อาคารผู้โดยสารสนามบิน

อาคารผู้โดยสารสนามบิน คืออาคารที่อยู่ในสนามบิน airport เป็นที่ๆ ผู้โดยสารถ่ายโอนระหว่างการขนส่งภาคพื้นดินและอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารสามารถขึ้นและลงเครื่อง aircraft.

Terminal 5 at London Heathrow Airport, United Kingdom, which is the world's busiest airport by international passenger traffic[1]
The Tom Bradley International Terminal of Los Angeles International Airport, which handles the most origin and destination (O&D) flights in the world

ภายในอาคารผู้โดยสารสามารถซื้อตั๋ว, รับกระเป๋าเดินทาง, ได้รับการตรวจจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย. อาคารถูกออกแบบให้สามารถเข้าสู่ตัวเครื่องบินโดยผ่านเกท (via gates) ซึ่งโดยปกติจะเรียกว่า อาคารเทียบเครื่องบิน concourses. อย่างไรก็ตาม คำว่า อาคารผู้โดยสาร "terminal" และ อาคารเทียบเครื่องบิน "concourse" บางครั้งก็ใช้สลับกัน, ขึ้นอยู่กับโครงสร้างของของสนามบิน.

สนามบินขนาดเล็กมีอาคารผู้โดยสารเพียงหนึ่งอาคาร ในขณะที่ สนามบินขนาดใหญ่สามารถมีอาคารผู้โดยสารและ/หรืออาคารเทียบเครื่องบินได้หลายอาคาร.ในสนามบินขนาดเล็ก อาคารผู้โดยสายหนึ่งเดียวนี้ปกติจะมีองค์ประกอบทุกสิ่งทุกอย่างของการเป็นอาคารผู้โดยสารและอาคารเทียบเครื่องบิน

สนามบินขนาดใหญ่บางแห่งมีอาคารผู้โดยสายหนึ่งอาคารที่เชื่อมต่อหลายๆ อาคารเทียบเครื่องบินด้วยทางเดิน, สะพานลอยฟ้า, หรือ อุโมงค์ใต้ดิน (เช่น สนามบินนานาชาติเดนเวอร์ Denver International Airport). สนามบินขนาดใหญ่บางแห่งมีอาคารผู้โดยสารมากกว่าหนึ่งอาคาร, แต่ละอาคารก็จะมีอาคารเทียบเครื่องบินหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งอาคาร   (เช่น สนามบินนิวยอร์กลาการ์เดีย JFK Airport). สนามบินขนาดใหญ่อื่นๆ มีหลายอาคารผู้โดยสารแต่ละอาคารประกอบรวมไปด้วยฟังก์ชันของอาคารเทียบเครื่องบิน (เช่น สนามบินนานาชาติดัลลัส / ฟอร์ตเวิร์ธ Dallas/Fort Worth International Airport).

อาคารผู้โดยสารโดยส่วนใหญ่จะสร้างในรูปแบบเรียบๆ ง่ายๆ, โดยในปี 1960 และ 70 สร้างด้วยคอนกรีตบ็อกซ์ ต่อมาปี 90 และ 00 สร้างด้วยกระจก โดยอาคารผู้โดยสารที่ดีที่สุดจะผสมผสานระหว่าง “แสง” กับ “อากาศ” อย่างลงตัว. อย่างไรก็ตามบางอาคารผู้โดยสาร เช่น สนามบินนานาชาติแบกแดด   Baghdad International Airport,  คืออนุเสาวรีย์ขนาดยิ่งใหญ่  , ในขณะที่ที่อื่นๆ สร้างเป็นผลงานชิ้นเอกทางสถาปัตยกรรม, เช่น อาคารผู้โดยสาร 1 ที่สนามบินสนามบินชาร์ลส์เดอโกล Charles de Gaulle airport ใกล้กับปารีส Paris หรือ อาคารผู้โดยสาร 5 Terminal 5 ที่สนามบินนิวยอร์ก JFK. มี2-3 แห่งที่ออกแบบมาเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมในพื้นที่นั้น., อาคารผู้โดยสารที่อัลบูเควอร์ก Albuquerque International Sunport ในนิวเม็กซิโก New Mexico, ออกแบบในสไตล์ของสถาปัตยกรรมฟื้นฟูพิวโบล Pueblo Revival โดยฝีมือของสถาปนิกชื่อดัง John Gaw Meem, เหมือนกับอาคารผู้โดยสารที่สนามบินนานาชาติฮัวตัลโก Bahías de Huatulco International Airport ในฮัวตัวโก โอซากา เม็กซิโก Huatulco, Oaxaca, Mexico, ซึ่งเชื่อมต่ออาคารผู้โดยสารเข้าด้วยกันด้วยโครงสร้างดาวเทียม palapas .[2][3]

