันจะพลังวางไข่ศัตรูน้อยลง จนกว่าจะถูกทำลายจนหมด ขณะที่มีบางระดับที่มีลักษณะเหมือนเขาวงกตและหาเส้นทางได้ยากกว่า โดยทั่วไป ระดับต่าง ๆ จะมีเส้นทางไปยังจุดสิ้นสุดที่มองเห็นได้ง่าย โดยมีเส้นทางด้านข้างที่แยกจากกันซึ่งยากต่อการเข้าถึง เส้นทางด้านข้างเหล่านี้มักจะนำไปสู่ไอเทมสำคัญ เช่น สมบัติ, อาวุธในตำนาน (ซึ่งใช้ในการทำให้บอสอ่อนแอ) หรือหินรูน (ซึ่งจำเป็นสำหรับความคืบหน้าในเกม) บางระดับจะมีภาพยนตร์สั้นก่อนที่ระดับจะโหลด ทำหน้าที่แนะนำผู้เล่นให้รู้จักศัตรูประเภทใหม่ หรือเตือนผู้เล่นว่าอาวุธในตำนานถูกซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่งในระดับดังกล่าว หินรูนไม่ได้รับการบอกใบ้ในภาพยนตร์ แม้ว่าจะมีการออกจากด่านที่มีหินรูนโดยไม่พบหินรูน เสียงหัวเราะชั่วร้ายก็ดังขึ้น อาหารยังคงฟื้นฟูพลังชีวิตในภาคดาร์กเลกาซี เช่นเดียวกับในกอนต์เล็ต II โดยอาหารแต่ละประเภทจะฟื้นฟูพลังชีวิตในปริมาณที่แตกต่างกัน ส่วนสมบัติเป็นสิ่งหายากในภาคดาร์กเลกาซี เนื่องจากใช้สำหรับซื้อไอเทมในร้านค้า นี่เป็นข้อแตกต่างจากเกมกอนต์เล็ตก่อนหน้านี้ ที่ซึ่งสมบัติมีมากมาย, ให้คะแนนพิเศษ แต่ไม่ได้ใช้เพื่อจุดประสงค์อื่น

ตัวละคร แก้

ตัวละครแต่ละตัวมีความสามารถที่ไม่ตรงกันในบางสาขา:

สาขา เอฟเฟกต์
เวทมนตร์ เพิ่มระยะและความเสียหายจากการใช้ยาวิเศษ
กำลัง สร้างความเสียหายให้กับศัตรูมากขึ้นเมื่อโจมตี
ความเร็ว ช่วยให้ตัวละครเคลื่อนที่และโจมตีได้เร็วขึ้น
เกราะ ทำให้ตัวละครมีความทนทานมากขึ้นเมื่อถูกโจมตี

นอกจากนี้ ตัวละครแต่ละชุดยังมีพลังพิเศษที่สามารถใช้ได้เมื่อใช้ยาวิเศษในระดับหนึ่งของประสบการณ์

พ่อมดซัมเนอร์ยังสามารถใช้เล่นได้หลังจากปลดล็อกหนึ่งในเลเวลสุดท้ายของเกม

โครงเรื่อง แก้

ในสมัยโบราณ การ์มซึ่งเป็นจอมเวทย์ผู้ชั่วร้ายที่ใช้พลังของหินรูน ได้ปลดปล่อยความชั่วร้ายที่ยิ่งใหญ่ต่อแผ่นดิน ซึ่งปีศาจที่ชื่อสกอร์นตนนี้ได้หลุดพ้นจากการควบคุมของการ์ม โดยบดขยี้เขา และกักขังวิญญาณของเขาในยมโลก จากนั้น สกอร์นก็ปล่อยสมุนของมันลงบนพื้นดิน และทำให้หินรูนกระจัดกระจายไปทั่วทั้งแปดอาณาจักร เพื่อที่พวกมันจะไม่ถูกประกอบขึ้นและใช้ต่อต้านสกอร์นได้อีก

ซึ่งไม่มีใครกล้าลอง ...

