โยไก (ญี่ปุ่น: 妖怪 Yōkai) ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า ภูต หรือ ปีศาจ เป็นประเภทหนึ่งของสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติ ในคติความเชื่อญี่ปุ่น ซึ่งโยไกอาจจะนำโชคลาภหรือลางร้ายมาก็เป็นได้ ซึ่งในบันทึกหรือคำบอกเล่าต่างๆของผู้คน บ่อยครั้งที่มักจะพบเจอโยไกที่มีลักษณะคล้ายกับสัตว์ (เช่น คัปปะ มีกระดองคล้ายเต่า เท็งชิ มีปีกคล้ายนางฟ้า หรือ เท็งงุ มีปีกคล้ายนก)

ภาพอูกิโยะ ที่วาดถึงโยไก โดยอาโอโตชิ มาสึอิ
ซึ่งบางครั้งโยไกสามารถปรากฏอยู่ในร่างมนุษย์และปะปนกับผู้คนได้ หรืออาจจะปรากฏในรูปแบบอื่นๆ ที่มนุษย์ทั่วไปไม่สามารถมองเห็น

โยไกมักจะมีอำนาจที่เหนือธรรมชาติ โดยประเภทแปลงกายเป็นหนึ่งในประเภทที่พบมากที่สุด ซึ่งความสามารถในการแปลงกายนี้ เรียกว่า "โอบาเกะ"

ประเภท แก้

ตามคติชนของญี่ปุ่นแล้ว สามารถจำแนกโยไกได้เป็น 3 ประเภทหลักๆด้วยกัน โดยทั่วไปแล้ว "โยไก" เป็นคำที่มีความหมายกว้าง สามารถใช้ได้ครอบคลุมกับสัตว์ประหลาดและสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติได้ทั้งหมด

โยไก แก้

โอบาเกะ แก้

หรือโยไกที่แปลงกาย โดยส่วนมากแล้วโยไกประเภทนี้มักจะแปลงร่างเป็นมนุษย์ในร่างผู้หญิง บางส่วนโยไกประเภทนี้เป็นรูปแบบของสัตว์อาทิ

คิตสึเนะ แก้

เป็นปิศาจจิ้งจอกที่พบบ่อยครั้งในคติชนญี่ปุ่นซึ่งเชื่อว่า เป็นสัตว์มีไหวพริบและวิทยาคมซึ่งรวมถึงการแปลงเป็นมนุษย์ บางคนเชื่อว่า หมาจิ้งจอกแปลงเป็นมนุษย์เพื่อล่อลวงมนุษย์คนอื่น แต่บางคนเชื่อว่า แปลงมาพิทักษ์รักษาหรือร่วมหอลงโรงด้วย

นอกจากนี้ จิ้งจอกแต่ละตัวจะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันออกไปตามจำนวนหางและจำนวนปีที่มีชีวิตอยู่มา และถ้ายิ่งบำเพ็ญเพียรก็จะทำให้มีชื่อเรียกหรือลำดับชั้นที่สูงขึ้นกว่าเดิมได้ เรามาดูลำดับขั้นของการฝึกบำเพ็ญของเหล่าจิ้งจอก

  • คิตสึเนะ อายุ 1 – 100 ปี (เริ่มบำเพ็ญตั้งแต่อายุ 50 ปี)

พอจิ้งจอกมีอายุ 50 ปี ก็จะออกเดินทางไปบำเพ็ญเพียรและศึกษาวิชา ที่ภูเขาหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ พอมีอายุถึง 100 ปี ก็จะกลายเป็นจิ้งจอกที่มีพลังเวทย์มนต์สูงขึ้น

  • ปิศาจจิ้งจอก  – อายุ 100 – 500 ปี

ในขั้นนี้เราจะเรียกว่า “ปิศาจจิ้งจอก” นางต้าจีจิ้งจอกเก้าหางชื่อดังที่ล่มราชวงศ์โจวก็ยังอยู่ในขั้นนี้ ซึ่งปีศาจจิ้งจอกนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องมี 9 หางก็สามารถบำเพ็ญให้สูงขึ้นไปอีกระดับนึงได้ (แต่ปีศาจจิ้งจอกที่แปลงร่างเป็นนางต้าจีเป็นจิ้งจอกจรจัดที่มัวเมาไม่ยอมบำเพ็ญตามแบบแผน)

