อำเภอธารโต

อำเภอในจังหวัดยะลา ประเทศไทย

ธารโต เป็นอำเภอตั้งอยู่ในจังหวัดยะลา มีอาณาเขตติดต่อกับรัฐเกอดะฮ์ ประเทศมาเลเซียทางทิศตะวันตก ทิศใต้ติดต่อกับอำเภอเบตง ทิศเหนือติดต่อกับอำเภอบันนังสตา และทิศตะวันออกอำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส มีทะเลสาบธารโตอยู่ตรงกลาง

อำเภอธารโต
การถอดเสียงอักษรโรมัน
 • อักษรโรมันAmphoe Than To
คำขวัญ: 
ธารโตเมืองดาหลา เงาะป่าซาไก
ทะเลใหญ่บนหุบเขา ถ้ำยาวธารน้ำลอด
แผนที่จังหวัดยะลา เน้นอำเภอธารโต
แผนที่จังหวัดยะลา เน้นอำเภอธารโต
พิกัด: 6°10′2″N 101°10′48″E / 6.16722°N 101.18000°E / 6.16722; 101.18000
ประเทศ ไทย
จังหวัดยะลา
พื้นที่
 • ทั้งหมด648.0 ตร.กม. (250.2 ตร.ไมล์)
ประชากร
 (2564)
 • ทั้งหมด25,788 คน
 • ความหนาแน่น39.80 คน/ตร.กม. (103.1 คน/ตร.ไมล์)
รหัสไปรษณีย์ 95150,
95170 (เฉพาะหมู่ที่ 1-5, 7-8, 10-12 ตำบลแม่หวาด),
95130 (เฉพาะหมู่ที่ 6, 9 ตำบลแม่หวาด)
รหัสภูมิศาสตร์9504
ที่ตั้งที่ว่าการที่ว่าการอำเภอธารโต หมู่ที่ 1
ถนนสุขยางค์ ตำบลธารโต อำเภอธารโต จังหวัดยะลา 95150
สารานุกรมประเทศไทย ส่วนหนึ่งของสารานุกรมประเทศไทย

ที่ตั้งและอาณาเขต แก้

อำเภอธารโตมีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียงดังต่อไปนี้

ประวัติ แก้

เดิมอำเภอธารโตอยู่ในการปกครองของตำบลแม่หวาด อำเภอบันนังสตา ซึ่งกรมราชทัณฑ์ได้จัดตั้งทัณฑสถานเพื่อกักขังนักโทษทางการเมืองและนักโทษคดีอุกฉกรรจ์ที่จัดส่งมาจากทั่วประเทศ และเรียกทัณฑสถานแห่งนี้ว่า "นรกธารโต" ถือเป็นป่าทึบที่ชุกชมไปด้วยไข้ป่าหลบหนีได้ยาก[1] ต่อมากรมราชทัณฑ์ได้ยกเลิกทัณฑสถานแห่งนี้ใน พ.ศ. 2499 กรมประชาสงเคราะห์จึงได้จัดตั้งนิคมสร้างตนเองธารโตขึ้น และเปลี่ยนทัณฑสถานดังกล่าวเป็นโรงเรียนขึ้นในปี พ.ศ. 2500 ปัจจุบันยังมีร่องรอยของคุกปรากฏอยู่ เช่น โรงครัว, โซ่ตรวน และได้จัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์คุกธารโต[1]

เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2518 ได้มีการแยกเขตการปกครองออกจากอำเภอบันนังสตา จัดตั้งเป็น กิ่งอำเภอธารโต ขึ้นกับอำเภอบันนังสตา[2] ก่อนจะยกฐานะขึ้นเป็น อำเภอธารโต เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2524[3]

แต่เดิมชาวบ้านแต่เก่าก่อนเรียกบริเวณนี้ว่า ไอร์กือดง หรือ ไอร์เยอร์กระดง[1] เป็นภาษามลายู คำว่า ไอร์ หรือ ไอร์เยอร์ แปลว่า "น้ำ" หรือ "ลำธารใหญ่" ส่วน กือดง หรือ กระดง มีสองความหมายคือ "บริเวณที่ลำน้ำหลายสายไหลมารวมกันเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่" หรือ "พืชมีพิษ" ซึ่งมีมากในแหล่งน้ำดังกล่าว[1]

คำว่า ธารโต มาจากชื่อ เรือนจำกลางภาคธารโต[1] เป็นชื่อที่ทางกรมราชทัณฑ์ตั้งขึ้นตามลักษณะภูมิประเทศ สอดคล้องกับลักษณะทางภูมิศาสตร์ เพราะมีลำธารขนาดใหญ่ไหลผ่าน[4]

ประชากร แก้

ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวไทยเชื้อสายมลายู ราวร้อยละ 60 และชาวไทยพุทธร้อยละ 40[1] ซึ่งรวมไปถึงชาวไทยเชื้อสายจีน, ชาวไทยจากภาคเหนือ, อีสาน และใต้ อพยพมาตั้งถิ่นฐานใหม่ในเขตนิคมทั้งสามแห่ง ได้แก่ นิคมสร้างตนเองธารโต นิคมสร้างตนเองเบตง และนิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ (นิคมกือลอง)[1] มีมัสยิด 16 แห่ง[5] มีวัดทั้งหมด 6 วัด[6] ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ทำสวนยางพารา สวนผลไม้ และทำประมงน้ำจืด

