กงฉือเอิน (จีน :龔慈恩; พินอิน :KUNG Chi-Yan; กวางตุ้ง :Gong4 Ci2 en3; อังกฤษ :Mimi Kung) เธอมีชื่อภาษาอังกฤษว่า "มีมี่ กง" เป็นนักแสดงหญิงชาวฮ่องกงคนหนึ่งที่อดีตเคยมีชื่อเสียงโด่งดังทั่วเอเชีย โดยเธอเริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมาตั้งแต่กลางยุคทศวรรษที่ 80 แต่ช่วงที่รุ่งเรืองที่สุดในชีวิตการแสดงของเธอกลับเป็นในยุคทศวรรษที่ 90 กับบทบาท "เนี่ยเสี่ยวฟ่ง" ในละครกำลังภายในเรื่อง "นางพญากระบี่มาร"(1996) ทำให้เธอโด่งดังทั่วเอเชียเป็นอย่างมาก นับได้ว่าเป็นบทบาทที่ประสบความสำเร็จและเป็นที่จดจำมากที่สุดในชีวิตการแสดงของเธอ

กง ฉือเอิน
เกิดวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2506 (60 ปี)
กงซื่อเจิน (龔施茜)
ฮ่องกง
คู่สมรส"ฮั่วเจิ้นหัว" (พ.ศ. 2532-2533) "หลินเหว่ย" (Lin Wei) พ.ศ. 2542-ปัจจุบัน
คู่ครองหวงเย่อหัว พ.ศ. 2528-2529
อาชีพนักแสดง
ปีที่แสดงพ.ศ. 2527-2542
พ.ศ. 2552-ปัจจุบัน
ผลงานเด่นบท "ไฉ่หยุน" จาก เปาบุ้นจิ้น ตอน อภินิหารผ้ายันต์กินเลือด (พ.ศ. 2536)
-บท "เนี่ยเสี่ยวฟ่ง" เรื่อง "นางพญากระบี่มาร" (พ.ศ. 2539)
-บท "เจ้าแม่กวนอิม" เรื่อง "ไซอิ่ว" (พ.ศ. 2539)
สังกัด-สถานีโทรทัศน์ทีวีบี
-สถานีโทรทัศน์เอทีวี

เธอเริ่มเข้าสู่วงการเมื่อปีพ.ศ. 2527 กับผลงานละครอิง อัตชีวประวัติ เรื่อง "วีรสตรีชิวจิ่น" (A Woman to Remember 1984) แต่เริ่มมาเป็นที่รู้จัก จริงๆ กับผลงานในปีเดียวกัน ในบทบาทที่เธอได้ร่วมแสดงในละครกำลังภายในฟอร์มใหญ่เรื่อง ชอลิ้วเฮียง ตอน ถล่มวังค้างคาว และมีชื่อเสียงเพิ่มมากยิ่งขึ้นกับบทบาทนางเอกเต็มตัวในละครสากลย้อนยุคเรื่อง "เจ้าพ่อฮ่องกง" จนทำให้เธอได้รับบท "สะใภ้ 4" ในละครชุดฟอร์มใหญ่เรื่อง "ขุนศึกตระกูลหยาง"(1985) ในขณะที่ชื่อเสียงของเธอมาแรงอย่างสุดขีดอยู่นั้น แต่จู่ ๆ กลับต้องเจอมรสุมข่าวฉาวรักสามเส้าระหว่างเธอ กับหวงเย่อหัวและแฟนสาวของเขา ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ส่งผลกระทบในแง่ลบต่อชื่อเสียงและความนิยมในตัวเธอโดยตรงเป็นอย่างมากเพราะมีกระแสโจมตีเธอจากบรรดาสื่อและผู้ชมละคร แต่ต่อมาทุกอย่างก็จบลงด้วยดีเมื่อฝ่ายชายได้ตัดสินใจแต่งงานแบบกระทันหันกับแฟนสาวของเขาเพื่อยุติข่าวลือ และถึงแม้ว่าจะมีผลกระทบดังกล่าวเข้ามาเป็นอุปสรรคต่อหน้าที่การงานแต่ทว่าเธอก็ยังคงมีผลงานเด่น ๆ ตามมาอีกหลายเรื่อง อาทิเช่น ซิติงซานขุนศึกสะท้านภพ, หมัดเพชฆาต ฮงเฮกุน, คัมภีร์มรณะ, อิทธิฤทธิ์เจ้ายุทธภพ, 6 พระกาฬ, ประกาศิตจอมมารทะลุฟ้า และ "ศึกเทพยุทธเขาซูซัน" ตอน "ทายาทมารโลหิต” (1990) เป็นต้น

