โมโกะจัมบี้ (Moko_jumbie) เป็นเครื่องเล่นชนิดหนึ่งที่มาจากประเทศตรินิแดดและโทบัคโค ลักษณะของมันจะเป็นท่อนไม้ที่สามารถเชื่อมต่อกับขาเป็นแนวเดียวกันอย่างแข็งแรง เมื่อผู้เล่นสวมใส่เจ้าโมโกะจัมบี้ก็จะเดินหรือเต้นบนความสูงที่ต่อจากเจ้าท่อนไม่นั้น รากศัพท์ของมันอาจจะมาจาก "Moko" (ซึ่งอาจจะอ้างอิงมาจากชื่อเทพเจ้าของแอฟริกา) และจัมบี้เป็นศัพท์ทางแถบแคริเบียนที่ใช้เรียกพวกภูติผีหรือวิญญาณซึ่งอาจจะแผลงมาจากภาษาคองโกคำว่าซัมบี้ (Zumbi) โมโกะจัมบี้มีต้นกำเนิดมาจากประเทศแถบแอฟริกาตะวันตก สืบทอดต่อกันมาสู่ประเทศแถบแคริเบี้ยน ชนเผ่าต่างๆมักจะใช้มันเป็นเครื่องเล่นยามที่มีงานเทศกาลต่าง เด็กๆจะถูกสอนให้เล่นมันเหมือนกับเป็นวัฒนธรรม

เมื่อเทพเจ้าโมโกะที่มาจากประเทศคองโกและไนจีเรีย ประเทศตรินิแดดได้รับอิทธิพลจากเทพเจ้าโมโกะ และยังมีผลต่อความเชื่อเรื่องจารีตประเพณี พระเจ้าคือผู้ที่มองมาจากภูเขาบนความสูงเสียเมฆ เขาสามารถแลเห็นล่วงหน้าได้ถึงภัยอันตรายและภูติผีปีศาจ ชื่อโมโกะหากแปลตามตัวอักษรจะหมายถึงผู้รู้แจ้ง และเขาจะเป็นตัวแทนที่ยืนอยู่บนไม้ต่อขาสูงละลิ่ว ยังมีพละกำลังที่ไม่สามารถอธิบายได้ต่อสายต่อมนุษย์ ในเกือบทุกเชื้อชาติที่มีความเกี่ยวข้องกัน โมโกะได้ลุกขึ้นจากคนที่มีความสูงปกติ สูงขั้นสู่ท้องฟ้าอย่างง่ายดายโดยปราศจากความช่วยเหลือ และล่วงหล่นลงมาเสมือนว่าจะปลดปล่อยทุกสิ่งทุกอย่าง และคิดถึงการใช้ชีวิตอย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพ

เจ้าโมโกะได้เข้ามายังประเทศตรินิแดดโดยการ "เดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติสจากชายฝั่งตะวันตกของแอฟริกา แบกความทุกข์ไว้มากมาย ประสบการณ์หลายศรรตวรรษ และการถูกจ้องทำลาย จากความป่าเถื่อนไร้มนุษยธรรม แต่ก็ยังเดินต่อไปเรื่อยๆ (John Cupid, Carribean Beat)" ความเชื่อที่ยังหลงเหลือในจิตใจของชนรุ่นหลัง ระหว่างความเป็นทาสกับการเป็นพลเมืองในอาณานิคม ในที่สุดก็ได้มาเดินบนท้องถนนของประเทศตรินิแดดเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองต่ออิสรภาพ เมื่อมันได้ฝังรากลึกลงไปในประเพณีของคนแอฟริกันที่สืบทอดต่อกันมา ประเทศตรินิแดดได้ปรับเปลี่ยนปรับปรุงให้มีความโดดเด่นโดยมีการเพิ่มคำว่าจัมบี้ หรือชื่อผีเข้าไป ก่อนปี 1900 ก่อนที่เจ้าโมโกะจัมบี้จะได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของงานเฉลิมฉลองมวลชนในประเทศตรินิแดด เจ้าโมโกะจัมบี้นั้นจะเดินไปรอบๆถนนของท่าเรือในสเปนรวมถึงเมืองอื่น เพื่อที่จะปกป้องภยันตรายจากปีศาจ บทบาทหนึ่งที่สำคัญของเจ้าโมโกะจัมบี้คือการที่จะขอรับบริจาคจากผู้รอเฝ้าชมขบวนแห่งานที่อยู่บนอาคาร อย่างไรก็ตามความมีชื่อเสียงของเจ้าโมโกะจัมบี้ในงานเฉลิมฉลองก็เกิดขึ้นอย่างช้า ๆ จนกระทั่งมันถูกฟื้นฟูอย่างจริงจังขึ้นมาอีกครั้ง

ก่อนปี 1900 ที่เจ้าโมโกะจัมบี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญสำหรับงานเฉลิมฉลอง จนกระทั่งมีชายสองคนในนำวัฒนธรรมนี้กลับมา ชายสองคนนั้นชื่อ มูส (Moose) และดราก้อน (Dragon) เขาได้นำมันในงาน และยังได้สร้างสรรค์โมโกะจัมบี้ชนิดใหม่ขึ้นมา เอกลักษณ์ของไม้ต่อขาจะเป็นการเดินสมัยใหม่ แต่ก็มีการเดินที่จะไม่มีการรัดที่ขากับไม้ การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นจากชายชื่อเบน (Ben) ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวแคนาดาได้มายังประเทศตรินิแดดกับไม้ต่อขาหนึ่งคู่ เขาจะรัดมันไว้กับขา และชาวตรินิแดดก็ได้แรงบันดาลใจจากการออกแบบของเบน จึงนำมันมาปรับใช้เองด้วย ตอนนี้มีคณะโมโกะจัมบี้ในประเทศตรินิแดดสองคณะ วะตุซี่ (Watusi) และคิริมันจาโร (Kilimanjaro) แต่ก็ยังมีคณะที่เล็กๆอยู่อีกบ้าง ดังนั้นโมโกะจัมบี้ได้มีแนวคิดมาจากแอฟริกา แต่ตรินิแดดนั้นได้ประยุกต์ใช้มันเป็นของตัวเอง