และที่นี่ยังเป็นถิ่นที่อยู่ของเงาะป่าซาไก ซึ่งได้รับพระราชทานนามสกุล "ศรีธารโต" จากสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี[7] พวกยังดำรงชีวิตอย่างโบราณอยู่ แม้ว่าทางกรมประชาสงเคราะห์จะสร้างที่พักและที่ทำกินให้ แต่พวกเขาก็มิใคร่ใส่ใจ เพราะพวกเขาพอใจที่จะใช้ชีวิตอย่างเดิมมากกว่า[4] แต่ปัจจุบันพวกเขานิยมที่จะอาศัยในประเทศมาเลเซียตั้งแต่เมื่อ 12 ปีก่อน และ 3 ปีที่ผ่านมาชาวซาไกที่เหลือก็เริ่มเข้าไปในมาเลเซียอย่างจริงจัง ด้วยเหตุผลด้านความไม่สงบ และข้อเสนอที่ดีของทางการมาเลเซียที่ให้ที่ทำกินที่ดีกว่าแก่พวกเขา[7]

ชาวซาไกนับถือศาสนาพุทธและผี ส่วนในมาเลเซียนับถือศาสนาอิสลาม แต่เป็นเพียงในนามเท่านั้นเพื่อความมั่นคงของตนเอง[7]

การแบ่งเขตการปกครอง แก้

การปกครองส่วนภูมิภาค แก้

อำเภอธารโตแบ่งเขตการปกครองย่อยเป็น 4 ตำบล 37 หมู่บ้าน ได้แก่

1. ธารโต (Than To) 7 หมู่บ้าน
2. บ้านแหร (Ban Rae) 11 หมู่บ้าน
3. แม่หวาด (Mae Wat) 12 หมู่บ้าน
4. คีรีเขต (Khiri Khet) 7 หมู่บ้าน
 
 
Map of Tambon

การปกครองส่วนท้องถิ่น แก้

ท้องที่อำเภอธารโตประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 5 แห่ง ได้แก่

  • เทศบาลตำบลคอกช้าง ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของตำบลแม่หวาด
  • องค์การบริหารส่วนตำบลธารโต ครอบคลุมพื้นที่ตำบลธารโตทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านแหร ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบ้านแหรทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลแม่หวาด ครอบคลุมพื้นที่ตำบลแม่หวาด (เฉพาะนอกเขตเทศบาลตำบลคอกช้าง)
  • องค์การบริหารส่วนตำบลคีรีเขต ครอบคลุมพื้นที่ตำบลคีรีเขตทั้งตำบล

สถานที่ท่องเที่ยว แก้

อ้างอิง แก้

  1. 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 1.5 1.6 "อำเภอธารโต ที่ทำการปกครองจังหวัดยะลา". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-10-28. สืบค้นเมื่อ 2012-08-05.
  2. "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง แบ่งท้องที่อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา ตั้งเป็นกิ่งอำเภอธารโต" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 92 (109 ง): 1412. June 10 1975. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2012-03-09. สืบค้นเมื่อ 2012-08-05. {{cite journal}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)
  3. "พระราชกฤษฎีกาตั้งอำเภอหนองใหญ่ อำเภอบ่อไร่ อำเภอพรหมคีรี อำเภอนาบอน อำเภอบางสะพานน้อย อำเภอนาดี อำเภอกงหรา อำเภอวังทรายพูน อำเภอธารโต อำเภอคำตากล้า อำเภอศรีนคร อำเภอด่านช้าง อำเภอพรเจริญ อำเภอวังสามหมอ และอำเภอลานสัก พ.ศ. ๒๕๒๔" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 98 (115 ก Special): 7–10. July 13 1981. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2007-09-30. สืบค้นเมื่อ 2012-08-05. {{cite journal}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)
  4. 4.0 4.1 ประพนธ์ เรืองณรงค์. "บทผนวกเกียรติยศ". ใน รัฐปัตตานีใน "ศรีวิชัย" เก่าแก่กว่ารัฐสุโขทัยในประวัติศาสตร์. สุจิตต์ วงษ์เทศ (บรรณาธิการ). พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ:มติชน. 2547, หน้า 346
  5. มูลนิธิเพื่อคุณธรรม มัสยิดในประเทศไทย - ทำเนียบมัสยิดในจังหวัดยะลา[ลิงก์เสีย]
  6. รายชื่อวัดในจังหวัดยะลา
  7. 7.0 7.1 7.2 "รอวันปิดตำนาน 'ซาไก' แห่ง 'ศรีธารโต'" (Press release). สำนักข่าวอามาน. 3 มกราคม พ.ศ. 2553. สืบค้นเมื่อ 5 สิงหาคม 2555. {{cite press release}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)[ลิงก์เสีย]

แหล่งข้อมูลอื่น แก้

หนังสือและบทความ แก้

แผนที่และภาพถ่าย แก้