หลังจากออกจากทีวีบี เธอก็เป็นนักแสดงอิสระโดยรับงานแสดงทั้งในไต้หวัน มาเลเซีย และ ฮ่องกง ในช่วงแรกนั้นเธอไม่มีผลงานที่ได้รับความนิยมเลย และชื่อเสียงก็ลดลงไปอย่างมาก แต่แล้วในปีพ.ศ. 2536 เธอกลับมาแจ้งเกิดอีกครั้งกับผลงานที่เธอร่วมแสดงในละครเรื่อง เปาบุ้นจิ้น ตอน "ผ้ายันต์โลหิต", ตลามด้วย ตอน "หมอดูเทวดา" และ ตอน "แก้วมังกร" ผลงานการแสดงของเธอในเรื่องนี้ทำให้เธอกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง ถัดมากับผลงานอันโด่งดังที่สุดในชีวิตการแสดงของเธอคือเรื่อง นางพญากระบี่มาร ในปีพ.ศ. 2539 บทบาทในเรื่องนี้กลายเป็นที่จดจำของผู้ชมละครฮ่องกงมากที่สุดในชีวิตการแสดงของเธอ และอีกบทบาทที่ผู้ชมละครประทับใจมากที่สุดอีกเรื่องคือ ไซอิ๋ว ในบท "เจ้าแม่กวนอิม" ที่เธอสวมบาทบาทนี้ออกมาได้อย่างสง่างามและดูมีเมตตามาก

หลังแต่งงาน ในปีพ.ศ. 2542 กับนักแสดงชาวไต้หวัน "หลินเหว่ย" พร้อม ๆ กับหมดยุคทองของละครชุดฮ่องกง และไต้หวัน ชื่อเสียงของเธอก็ลดลง ถึงแม้ว่าปัจจุบันเธอจะมีผลละครอยู่บ้างก็ตาม แต่ก็ไม่โด่งดังเหมือนในอดีต [1][2][3][4] [5][6][7][8]

ประวัติ แก้

"กงฉือเอิน" เกิดเมื่อวันที่ 17 กันยายน ปีพ.ศ. 2506 เธอเติบโตขึ้นมาในครอบครัวคริสเตียนที่เคร่งครัดและฐานะดี ครอบครัวของเธออาศัยอยู่ ย่านเขต หว่านไจ๋ ในประเทศฮ่องกง ชื่อของเธอ "ฉือเอิน" ตั้งมาจากความหมายของพระคุณที่เมตตาในหลักคำสอนของศาสนาคริสต์ เธอเป็นลูกสาวคนเดียวในครอบครัว ตั้งแต่เด็กเธอรักการร้องเพลงและเต้นเป็นอย่างมาก และเธอได้มีโอกาสเรียนเปียโน พ่อของเธอเป็นพนักงานบัญชีและแม่ของเธอ ทำงานอยู่เบื้องหลังรายการทีวี พ่อและแม่ของเธอ เป็นคนเจ้าระเบียบด้วยกันทั้งคู่ ด้วยความที่เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของครอบครัว พ่อและแม่ของเธอจึงเลี้ยง กงฉือเอิน มาด้วยความเข็มงวดเป็นอย่างมาก

