เอ็ดเวิร์ด ทีโอดอร์ กีน (อังกฤษ: Edward Theodore Gein) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ เอ็ด กีน (Ed Gein) เป็นฆาตกรโรคจิตชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียง

เอ็ด กีน
เกิดเอ็ดเวิร์ด ทีโอดอร์ กีน
(Edward Theodore Gein)

27 สิงหาคม ค.ศ. 1906
ลาครอสส์ เคาน์ตี้ รัฐวิสคอนซิน
เสียชีวิต26 กรกฎาคม ค.ศ. 1984 (อายุ 77 ปี)
สถาบันจิตเภทเมนโดด้า
สัญชาติอเมริกัน
ชื่ออื่นเอ็ดดี้ กีน
(Ediie Gein)
มีชื่อเสียงจากฆาตกรฆ่าต่อเนื่องโรคจิต

ประวัติ แก้

เอ็ด กีน เกิดเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ค.ศ. 1906 ในครอบครัวเกษตรกร ที่เมืองลาครอสส์ เคาน์ตี้ รัฐวิสคอนซิน (ต่อมาครอบครัวได้ย้ายตามพ่อมาอยู่ที่หมู่บ้านเพลนฟิลด์ ในเมืองแมดิสัน) มีพ่อชื่อ จอร์จ ซึ่งติดสุราอย่างหนักและเมื่อเมาก็จะอาละวาดไล่ทุบตีคนในครอบครัว แม่ชื่อ ออกัสตา เป็นคนที่เคร่งศาสนามากเสียจนเข้มงวดไปทุกเรื่องและมักจะดุด่าด้วยเสียงดังหากมีใครทำอะไรผิดแม้เพียงเล็กน้อย เอ็ดมีพี่ชายคนหนึ่ง ชื่อ เฮนรี่ ด้วยความเป็นคนขี้อายและเป็นคนเก็บตัว เอ็ดจึงเติบโตอย่างโดดเดี่ยว โดยมีออกัสตาเป็นทั้งเพื่อนและครูอันเนื่องจากเขาออกโรงเรียนกลางคัน แล้วมาเลี้ยงดูเขาอย่างผู้หญิงเพราะเธอหวังว่าเอ็ดซึ่งเป็นลูกคนที่สองจะเป็นผู้หญิง และมักพาเขาไปดูการชำแหละซากสัตว์อยู่บ่อย ๆ โดยที่เธอมักสอนเอ็ดอยู่บ่อย ๆ ว่า ผู้หญิงทุกคนบาปหนา (ยกเว้นแม่) และเจ้าไม่สามารถมีเพื่อนได้นอกจากแม่ และการมีเพศสัมพันธ์เป็นบาปหนา ซึ่งเอ็ดเชื่อในคำสอนนี้ และมองแม่เป็นเสมือนพระเจ้าตลอดมา

จนกระทั่ง จอร์จ พ่อของเอ็ดตายเมื่ออายุยี่สิบกว่า ๆ กิจการทั้งหมดทั้งสามคนจึงเป็นผู้รับผิดชอบ ถึงแม้เอ็ดและพี่ชายจะเข้าสู่วัยหนุ่ม แต่เขาก็ยังเป็นโสดผิดจากวัยรุ่นชายทั่วไป เนื่องจากเขายังจดจำคำสั่งสอนของแม่ได้ดี

เมื่อเอ็ดอายุ 40 กิจการฟาร์มเขาเขาอยู่ช่วงวิกฤต ผลผลิตภายในฟาร์มไม่ดีทำให้ขาดทุนมากมาย ทำให้พี่ชายของเอ็ดต้องทำงานอื่นเพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว และช่วงนี้พี่ชายเขามักปากกล้าโต้เถียงแม่เป็นประจำ แต่เอ็ดก็ยังเข้าข้างแม่ แม้เรื่องที่เถียงกันแม่เป็นฝ่ายผิดก็ตาม

จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1944 เฮนรี่พี่ชายของเอ็ดก็เสียชีวิตจากการถูกไฟคลอกในขณะที่เกิดเพลิงไหม้ในแปลงข้าวโพด มีหลายคนเห็นพี่ชายของเอ็ดอยู่กับเอ็ดในแปลงข้าวโพดก่อนเกิดเหตุไม่นานนัก ต่อมาในภายหลังได้มีการสันนิษฐานว่า เอ็ดได้ฆ่าพี่ชายตนเอง เพื่อที่เขาจะได้อยู่กับแม่ของเขาแต่เพียงผู้เดียว