การออกแบบ

แก้
 
Typical Passengers-Terminal Configurations

จากการเพิ่มความนิยมอย่างรวดเร็วของผู้โดยสารในการคมนาคมทางอากาศ, อาคารผู้โดยสารหลายอาคารในช่วงแรกๆถูกสร้างขึ้นในปี 1930-1940 และ มักจะสร้างในรูปแบบศิลปะสถาปัตยกรรมของแต่ละช่วงเวลา art deco . ตัวอย่างเช่น จากปี 1940 ก็คืออาคารผู้โดยสารฮูสตัน Houston Municipal Airport Terminal. อาคารผู้โดยสารในช่วงแรกยังเป็นแบบยางมะตอย tarmac: ผู้โดยสารจะต้องเดินหรือนั่งรถบัสเพื่อไปยังเครื่องบิน การออกแบบรูปแบบนี้เป็นรูปแบบธรรมดาๆ ของสนามบินขนาดเล็ก, และแม้แต่สนามบินขนาดใหญ่หลายๆ สนามบินยังมีรสบัสรับส่ง "bus gates" เพื่อรองรับกรณีที่เครื่องบินจอดอยู่ห่างจากอาคารผู้โดยสารหลัก.

 
Typical design of a terminal, showing the Departures (upper half of page) and Arrivals levels. 1. Departures Lounge. 2. Gates and jet bridges. 3. Security Clearance Gates. 4 Baggage Check-in. 5. Baggage Carousels

อาคารเทียบเครื่องบิน

แก้
 
Check-in counters at Bengaluru International Airport, India
 
4th floor ticketing hall of the Kansai International Airport, Japan
 
Mumbai Airport (Domestic Terminal), India
 
Entrance to gates at Asheville Regional Airport, United States

การออกแบบในรูปแบบ Pier จะใช้รูปแบบอาคารยาว และแคบ โดยให้เครื่องบินจอดทั้งสองด้าน. สุดทางของด้านหนึ่งเชื่อมต่อกับส่วนออกตั๋ว และพื้นที่สำหรับรับกระเป๋าเดินทาง. baggage claim. ท่าเทียบสามารถจุเครื่องบินได้จำนวนมากและมีการออกแบบที่เรียบง่าย, แต่มักจะมีระยะทางที่ยาวนับจากเคาน์เตอร์เช็คอินถึงเกท (ตัวอย่างเช่น ระยะทางห่างกว่าครึ่งไมล์ที่สนามบินนานาชาติคันไซ Kansai International Airport หรือ อาคารผู้โดยสาร 1 ในสนามบิน Lisbon Portela Airport). สนามบินระหว่างประเทศที่ใหญ่ๆ มีทางเทียบรวมทั้งสนามบินนานาชาติชิคาโก O'Hare International Airport, สนามบินนานาชาติลาร์นากา Larnaca International Airport, สนามบินนานาชาติแฟรงค์เฟิร์ต Frankfurt International Airport, สนามบินฮีทโทรว์ในกรุงลอนดอน London Heathrow Airport, สนามบินอัมสเตอร์ดัม Amsterdam Schiphol Airport, สนามบินนานาชาติ Murtala Muhammed International Airport, สนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ Kuala Lumpur International Airport, สนามบินนานาชาติเมรีดา Mérida International Airport, สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ Bangkok International Airport, สนามบินนานาชาติมาซาตลัน Mazatlan International Airport, สนามบินนานาชาติกรุงเบรุต Beirut International Airport, สนามบินนานาชาติฮ่องกง Hong Kong International Airport, สนามบินนานาชาติอัลลามา อิกบอล Allama Iqbal International Airport, สนามบินนานาชาติตีฮัวนา Tijuana International Airport, สนามบินโรม ฟิวมิชิโน Rome Fiumicino Airport, สนามบินนานาชาติโตรอนโต เพียร์สัน Toronto-Pearson International Airport, สนามบินนานาชาตินิวเดลี Delhi International Airport, สนามบินนานาชาติฟอร์ท ลอเดอเดล ฮอลิวูด Fort Lauderdale–Hollywood International Airport and สนามบินนานาชาติไมอามี่Miami International Airport.