ต่อมาเมื่อเธอ จบการศึกษาจากโรงเรียนประถมคาทอลิกของ "St. Paul" แต่ไม่ได้เรียนต่อระดับชั้นมัธยมในโรงเรียนเดียวกัน เธอได้ย้ายไปเรียนชั้นมัธยมที่วิทยาลัย "New Law College" ในช่วงเวลาที่ศึกษาอยู่ พ่อและแม่ของเธอเข็มงวดกับเธอมาก ทุกครั้งที่มีกิจกรรมของทางโรงเรียนที่ต้องออกไปเข้าค่ายข้างนอก เธอจะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอกหรือมีส่วนร่วมในการเดินทางไปทำกิจกรรมกับทางโรงเรียนเลยสักครั้ง หลังจากที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมปลาย แล้วเธอได้เข้าร่วมงานสังคมสงเคราะห์และทำหน้าที่เป็นเลขานุการของทนายความอาวุโส หูฮั่นฉิง (Hu Hanqing) ต่อมาเธอได้ทำงานเป็นครูสอนเปียโนของ บริษัท เพลงแห่งหนึ่งในแผนกวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์ฮ่องกง ในรายการสำหรับเด็กชื่อว่า บานาน่าโบ๊ท "Banana Boat"

ในปีพ.ศ. 2527 ด้วยความที่เธอเป็นคนสวยและมีเขี้ยว เจ้านายของ กงฉือเอิน แนะนำให้เธอลองไปสมัครคัดเลือกเป็นนักแสดงของทางสถานีโทรทัศน์ทีวีบี ซึ่งเธอก็สามารถผ่านการคัดเลือกจากผู้สมัครมากถึง 2,000 คน และกลายเป็นนักเรียนการแสดงคนแรกของกลุ่มนักเรียนการแสดงในปีนั้น ที่ใช้เวลาเรียนการแสดงแค่ 3 เดือน ก็ได้เล่นละครโทรทัศน์ทันที (ซึ่งปกติต้องเรียนจนจบหลักสูตรการแสดง 1 ปี ถึงจะได้เริ่มเล่นละคร) โดยสถานีโทรทัศน์ทีวีบีได้ให้เธอร่วมแสดง ในละครเชิงอัตชีวประวัติ เรื่อง "วีรสตรีชิวจิ่น" (A Woman to Remember 1984) ที่มีดาราเจ้าบทบาทอย่าง หวัง หมิงฉวน แสดงนำ และแจ้งเกิดกับบทนางรองในละครชุดแนวกำลังภายใน ฟอร์มใหญ่แห่งปีเรื่อง "ชอลิ้วเฮียง ตอน ถล่มวังค้างคาว" ที่มีดาราดังอย่าง เหมียวเฉียวเหว่ย เยิ่นต๊ะหัว และ องเหม่ยหลิง แสดงนำ ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นที่คาดกันว่าละครยอดนิยมเรื่องนี้ น่าจะส่งเสริมให้เธอโด่งดังได้ทันที แต่ทว่า..เป็นที่น่าเสียดายเพราะบทบาทของเธอในละครยอดนิยมเรื่องนี้ กลับถูกความดังของดาราสาว "องเหม่ยหลิง" กลบไปเสียเกือบหมด

