เตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย กรรมการสภาลูกเสือไทย กรรมการมูลนิธิสถาบันการต่างประเทศสราญรมย์ อุปนายกกรรมการอำนวยการวชิราวุธวิทยาลัย[1] อดีตเอกอัครราชทูตไทย ประจำประเทศสหรัฐอเมริกา ในสมัยของประธานาธิบดีบิล คลินตัน[2] ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2551[3] หลังการลาออกของนายนพดล ปัทมะ เนื่องจากขณะนั้นนายเตช เป็นข้าราชการพลเรือนในพระองค์ รับราชการอยู่ที่สำนักราชเลขาธิการ นายสมัคร สุนทรเวชจึงได้ไปขอพระราชทานนายเตชจากพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ให้มาดำรงตำแหน่งแทน[4][5] ในต้นเดือนกันยายน พ.ศ. 2551 มีรายงานว่านายเตชได้ลาออกจากตำแหน่ง โดยให้เหตุผลว่าต้องไปดูแลภรรยาที่ป่วย[6]

เตช บุนนาค
เลขาธิการสภากาชาดไทย
เริ่มดำรงตำแหน่ง
1 พฤษภาคม พ.ศ. 2564
(2 ปี 354 วัน)
ก่อนหน้าแผน วรรณเมธี
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
ดำรงตำแหน่ง
26 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 – 4 กันยายน พ.ศ. 2551
(0 ปี 40 วัน)
นายกรัฐมนตรีสมัคร สุนทรเวช
ก่อนหน้านพดล ปัทมะ
ถัดไปสาโรจน์ ชวนะวิรัช
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2486 (80 ปี)
ศาสนาพุทธ
คู่สมรสเพ็ญศรี บุนนาค

หลัง รัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557 ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิของคณะกรรมการเตรียมการปฏิรูปประเทศ ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 8/2560 [7]

ประวัติ แก้

เตช บุนนาค หรือ ดร.เตช บุนนาค เกิดเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2486[8] เป็นบุตรของนายตุล บุนนาค อดีตกรมวังผู้ใหญ่ สำนักพระราชวัง กับนางจันทร์แจ่ม บุนนาค (สกุลเดิม อินทุโสภณ) มีน้องชายชื่อ นายติ๋ว บุนนาค เป็นหลานปู่ของพระยาอภิบาลราชไมตรี (ต่อม บุนนาค) (อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และปลัดกระทรวงการต่างประเทศ) กับคุณหญิง สน (สกุลเดิม แสง-ชูโต)[9][10] จบระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย แล้วได้เป็นนักเรียนทุนรัฐบาลไทยไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ จนจบระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายที่วิทยาลัยมาลเวิร์น ประเทศอังกฤษ[11] ระดับปริญญาตรีเกียรตินิยมและระดับปริญญาโทที่วิทยาลัยคิงส์ (King’s College) มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ และระดับปริญญาเอกทางด้านประวัติศาสตร์ ที่วิทยาลัยเซ็นต์แอนโทนีส์ (St Antony’s College) มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ประเทศอังกฤษ

การทำงาน แก้

ดร.เตช บุนนาค เริ่มรับราชการกระทรวงการต่างประเทศ ตั้งแต่ พ.ศ. 2512 ในตำแหน่งเลขานุการโท กรมสารนิเทศ และกรมการเมือง ต่อจากนั้นก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการกองนโยบายเศรษฐกิจและการคลัง สำนักงานอาเซียนแห่งประเทศไทย เป็นรองเลขาธิการสำนักงานอาเซียนแห่งประเทศไทย เป็นเอกอัครราชทูตประจำกระทรวงการต่างประเทศ และรองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ

นอกจากนี้แล้วยังได้รับการแต่งตั้งเป็นเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน, นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส, กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส, กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐอเมริกา และได้รับตำแหน่งสูงสุดในกระทรวงการต่างประเทศ คือ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ จากนั้นจึงได้โอนมารับตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักราชเลขาธิการ ระดับ 11 จนเกษียณอายุราชการ

ในปี พ.ศ. 2551 หลังการลาออกของนายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายเตช บุนนาคได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแทน แต่อย่างไรก็ตามนายเตช บุนนาคก็ได้ลาออกจากตำแหน่งหลังจากทำงานได้เพียงเดือนเศษเท่านั้น และไม่ได้รับโปรดเกล้าฯให้กลับเข้าไปรับราชการที่สำนักราชเลขาธิการอีก

