ไฟนอลแฟนตาซี IX เป็นเกมแนว RPG (Role-playing game) ที่สร้างโดยบริษัทสแควร์จำกัด ในปี พ.ศ. 2543 จัดจำหน่ายใน ญี่ปุ่น โดย สแควร์ และใน ทวีปอเมริกาเหนือ โดย Square Electronic Arts ใน ทวีปยุโรป โดย Infogrames ใน สหราชอาณาจักร และ ออสเตรเลีย โดย Square Europe เกม ไฟนอลแฟนตาซี IX นี้เป็น ไฟนอลแฟนตาซี ภาคสุดท้ายที่เล่นบนเครื่องเกม เพลย์สเตชัน และยังถือเป็นการกลับมาของตัวละคร เช่น วีวี่ มอนสเตอร์ และเนื้อเรื่องของ ไฟนอลแฟนตาซี ยุคคลาสสิกอีกด้วย ถือเป็นการปลุกความทรงจำที่แฟนไฟนอลดียังจำกันได้ขึ้นมาอีกครั้ง

ไฟนอลแฟนตาซี IX
Final Fantasy IX
250px
ผู้พัฒนาสแควร์
ผู้จัดจำหน่าย
สแควร์
  • วางจำหน่ายครั้งแรก
    Platinum release
กำกับฮิโระยุกิ อิโต
อำนวยการผลิตฮิโระโนะบุ ซะกะงุชิ
ชินจิ ฮะชิโมะโตะ
โปรแกรมเมอร์ฮิโระชิ คะไว
ศิลปินฮิเดะโอะ มินะบะ
เขียนบทฮิโระโนะบุ ซะกะงุชิ[1]
แต่งเพลงโนะบุโอะ อุเอะมะสึ
ชุดFinal Fantasy
เครื่องเล่นPlayStation, Microsoft Windows, iOS, Android
วางจำหน่ายPlayStation
PlayStation Network
iOS, Android
10 กุมภาพันธ์ 2016 PlayStation 4
19 กันยายน 2017
แนวเกมเล่นตามบทบาท
รูปแบบเล่นคนเดียว, หลายผู้เล่น

การวางเนื้อเรื่อง แก้

ไฟนอลแฟนตาซี IX มีเนื้อเรื่องอยู่บนโลกที่มีนามว่า ไกอา (Gaia) ซึ่งโลกนี้ถูกแบ่งออกเป็น 4 ทวีป โดยที่ผู้คนส่วนใหญ่บนดาวดวงนี้ล้วนอาศัยอยู่บนทวีปแห่งหมอก อันมาจากการที่ทวีปนี้ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกนั่นเอง บรรดาเรือเหาะและเครื่องจักรส่วนใหญ่ล้วนถูกขับเคลื่อนด้วยพลังงานหมอกนี้ ในทวีปแห่งหมอกนี้เอง มีอาณาจักรตั้งอยู่ 3 อาณาจักรด้วยกัน คือ อาณาจักรอเล็กซานเดรีย (Alexandria) แคว้นลินด์บลัม (Lindblum) และอาณาจักรเบอร์เมเซีย (Burmecia) โดยที่อเล็กซานเดรียเป็นอาณาจักรที่มีดินแดนกว้างใหญ่สุดเกือบครึ่งหนึ่งของทวีป ขณะที่ลินด์บลัมด์ก็เป็นมหานครที่มีวิทยาการสูงสุด และเบอร์เมเซียเป็นอาณาจักรที่มีฝนตกอยู่ตลอดเวลา แต่ละอาณาจักรจะมีเทือกเขากั้นอยู่ โดยที่จะมีประตูหลัก 3 ประตูตรงกลางหุบเขา โดยที่อาณาจักรอเล็กซานเดรียอยู่ใต้การปกครองของพระราชีนีนาถบราเนอ, ลินด์บลัมอยู่ใต้การปกครองของอุปราช ซิด ฟาบูลที่ 9 และเบอร์เมเซียอยู่ใต้การปกครองของกษัตริย์เบอร์เมเซียน ส่วนทวีปอีก 3 ทวีปที่เหลือคือ ทวีปภายนอก (Outer Continent) ทวีปที่สาปสูญ (Lost Continent) และ ทวีปที่ถูกลืม (Forgotten Continent)