หลังจากจบการแสดงในปลายปี 2527 เธอก็เริ่มอาชีพนักแสดงอย่างเต็มตัวในปีพ.ศ. 2528 ถือได้ว่าเป็นปีที่แจ้งเกิดเธออย่างเต็มตัว ด้วยศักยภาพของเธอที่เพียบพร้อม ทางสถานีโทรทัศน์ทีวีบี ได้มอบบทบาทนางเอกเต็มตัวโดยให้เธอเล่นกับโจวเหวินฟะ ในละครสากลย้อนยุคเรื่อง "เจ้าพ่อฮ่องกง" (The Battle Among at The Clans 1985) ในบทบาท "ซื่อเว่ย" ว่ากันว่าบทบาทนางเอกของเรื่องนี้ แต่เดิมทางสถานีโทรทัศน์ทีวีบี ได้วางตัวเป็น หลัน เจี๋ยอิง เอาไว้ แต่เพราะปัญหาของ หลันเจี๋ยอิง ที่เธอปฏิเสธจะต่อสัญญาการเป็นนักแสดงระยะยาว 5 ปี กับทางช่อง เป็นสาเหตุให้เธอถูกทางช่องแช่แข็ง 6 เดือน จึงทำให้บทบาทนางเอกตกมาเป็นของ กงฉือเอิน แทน ในเวลานั้นทุกคนคิดว่า กงฉือเอิน ไม่สามารถเล่นบทบาทนี้ได้ เพราะเธอเป็นนักแสดง หน้าใหม่ อีกทั้งตัวของ กงฉือเอิน เองก็ผ่านงานแสดงมาน้อยกว่า หลันเจี๋ยอิง แต่อย่างไรก็ตาม...ผู้ชมก็เฝ้ารอดูผลงานละครเรื่องนี้ของเธอเป็นอย่างมาก

หลังจากละครเรื่องนี้ออกอากาศ ชื่อเสียงของ กงฉือเอิน ดังไปทั่วฮ่องกง ทันที และทำให้เธอกลายเป็น 1 ใน 5 นักแสดงหญิงหน้าใหม่มาแรง ร่วมกับ โจว ไห่เม่ย, เส้า เหม่ยฉี, เติ้ง ชุ่ยเหวิน และ หลี เหม่ยเสียน พวกเธอทั้ง 5 ถูกเรียกว่า "New Sister" และกลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงของสถานีโทรทัศน์ทีวีบี ผลงานต่อมาละครสากลเรื่อง "คอนโด" (The condo 1985) เล่นประกบ เหมียวเฉียวเหว่ย ตามด้วยละครฟอร์มใหญ่ที่สร้างขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 18 ปีของสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเรื่อง "ขุนศึกตระกูลหยาง" (The Yang’s Saga 1985) ที่มีดาราดังเกือบทุกคนของในค่ายมาร่วมงาน เธอได้รับบทเป็น สะไภ้4 ประกบกับ เหมียวเฉียวเหว่ย อีกครั้ง

ในเดือนกันยายนปีเดียวกันเธอได้เข้าร่วมแสดงละครเรื่อง "ซิติงซานขุนศึกสะท้านภพ" และเป็นเพราะละครเรื่องนี้ทำให้ กงฉือเอิน และ หวงเย่อหัว ได้เกิดปิ๊งกันขึ้นมา จนกลายเป็นข่าวฉาวว่า กงฉือเอิน เป็นมือที่สาม ที่เข้าไปสอดแทรก ระหว่างหวงเย่อหัว และเหลียงเจียหัว (แฟนสาวของหวงเย่อหัว) ที่เป็นข่าวซุบซิบอย่างมากในช่วงเวลานั้น จนมีข่าวว่าผู้ชมละคร เริ่มแอนตี้ และต่อว่าเธอ

ถัดมาปีพ.ศ. 2529 เธอมีชื่อเสียงเพิ่มมากขึ้น จากละครเรื่อง "ซิติงซานขุนศึกสะท้านภพ หรืออีกชื่อ "ซิติงซานพิชิตตะวันตก" (General Father General Son 1986) โดยร่วมแสดงกับ หวงเย่อหัว และ เฉินหมิ่นเอ๋อ