จนถึงตอนนี้

— ภาพยนตร์เบื้องต้นของเกม

คู่มือที่มาพร้อมกับเกมได้อธิบายเรื่องราวเพิ่มเติม โดยระบุว่าซัมเนอร์เป็นราชาที่ดีของอาณาจักรทั้งแปดและมีอำนาจเหนือหอคอย ซึ่งหอคอยมีประตูใหญ่ไปยังทุกอาณาจักรเพื่อให้พระองค์เข้าถึงได้ง่าย นอกจากนี้ ยังระบุด้วยว่าการ์มพระอนุชาของพระองค์อิจฉาในอำนาจและสถานะของพระองค์ และได้ค้นหาหินรูนทั้ง 13 มานานหลายปี เมื่อพบ 12 ก้อนหลังจากการค้นหาอย่างหนัก เขาก็หมดความอดทน และปล่อยสกอร์นจากที่นั่น น่าเสียดาย ที่เขาไม่สามารถควบคุมปีศาจได้หากไม่มีหินรูนก้อนที่ 13 สกอร์นได้เรียกสมุนของมันและส่งพวกมันผ่านประตูใหญ่ในหอคอยเพื่อยึดครองอาณาจักร ซัมเนอร์ซึ่งไม่อยู่ในเวลานั้น ได้กลับไปที่หอคอยเพียงเพื่อดูปีศาจสกอร์นที่ใช้มันเพื่อผลประโยชน์อันชั่วร้ายของตัวเอง สิ่งนี้ได้ทำให้ซัมเนอร์กริ้ว และพระองค์ทรงพระพิโรธในการในการต่อสู้กับสกอร์นหลังจากปิดผนึกประตูใหญ่ทั้งหมด ตามที่ระบุในคู่มือ สกอร์น "ไม่สามารถเทียบได้" สำหรับพลังของซัมเนอร์ และมันก็ถอยกลับเข้าไปในวิหารร้างผ่านหอคอยของซัมเนอร์ สกอร์นได้ทำลายหน้าต่างกระจกสีต้องมนตร์ซึ่งเป็นทางผ่านเดียวสู่วิหาร และมอบเศษกระจกหนึ่งชิ้นให้แก่ลูกน้องที่ทรงพลังที่สุดของมัน (บอสของเกม) นอกจากนี้ มันยังได้กระจายหินรูนที่ประกอบกัน 12 ก้อนไปยังที่ต่าง ๆ ทั่วโลก ซึ่งวิหารจากจุดนั้นถูกเรียกว่าวิหารที่ถูกทำลาย

เกมนี้แบ่งออกเป็นโลกต่าง ๆ โดยแต่ละด่านมีหลายระดับ ซึ่งสามารถเข้าถึงได้จากหอคอยของซัมเนอร์

