แอเรียส มู (ญี่ปุ่น: 牡羊座(アリエス)のムウโรมาจิAriesu no Mū) ตัวละครจากการ์ตูนเรื่องเซนต์เซย่า เป็นโกลด์เซนต์ประจำราศีเมษ ผู้ดูแลปราสาทแกะขาว 1 ใน 12 ปราสาทแห่งแซงทัวรี่ มีความสามารถในการซ่อมแซมชุดคล็อธและมีพลังจิตเคลื่อนย้ายวัตถุ (Psychokinesis) ที่สูงที่สุดในเหล่าโกลด์เซนต์ [1] นอกจากนี้ มูยังมีศิษย์อีก 1 คน ได้แก่ กิกิ

อาริเอส มู
ชื่อ
ชื่อไทย แอเรียส มู
ชื่ออักษรละติน Aries Mu
ชื่อญี่ปุ่น 牡羊座のムウ
นักพากย์ คาเนโตะ ชิโอซาวะ (1987-1989)
ทาคุมิ ยามาซากิ (2002-ปัจจุบัน)
ข้อมูลเฉพาะ
ระดับ โกลด์เซนต์
เกิด 27 มีนาคม
ราศี เมษ
กลุ่มดาวประจำตัว กลุ่มดาวแกะ
อายุ 20 ปี
ความสูง 182 เซนติเมตร
น้ำหนัก 75 กิโลกรัม
กรุ๊ปเลือด A
สถานที่เกิด ทิเบต
สถานที่ฝึกวิชา จามิล ทิเบต
ท่าไม้ตาย คริสตัลวอลล์
คริสตัลเน็ต
สตาร์ดัสต์เรฟโวลูชัน
สตาร์ไลต์เอ็กซ์ทิงชัน
ชุดเกราะ
ประเภทชุดเกราะ โกลด์คล็อธ
ชื่อชุดเกราะ อาริเอสคล็อธ
สำหรับความหมายอื่น ดูที่ มิว, มู, MU

บทบาท แก้

การปรากฏตัวครั้งแรก แก้

มูไม่ได้ปรากฏตัวครั้งแรกในฐานะโกลด์เซนต์ แต่ปรากฏในฐานะผู้ซ่อมแซมชุดคล็อธให้กับดราก้อน ชิริว และ เพกาซัส เซย่า ภายหลังจากที่ชิริวและเซย่าต่อสู้กันอย่างดุเดือด ทำให้ชุดคล็อธทั้งสองไม่สามารถซ่อมแซมตัวเองได้ ชิริวจึงได้เดินทางไปหา "มูแห่งจามิล" ซึ่งระหว่างทางได้พบอุปสรรคมากมายจนกระทั่งได้พบกับมูและกิกิ ซึ่งชิริวได้สละเลือดของตัวเองจนเกือบตายเพื่อชุบชีวิตคล็อธทั้งสอง หลังจากที่มูกล่าวว่าถ้าไม่ใช้เลือดจะชุบชีวิตคล็อธไม่ได้[2]

หลักจากที่มูได้ซ่อมแซมชุดคล็อธเพกาซัสและดราก้อนแล้ว มูยังได้เดินทางมาที่ภูเขาฟูจิ ซึ่งเป็นที่ต่อสู่ระหว่างพวกเซย่าและเหล่าแบล็คเซนต์ โดยได้ช่วยเหลือเซย่า ชิริว ซิกนัส เฮียวกะ และอันโดรเมดร้า ชุน ให้ออกจากภูเขาฟูจิด้วยการเทเลโพเทชั่น (teleportation) อีกด้วย [3]

ผู้ดูแลปราสาทแกะขาว แก้

มูปรากฏตัวอีกครั้งในฐานะโกลด์เซนต์ที่เทือกเขาโกโรโฮ ประเทศจีน เพื่อมาแจ้งข่าวให้กับท่านผู้เฒ่าว่าอาเทน่าได้ตัดสินใจไปแซงค์ทัวรี่เพื่อต่อสู่กับเคียวโกแล้ว[4]