ปีถัดมา ออกัสตาล้มป่วยเป็นอัมพาตและเสียชีวิตไปอีกคนหลังจากอุบัติเหตุ

ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องฟาร์มและปัญหาครอบครัวล้วนมีส่วนให้เอ็ดเปลี่ยนแปลงไปจนกระทั่งเขาเข้าสู่วัย 51 ปี เอ็ด กีน เป็นชายผู้ซึ่งสุภาพอ่อนโยนและสันโดษ แต่สำหรับเพื่อนบ้านแล้ว เขาดูเป็นคนน่ารังเกียจ เป็นคนผิดปกติที่มักจะแสดงกิริยากระตุ้งกระติ้งเหมือนผู้หญิง จึงไม่ค่อยมีใครสุงสิงหรือคบหาเท่าใดนัก

เมื่อปราศจากแม่ เขาก็เป็นอิสระ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ต้องการให้แม่กลับคืนมา เขาเริ่มสนใจร่างกายของเพศหญิงที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน แต่เป็นความสนใจที่แปลกประหลาด สับสน แยกไม่ออกว่ามันเป็นความต้องการทางเพศหรือความต้องการจะมีเรือนร่างของผู้หญิงกันแน่ เขาหาหนังสือที่เกี่ยวกับเรือนร่างของผู้หญิงมาอ่าน ไม่ว่าจะเป็นหนังสือเกี่ยวกับการแพทย์, สารานุกรม หรือแม้กระทั่งการทดลองของนาซีเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้กระตุ้นความปรารถนาในจิตใจให้เพิ่มความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากนั้นเขาปิดตายห้องต่าง ๆ ในบ้านตัวเอง ยกเว้น ห้องครัวและห้องนอนที่อยู่ชั้นล่างเท่านั้น

เหยื่อฆาตกรรม แก้

ไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้ว เอ็ด กีน สังหารเหยื่อไปแล้วกี่ราย แต่จากสืบสวนอย่างเป็นทางการของตำรวจระบุว่า เขาสังหารเหยื่อไปเพียง 2 รายเท่านั้น รายแรกเป็นผู้หญิง ชื่อ มารี โฮแกน วัย 55 ปี เมื่อปี ค.ศ. 1954 เธอเป็นหญิงหม้ายเจ้าของร้านอาหารและบาร์เล็ก ๆ ชื่อ โฮแกน ทราเวิร์น ที่หมู่บ้านไพน์ โกรฟ ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ว่ามีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเธออยู่กับเอ็ดตามลำพัง จนกระทั่งมีลูกค้าคนหนึ่งเข้าไปที่นั้นก็ไม่พบคนขาย แต่เห็นเลือดกองใหญ่บนพื้นที่ประตูด้านหลังร้าน กับกระสุนปืนพกขนาด .32 ปลอกหนึ่ง และรอยเลือดปรากฏเป็นระยะ ๆ ไปจนถึงที่จอดรถและก็หายไป ซึ่งเข้าใจว่ามารีคงถูกนำไปขึ้นรถจากที่ตรงนั้น ตำรวจไม่สามารถหาตัวเธอได้แม้จะผ่านหลายปีแล้ว จนกระทั่ง เอลโม เจ้าของโรงเลื่อยให้การกับตำรวจภายหลังว่า เขาเคยคุยกับเอ็ดเรื่องการหายตัวของมารี เอ็ดตอบเขาว่าเธออยู่ที่ฟาร์มของเขานั้นแหละ ไม่ได้หายไปไหน ตอนนั้นเอลโมคิดว่าเอ็ดพูดเล่น จึงไม่ใส่ใจและถามอะไรเพิ่มเติม

เหยื่อรายต่อมา คือ เบอร์นิซ วอร์เดน หญิงหม้ายวัย 60 ปี เป็นเจ้าของร้านขายอุปกรณ์ในเมืองเพลนฟิลด์ วันเกิดเหตุเป็นคืนวันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน ค.ศ. 1957 เอ็ดเข้ามาร้านในตอนที่ไม่มีคนอยู่เช่นเคย เขาใช้กระสุนขนาด .22 ที่นำมาเอง ใส่เข้าไปในปืนไรเฟิลและยิงเธอโดยไม่ทันรู้ตัว แล้วนำร่างของเธอขึ้นรถบรรทุกสำหรับส่งของแล้วขับกลับบ้านเขา

