ไวยากรณ์ภาษาทมิฬ
ภาษาทมิฬเป็นภาษารูปคำติคต่อ ประกอบด้วยรากศัพท์และหน่วยคำเติมเข้ามาตั้งแต่หนึ่งหน่วยหรือมากกว่า หน่วยคำเติมส่วนมากเป็นปัจจัย มีทั้งปัจจัยแปลงคำซึ่งเปลี่ยนรูปแบบของคำและความหมาย กับปัจจัยผันคำ ซึ่งเป็นการบ่งบอกจำนวน บุคคล รูปแบบของกริยา กาล เป็นต้น ไม่มีข้อกำหนดที่ตายตัวสำหรับความยาวหรือจำนวนของปัจจัยที่เติมทำให้สามารถสร้างคำขนาดยาวที่มีปัจจัยมากมายที่อาจแทนได้ด้วยคำหลายคำหรือเป็นประโยคในภาษาอังกฤษ
ตำราไวยากรณ์ แก้
ตำราไวยากรณ์ของภาษาทมิฬแบ่งเป็น 5 ส่วน ดังนี้
ชื่อภาษาทมิฬ | ความหมาย | เล่มหลัก |
eḻuttu | อักษร | Tolkāppiyam, Nannūl |
col | คำ | Tolkāppiyam, Nannūl |
porul | ความหมาย | Tolkāppiyam |
yāppu | รูปแบบ | Yāpparuṅkalakkārikai |
aṇi | วิธีการ | Tanṭiyalaṅkāram |
คำนาม แก้
คำนามและสรรพนามในภาษาทมิฬแบ่งเป็นระดับสูงสองระดับคือ นามคิดได้ (uyartinai) กับนามคิดไม่ได้ (akrinai) มนุษย์และเทพเจ้า จัดเป็นนามคิดได้ นามอื่น ๆ ได้แก่ สัตว์ สิ่งของ จัดเป็นนามคิดไม่ได้ ทั้งสองระดับนี้แบ่งได้อีกเป็นห้าระดับตามเพศ นามคิดได้ แบ่งเป็นสามระดับคือ เอกบุรุษ เอกสตรี และพหูพจน์ รูปพหูพจน์ของนามชนิดนี้อาจใช้เป็นรูปเอกพจน์ ไม่ปรากฏเพศเพื่อแสดงความนับถือได้ ส่วนนามคิดไม่ได้ มีสองระดับคือเอกพจน์ และพหูพจน์ การแสดงระดับนี้มักแสดงด้วยปัจจัย ตัวอย่างเช่น การผันศัพท์ภาษาทมิฬที่แปลว่าผู้ทำ
นามคิดได้ เอกบุรุษ | นามคิดได้ เอกสตรี | นามคิดได้ พหูพจน์ | นามคิดไม่ได้ เอกพจน์ | นามคิดไม่ได้ พหูพจน์ |
---|---|---|---|---|
ceytavaṉ | ceytaval | ceytavar | ceytatu | ceytavai |
เขาผู้ทำ | เธอผู้ทำ | พวกเขาผู้ทำ | มันผู้ทำ | พวกมันผู้ทำ |
ปัจจัยใช้เป็นตัวบ่งชี้การกและปรบท ไวยากรณ์แบ่งเป็น 8 การกตามแบบภาษาสันสกฤต ได้แก่ การกประธาน กรรมตรง กรรมรอง ความเกี่ยวข้อง แสดงความเป็นเจ้าของ เครื่องมือ สถานที่ และแหล่งที่มา คำนามที่มาจากการเรียงคำแบบรูปคำติดต่อจะแปลได้ยาก ตัวอย่างเช่นศัพท์ภาษาทมิฬ poKamutiyatavarkalukkaKa หมายถึง “สำหรับจุดมุ่งหมายของเขาเหล่านั้นผู้ไม่สามารถไปได้” ซึ่งประกอบด้วยหน่วยคำดังนี้
poKa (ไป) - muti (ความสำเร็จ) – y- ata (ปฏิเสธ) - var (รูปประธาน) – kal (พหูพจน์) – ukku (ที่) - aKa (ชนิดของคำ)
คำนามภาษาทมิฬอาจเติมคำอุปสรรค i a u และ e ซึ่งมีการทำงานใกล้เคียงกับภาษาอังกฤษ ตัวอย่างเช่น vali หมายถึงทาง อาจเติมคำอุปสรรคเป็น ivvali = ทางนี้ avvali = ทางนั้น uvvali = ระหว่างทาง และ evvali = ทางนี้ นามบางคำสร้างโดยการเรียงติดต่อรูปคำ ตัวอย่างเช่น เขา-ผู้แต่ง-กริยาช่วย หรือ นั่น-สิ่งซึ่ง-จะ-มา นามเหล่านี้เรียกว่านามอนุภาค นามประกอบสร้างโดยการเชื่อมต่อคำคุณศัพท์และคำนามเช่นเชื่อมคำว่าดี และ เขา เป็น ดี-เขา หมายถึง คนดี ส่วน ดี-พวกเขา หมายถึงประชาชนที่ดี นามกริยาในภาษาทมิฬสร้างจากรากศัพท์ของคำกริยา เทียบเท่ากับคำที่เติม –ing ในภาษาอังกฤษ
คำกริยา แก้
คำกริยาสร้างด้วยการเติมปัจจัยได้เช่นเดียวกับคำนาม ซึ่งจะแสดงบุคคล จำนวน รูปแบบ กาล และการกระทำ ตัวอย่างเช่น alintukkontironten = (ฉัน) กำลังถูกทำลาย
ali (รากศัพท์ = ทำลาย) – intu (อดีต-ถูกกระทำ) – kontu (กาล-ระหว่าง) – ironta (อดีต-กำลังกระทำ) – en (บุรุษที่ 1-เอกพจน์)
บุคคลและจำนวนแสดงโดยการเติมปัจจัยของการกกรรมตรงที่สรพนามที่เกี่ยวข้อง (en ในตัวอย่างข้างต้น) ปัจจัยที่ชี้บ่งกาลและการกระทำเติมที่รากศัพท์ การกระทำในภาษาทมิฬมีสองแบบคือประธานถูกกระทำโดยกรรม หรือประธานแสดงการกระทำต่อกรรม กาลในภาษาทมิฬมีสามแบบ คือ อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ซึ่งจะบ่งชี้ด้วยปัจจัยธรรมดาหรือสัมบูรณ์ซึ่งเป็นปัจจัยประกอบ
องค์ประกอบอื่น แก้
ภาษาทมิฬไม่มีคำนำหน้านาม มีการแยกสรพนามรวมและไม่รวมผู้ฟังสำหรับบุรุษที่ 1 พหูพจน์ ไม่มีการแบ่งระหว่างคำคุณศัพท์กับกริยาวิเศษณ์ เรียกว่า criccol เหมือนกัน คำสันธานเรียกว่า itaiccol
โครงสร้างประโยค แก้
นอกจากในบทกวี การเรียงคำในประโยคเป็นแบบประธาน-กรรม-กริยา ประโยคไม่จำเป็นต้องมีครบทั้งสามส่วน เป็นไปได้ที่จะมีประโยคที่มีแต่กริยา เช่น atu en uitu = คือบ้านของฉัน ไม่มีคำที่มีความหมายตรงกับ verb to be ในภาษาอังกฤษ
อ้างอิง แก้
- A. H. Arden, A progressive grammar of the Tamil language, 5th edition, 1942.