อาคารผู้โดยสารรูปแบบคล้ายเกาะ

แก้

อาคารผู้โดยสารในรูปแบบคล้ายเกาะ เป็นอาคารที่แยกตัวออกมาตัวอาคารอื่นๆ ของสนามบิน ดังนั้นเครื่องบินจะสามารถจอดได้ทั้งรอบตัวอาคาร สนามบินแรกที่ใช้อาคารผู้โดยสารรูปแบบเกาะคือ สนามบินลอนดอนแกตวิค London Gatwick Airport. ใช้อุโมงค์ใต้ดินในการเชื่อมต่อระหว่างอาคารผู้โดยสารลูก satellite terminal กับอาคารผู้โดยสารหลัก และลักษณะนี้ก็มีการสร้างครั้งแรกที่สนามบินนานาชาติลอสแอนเจลิส Los Angeles International Airport ด้วย, แต่ปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนเป็นรูปแบบ pier แล้ว. สนามบินแรกที่ใช้ระบบรถรางไฟฟ้าขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ people mover ในการเชื่อมต่อระหว่างอาคารผู้โดยสารหลักกับอาคารผู้โดยสารลูกคือ สนามบินนานาชาติแทมปา Tampa International Airport, ซึ่งกลายมาเป็นมาตรฐานในวันนี้. ตัวอย่างอื่นๆ ได้แก่:

  • สนามบินนานาชาติของปารีส ชาร์ลส์เดอโกล Charles de Gaulle International Airport (อาคารผู้โดยสาร 1), สนามบินนานาชาติเจนีวา Geneva International Airport และ สนามบินลอนดอนแกตวิค London Gatwick Airport (อาคารผู้โดยสารใต้) มีอาคารผู้โดยสารลูกแบบวงกลม.
  • สนามบินนานาชาติออร์แลนโด Orlando International Airport และ สนามบินนานาชาติพิตส์เบิร์ก Pittsburgh International Airport ผสมระหว่างรูปแบบ pier กับ เกาะ.
  • สนามบินบรัสเซลส์ Brussels Airport's Pier A เชื่อมต่อกับอาคารหลักทางอุโมงค์ใต้ดินและทางเดินเท้า walkways.
  • สนามบินซูริค Zurich Airport อาคารผู้โดยสารกลางเชื่อมต่อกับอาคารผู้โดยสารหลักโดยรถไฟฟ้าใต้ดิน underground Skymetro.
  • ท่าอากาศยานนานาชาติโลแกน Logan International Airport ในบอสตัน Boston, อาคารผู้โดยสาร A มีเกทอยุ่สองส่วน, ส่วนหนึ่งเป็นอาคารผู้โดยสารลูกที่เชื่อมต่อโดยทางเดินเท้าใต้ดิน.
  • สนามบินนานาชาติเดนเวอร์ Denver International Airport, สนามบินนานาชาติเจเนอรัล มาริอาโน เอสโคเบโด General Mariano Escobedo International Airport, สนามบินนานาชาติเซนซิเนติ/สนามบินนานาชาติเคนตั้กกี้เหนือ Cincinnati/Northern Kentucky International Airport, และ สนามบินนานาชาติแอตแลนต้า Hartsfield-Jackson Atlanta International Airport มีอาคารผู้โดยสารลูกแบบต่อเนื่องเชื่อมต่อโดยระบบรถรางไฟฟ้าขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ.
  • สนามบินนานาชาติโอแฮร์ O'Hare International Airport ในชิคาโก้, อาคารผู้โดยสาร 1 ประกอบด้วยอาคารเทียบเครื่องบิน B และ C. อาคารเทียบเครื่องบิน B อยุ่ติดกับถนนในสนามบินและเคาน์เตอร์เช็คอิน, ที่รับกระเป๋าและด่านตรวจ และมีเกทขึ้นเครื่องอยู่ติดข้างๆ ขณะที่อาคารเทียบเครื่องบิน C เป็นอาคารลูกที่แยกตัวออกไป เชื่อมต่อด้วยทางเดินเท้าใต้ดินที่มีการแสดงแสงไฟนีออน และแอร์ และ เสียงเพลงเบาๆ ของ United Airlines ธีม "Rhapsody in Blue".
  • สนามบินที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของลอนดอน,แตนสเต็ด Stansted, มีอาคารผู้โดยสารหลักหนึ่งอาคาร กับ อาคารผู้โดยสารย่อยแบบต่อเนื่อง 3 อาคาร โดยทุกอาคารเชื่อมต่อเข้ากับอาคารผู้โดยสารหลักโดยระบบรถรางไฟฟ้าขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ. ปัจจุบันสนามบินนี้ได้ขยายโดยเพิ่มอาคารผู้โดยสารย่อยเพิ่มอีก.
  • สนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ Kuala Lumpur International Airport มีอาคารผู้โดยสารลูกรูปร่างกากบาท ซึ่งใช้สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ
  • อาคารผู้โดยสาร 2 สนามบินนานาชาติแคนคูน Cancun International Airport Terminal 2 มีหนึ่งอาคารผู้โดยสารที่ประกอบด้วยอาคารเทียบเครื่องบินสองอาคาร อาคารหลักและอาคารลูก หนึ่งในนั้นกลายเป็นอาคารผู้โดยสารลูก.
  • สนามบินนานาชาติซีแอตเทิล ทาโคม่า Seattle-Tacoma International Airport มีอาคารผู้โดยสารลูกรูปร่างสี่เหลี่ยมผืนผ้า 2 อาคาร ที่เชื่อมต่อโดยระบบรถรางไฟฟ้าขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ automatic people movers.
  • สนามบินนานาชาติจินนาห์ Jinnah International Airport ในการาจี Karachi มีอาคารผู้โดยสารหลักหนึ่งอาคาร แบ่งออกเป็นสองอาคารเทียบเครื่องบินคือ จินนาห์ตะวันออก ใช้สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ และจินนาห์ตะวันตกใช้สำหรับภายในประเทศและเที่ยวบินระหว่างประเทศบางส่วน.
  • สนามบินนานาชาติแมคคาร์แรน McCarran International Airport ในลาสเวกัส อาคารผู้โดยสารลูกลักษณะรูปร่าง X, ชื่อว่าอาคารเทียบเครื่องบิน D, โดยเชื่อมต่อโดยระบบรถรางไฟฟ้าขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ automatic people movers 2 เส้นทาง - หนึ่งเส้นทางมาจากอาคารผู้โดยสารหลัก และอีกหนึ่งเส้นทางมาจาอาคารผู้โดยสาร E.
  • สนามบินนานาชาติมาริอาโน เอสโคเบโด Mariano Escobedo International Airport เป็นสนามบินแรกและเป็นสนามบินเพียงหนี่งเดียวของเม็กซิโก ซึ่งมีอาคารผู้โดยสารแบบเกาะที่สมบูรณ์มากสนามบินหนึ่ง อาคารผู้โดยสาร A เชื่อมต่อกันอาคารผู้โดยสารหลักโดยอุโมงค์ใต้ดิน.
  • อาคารผู้โดยสาร 5 Terminal 5 ที่สนามบินฮีทโทรว์ในกรุงลอนดอน London Heathrow Airport มีอาคารผู้โดยสารลูก 2 อาคาร, 5B, และ 5C, เชื่อมต่อโดยรถไฟฟ้าใต้ดิน.
  • สนามบินนานาชาติ อาบูดาบีAbu Dhabi International Airport
  • สนามบินโรมฟิวมิชิโน Rome Fiumicino Airport มีอาคารผู้โดยสารลูกหนึ่งอาคารเรียกว่า T3G, เชื่อมต่อโดย Bombardier Innovia APM 100.
  • สนามบินมาดริดบาราคัส Madrid–Barajas Airport มีอาคารผู้โดยสารลูกแบบต่อเนื่อง คือ T4S เชื่อมต่อกันอาคารผู้โดยสาร 4 อาคารหลักโดยยระบบรถรางไฟฟ้าขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ.
  • อาคารผู้โดยสารกลางทั้งสองอาคารของสนามบินนานาชาติวอชิงตันดัลเลส Washington Dulles International Airport ใช้การออกแบบนี้, โดยอาคารเทียบเครื่องบิน A, B, และ C เชื่อมต่อกับอาคารผู้โดยสารหลักโดยรถไฟความเร็วสูง AeroTrain, และอาคารเทียบเครื่องบิน D พร้อมบริการห้องรับรองพิเศษ mobile lounge. ที่นั่นมีทางเดินเท้าใต้ดินจากอาคารผู้โดยสารหลักมายังอาคารเทียบเครื่องบิน B ด้วย.