ในเวลาต่อมา แฟรงค์ ลูกชายของเบอร์นิซ กลับจากการล่าสัตว์ เขาก็พบว่าประตูร้านของแม่เขาล็อกเอาไว้ แต่มีไฟเปิดอยู่ด้านใน ซึ่งผิดปกติ เพราะเป็นเวลาที่ร้านควรปิดได้แล้ว เมื่อเปิดประตูเข้าไปข้างในก็พบเครื่องคิดเงินหายไป กับมีหยดเลือดกระจายอยู่บนพื้น แฟรงค์รีบแจ้งตำรวจทันที จากการสอบปากคำของคนในที่พื้นใกล้เคียง มีผู้พบเห็นรถส่งของของร้านแล่นผ่านไป เมื่อเวลาประมาณสามทุ่มครึ่ง

จนกระทั่งแฟรงค์และตำรวจพบหลักฐานชิ้นสำคัญ คือใบเสร็จรับเงินที่ระบุได้ว่าร้านของเขาขายของให้ใครบ้าง สิ่งที่พบ คือ ชายที่เป็นลูกค้าประจำที่ถามแฟรงค์ว่าพรุ่งนี้เช้าเขาอยู่หรือเปล่า ซึ่งชายคนนั้นก็คือ เอ็ด กีน

ต่อมา ทั้งแฟรงก์และตำรวจได้บุกเข้าไปยังบ้านของเอ็ด กีน ซึ่งมีสภาพซ่อมซ่อและน่ากลัว ซึ่งเด็ก ๆ ในละแวกนั้นเรียกขานกันว่าเป็น "บ้านผีสิง" และเมื่อเปิดเข้าไปพวกเขาก็ต้องผงะ เมื่อเจอกับกลิ่นเหม็นที่ตลบอบอวลคละคลุ้งไปทั่ว และได้พบกับซากศพและชิ้นส่วนมนุษย์จำนวนมาก มีทั้งที่แขวนห้อยอยู่และตัดเป็นชิ้น ๆ ทำคล้ายเหมือนเครื่องประดับ

เมื่อเจ้าหน้าที่ได้จับกุมเอ็ด กีน แล้ว จากปากคำที่เขาสารภาพ ว่ากันว่า ในคืนพระจันทร์เต็มดวง เขาจะสวมชุดผู้หญิงออกมาเต้นระบำท่ามกลางแสงจันทร์ โดยมีอวัยวะเพศหญิงยัดใส่ไว้ในกางเกงในของเขา

แต่เอ็ดปฏิเสธว่าตนเองไม่ได้กินเนื้อมนุษย์

แต่จากการสอบถามเพื่อนบ้าน หลายคนบอกว่าเคยได้รับเนื้อเป็นของขวัญ ซึ่งเอ็ดบอกว่าเป็นเนื้อกวางที่ล่ามาได้ทั้ง ๆ ที่เอ็ดเองบอกว่าไม่เคยเข้าป่าล่าสัตว์เลย

จากการชันสูตรพลิกศพและพิสูจน์อวัยวะทั้งหมดภายในบ้าน พบว่าจำนวนศพที่อยู่ในบ้านมีทั้งหมดถึง 50 ศพด้วยกัน และเป็นชิ้นส่วนของมนุษย์ที่ไม่เข้ากับร่างใดอีกมากมาย

ต้นแบบ แก้

ไฟล์:Bateshower.jpg
นอร์แมน เบตส์ ขณะสวมวิกและสวมเสื้อผ้าผู้หญิงฆาตกรรม แมเรียน เครน ใน Psycho ซึ่งเป็นตัวละครที่ได้ต้นแบบมาจาก เอ็ด กีน และความสัมพันธ์กับแม่ของเขา

