กล้องโทรทรรศน์วิทยุ

กล้องโทรทรรศน์วิทยุ (radio telescope) เป็นอุปกรณ์ทางดาราศาสตร์ ใช้บันทึกและวัดสัญญาณคลื่นวิทยุจากวัตถุท้องฟ้าต่าง ๆ กล้องโทรทรรศน์วิทยุต่างจากกล้องโทรทรรศน์เชิงแสงตรงที่ปฏิบัติงานในความถี่ของคลื่นวิทยุที่ความยาวคลื่นตั้งแต่ 10 มิลลิเมตร ไปจนถึง 10-20 เมตร โดยทั่วไปจานเสาอากาศของกล้องโทรทรรศน์วิทยุจะมีรูปร่างเป็นพาราโบลา อาจอยู่เดี่ยว ๆ หรือประกอบกันเป็นแถวลำดับ ทำหน้าที่เปรียบเทียบได้กับกระจกของกล้องโทรทรรศน์สะท้อนแสง กล้องโทรทรรศน์วิทยุนำไปสู่การค้นพบวัตถุใหม่และปรากฏการณ์ เช่น เควซาร์ พัลซาร์ และไมโครเวฟพื้นหลัง

กล้องโทรทรรศน์วิทยุ VLA ที่ รัฐนิวเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา

ประวัติ

แก้

กล้องโทรทรรศน์วิทยุกล้องแรกสร้างโดย คาร์ล แจนสกี นักฟิสิกส์ชาวอเมริกัน เมื่อปี พ.ศ. 2474 ซึ่งเขาพบว่า "สัญญาณรบกวน" ที่บันทึกได้เป็นสัญญาณจากทางช้างเผือก ต่อมาหลังสงครามโลกครั้งที่สอง มีการทดลองสร้างกล้องโทรทรรศน์วิทยุหลายแห่ง ส่วนมากในประเทศออสเตรเลียและอังกฤษ และได้รับความสนใจทั้งในสหรัฐอเมริกา สหภาพโซเวียต ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น

ประเภท

แก้
 
กล้องโทรทรรศน์วิทยุอูตี้ ซึ่งเป็นอาร์เรย์ไดโพลความถี่ 326.5 MHz ในเมืองอูตี้ ประเทศอินเดีย (Ooty radio telescope, a 326.5 MHz dipole array in Ooty, India)

ช่วงความถี่ในสเปกตรัมแม่เหล็กไฟฟ้าที่ประกอบเป็นสเปกตรัมวิทยุ (radio spectrum) นั้นกว้างมาก ดังนั้น ประเภทของเสาอากาศที่ใช้เป็นกล้องโทรทรรศน์วิทยุจึงมีการออกแบบ ขนาด และการกำหนดค่าที่แตกต่างกันมาก ที่ความยาวคลื่น 30 เมตรถึง 3 เมตร (ความถี่ 10–100 เมกะเฮิรตซ์) โดยทั่วไปแล้วจะเป็นเสาอากาศแบบมีทิศทางคล้ายกับ "เสาอากาศทีวี" หรือเป็นเสาอากาศแบบที่มีแผ่นสะท้อนคลื่นอยู่กับที่ขนาดใหญ่ที่มีจุดโฟกัสที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ เนื่องจากความยาวคลื่นที่สังเกตได้จากเสาอากาศประเภทนี้มีความยาวมาก จึงสามารถสร้างพื้นผิว "ตัวสะท้อนคลื่น" ได้จากตะแกรงลวดหยาบๆ เช่น ลวดตาข่ายกรงไก่ (Chicken wire) [1] [2]

ดูเพิ่ม

แก้

อ้างอิง

แก้
  1. Ley, Willy; Menzel, Donald H.; Richardson, Robert S. (June 1965). "The Observatory on the Moon". For Your Information. Galaxy Science Fiction. pp. 132–150.
  2. CSIRO. "The Dish turns 45". Commonwealth Scientific and Industrial Research Organisation. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 24, 2008. สืบค้นเมื่อ October 16, 2008.