อาคารผู้โดยสารแบบครึ่งวงกลม

แก้

บางสนามบินใช้อาคารผู้โดยสารแบบครึ่งวงกลม โดยที่เครื่องบินจอดด้านหนึ่ง และรถยนต์จอดอีกด้านหนึ่ง. การออกแบบลักษณะนี้ทำให้ผู้โดยสารที่เปลี่ยนเครื่องเดินไกล, แต่ดีในเรื่องของการลดเวลาในการเดินระหว่างเคาน์เตอร์เช็คอินกับตัวเครื่องบิน. สนามบินที่มีการออกแบบรูปแบบนี้ได้แก่ สนามบินนานาชาติชาร์ลส์เดอโกลล์ Charles de Gaulle International Airport (อาคารผู้โดยสาร 2), สนามบินนานาชาติฉัตรปติ ศิวาชี Chhatrapati Shivaji International Airport, มุมไบ Mumbai (อาคารผู้โดยสาร 2), สนามบินนานาชาติดัลลัส/ฟอร์ตเวิร์ธ Dallas/Fort Worth International Airport, สนามบินนานาชาติอินชอน โซล Incheon International Airport, สนามบินนานาชาติโซคาร์นา ฮัตตา ของจาร์กาตาSoekarno-Hatta International Airport, สนามบินโตรอนโต เพียร์สันToronto Pearson Airport, สนามบินแคนซัส ซิตี้Kansas City Airport และสนามบินนิวชิโตเซ แห่งซับโปโร New Chitose Airport.

อื่นๆ

แก้

ค่อนข้างหายากสำหรับอาคารผู้โดยสารที่มีบริการห้องรับรอง mobile lounge, ผู้โดยสารจะถูกเคลื่อนย้ายจากเกทไปยังตัวเครื่องบินโดยยานพาหนะขนาดใหญ่โดยที่ท่าเทียบเครื่องบินจะเชื่อมต่อโดยตรงกับอาคารผู้โดยสารและเครื่องบินเลย ได้แก่ สนามบินนานาชาติวอชิงตันดัลเลส Washington Dulles International Airport, สนามบินนานาชาติเม็กซิโก ซี้ตี้Mexico City International Airport, และ สนามบินนานาชาติมิราเบล Mirabel International Airport มีการใช้การออกแบบๆ นี้.

สำหรับรูปแบบผสมผสานก็ยังคงมีอยู่เช่นกัน ได้แก่  สนามบินนานาชาติซานฟรานซิสใช้ทั้งแบบ pier-semicircular และ แบบ pier San Francisco International Airport และสนามบินเมลเบิร์น Melbourne Airport ใช้รูปแบบผสมระหว่าง pier-semicircular กับ pier .