เป้าหมายแรกของผู้เล่นคือเอาชนะทุกเลเวล, เอาชนะบอสจากแปดโลกที่มีอยู่เดิม ผู้เล่นจะต้องรวบรวมคริสตัลที่กระจัดกระจายในระดับต่าง ๆ เพื่อปิดใช้งานการป้องกันของซัมเนอร์ และเข้าถึงโลกใหม่รวมทั้งเลเวลอื่น ๆ เมื่อเอาชนะบอสได้ หน้าต่างกระจกสีจะได้รับการบูรณะอย่างช้า ๆ และแสงที่ส่องออกมาจากหน้าต่างนั้นเผยให้เห็นประตูพิเศษในหอคอย ประตูใหญ่นี้จะพาผู้เล่นไปสู่โลกที่ 9 ซึ่งคือวิหารที่ถูกทำลาย ผู้เล่นจะต้องต่อสู้ผ่านด่านเดียวที่เต็มไปด้วยศัตรู เมื่อออกไป ผู้เล่นจะถูกเคลื่อนย้ายไปยังห้องโถงของสกอร์นโดยอัตโนมัติ ที่นี่ผู้เล่นจะต้องเอาชนะปีศาจสกอร์น หลังจากที่มันถูกกำจัด มันก็ถอยเข้าสู่อันเดอร์เวิลด์ จากนั้นผู้เล่นจะต้องรวบรวมหินรูน 12 ก้อนจาก 8 โลกก่อนหน้านี้ เมื่อสำเร็จแล้ว พลังของพวกเขาจะเผยประตูพิเศษอีกแห่งในหอคอย โดยนำผู้เล่นเข้าสู่โลกที่ 10 ซึ่งคืออันเดอร์เวิลด์ ที่นั่น หลังจากเอาชนะในด่านเดียว ผู้เล่นจะถูกส่งไปรบกับสกอร์นร่างแท้จริงโดยอัตโนมัติ ผู้เล่นเอาชนะร่างแท้ และขับไล่มันออกจากอาณาจักรทั้งแปดตลอดไป แต่สงครามยังไม่จบ การ์มดูดซับพลังที่หลงเหลือของสกอร์น จนกลายเป็นรูปปั้นสกอร์นขนาดใหญ่ ที่ทรงพลังมหาศาล เขาจัดตั้งกองทัพและปลดปล่อยการโจมตีใส่หอคอยของซัมเนอร์ เป้าหมายสุดท้ายของผู้เล่นคือการเอาชนะโลกที่ 11 และโลกสุดท้ายคือแบตเทิลกราวด์ หลังจากเอาชนะด่านที่สามของโลกนี้และรวบรวมฟินรูนก้อนที่ 13 ที่ซ่อนอยู่ภายใน ประตูพิเศษที่สี่และสุดท้ายจะถูกเปิดเผยในหอคอย ประตูใหญ่นี้จะพาผู้เล่นไปยังป้อมปราการของการ์ม ที่ซึ่งการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของเกมจะเกิดขึ้น

การตอบรับ แก้

การตอบรับ
คะแนนรวม
ผู้รวมคะแนน
เกมแรงกิงส์(เพลย์สเตชัน 2) 70.77 เปอร์เซ็นต์[5]
(เกมคิวบ์) 61.43 เปอร์เซ็นต์[6]
(เอกซ์บอกซ์) 52.65 เปอร์เซ็นต์[7]
(เกมบอยอัดวานซ์) 35.25 เปอร์เซ็นต์[8]
เมทาคริติก(เพลย์สเตชัน 2) 73/100[9]
(เกมคิวบ์) 60/100[10]
(เอกซ์บอกซ์) 54/100[11]
(เกมบอยอัดวานซ์) 37/100[12]
คะแนนปฏิทรรศน์
สิ่งพิมพ์เผยแพร่คะแนน
ออลเกม     [13]
(เอกซ์บอกซ์)      [14]
(เกมบอยอัดวานซ์)      [15]
แฟมิซือ31/40[16]
เกมอินฟอร์เมอร์(เพลย์สเตชัน 2) 7.75/10[17]
(เกมคิวบ์) 7.25/10[18]
(เกมบอยอัดวานซ์) 1.5/10[19]
เกมโปร(เพลย์สเตชัน 2)      [20]
(เกมคิวบ์)      [21]
เกมเรโวลูชันซีบวก[22]
เกมสปอต(เพลย์สเตชัน 2) 6.2/10[23]
5.1/10[24][25]
(เกมบอยอัดวานซ์) 4.3/10[26]
เกมสปาย(เพลย์สเตชัน 2) 85 เปอร์เซ็นต์[27]
(เกมคิวบ์) 58 เปอร์เซ็นต์[28]
(เกมบอยอัดวานซ์)      [29]
เกมโซน(เพลย์สเตชัน 2) 8/10[30]
(เกมคิวบ์) 7.3/10[31]
(เอกซ์บอกซ์) 7.2/10[32]
(เกมบอยอัดวานซ์) 5.2/10[33]
ไอจีเอ็น(เพลย์สเตชัน 2) 6.7/10[34]
(เกมคิวบ์) 5/10[35]
(เอกซ์บอกซ์) 4.9/10[36]
(เกมบอยอัดวานซ์) 3/10[37]
เนกซ์เจเนอเรชัน     [38]
นินเท็นโดเพาเวอร์(เกมคิวบ์) 3.6/5[39]
(เกมบอยอัดวานซ์) 2.5/5[40]
นินเท็นโดเวิลด์รีพอร์ต(เกมคิวบ์) 7/10[41]
ออฟฟิเชียลเอกซ์บอกซ์แมกกาซีน6.2/10[42]