หลังจากนั้น มูเดินทางไปยังแซงค์ทัวรี่ในฐานะผู้ดูแลปราสาทแกะขาว ปราสาทหลังที่ 1 จาก 12 ปราสาทแห่งแซงค์ทัวรี่ เมื่อเซย่า ชิริว เฮียวกะ และชุน เดินทางมาถึงปราสาทแกะขาว มูบอกให้ทุกคนถอดชุดคล็อธออก เนื่องจากพลังการซ่อมแซมตัวเองของชุดคล็อธไม่เพียงพอที่จะซ่อมชุดคล็อธที่พังขนาดนี้ได้ มูจึงได้ช่วยซ่อมแซมชุดคล็อธให้พวกเซย่า และได้เตือนถึงพลังและความสามารถของเหล่าโกลด์เซนต์ นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึงความหมายที่แท้จริงของพลังคอสโม่ที่ทำให้เหล่าโกลด์เซนต์ไร้คู่ต่อสู้ นั่นคือ "เซเว่นเซนต์" (Seventh sense) [5]

ในระหว่างการต่อสู้ระหว่างเซย่ากับเจมินี่ ซากะนั้น เวอร์โก้ ชากะ ซึ่งติดอยู่ในช่องว่างของเวลาอวกาศได้ขอร้องให้มูช่วยเปิดทางออกจากช่องว่างนั้นเพื่อนำฟินิกส์ อิคคิกลับมายังแซงค์ทัวรี่ โดยมูได้ใช้พลังจิตเคลื่อนย้ายวัตถุช่วยเหลือให้ทั้ง 2 คน ออกมาจากช่องว่างของเวลาอวกาศไปยังปราสาทสาวพรหมจรรย์[1] และได้คุยกับเหล่าโกลด์เซนต์ที่ยังเหลืออยู่เกี่ยวกับตัวจริงของเคียวโก ซึ่งแท้ที่จริงก็คือ เจมินี่ ซากะ โกลด์เซนต์แห่งราศีเมถุนนั่นเอง [6]

ศึกเทพเจ้าโพไซดอน แก้

ในระหว่างที่อาเทน่ายอมเสียสละตนเองเข้าไปอยู่ในเสาเมนเบรดวินเนอร์ซึ่งเป็นเสาหลักค้ำปราสาทโพไซดอน เพื่อรองรับฝนที่ตกอย่างหนักบนโลกให้มาตกที่เสาแห่งนี้แทน เนื่องจากอาเทน่าต้องการชะลอไม่ให้น้ำท่วมโลกตามที่โพไซดอนหวังไว้ ในระหว่างนั้น มูได้ทำการซ่อมแซมชุดคล็อธให้กับพวกเซย่าอีกครั้ง หลังจากชุดคล็อธได้แหลกไปแล้วในการต่อสู้ในศึก 12 ปราสาท โดยเหล่าโกลด์เซนต์ได้เสียสละเลือดในการซ่อมแซมชุดคล็อธในครั้งนี้ [7]

อย่างไรก็ตาม มูได้บอกเลโอ ไอโอเลียว่า ผู้เฒ่าในฐานะผู้นำสูงสุดของเหล่าโกลด์เซนต์ห้ามไม่ให้เหล่าโกลด์เซนต์เคลื่อนไหวในศึกครั้งนี้ และห้ามออกจากแซงค์ทัวรี่เด็ดขาด และถ้าผู้ใดขัดขืนจะถูกสังหารในฐานะผู้ทรยศต่ออาเทน่า ดังนั้น เหล่าโกลด์เซนต์ที่เหลืออยู่จึงไม่มีใครสามารถออกจากแซงค์ทัวรี่ได้[8]

สงครามศักดิ์สิทธิ์-เทพเจ้าฮาเดส แก้

ในระหว่างที่อยู่ในปราสาทแกะขาว มูสามารถสัมผัสถึงพลังคอสโม่ลึกลับซึ่งปรากฏกายต่อหน้ามูด้วยชุดคลุมสีดำ เมื่อมูเห็นหน้าของคนที่อยู่ภายใต้ชุดคลุมสีดำ มูได้คุกเข่าลงต่อชายผู้นั้น ซึ่งก็คือ แอเรียส ชิออน เคียวโกคนก่อนและอาจารย์ของมูนั่นเอง ชิออนได้ออกคำสั่งให้มูไปเด็ดศีรษะของอาเทน่าภายใน 12 ชั่วโมง แต่มูปฏิเสธ ในขณะนั้นเอง แคนเซอร์ เดธมาสก์และพิสเซส อโฟรดิเท ซึ่งฟื้นคืนชีพอีกครั้งด้วยพลังของฮาเดสเช่นเดียวกับชิออน ก็ปรากฏกายขึ้นโดยสวมชุดเซอร์พรีส ซึ่งเป็นเครื่องหมายของสเป็คเตอร์ ทั้ง 2 คนพยายามที่จะผ่านปราสาทแกะขาวให้ได้ แต่มูก็พยายามต่อสู้เพื่อปกป้องปราสาทไว้ ในที่สุด มูก็สามารถกำจัดเดธมาสก์และอโฟรดิเทลงด้วยท่าสตาร์ไลท์เอ็กซ์ทิงชั่น