สิ่งอำนวยความสะดวกทั่วๆ ไป

แก้

รูปแบบอาคารที่ใช้งานร่วมกันหมายถึง สายการบินใช้เคาน์เตอร์เช็คอิน, เกท, ระบบคอมพิวเตอร์ร่วมกัน. เช็คอินเคาน์เตอร์และเกทสามารถใช้ได้ตามความต้องการของสายการบิน.[4]

บันทึก

แก้

สนามบินนานาชาติดูไบ Dubai International Airport, ดูไบ Dubai, สหรัฐอาหรับเอมิเรต United Arab Emirates อาคารผู้โดยสาร 3 เป็นอาคารผู้โดยสารเดี่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีพื้นที่มากกว่า (1,713,000 m²) เปิดเมื่อ 14 ตุลาคม 2008 . สามารถจุผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 60 ล้านคน[5]

ปักกิ่ง Beijing, ฮ่องกง Hong Kong, กรุงเทพฯ Bangkok และบาร์เซลโลน่า Barcelona มีอาคารผู้โดยสารเดี่ยวที่ใหญ่เป็นอันดับ 2, 3,4 และ 5 ตามลำดับ (986,000 m2, 570,000 m2, 563,000 m2 and 546,000 m2) สนามบินนานาชาติปักกิ่ง Beijing Capital International Airport, สนามบินนานาชาติฮ่องกง Hong Kong International Airport, สนามบินสุวรรณ Suvarnabhumi Airport and สนามบินบาร์เซลโลน่า Barcelona Airport ตามลำดับ.

การขนส่งภาคพื้นดิน

แก้

สนามบินขนาดเล็กและขนาดกลางมากมายมีถนนวันเวย์หนึ่งเส้น แบ่งเป็นสองเลน หรือ สามเลน ใช้สำหรับให้รถยนต์ส่วนบุคคล รถบัสส่งและรับผู้โดยสารได้.

สนามบินนานาชิตอาจจะมีถนนวันเวย์สองเส้น one-way loop roads, เส้นหนึ่งสำหรับผู้โดยสารขาออก และ เส้นหนึ่งสำหรับผู้โดยสารขาเข้า.ซึ่งอาจจะเชื่อมต่อเข้าสู่ตัวเมือง downtown หรือย่านใจกลางธุรกิจของเมื่อง central business district ที่ใกล้ที่สุดโดยตรงกับรถไฟ ได้แก่ รถไฟฟ้าท้องถิ่น regional rail, รถไฟฟ้ารางเบา light rail, หรือรถไฟฟ้าใต้ดิน subway . สนามบินขนาดใหญ่อาจจะเชื่อมต่อโดยตรงกับทางด่วนเลย freeway. ในอาคารผู้โดยสารจะมีบริษัทรถเช่า car rental และแท็กซี่ taxi สนามบินนานาชาติฮ่องกง Hong Kong International Airport มีท่าเรือเฟอร์รี่ไว้สำหรับข้ามฟาก border. สนามบินนานาชาติดูไบ Dubai International Airport เป็นผู้นำเกี่ยวกับการออกแบบ, ความสะดวกสบาย, และทำเลที่ตั้ง.[ต้องการอ้างอิง]

 
Airport lobby

โซน

แก้

ก่อน-ด่านตรวจ

หลัง-ด่านตรวจ

แหล่งข้อมูลอื่นๆ

แก้

อ้างอิง

แก้
  1. Busiest Airports – The Busiest Airports in the World. Geography.about.com. Retrieved on 2013-04-09.
  2. The 10 Worst Airport Terminals Slideshow at Frommer's เก็บถาวร 2013-01-23 ที่ archive.today. Frommers.com. Retrieved on 2013-04-09.
  3. World's 10 Most Beautiful Airport Terminals Slideshow at Frommer's เก็บถาวร 2013-01-23 ที่ archive.today. Frommers.com. Retrieved on 2013-04-09.
  4. McGraw-Hill Construction | ENR – Next Phase of Baggage Screening Goes In-line, Out ofView. Enr.construction.com (2003-12-15). Retrieved on 2013-04-09.
  5. New Terminal 3 to evoke 'tranquillity' – The National เก็บถาวร 2010-08-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Thenational.ae (2011-07-22). Retrieved on 2013-04-09.