เรื่องราวเริ่มต้นที่ อุปราชซิดแห่งลินบลัมด์ ทราบว่าราชินีแห่งอะเล็กซานเดรียวางแผนบางอย่างที่เป็นอันตรายต่อเจ้าหญิงการ์เน็ตที่มีศักดิ์เป็นหลานลุงของตัวเอง จึงส่งเรืออุปรากร พริม่าวิสตา มาแสร้งแสดงละครในอเล็กซานเดรียและลักพาตัวเจ้าหญิงการ์เน็ต ระหว่างพาเจ้าหญิงหลบหนีออกมา ความแตกทำให้เรือเหาะพริม่าวิสตาถูกโจมตีและอัปปางลงสู่ป่าต้องสาปเบื้องล่างของนครหลวงอเล็กซานเดรีย ราชินีบราเนอรับสั่งให้จับตัวเจ้าหญิงกลับมาแบบเป็นๆให้ได้ ทางฝั่งเจ้าหญิงและพวกก็ได้มุ่งหน้าออกจากป่าต้องสาปด้วยความยากลำบากเพื่อไปยังลินบลัมด์ ทั้งหมดไปถึงหมู่บ้านดาลีและพบว่าใต้ดินของหมู่บ้านนี้มีการผลิตตุ๊กตาพ่อมดแห่งความมือขนาดเท่าตัวจริงจำนวนมาก และนั่นเป็นคำสั่งของราชินี พวกของเจ้าหญิงได้แอบโดยสารไปในเรือเหาะที่ขนส่งตุ๊กตานั้น โดยพบว่าภายในเรือเหาะมีพ่อมดดำที่เดินได้ทำงานอยู่อย่างไม่มีจิตใจ ทั้งหมดระหว่างทางถูกขัดขวางจากพ่อมดแห่งความมืดที่ถูกส่งมาจากสมุนราชินี ทั้งหมดเอาชนะได้และบังคับเรือเหาะไปยังลินบลัมด์

เมื่อไปถึงลินบลัมด์ทั้งหมดก็ได้เข้าพบอุปราชที่มีสภาพเป็นตัวอ็อกลอป อุปราชซิดเล่าถึงสาเหตุที่ต้องส่งคนไปลักพาตัวเจ้าหญิง ทั้งหมดได้พักในลินบลัมด์อยู่ระยะหนึ่งและร่วมงานเทศกาลล่าสัตว์ประจำปี ในพีธีมอบรางวัลชนะเลิศมีทหารที่บาดเจ็บจากอาณาจักรเบอร์เมเซียได้เข้าพบอุปราชเพื่อแจ้งว่าอาณาจักรเบอร์เมเซียถูกกองทัพพ่อมดมืดโจมตี และต้องการกำลังเสริมโดยด่วน เจ้าหญิงเมื่อทราบข่าวจึงวางยานอนหลับพวกซีดานและแอบหนีกลับกรุงอเล็กซานเดรียเพื่อขอร้องราชีนีให้หยุด ส่วนพวกซีดานเข้าใจผิดคิดว่าเจ้าหญิงมุ่งหน้าไปอาณาจักรเบอร์เมเซียจึงรีบตามไป เมื่อพวกซีดานไปถึงกรุงเบอร์เมเซียก็พบกับสภาพบ้านเมืองที่มีซากปรักหักพังกลางสายฝน ทั้งหมดเข้าไปสำรวจในพระราชวัง และพบกับราชินีบราเนอกับนายพลหญิง เบียร์ทริกซ์ กำลังคุยกับชายผู้หนึ่ง ทำให้ทราบว่า พ่อมดมืดมีชายผู้นั้นอยู่เบื้องหลัง และราชีนีกำลังตามหากษัตริย์เบอร์เมเซีย ที่ตอนนี่หนีไปอยู่ที่ถ้ำพฤษาศักดิสิทธิ์ เครยล่า และพวกเขาจะตามไปโจมตีที่นั่น ระหว่างนั้น เจ้าหญิงการ์เน็ตก็เดินทางไปถึงนครเทรโน่ และใช้เส้นทางลับใต้ดิน การ์แกนท์ เดินทางไปยังปราสาทอเล็กซานเดรีย การ์เน็ตได้พบกับราชินีและขอร้องให้เธอหยุด ราชินีอ้างว่าจำเป็นต้องทำลายเบอร์เมเซียเพราะเบอร์เมเซียมีแผนจะโจมตีอเล็กซานเดรีย การ์เน็ตไม่เชื่อ ชายคนที่ชื่อ คุจา คนเดียวกับที่พระราชวังเบอร์เมเซียเข้ามาในห้องและทำให้การ์เน็ตสลบ และสมุนราชินีนำตัวการ์เน็ตไปทำพิธีกรรมถอนเอโดลอนจากตัวเธอ