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีเพียงเดธมาสก์และอโฟรดิเทเท่านั้นที่ต้องการผ่านปราสาทแกะขาวไปยังที่พำนักของอาเทน่า แล้วพวกของเจมินี่ ซากะ แคปริคอร์น ชูร่า และอควอเรียส คามิว ก็ปรากฏกายขึ้น แต่มูก็ไม่สามารถรับมือโกลด์เซนต์ทั้ง 3 คนได้เพียงลำพัง ในขณะที่ซากะกำลังจะลงมือสังหารมูนั้น ชิออนก็บอกว่าจะเป็นคนกำจัดมูเองโดยได้ตรึงร่างของมูไว้ไม่ให้ขยับได้ แล้วจึงสั่งให้พวกซากะรีบไปยังปราสาทต่อไป แต่ท่านผู้เฒ่าก็เข้ามาช่วยคลายการสะกดให้มู และบอกให้มูรีบตามพวกซากะไป และขัดขวางพวกสเป็คเตอร์ให้ได้

เมื่อมาถึงปราสาทวัวทอง มูพบว่าทอรัส อัลเดบารันได้ถูกสังหารแล้วโดยดีฟ นีโอเบ แห่งกลุ่มดาวจิอัน 1 ในสเป็คเตอร์ นีโอเบได้ใช้ท่าไอพิษมรณะโจมตีใส่มู แต่มูได้ใช้คริสตัลวอลล์สกัดเอาไว้ แล้วบอกนีโอเบว่าในขณะที่นีโอเบโจมตีอัลเดบารันด้วยท่าไอพิษมรณะนั้น อัลเดบารันก็โจมตีคืนด้วยเกรทฮอร์น ดังนั้น จึงเป็นการเสียเวลาเปล่า ๆ ที่จะต่อสู้กับคนที่ตายแล้ว มูจึงรีบเดินทางไปยังปราสาทต่อไป

ในขณะที่มูเดินทางมาถึงปราสาทปูยักษ์ มูได้เผชิญหน้ากับเหล่าสเป็คเตอร์ และโดนพลังไซโคไคเนซิสของปาปิญอง มิว แห่งดาวจิโยทำให้ขยับตัวไม่ได้ มูต่อสู้กับปาปิญองและสามารถเอาชนะได้ด้วยท่าสตาร์ไลท์เอ็กซ์ทิงชั่น

ณ ปราสาทสาวพรหมจรรย์ มูได้ห้ามไม่ให้ไอโอเลียเข้าไปยังสวนรังคู่ สถานที่ต่อสู้ระหว่างพวกซากะและชากะ เนื่องจากต้องการทำตามความปรารถนาของชากะที่ต้องการจะตายนั่นเอง หลังจากนั้น มู ไอโอเลีย และมิโร่ ได้ร่วมกันใช้ท่าอาเทน่าเอ็กซ์คลาเมชั่น (Athena Exclamation) ต่อสู้กับพวกซากะ คามิว และชูร่าที่ใช้ท่าเดียวกันนี้ต่อสู้กัน ต่อมา อาเทน่าได้มีคำสั่งให้พวกมูนำพวกซากะมาหาที่เทวสถานอาเทน่า

มู ไอโอเลีย และมิโร่ เดินทางมายังปราสาทฮาเดส และได้ต่อสู้กับราดาแมนทีส แต่ไม่สามารถสู้ได้เนื่องจากผู้ที่เข้ามาในปราสาทฮาเดสนั้นจะเหลือพลังเพียง 1 ใน 10 เท่านั้น ดังนั้น มู ไอโอเลีย และมิโร่ จึงถูกราดาแมนทีสส่งไปยังยมโลกทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่

ในยมโลกมูได้รับพลังของอาเทน่าจึงคืนชีพอีกครั้ง และได้ร่วมมือกับเหล่าโกลด์เซนต์ทั้ง 11 คน ในการทำลายกำแพงวิปโยค เพื่อให้พวกเซย่าเดินทางไปช่วยอาเทน่า ณ เอลิเชี่ยน