แดเนียล เอริกสัน ได้วิจารณ์เวอร์ชันเพลย์สเตชัน 2 สำหรับนิตยสารเนกซ์เจเนอเรชัน โดยให้คะแนนสามดาวจากห้าดาว และระบุว่า "ไม่ใช่การผ่าตัดสมอง แต่มันก็สนุกดีสำหรับผู้เล่นหลายคน และนั่นก็หายากพอสำหรับวันนี้"[38]

กอนต์เล็ตดาร์กเลกาซีได้รับการตอบรับอย่างดีถึงปานกลาง เจอรัลด์ วิลโลเรีย แห่งเว็บไซต์เกมสปอตกล่าวถึงเวอร์ชันเอกซ์บอกซ์และเกมคิวบ์ว่า "รูปลักษณ์ที่ล้าสมัยและประสิทธิภาพที่ไม่ดีของเกมทำให้ไม่สามารถแข่งกับเกมยอดนิยมอื่น ๆ ที่มีผู้เล่นสี่คน" ในขณะนั้น[24]

ในบรรดาเวอร์ชันเครื่องเล่นทั้งหมดของเกมดังกล่าว เวอร์ชันเพลย์สเตชัน 2 ได้รับการตอบรับดีที่สุด โดยได้ 31 คะแนนเต็ม 40 จากนิตยสารแฟมิซือ[16] และคะแนนเฉลี่ย 70.77 เปอร์เซ็นต์ในเว็บไซต์เกมแรงกิงส์[5] และ 73 คะแนนเต็ม 100 จากเว็บไซต์เมทาคริติก[9] ส่วนเวอร์ชันเกมคิวบ์และเอกซ์บอกซ์ ซึ่งสร้างขึ้นจากเวอร์ชันเพลย์สเตชัน 2 และเปิดตัวในปีต่อมา ได้รับคะแนนเฉลี่ยที่น่าพอใจน้อยกว่าที่ 61.43 เปอร์เซ็นต์ และ 52.65 เปอร์เซ็นต์ ในเว็บไซต์เกมแรงกิงส์[6][7] และ 60 คะแนน กับ 54 คะแนนเต็ม 100 ในเว็บไซต์เมทาคริติก[10][11] แม้ว่าเวอร์ชันเหล่านี้จะเพิ่มคุณสมบัติใหม่ให้แก่เกม เช่น ความสามารถในการเก็บรักษาเพาเวอร์-อัป พื่อใช้ในภายหลัง แต่มีรายงานจำนวนข้อบกพร่องที่มากกว่า เวอร์ชันเกมคิวบ์น่าสังเกตเป็นพิเศษในด้านนี้ เนื่องจากประสบปัญหาการชะลอตัวครั้งใหญ่ในพื้นที่ขนาดใหญ่หรือมีรายละเอียดสูง และไม่แสดงแถบชีวิตสำหรับโกเลม, การ์กอยล์ และบอส (ยกเว้นในเวอร์ชันแพล) ส่วนเว็บไซต์เกมโครนิเคิลส์ในทางตรงกันข้าม ชอบเวอร์ชันเอกซ์บอกซ์ โดยระบุว่า "นี่เป็นครั้งที่สามที่ผมเล่นเกมนี้ และเวอร์ชันเอกซ์บอกซ์เป็นประสบการณ์ที่สนุกที่สุดจากทั้งสามเวอร์ชัน พลังของเอกซ์บอกซ์ได้รับการใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่เพื่อมอบกราฟิกที่ยอดเยี่ยม และนวัตกรรมสุดเจ๋งทั้งหมดที่เวอร์ชันเกมคิวบ์ได้รับเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาได้รวมเอาประสบการณ์กอนต์เล็ตขั้นสูงสุดไว้ด้วย"[43]