พวกซีดานไปถึงเครล่า และพบว่าเครยล่าเป็นพฤกษาศักดิ์สิทธิ์ที่มีพายุทรายคอยคุ้มกันมากว่าหลายร้อยปี ทำให้ที่นี่จึงปลอดภัยจากการโจมตี อย่างไรก็ตาม ระหว่างพิธีกรรมบรวงสรวงพฤกษาเครล่า พิณศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดขาดขึ้นมา ทำให้พายุทรายมลายหายไป กองทหารอเล็กซานเดรียและพ่อมดแห่งความมืดเริ่มโจมตีเครยล่า เมื่อแม่ทัพเบียร์ทริกซ์ชิงศิลาเวทย์ของเบอร์เมเซียไปได้แล้วจึงถอนกำลังผ่านเวทย์เคลื่อนย้าย พวกซีดานกระโจนเข้าไปในเวทย์นั้นและไปโผล่บนเรือบินหลวง เรดโรส ที่บินอยู่ใกล้ๆพฤกษาเครล่าและมีราชินีบราเนอประทับอยู่ เมื่อแม่ทัพเบียร์ทริกซ์ถวายศิลาเวทย์ของเบอร์เมเซียให้แล้ว ราชินีบราเนอก็อัญเชิญเอโดลอนในตำนาน โอดิน ทำลายล้างเครยล่าหมดสิ้นในการโจมตีเพียงทีเดียว และรับสั่งว่า เมื่อกลับไปถึงอเล็กซานเดรียจะประหารเจ้าหญิงการ์เน็ตโทษฐานนำจี้ซึ่งมีศิลาเวทย์ของอเล็กซานเดรียหนีไป นายพลเบียร์ทริกซ์ตกใจกับรับสั่งและคัดค้านแต่ไม่เป็นผล ส่วนพวกที่ซีดานที่ได้ยินจึงต้องใช้ภาชนะเวทย์เคลื่อนย้ายไปยังอเล็กซานเดรียเพื่อช่วยเจ้าหญิงก่อนที่ราชินีจะกลับไปถึง

ชไทเนอร์ที่พึ่งแหกคุกหลวงออกมากับมาร์คัส มาเจอกับพวกซีดานที่มาถึงยังปราสาทพอดี มาร์คัสแยกตัวไปช่วยแบล็กที่ป่าต้องสาป ส่วนที่เหลือรีบตรงไปช่วยเจ้าหญิงที่ชั้นใต้ดินของปราสาทมา พวกซีดานพาเจ้าหญิงมาไว้ยังห้องประทับ ระหว่างนั้นแม่ทัพเบียร์ทริกซ์ก็มาถึง ทำให้เธอทราบว่าราชินีรับสั่งจริงเรื่องประหารเจ้าหญิง เธอใช้เวทย์รักษาเจ้าหญิง และร่วมมือกับเฟรย่ากันให้พวกซีดานพาการ์เน็ตหนีไปยังเทรโน่ ระหว่างทางชไตเนอร์ขอแยกตัวกลับไปช่วยเบียร์ทริกซ์ ทำให้เหลือแค่ซีดาน, การ์เน็ต และวีวี่มุ่งหน้าไปยังนครเทรโน่ ระหว่างทางถูกเจ้าอสรพิษไล่ตามทำให้ตัวการ์แกนท์วิ่งเลยเทรโน่ไปจนไปเสียหลักอยู่ที่ หุบเขาปินาเคิล ไม่ไกลจากลินด์บลัม ที่ป่านั่นการ์เน็ตได้พบกับเทพอสุนีบาต รามุท และได้เขามาเป็นเอโดลอนของเธอ เมื่อทั้งสามออกจากหุบเขา ก็พบว่าลินด์บลัมกำลังถูกโจมตีอยู่จากกองทัพอเล็กซานเดรีย และราชินีได้อัญเชิญเอโดลอน อโตมอส ที่ถอนมาจากตัวการ์เน็ตมาโจมตีลินด์บลัมด้วย