บทบาทในภาค Soul Of Gold แก้

มู ตื่นขึ้นที่ แอสการ์ดเหมือนโกลด์เซนต์คนอื่นๆ และเป็นคนแรกที่ เลโอ ไอโอเลีย พบ มูได้เข้าต่อสู้กับ ฟาฟเนอร์ จนเกือบเสียท่าให้ แต่ ไอโอเลีย ได้เข้ามาช่วยไว้ จากนั้นจึงเดินทางต่อกับ ไอโอเลียไปซักระยะ แล้วจึงปลีกตัวไปหา ชากะ ชากะจึงให้มีดทองคำที่อาเทน่า ปลิดชีพตัวเองเข้าสู่ ยมโลก และได้เดินทางไปที่ต้นอิกดราชิล และจึงอธิบายการพัฒนาคลอธ จากโกลด์คลอธ เป็นก็อดคล็อธ แต่ว่า เมื่อมูเดินทางมาถึงต้นอิกดราชิล จึงพบกับมีดทองคำที่ตน เทเลพอธมาให้มิโร่ วางอยู่ข้างๆ รากไม้ที่พันตัวมิโร่ ก็ทราบว่า มิโร่ได้ใช้พลังเกินขีดจำกัดจนเสียชีวิต ต่อมาตัวเองต้องต่อสู้กับฟาฟเนอร์อีกครั้ง แต่ได้ เดธมาสค์ มาต่อสู้แทน เมื่อมูมาถึงห้องศูนย์กลางที่อันเดรียสอยู่ จึงเร่งคอสโม่ให้ถึงขีดจำกัด พร้อมกับ ไลบร้า โดโก เจมินี่ ซากะ จนเปลี่ยนเป็น ก็อดคล็อธ และใช้ท่า อาเทน่า เอ็กคลาเมชั่นใส่ อันเดรียส จนตัวเอง พร้อมกับโดโก และซากะ แต่ทว่าอันเดรัยสที่กลายเป็นเทพชั่วร้ายโลกิโดยสมบูรณ์ก็ไม่อาจเป็นอะไรจากท่าไม้ตายดังกล่าวได้ เขาจึงถูกต้นอิกดราซิลดูดกลืนพร้อมกับโกลด์เซนต์ที่เหลือ หลังจากคืนชีพกลับมาจากหอกของโลกิได้พน้อมกับโกลด์เซนต์ทุกคน มูก็ได้ร่วมต่อสู้ใช้ก๊อดคลอสกับทุกคนสู้กับโลกิจนชนะ หลังจากนั้นก็บอกลาทุกคนที่แอสการ์ดก่อนสูญสลายไปพร้อมกับเหล่าโกลด์เซนต์ทุกคน

ท่าไม้ตาย แก้

นอกจากความสามารถทางการซ่อมแซมชุดคล็อธแล้ว มูยังมีความสามารถในการต่อสู้ไม่แพ้โกลด์เซนต์คนอื่น พลังไซโคคิเนซิสของมูสูงส่งที่สุดในบรรดาโกลด์เซนต์ทุกคน นอกจากเคลื่อนย้ายสิ่งของแล้วยังทำการเทเลพอร์เทชั่นได้ ซึ่งมูใช้หลบหลีกวิชาของศัตรูในการต่อสู้ต่างๆ อย่างไรก็ตาม มูไม่สามารถเทเลพอร์ตข้ามปราสาทสิบสองราศีได้ เพราะมีคอสโม่ของอาเทน่าคุ้มครองอยู่

โดยมูได้แสดงความสามารถในการต่อสู้ในภาคฮาเดสเป็นครั้งแรก โดยได้ใช้ท่าคริสตัลวอลล์ (Crystal wall) ในการรับมือกับเดธมาสก์และอโฟรดิเท ซึ่งท่าคริสตัลวอลล์เปรียบเสมือนกำแพงผลึกแก้วที่กั้นระหว่างมูและคู่ต่อสู้และจะสะท้อนพลังของคู่ต่อสู้ให้กลับไปทำร้ายตนเอง อย่างไรก็ตาม ท่าคริสตัลวอลล์นั้นก็ถูกทำลายลงได้อย่างง่ายดายโดยแอเรียส ชิออน ผู้เป็นอาจารย์ของมูนั่นเอง[9]