กงฉือเอิน ได้มีผลงานละครกับทางสถานีโทรทัศน์ทีวีบี อย่างต่อเนื่อง

ทางทีวีและสัญญาสิ้นสุดในปี 2533 เร็ว ๆ นี้ฉันไปที่ฮ่องกงเพื่อเรียนรู้ศิลปะการแสดง ในเวลาเดียวกันฉันไปไต้หวันและมาเลเซียเพื่อถ่ายทำละครในท้องถิ่น เธอไม่ค่อยมีบทบาทในทีวีในช่วงเวลาทำงานเพราะภาพแรกไม่โดดเด่นจนกระทั่งเมื่อปี 1996 เมื่อเธอแสดงในรายการแบบไร้สายหลังจากที่ผลงานของ Guanyin ใน "Journey to the West" การแสดงออกของเธอถูกมองว่าเป็น ผลงานชิ้นเอกที่ประสบความสำเร็จที่ไม่สามารถเปลี่ยนได้ง่าย ในปีพ.ศ. 2542 เธอได้แต่งงานกับศิลปินชายชาวไต้หวันชื่อ Lin Biao ในโตรอนโตประเทศแคนาดาหลังจากแต่งงานแล้วเธอมีลูกชายและลูกสาวหลังจากแต่งงาน [1] ทั้งสองกลายเป็นนักกีฬาละครแนว "Snow Mountain Flying Fox" [2] หลินบุระเป็นสามีคนที่สอง ก่อนหน้านี้เธอได้แต่งงานกับนักธุรกิจก่อสร้าง Huo Zhenhua แต่หลังจากเดินทางกลับมายังฮ่องกงในช่วงปี 1990 หลังจากถ่ายทำภาพยนตร์ในมาเลเซียเธอพบว่าโฮล์มส์มีเรื่องนอกใจเพราะเธอตัดสินใจหย่า Gong Ci'en และ Lin Biao อาศัยอยู่ในไต้หวันเป็นเวลาสองหรือสามปี เธอจางหายไปจากที่เกิดเหตุเพราะแต่งงานของเธอในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาลูก ๆ ของเธอโตขึ้นและกลับมา ในปีพ.ศ. 2555 เขาได้เข้าร่วม Galaxy Hairun Performing Arts Co. , Ltd. ส่วนใหญ่ในฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่เพื่อรับชมละครและภาพยนตร์ทางทีวี ในปี 2015 ลูกสาวของ Gong Ci Liu Lin Yiling ได้เข้าร่วมวงการบันเทิงในฐานะนักร้อง Gong Ci'en ถ่ายทำภาพยนตร์ชุดชอว์บราเดอร์เรื่อง "Free Body" ในปีพ.ศ. 2560 เธอแสดงได้ดีในบทบาทของ "Zheng Shi" ในละครเรื่อง "The Year of Flower" ปี 2017 ซึ่งเพิ่มความนิยมในจีนแผ่นดินใหญ่

ในเวอร์ชัน TVB ของ "การเดินทางไปทางทิศตะวันตก" ปรากฏในมุมของเจ้าแม่กวนอิมได้. เจ้าแม่กวนอิมนี้เป็นสีขาวและนุ่มและรูปร่างหน้าตาของเธอทำ Wukong และผู้ชมรู้สึกสายลมฤดูใบไม้ผลิ. นี้เป็นหนึ่งในตัวละครที่มีชื่อเสียง ในอาชีพการแสดงของ Gong Ci'en

ชีวิตส่วนตัว แก้

ย้อนกลับไปในปีพ.ศ. 2528 กงฉิอเอิน ได้ชื่อว่าเป็นดาราสาวดาวรุ่งพุ่งแรงคนหนึ่งของสถานีโทรทัศน์ทีวีบี ในยุคสมัยนั้นถือได้ว่าเธอเป็นสาวสวยคนหนึ่ง ที่มีเขี้ยวและน่ารัก อีกทั้งยังมีนิสัยที่อ่อนหวานและถ่อมเนื้อถ่อมตัว แน่นอนว่าตัวเธอย่อมตกเป็นสาวในฝันของใครหลายคน ไม่เว้นแม้แต่ดาราหนุ่มชื่อดัง หวงเย่อหัว ทั้งคู่ได้เกิดความรู้สึกที่ดีต่อกันในตอนถ่ายทำละครด้วยกันในเรื่อง "ซิติงซาน" เมื่อปีพ.ศ. 2528 จนกลายเป็นประเด็นข่าวรักสามเส้าขึ้นมาและส่งผลกระทบในเชิงลบต่อชื่อเสียงและหน้าที่การงานทางด้านการแสดงของเธอที่กำลังรุ่งโรจน์เป็นอย่างมาก

สาเหตุเพราะเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่า หวงเย่อหัว คบกับ เหลียงเจียหัว ในฐานะคนรัก มาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2525 และความรักของคนทั้งสองก็ได้รับการยอมรับจากทุกคน แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าในขณะนั้น เหลียงเจียงหัว ได้เลิกลากับ ฝ่ายชาย ไปไม่กี่เดือน ก่อนหน้าที่เขา จะไปพบรักใหม่กับดาราสาวอย่าง กงฉือเอิน ในเวลาต่อมา

แต่ข่าวฉาวที่หนังสือพิมพ์ลงกลับกลายเป็นว่า กงฉือเอิน เป็นมือที่สาม ที่ทำให้ความรักระหว่างหวงเย่อหัว กับ เหลียงเจียหัว ต้องเลิกลากัน ทำให้ในตอนนั้น เกิดมีกระแสโจมตี กงฉือเอิน ขึ้นมา และบรรดาคนดูละครก็เกิดกระแสต่อต้านผลงานละครของเธอ

ข่าวลือไปกล่าวหาว่า กงฉือเอิน เป็นมือที่สามที่เข้าไปแทรกแซงความรักระหว่าง หวงเย่อหัว และ เหลียงเจียงหัว ถึงแม้ว่า...หวงเย่อหัว จะออกมาปกป้อง กงฉือเอิน และพยายามที่จะชี้แจงข้อเท็จจริงว่าเขาได้ตกหลุมรักกับเธอ หลังจากที่ได้เลิกรากับเหลียงเจียหัว ไปแล้วก็ตาม แต่ก็ดูเหมือนว่า กงฉือเอิน ยังคงถูกโจมตี เป็นอย่างมากอยู่ดี

ความรักครั้งนี้ของคนทั้งคู่ อยู่ภายใต้แรงกดดันจากความคิดเห็นในแง่ลบของผู้คนมากมาย เป็นสาเหตุทำให้ความรักระหว่าง หวงเย่อหัว และ กงฉือเอิน ไปไม่ถึงฝั่งฝัน และได้มาถึงจุดจบในระยะเวลาอันรวดเร็ว ตัวของ หวงเย่อหัว เองก็กลับไปคืนดีกับ เหลียงเจียหัว ส่วน กงฉือเอิน เองได้หลบไป ไต้หวัน อยู่พักหนึ่งเพื่อหลบเลียแผลใจ จนกลับมาเข้มแข็งได้อีกครั้ง

แต่ทว่า..ก็มีข่าวลือออกมาอีกว่า ทั้ง หวงเย่อหัว และ กงฉือเอิน เองก็ไม่ได้เลิกลากันจริง ๆ ข่าวว่าทั้งสองแกล้งเลิกกันเพื่อไม่ให้กระทบต่อชื่อเสียงและหน้าที่การงานของ กงฉือเอิน โดยที่ทั้งคู่ยังคงแอบคบกันแบบเงียบ ๆ เพราะมีคนเห็นคนทั้งคู่ยังแอบไปมาหาสู่กันเหมือนเดิม ข่าวนี้ได้ทำให้ความรักของ หวงเย่อหัว และ เหลียงเจียหัว เกือบจะต้องเลิกลากันอีกครั้ง จนกระทั่ง หวงเย่อหัว ต้องพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจ โดยการตัดสินใจ แต่งงานกับ เหลียงเจียหัว แบบกระทันหัน ทันทีในปีพ.ศ. 2531

