หม่อมราชวงศ์มิตรารุณ เกษมศรี

หม่อมราชวงศ์มิตรารุณ เกษมศรี (26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2458 – 6 ธันวาคม พ.ศ. 2540) สถาปนิกผู้มีผลงานออกแบบสถาปัตยกรรมไทย มีความชำนาญในการออกแบบผูกลาย ได้รับการยกย่องให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (สถาปัตยกรรม) ประจำปี พ.ศ. 2530[1]


มิตรารุณ เกษมศรี

ปกหนังสือประวัติและผลงานของ หม่อมราชวงศ์มิตรารุณ เกษมศรี
เกิด26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2458
จังหวัดพระนคร ประเทศสยาม
เสียชีวิต6 ธันวาคม พ.ศ. 2540 (82 ปี)
สัญชาติไทย
อาชีพสถาปนิก
มีชื่อเสียงจากงานออกแบบสถาปัตยกรรมไทย
บิดามารดาหม่อมเจ้าสมภพ เกษมศรี
หม่อมเยื้อน เกษมศรี ณ อยุธยา
รางวัลพ.ศ. 2530 - ศิลปินแห่งชาติ
สาขาทัศนศิลป์ (สถาปัตยกรรม)

ประวัติ แก้

หม่อมราชวงศ์มิตรารุณ เกษมศรี เกิดที่บ้านสี่กั๊กพระยาศรี ริมถนนเจริญกรุง ตำบลพาหุรัด อำเภอพาหุรัด จังหวัดพระนคร (ขณะนั้น) เป็นโอรสของ พันโท หม่อมเจ้าสมภพ เกษมศรี และหม่อมเยื้อน เกษมศรี ณ อยุธยา สำเร็จการศึกษาระดับอนุปริญญา ในปี พ.ศ. 2481 จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

หม่อมราชวงศ์มิตรารุณ เกษมศรี ถึงแก่อนิจกรรม เมื่อวันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2540 รวมอายุได้ 82 ปี ด้วยอุบัติเหตุ​ทางรถยนต์

ในวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2541 พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี​ ​เสด็จพระราชดำเนิน​ พระราชทาน​เพลิงศพ ณ วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร​ โดยมี นายชวน หลีกภัย​ นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมในพระราชพิธี

การศึกษา แก้

พ.ศ. 2466 ระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนวัดสุทัศนเทพวราราม, พ.ศ. 2470 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม, พ.ศ. 2475 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนวัดเทพศิรินทราวาส และ พ.ศ. 2478 สำเร็จการศึกษาระดับอนุปริญญาสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

การทำงาน แก้

หม่อมราชวงศ์มิตรารุณ เกษมศรี ภายหลังสำเร็จการศึกษาได้เข้ารับราชการที่กรมโยธาธิการ โดยได้รับมอบหมายให้ ออกแบบอาคารราชการหลายหลังได้ขึ้นไปปฏิบัติงานที่จังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อรัฐบาลมีนโยบายจะย้ายเมืองหลวงไปที่นั่น ได้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้างเมรุสำหรับเผาผู้ที่เสียชีวิตจากไข้ป่าเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นก็ได้ทำงานส่วนตัวไปพร้อม ๆ กัน โดยออกแบบบ้านซึ่งเป็นที่นิยมเป็นอันมาก

ต่อมาในปี พ.ศ. 2494 ทางกรมศิลปากรได้ ขอตัวจากกรมโยธาธิการ ให้ไปสังกัดอยู่กองสถาปัตยกรรม กรมศิลปากร ช่วงเวลานี้หม่อมราชวงศ์มิตรารุณได้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้างวิหารพระพุทธสิหิงค์ จังหวัดชลบุรี พระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ ปราสาทจำลอง ซึ่งนำไปแสดง ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม ใน พ.ศ. 2501 นอกจากนั้นยังได้ออกแบบเมรุหลวงหน้าพลับพลาอิสริยาภรณ์วัดเทพศิรินทราวาส ซึ่งใช้เป็นเมรุในการพระราชพิธีตลอดมาจนถึงทุกวันนี้