นอกจากนี้ยังดำรงตำแหน่งสำคัญทางวิชาการหลายสาขา อาทิเช่น

  • ประธานคณะกรรมการอำนวยการสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT)
  • ประธานคณะกรรมาธิการว่าด้วยการส่งเสริมความร่วมมือด้านวัฒนธรรมไทย-กัมพูชา
  • ประธานคณะกรรมการสมาคมวัฒนธรรมไทย-กัมพูชา
  • ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์คณะมนตรีสถาบันความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง
  • เลขาธิการสมาคมไทย-ลาวเพื่อมิตรภาพ
  • ที่ปรึกษาสมาคมสังคมศาสตร์แห่งประเทศไทย
  • กรรมการบริหารศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร[12]

ในปี 2564 ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นเลขาธิการสภากาชาดไทย แทน แผน วรรณเมธี[13]

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ แก้

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย แก้

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ แก้

ชีวิตส่วนตัว แก้

  • เตชเคยสมรสกับนางเจน แบรมลี่ ชาวอังกฤษ มีบุตรีชื่อ จารุ บุนนาค[9] ปัจจุบันสมรสกับเพ็ญศรี (สกุลเดิม อมาตยกุล) มีบุตรีชื่อ ยาใจ บุนนาค[9]

สาแหรก แก้

อ้างอิง แก้

  1. http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2547/D/105/078.PDF
  2. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-09-15. สืบค้นเมื่อ 2008-07-26.
  3. พระบรมราชโองการ ประกาศ แต่งตั้งรัฐมนตรี (นายเตช บุนนาค)
  4. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้ข้าราชการพลเรือนในพระองค์พ้นจากตำแหน่ง, 8 สิงหาคม 2551
  5. กรุงเทพธุรกิจ, เปิดใจ'เตช'รมต.พระราชทาน ก่อนลาออก เก็บถาวร 2021-05-19 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, 4 กันยายน 2551
  6. Reuters, Reports say Thai foreign minister quits เก็บถาวร 2008-09-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, 3 กันยายน 2551
  7. เซ็น ตั้ง 39 ผู้ทรงคุณวุฒิ ป.ย.ป.แล้ว คนดังเพียบ![ลิงก์เสีย]
  8. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-07-29. สืบค้นเมื่อ 2008-07-27.
  9. 9.0 9.1 9.2 "สำเนาที่เก็บถาวร" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2016-03-13. สืบค้นเมื่อ 2008-07-28.
  10. "สำเนาที่เก็บถาวร" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2008-07-28.
  11. หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์, 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2551
  12. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-09-06. สืบค้นเมื่อ 2008-07-27.
  13. โปรดเกล้าฯแต่งตั้ง 'เตช บุนนาค' เป็นเลขาฯสภากาชาดไทย มีผล 1 พ.ค.64
  14. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๑๐๙ ตอนที่ ๑๕๔ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๒, ๔ ธันวาคม ๒๕๓๕
  15. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๑๐๔ ตอนที่ ๒๔๗ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๔, ๑ ธันวาคม ๒๕๓๐
  16. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า, เล่ม ๑๒๑ ตอนที่ ๙ ข หน้า ๑, ๔ พฤษภาคม ๒๕๔๗
  17. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์, เล่ม ๑๒๐ ตอนที่ ๒๐ ข หน้า ๒, ๑ ธันวาคม ๒๕๔๖
  18. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญจักรมาลาและเหรียญจักรพรรดิมาลา, เล่ม ๑๑๒ ตอนที่ ๕ ข หน้า ๓๔๕, ๒๖ เมษายน ๒๕๓๘
  19. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตประดับเครื่องอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ, เล่ม ๑๐๖ ตอนที่ ๙๑ ง หน้า ๓๘๒๔, ๖ มิถุนายน ๒๕๓๒
  20. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตประดับเครื่องอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ, เล่ม ๑๐๙ ตอนที่ ๕๗ ง หน้า ๔๙๗๐, ๓๐ เมษายน ๒๕๓๕
  21. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประดับเครื่องอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ, เล่ม ๑๑๗ ตอนที่ ๑๓ หน้า ๓, ๒๘ มิถุนายน ๒๕๔๓
  22. ราชกิจจานุเบกษา, แก้คำผิด ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ, เล่ม ๑๑๙ ตอนที่ ๑๙ ข หน้า ๒๙, ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๔๕
  23. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ, เล่ม ๑๒๐ ตอนที่ ๔ ข หน้า ๖, ๗ มีนาคม ๒๕๔๖
  24. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ, เล่ม ๑๒๑ ตอนที่ ๖ ข หน้า ๓, ๒๕ มีนาคม ๒๕๔๗

แหล่งข้อมูลอื่น แก้