สื่อพ่วงขาย แก้

ใน ค.ศ. 2004 ผู้จัดพิมพ์ไอบุ๊กส์ (สำนักพิมพ์ไซมอนแอนด์ชูสเตอร์) ได้ออกนวนิยายอิงจากวิดีโอเกมชื่อกอนต์เล็ตดาร์กเลกาซี - บุ๊ก 1: พาธส์ออฟอีวิล โดยริชาร์ด ซี. ไวต์ (ISBN 0-74349-305-2) ส่วนภาคต่อชื่อกอนต์เล็ตดาร์กเลกาซี - บุ๊ก 2: พาธส์ออฟเฟียร์ ได้รับการเขียนขึ้นและมีการวางแผนสำหรับการเปิดตัวใน ค.ศ. 2005 แต่เนื่องจากการจากไปของทั้งไบรอน ไพรส์ วิชวลโปรดักชันส์ และเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา สิ่งนี้จึงไม่เกิดขึ้น ซึ่งใน ค.ศ. 2007 ใบอนุญาตสำหรับเรื่องราวเหล่านี้ได้เปลี่ยนกลับไปสู่บริษัทมิดเวย์เกมส์ เล่ม 1 จึงน่าจะเป็นเล่มสุดท้ายของซีรีส์ เว้นแต่ผู้อนุญาตรายใหม่จะมอบหมายให้ไวต์เขียนเรื่องของเขาให้จบ