  • เทพจิ้งจอก – อายุ 500 – 900 ปีขึ้นไป

ระดับนี้จะถูกเรียกว่า “เทพจิ้งจอก” ซึ่งจะกลายเป็นผู้รับใช้เทพเจ้า  และขนส่วนมากจะกลายเป็นสีขาว จิ้งจอกที่บำเพ็ญมาได้ถึงระดับนี้แล้ว พลังเวทย์มนต์และพลังวิญญาณจะเพิ่มมากขึ้น หางที่มีก็จะค่อยๆงอกเพิ่มขึ้น (บางตัวหางก็ยังไม่ถึง 9 หางแต่พลังวิญญาณอยู่ในระดับสูง)

  • จิ้งจอกสวรรค์  – อายุ 1,000 ปีขึ้นไป

เป็นจิ้งจอกที่บำเพ็ญมามากกว่า1000 ปี จะมีพลังเหนือธรรมชาติ มีตาทิพย์มองเห็นได้ไกลกว่า 1000 ลี้ และสามารถทำอะไรได้หลายๆอย่าง จะถูกเรียกว่าอาศัยอยู่ตามศาลเจ้า พออายุประมาณ 2000 ปี ก็จะออกจากศาลเจ้า เพราะเริ่มมีพลังที่จะทำอะไรได้อย่างอิสระ

  • จิ้งจอกฟ้า – อายุ 3,000 ปีขึ้นไป

มีพลังอำนาจเกินกว่าที่เราจะคาดคิดได้ สามารถแยกกายละเอียดของตัวเองออกมาผสมผสานไปกับธรรมชาติได้ ทำให้ร่างกายค่อยๆสลายไปเหลืออยู่แต่พลังวิญญาณ ยิ่งไปกว่านั้นแล้วรูปลักษณ์ของจิ้งจอกฟ้าคือจะไม่มีหางเหลืออยู่เลย

โอนิ แก้

อีกประเภทหนึ่งของโยไกที่ชาวบ้านรู้จักดีคือโอนิ ซึ่งเป็นพวกยักษ์ที่คอยเฝ้าดูแลภูเขาต่างๆ ร่ายกายมักจะมีสีแดง, ฟ้า, หรือน้ำตาล มีเขาสองเขา ปากกว้างและมีวงเขี้ยว 2 อัน มักสวมใส่ผ้าเตี่ยว หนังเสือ อาจถือกระบองหรือดาบ โดยโอะนิมักมีภาพลักษณ์ที่เลวร้าย แต่บางครั้งพวกเขาก็เป็นศูนย์รวมของพลังธรรมชาติ เชื่อว่าพวกเขาอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ

 
ภาพอุกิโยะ ที่วาดถึงปีศาจ โดยคาวานาเบะ เคียวไซ

สึกุโมงามิ แก้

เป็นโยไกที่กำเนิดจากข้าวของเครื่องใช้เก่าแก่ต่างๆ ที่มนุษย์ละทิ้ง โยไกประเภทนี้โดยส่วนมากแล้วไม่มีพิษภัยต่อมนุษย์ และอาจอาศัยอยู่ในบ้านเรือนของมนุษย์โดยทั่วไป โยไกประเภทนี้ อาทิ

รูปแบบมนุษย์ แก้

มีโยไกจำนวนมากที่มาจากมนุษย์ธรรมดาสามัญ ซึ่งส่วนมากมีสาเหตุมาจากสภาวะทางอารมณ์และจิตใจที่เลวร้าย จนในที่สุดตัวตนและจิตใจของเขาก็กลายเป็นสิ่งชั่วร้าย โยไกประเภทนี้ อาทิ

  • สาวคอยาว (ろくろ首) (ผู้หญิงที่สามารถยืดคอได้ในช่วงเวลากลางคืน)
  • โอะฮะงุโระ เบ็ตตะริ (ผู้หญิงที่ไร้หน้าที่มีแต่ปากสีดำ)
  • สาวสองปาก (二口女) (ผู้หญิงที่มีปากขนาดใหญ่อีกปากอยู่ที่ด้านหลังศีรษะ)
  • โดะโระตะโบ (ร่างของชาวนาที่ต้องการผืนนาของเขาคืน)

ดูเพิ่ม แก้

แหล่งข้อมูลอื่น แก้