ส่วนตัวเธอได้ไปแต่งงานอย่างเงียบ ๆ กับนักธุรกิจก่อสร้าง ชื่อว่า "ฮั่วเจิ้นหัว" (Huo Zhenhua) ในปีพ.ศ. 2532 แต่หลังจากนั้นไม่นานทั้งสองก็หย่าขาดจากกัน สาเหตุเพราะเธอจับได้ว่าเขานอกใจเธอ หลังจากที่เธอเดินทางกลับมาจากการถ่ายทำละครชุดเรื่องหนึ่งในมาเลเซีย และพบว่าสามีของเธอมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนอื่น เธอจึงตัดสินใจหย่าทันทีในปีต่อมาพ.ศ. 2533

หลังจากนั้นเธอได้พบรักใหม่กับสามีคนที่สองของเธอนามว่า "หลินเหว่ย" ซึ่งเขาคนนี้เป็นนักแสดงชาวไต้หวัน ทั้งสองพบรักกันในตอนถ่ายทำละครด้วยกันในเรื่อง "จิ้งจอกภูเขาหิมะ" (1991) เวอร์ชันไต้หวัน ในปีพ.ศ. 2534 ตอนนั้น กงฉือเอิน เพิ่งหย่ากับสามี และ หลินเหว่ย ก็เป็นนักแสดงหนุ่มรูปหล่อและยังโสด ทำให้คนทั้งสองเกิดปิ๊งกันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จนในที่สุดทั้งคู่ก็ได้ตัดสินใจคบหากัน

ทั้งคู่คบหาดูใจกันอยู่นานเกิน 7 ปี ในที่สุดก็ได้ตัดสินใจแต่งงานกัน ในปีพ.ศ. 2542 ที่เมืองโตรอนโตประเทศแคนาดา หลังจากแต่งงานกันแล้ว เธอก็มีลูกชายและลูกสาวให้เขาอย่างละ 1 คน

ปัจจุบันทั้งคู่ยังครองรักกันดี และเป็นครอบครัวดาราที่อบอุ่นมากครอบครัวหนึ่ง นอกจากนี้พวกเขายังถือได้ว่าเป็นครอบครัวที่ร่ำรวยครอบครัวหนึ่ง เพราะคนทั้งสองมีการลงทุนในด้านเทคโนโลยีและเงินทั้งหมดของพวกเขาที่ได้รับมาจากการแสดง ได้ถูกนำไปลงทุนในด้านอสังหาริมทรัพย์ จนพวกเขามีทรัพย์สินมูลค่ามากกว่า 100 ล้านเหรียญฮ่องกง โดยมีบ้านทั้งหมดหกหลังในแวนคูเวอร์, โตรอนโต, ฮ่องกงและไต้หวัน.[9][10][11]