อ้างอิง แก้

  1. "Release information for PlayStation 2". GameFAQs.
  2. "Release information for GameCube". GameFAQS.
  3. "Release information for Xbox". GameFAQs.
  4. "Release information for Game Boy Advance". GameFAQS.
  5. 5.0 5.1 "Gauntlet: Dark Legacy for PlayStation 2". GameRankings. สืบค้นเมื่อ 2013-10-25.
  6. 6.0 6.1 "Gauntlet: Dark Legacy for GameCube". GameRankings. สืบค้นเมื่อ 2013-10-25.
  7. 7.0 7.1 "Gauntlet Dark Legacy for Xbox". GameRankings. สืบค้นเมื่อ 2013-10-25.
  8. "Gauntlet: Dark Legacy for Game Boy Advance". GameRankings. สืบค้นเมื่อ 2013-10-25.
  9. 9.0 9.1 "Gauntlet: Dark Legacy Critic Reviews for PlayStation 2". Metacritic. สืบค้นเมื่อ 2013-10-25.
  10. 10.0 10.1 "Gauntlet: Dark Legacy Critic Reviews for GameCube". Metacritic. สืบค้นเมื่อ 2013-10-25.
  11. 11.0 11.1 "Gauntlet Dark Legacy Critic Reviews for Xbox". Metacritic. สืบค้นเมื่อ 2013-10-25.
  12. "Gauntlet: Dark Legacy Critic Reviews for Game Boy Advance". Metacritic. สืบค้นเมื่อ 2013-10-25.
  13. White, Jason. "Gauntlet: Dark Legacy (PS2) - Review". AllGame. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-11-14. สืบค้นเมื่อ 2014-12-09.
  14. Frankle, Gavin. "Gauntlet: Dark Legacy (Xbox) - Overview". AllGame. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-11-14. สืบค้นเมื่อ 2014-12-09.
  15. Marriott, Scott Alan. "Gauntlet: Dark Legacy (เกมบอยอัดวานซ์) - Review". AllGame. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-11-14. สืบค้นเมื่อ 2014-12-09.
  16. 16.0 16.1 "プレイステーション2 - Gauntlet Dark Legacy". Famitsu. 915: 93. June 30, 2006.
  17. Leeper, Justin (June 2001). "Gauntlet: Dark Legacy (PS2)". Game Informer (98). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-08-02. สืบค้นเมื่อ 2013-10-25.
  18. Leeper, Justin (May 2002). "Gauntlet: Dark Legacy (GC)". Game Informer (109): 84. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-03-13. สืบค้นเมื่อ 2013-10-25.
  19. McNamara, Andy (March 2003). "Gauntlet: Dark Legacy (GBA)". Game Informer (119): 92. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-04-11. สืบค้นเมื่อ 2013-10-25.
  20. Dr. Zombie (2001-04-30). "Gauntlet: Dark Legacy Review for PS2 on GamePro.com". GamePro. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2005-12-31. สืบค้นเมื่อ 2013-10-25.
  21. Star Dingo (2002-04-22). "Gauntlet: Dark Legacy Review for GameCube on GamePro.com". GamePro. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2005-02-12. สืบค้นเมื่อ 2013-10-25.
  22. Sanders, Shawn (2001-05-03). "Gauntlet: Dark Legacy Review". Game Revolution. สืบค้นเมื่อ 2013-10-25.
  23. Lopez, Miguel (2001-05-09). "Gauntlet: Dark Legacy Review (PS2)". GameSpot. สืบค้นเมื่อ 2013-10-25.
  24. 24.0 24.1 Villoria, Gerald (2002-03-22). "Gauntlet: Dark Legacy Review (GC)". GameSpot. สืบค้นเมื่อ 2013-10-25.
  25. Villoria, Gerald (2002-04-25). "Gauntlet Dark Legacy Review (Xbox)". GameSpot. สืบค้นเมื่อ 2013-10-25.
  26. Provo, Frank (2002-12-12). "Gauntlet Dark Legacy Review". GameSpot. สืบค้นเมื่อ 2013-10-25.
  27. Thornton, Benjaman (2001-05-15). "Gauntlet Dark Legacy". GameSpy. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2001-06-07. สืบค้นเมื่อ 2013-10-25.
  28. Wessel, Greg "Talon" (2002-04-06). "Gauntlet: Dark Legacy (GCN)". GameSpy. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2002-06-13. สืบค้นเมื่อ 2013-10-25.
  29. Gibson, Jon (2003-02-16). "GameSpy: Gauntlet: Dark Legacy (GBA)". GameSpy. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-10-29. สืบค้นเมื่อ 2013-10-25.
  30. Snackdawg (2001-05-15). "Gauntlet Dark Legacy - PS2 - Review". GameZone. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-02-10. สืบค้นเมื่อ 2013-10-25.
  31. Tha Wiz (2002-03-19). "Gauntlet Dark Legacy Review (GC)". GameZone. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-09-27. สืบค้นเมื่อ 2013-10-25.
  32. Lafferty, Michael (2002-05-05). "Gauntlet Dark Legacy - XB - Review". GameZone. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-05-12. สืบค้นเมื่อ 2013-10-25.
  33. Tha Wiz (2002-12-13). "Gantlet Dark Legacy - GBA - Review". GameZone. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-10-06. สืบค้นเมื่อ 2013-10-25.
  34. Smith, David (2001-05-07). "Gauntlet: Dark Legacy (PS2)". IGN. สืบค้นเมื่อ 2013-10-25.
  35. Mirabella III, Fran (2002-03-11). "Gauntlet: Dark Legacy (GC)". IGN. สืบค้นเมื่อ 2013-10-25.
  36. Mirabella III, Fran (2002-04-23). "Gauntlet: Dark Legacy (Xbox)". IGN. สืบค้นเมื่อ 2013-10-25.
  37. Harris, Craig (2003-01-14). "Gauntlet: Dark Legacy (GBA)". IGN. สืบค้นเมื่อ 2013-10-25.
  38. 38.0 38.1 Erickson, Daniel (July 2001). "Finals". Next Generation. Vol. 4 no. 7. Imagine Media. p. 81.
  39. "Gauntlet: Dark Legacy (GC)". Nintendo Power: 148. April 2002.
  40. "Gauntlet: Dark Legacy (GBA)". Nintendo Power: 137. March 2003.
  41. Lake, Max (2002-04-18). "Gauntlet Dark Legacy Review". Nintendo World Report. สืบค้นเมื่อ 2013-10-27.
  42. "Review: Gauntlet: Dark Legacy". Official Xbox Magazine: 80. July 2002.
  43. http://www.gamechronicles.com/reviews/xbox/gauntlet/darklegacy.htm

แหล่งข้อมูลอื่น แก้