แม้จะพบศพเป็นจำนวนมากมายในบ้านของเขา แต่ตำรวจตั้งข้อหาฆ่าคนตายแค่สองศพแก่ เอ็ด กีน คือ มารี โฮแกน และ เบอร์นิซ วอร์เดน ซึ่งทั้งสองมีหน้าตาคล้าย ออกัสตา แม่ของเขา และเจ้าหน้าที่ตำรวจยังสงสัยว่าเขาอาจเป็นคนสังหารพี่ชายของตัวเองและคนงานอีกสองคนที่ทำงานที่ฟาร์ม และเด็กผู้หญิงรุ่นราวคราวเดียวสองคน แต่ก็ไม่พบหลักฐานมัดตัวเขาได้ เอ็ด กีน ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลจิตเวท ชื่อ เซ็นทรัล สเตท หลังจากแพทย์วินิจฉัยแล้ว พบว่าเขาเป็นคนผิดปกติทางจิตอย่างรุนแรง และต่อมาถูกย้ายไปรักษาตัวที่สถาบันวิจัยและดูแลคนป่วยทางจิตเมนโดด้าทั้งที่เขาก่อคดีฆาตกรรมที่โหดเหี้ยมและน่ากลัวอย่างที่ไม่มีใครทำมาก่อน แต่คำให้การของคนที่ดูแลเขากลับบอกว่า เอ็ดเป็นคนเรียบร้อย สุภาพ ไม่ก้าวร้าวกับคนอื่น แต่เขามักพูดถึงความสุขที่เขาได้ฆ่าเหยื่อบ่อย ๆ ซึ่งในระหว่างที่เขาถูกจองจำอยู่นั้น บ้านของเขาก็เกิดไฟไหม้

ต่อมาศาลได้ตัดสินคดีของเขา ซึ่งผลคือ เอ็ด ผิดจริง แต่ทำไปเพราะอาการป่วยทางจิตอย่างรุนแรงเพราะบ้า ดังนั้นเขาจึงถูกควบคุมตัวอยู่ที่เมนโดด้าจนถึงวาระสุดท้ายในชีวิตของเขาเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ค.ศ. 1984 ด้วยโรคหัวใจ ด้วยวัย 77 ปี

เอ็ด กีน กลายมาเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงทันทีในสังคมอเมริกัน เป็นที่กล่าวขานถึงมากมายทั้งในแง่ของความน่ากลัว วิปริต และในแง่มุมของทางจิตวิทยา และได้เป็นแรงบันดาลใจให้แก่ โรเบิร์ต บล็อก นักเขียนชาวอเมริกัน นำบุคลิกของเขาไปสร้างเป็นตัวละครโรคจิตชื่อ นอร์แมน เบตส์ ในนวนิยายเรื่อง Psycho ซึ่งต่อมาได้ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ขาวดำในชื่อเรื่องเดียวกันเมื่อปี ค.ศ. 1960 ที่กำกับโดย อัลเฟรด ฮิตช์ค็อก ผู้กำกับชาวอังกฤษ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากและกลายมาเป็นต้นแบบของภาพยนตร์สยองขวัญในแนวเดียวกันหลายเรื่อง[1]

ปัจจุบัน ในวัฒนธรรมร่วมสมัยของอเมริกันหลายอย่าง เอ็ด กีน ก็ถือเป็นต้นแบบ เช่น วงดนตรีในแนวไกรด์คอร์และแมธคอร์วงหนึ่งจากเมืองไซราคิว ในรัฐนิวยอร์ก ใช้ชื่อว่า เอ็ด กีน[2] และในปี ค.ศ. 2000 ก็ได้มีการสร้างภาพยนตร์ที่เป็นชีวประวัติของเอ็ด กีน แท้ ๆ เลย ชื่อ In the Light of the Moon[3] และเป็นต้นแบบให้กับตัวละครที่ชื่อ บัฟฟาโล่ บิลล์ ในภาพยนตร์เรื่อง The Silence of the Lambs ในปี ค.ศ. 1992[4]

อ้างอิง แก้

  1. หนังสือ ตำนานระทึกขวัญ อัลเฟรด ฮิตช์ค็อค โดย ประวิทย์ แต่งอักษร สำนักพิมพ์ แพรว (กรุงเทพ, กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2543) ISBN 974-85060-0-2
  2. "จากเว็บไซต์ของวง". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-12-01. สืบค้นเมื่อ 2010-11-20.
  3. จากIMDb
  4. Eddie Gein