ผลงาน แก้

ผลงานเด่นของเธอ

  • "วีรสตรีชิวจิ่น" (A Woman to Remember 1984)
  • ชอลิ้วเฮียง ตอน ถล่มวังค้างคาว (1984)
  • เจ้าพ่อฮ่องกง (The Battle Among at The Clans 1985)
  • คอนโด (The condo 1985)
  • ขุนศึกตระกูลหยาง (The Yang’s Saga 1985)
  • ม่านละคร (Movie Maze 1985)
  • ซิติงซานขุนศึกสะท้านภพ (ซิติงซานพิชิตตะวันตก) General Father General Son 1986 มี 20 ตอนจบ นำแสดงโดย หวงเย่อหัว, เฉินหมิ่นเอ๋อ, กงฉือเอิน และหยางพ่านพ่าน
  • ลบคมเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ (1987) หรือ 3พยัคฆ์เซี่ยงไฮ้ (The Greenhorns :大城小子)
  • คัมภีร์มรณะ (1987) The Book of the Death
  • อิทธิฤทธิ์เจ้ายุทธภพ (The Saga of the Lost Kingdom 1988)
  • มังกรโหด (War of the Dragon 1989)
  • มือปราบจอมโหด The Under Cover Story (1989) แสดงร่วมกับ เยิ่นต๊ะหัว,จางเจ้าฮุย,ลีลี่เจิน,เถาต้าหวี่,
  • 6 พระกาฬ (1989) flying squads
  • ศึกเทพยุทธเขาซูซัน ตอน กระบี่มังกรหงส์ (1990) The Gods and Demons of Zu Mountain
  • แผ่นดินรักแผ่นดินเลือด (1990) A Time of Taste
  • ประกาศิตจอมมารทะลุฟ้า (1991) The Zu Mountain Saga
  • จิ้งจอกภูเขาหิมะ (1991) Fox Volant of the Snowy Mountain
  • เปาบุ้นจิ้น ตอน "ผ้ายันต์โลหิต", และตามด้วย ตอน "หมอดูเทวดา" และ ตอน "แก้วมังกร" (1993-1994)
  • ผีจอมยุ่ง (1996) Crossing Boundaries นำแสดงโดย หม่าเหมี่ยนเอ๋อ เลี่ยวเหว่ยสง กงฉือเอิน ซังเทียนเอ๋อ
  • นางพญากระบี่มาร (The Snow is red 1996)
  • ไซอิ๋ว (Journey to The West 1996)
  • เพลงดาบสะท้านภพ ตอน กระบี่รักดาบอสูร (1999) Swordsman III

(หวงเหวินเหา, เหอเหม่ยเถียน, กงฉือเอิน, หลินเวย)

อ้างอิง แก้

  1. "ประวัติแบบย่อๆ ของดาราสาว "กงฉือเอิน"". โดย marasod. สืบค้นเมื่อ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)[ลิงก์เสีย]
  2. "ดาราสาว "กงฉือเอิน"". โดย MGR Online. 5 มิถุนายน พ.ศ. 2550. สืบค้นเมื่อ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)[ลิงก์เสีย]
  3. "「林煒、龔慈恩鶼鰈情深 但床笫之間卻有第三者?! (一子一女) 」2004年12月12日 台北NOW娛樂新聞". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-03-06. สืบค้นเมื่อ 2018-08-09.
  4. "【馮仁昭四圍超】形容夫婦恩愛 龔慈恩老公:我被綁架". 香港蘋果日報. 10月31日. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-03-13. สืบค้นเมื่อ 2018-08-09. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |year=, |date= และ |year= / |date= ไม่ตรงกัน (help)
  5. "【多圖】17歲林愷鈴美若天仙 龔慈恩唔反對入行:最重要有興趣". 香港01. 10月27日. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |year=, |date= และ |year= / |date= ไม่ตรงกัน (help)
  6. "ประวัติ"กงฉือเอิน"". โดย Baidu. สืบค้นเมื่อ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  7. "Entertainment Gossip Sister" (13 กันยายน พ.ศ. 2560). ""กงฉือเอิน"". สืบค้นเมื่อ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)[ลิงก์เสีย]
  8. "明星关系 黄日华" (12 กรกฎาคม พ.ศ. 2560). ""กงฉือเอิน ไปสมัครเรียนการแสดง และการเปลี่ยนตัวในละคร เจ้าพ่อฮ่องกง"". โดย 38fan. สืบค้นเมื่อ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)[ลิงก์เสีย]
  9. "เรื่องราวความรัก ของดาราสาว "กงฉือ เอิน กับ หวงเย่อหัว"". buzzhand. 22 กันยายน พ.ศ. 2560. สืบค้นเมื่อ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  10. Jennifer (10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557). "เรื่องราวการงานและความรัก ของดาราสาว "กงฉือ เอิน "". chinatimes. สืบค้นเมื่อ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  11. "รักสามเส้า ของดาราสาว "กงฉือ เอิน กับ หวงเย่อหัว"". coventrynv. 17 ตุลาคม พ.ศ. 2558. สืบค้นเมื่อ 10 สิงหาคม พ.ศ.2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)[ลิงก์เสีย]

แหล่งข้อมูล แก้