ลินด์บลัมด์ไม่สามารถต้านทานได้จึงยอมจำนนและกลายเป็นรัฐในอารักขาของอเล็กซานเดรีย อเล็กซานเดรียยึดเอากรรมสิทธิ์ของเรือบินรุ่นใหม่(โดยไม่ต้องใช้พลังงานหมอก)เมื่อมันเสร็จสมบูรณ์และยึดเอาศิลาเวทย์ของลินด์บลัมไป และบัดนี้จักรวรรดิอเล็กซานเดรียก็ได้ปกครองทวีปนี้อย่างสมบูรณ์ ซีดานและการ์เน็ตได้พบกับอุปราชซิด เขาเล่าว่าคนที่อยู่เบื้องหลังราชินีบราเนอและสนับสนุนอาวุธเวทมนตร์แก่อเล็กซานเดรียคือชายชื่อคุจา และที่เทรโน่มีคนเห็นว่าคุจานั้นขี่มังกรสีเงินมาจากทางเหนือ ดังนั้นเขาน่าจะมาจากทวีปอื่นทางเหนือที่เรียกว่า "ทวีปภายนอก" แต่เนื่องจากไม่มีเรือบินที่ข้ามทะเลได้และท่าเรือก็ถูกยึด พวกซีดานต้องใช้เส้นทางโบราณที่ว่ากันว่าอยู่ในป่าหนองใกล้ๆกับลินด์บลัมแทน ซึ่งเชื่อว่ามันพาไปยังทวีปภายนอกได้

ดินแดน แก้

ทวีปแห่งหมอก (Mist Continent) แก้
  • ราชอาณาจักรอเล็กซานเดรีย (Kingdom of Alexandria)
    • นครหลวงอเล็กซานเดรีย
    • ป่าต้องสาป (Evil Forest)
    • หมู่บ้านดาลี (Dali)
    • เมืองเทรโน (Treno)
  • แคว้นอุปราชลินด์บลัม (Regency of Lindblum)
    • มหานครลินด์บลัม
    • ป่าหนองของคู (Qu's Marsh)
    • ป่าโจโคโบะ (Chocobo's Forest)
  • ราชอาณาจักรเบอร์เมเซีย (Kingdom of Burmecia)
    • นครหลวงเบอร์เมเซีย
    • เครยล่า (Cleyra)
ทวีปภายนอก (Outer Continent) แก้
  • หมู่บ้านพ่อมดแห่งความมืด
  • กอนเดอ พิตี (Conde Petie)
  • มาแด็ง ซาริ (Madain Sari)
  • วังทะเลทราย (Desert Palace)
  • มหาพฤกษาอิฟา (Iifa Tree)
  • วิหารปฐพี (Earth Shrine)
  • มอกเน็ตเซ็นทรัล (Mognet Central)
ทวีปที่สาบสูญ (Lost Continent) แก้
  • เอสโต กาซา (Esto Gaza)
  • เขากูลุก (Mount Gulug)
  • วิหารอัคคี (Fire Shrine)
  • เกาะประกายแสง (Shimmering Island)
ทวีปที่ถูกลืม (Forgotten Continent) แก้
  • โอเอลเวิร์ต (Oeilvert)
  • ดาแกริโอ (Daguerreo)
  • ปราสาทของอิพเซนต์ (Ipsen's Castle)
  • วิหารวายุ (Wind Shrine)
  • วิหารวารี (Water Shrine)
  • โจโคโบะ ลากูน (Chocobo's Lagoon)

ตัวละคร แก้

สำหรับในภาคนี้มีตัวละครหลักทั้งหมด 8 ตัวคือ

  1. ซีดาน ไทรบัล - หนึ่งในนักแสดงของเรือเหาะพริม่า วิสล่า
  2. การ์เน็ต ทิล อเล็กซานดรอส ที่ 17 (หรือ แดกเกอร์) - เจ้าหญิงแห่งอะเล็กซานเดรีย
  3. อาดัลแบร์ท ชไตเนอร์ - ผู้บัญชาการอัศวินแห่งพลูโต แห่งอาณาจักรอะเล็กซานเดรีย
  4. วีวี่ ออร์นิเธียร์ - จอมเวทมนตร์ดำ ผู้มาติดพันกับเหตุลักพาตัวเจ้าหญิงโดยบังเอิญ
  5. เฟรย่า เครสเคนท์ - นักรบหญิงแห่งเบอร์เมเซีย ผู้อยากจะกอบกู้อาณาจักรของเธอ
  6. ควีน่า เควน - นักชิมแห่งป่าหนอง
  7. เอโก คารอล - เด็กสาวผู้ใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวกับเหล่าโมกลี
  8. อมาแรนท์ โครอล - มือสังหารรับจ้าง

อ้างอิง แก้

  1. "Interview: FFCC The Crystal Bearers" (ภาษาฝรั่งเศส). Final Fantasy World. 2009-11-28. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-01-25. สืบค้นเมื่อ 2011-01-25. Toshiyuki Itahana: Je ne suis pas sûr, car le scénario a été écrit par Hironobu Sakaguchi / I am not sure because the scenario was written by Hironobu Sakaguchi

แหล่งข้อมูลอื่น แก้