มูยังมีท่าที่ใช้ในการตั้งรับอีกท่า ได้แก่ คริสตัลเนท (Crystal net) ซึ่งใช้ในการต่อสู้กับปาปิญอง สเป็คเตอร์ของฮาเดส โดยท่านี้มีลักษณะคล้ายใยแมงมุมที่ใช้ดักผีเสื้อ ทำให้คู่ต่อสู้ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ [10]

นอกจากท่าที่ใช้ในการตั้งรับ มูยังมีท่าที่ใช้ในการโจมตี ได้แก่ ท่าสตาร์ไลท์เอ็กซ์ทิงชั่น (Starlight Extinction) และท่าสตาร์ดัสต์เรฟโวลูชั่น (Stardust Revolution) สำหรับท่าสตาร์ไลท์เอ็กซ์ทิงชั่นนั้น คู่ต่อสู้จะถูกวงแสงจำนวนมากห่อหุ้มตัว หลังจากนั้น ร่างของคู่ต่อสู้จะเหมือนถูกแสงละลายหายไป มูใช้ท่านี้เป็นครั้งแรกเพื่อส่งเซย่าไปยังที่อื่นในระหว่างการต่อสู้กับเดธมาสก์และอโฟรดิเทที่ปราสาทแกะขาว และได้ใช้ท่าเดียวกันนี้กำจัดเดธมาสก์และอโฟรดิเท[11]

ส่วนท่าสตาร์ดัสต์เรฟโวลูชั่นนั้นเป็นท่าไม้ตายของแอเรียส ชิออนที่ถ่ายทอดให้กับมู โดยท่านี้มีลักษณะคล้ายละอองดาวที่พุ่งเข้าโจมตีศัตรู โดยศัตรูไม่มีทางหลบรอดได้[12]

การต่อสู้ของ แอเรียส มู แก้

ตนเอง คู่ต่อสู่ ผล
มู เดธมาสค์, อโฟรดิเท มู เป็นฝ่ายชนะ
มู ชูร่า, คามิว, ซากะ ยังไม่รู้ผลแพ้ชนะ
มู นิโอเบ มู เป็นฝ่ายชนะ (นิโอเบ ถูกอัลเดบารัน สังหารไปแล้ว)
มู ปาปิญอง มู เป็นฝ่ายชนะ
มู, ไอโอเลีย, มิโร่ ซากะ, ชูร่า, คามิว เสมอ
มู, ไอโอเลีย, มิโร่ ราดาแมนทีส ราดาแมนทีส เป็นฝ่ายชนะ (พลังถูกดูดไป)

อ้างอิง แก้

  1. 1.0 1.1 มะซะมิ คุรุมะดะ, เซนต์ เซย่า เล่มที่ 12 , สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ, 2545, หน้า 126
  2. มะซะมิ คุรุมะดะ, เซนต์ เซย่า เล่มที่ 3 , สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ, 2543, หน้า 148-59
  3. มะซะมิ คุรุมะดะ, เซนต์ เซย่า เล่มที่ 5 , สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ, 2543, หน้า 108
  4. มะซะมิ คุรุมะดะ, เซนต์ เซย่า เล่มที่ 8, สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ, 2545, หน้า 38-41
  5. มะซะมิ คุรุมะดะ, เซนต์ เซย่า เล่มที่ 8, สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ, 2545, หน้า 81-93
  6. มะซะมิ คุรุมะดะ, เซนต์ เซย่า เล่มที่ 13 , สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ, 2545, หน้า 24-27
  7. มะซะมิ คุรุมะดะ, เซนต์ เซย่า เล่มที่ 14, สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ, 2545, หน้า 123-27
  8. มะซะมิ คุรุมะดะ, เซนต์ เซย่า เล่มที่ 17, สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ, 2546, หน้า 36-37 และ 118
  9. มะซะมิ คุรุมะดะ, เซนต์ เซย่า เล่มที่ 19 , สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ, 2548, หน้า 37-45
  10. มะซะมิ คุรุมะดะ, เซนต์ เซย่า เล่มที่ 20 , สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ, 2548, หน้า 160-65
  11. มะซะมิ คุรุมะดะ, เซนต์ เซย่า เล่มที่ 19 , สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ, 2548, หน้า 78-89
  12. มะซะมิ คุรุมะดะ, เซนต์ เซย่า เล่มที่ 20 , สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ, 2548, หน้า 61 และ 113-14

ดูเพิ่ม แก้

แหล่งข้อมูลอื่น แก้