หม่อมราชวงศ์มิตรารุณยังได้รับเชิญให้ เป็นอาจารย์พิเศษสอนสถาปัตยกรรมไทยให้กับคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ทั้งที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยศิลปากร ในระหว่างนี้ได้มีโอกาสรับใช้เบื้องพระยุคลบาทออกแบบ เขียนแบบ และควบคุมการก่อสร้างพระราชฐานที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรที่พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ จังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ ตำหนักที่ประทับและที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอทั้งสองพระองค์

ใน พ.ศ. 2504 หม่อมราชวงศ์ มิตรารุณขอลาออกจากราชการเพื่อปฏิบัติงานส่วนตัว แต่เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทราบได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มาปฏิบัติราชการ ในพระราชวัง สังกัดสำนักพระราชวัง ในตำแหน่งหัวหน้ากองมหาดเล็ก และปฏิบัติราชการในฐานะสถาปนิกพิเศษประจำสำนักพระราชวัง ได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยในการออกแบบ เขียนแบบ และควบคุมการก่อสร้างพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ จังหวัดสกลนคร ทั้งยังพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ออกแบบพระตำหนักเพิ่มเติม ได้แก่ พระตำหนักสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี รวมทั้งหอพระประจำราชนิเวศน์ด้วย นอกจากนั้นยังโปรดฯ ให้เป็นผู้ควบคุมตกแต่งสถานที่พระราชนิเวศน์แห่งนี้ทั้งหมด ส่วนที่พระราชวังไกลกังวล หัวหิน ได้รับพระมหากรุณาธิคุณให้ซ่อมแซมสระสรงที่ตำหนักที่ประทับต่อมาเมื่อมีพระราชประสงค์ สร้างพระตำหนักเพิ่มเติม เป็นที่ประทับของพระเจ้าลูกเธอทั้งสองพระองค์ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หม่อมราชวงศ์ มิตรารุณ เป็นผู้ออกแบบและควบคุมทั้งหมดส่วนที่พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต เมื่อมีพระราชประสงค์จะต่อเติมพระตำหนักส่วนใด ก็จะโปรดเกล้าให้หม่อมราชวงศ์ มิตรารุณ เป็นผู้เขียนแบบและต่อเติมขึ้น พร้อมทั้งเขียนแบบการตกแต่งภายในทั้งหมดส่วนที่พระบรมมหาราชวัง หม่อมราชวงศ์มิตรารุณได้รับผิดชอบ ในการบูรณปฏิสังขรณ์ที่นั่งองค์ต่าง ๆ ในช่วงนี้

เมื่อหม่อมราชวงศ์ มิตรารุณ พอจะมีเวลาว่างมากขึ้น สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร ได้ทูลขอพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรให้หม่อมราชวงศ์มิตรารุณไปช่วยงานด้านพระศาสนาออกแบบอาคารต่าง ๆ ในวัดญาณสังวราราม จังหวัดชลบุรี งานที่สำคัญ ได้แก่ พระมหามณฑปพระพุทธบาท “ภปร” “สก” ศาลานาคเล่่นน้ำนานาชาติ

นอกจากงานออกแบบในวัดญาณสังวรารามแล้ว ยังได้ออกแบบพระอุโบสถ เจดีย์ ที่วัดตรีทศเทพวรวิหาร ศาลาที่ระลึกครบ 150 ปี ของวัดบวรนิเวศวิหารนอกเหนือจากงานออกแบบสถาปัตยกรรมแล้วหม่อมราชวงศ์ มิตรารุณยังได้ออกแบบตราสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยมหิดล, ตราของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และตราสวนหลวง ร.9

และเมื่อหม่อมราชวงศ์ มิตรารุณ มีอายุครบ 60 ปี พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิบัติราชการต่อไปอีกจนถึงอายุ 65 ปี หลังจากนั้น จึงขอรับใช้เบื้องพระยุคลบาทโดยมิขอรับเงินเดือน ในช่วงนี้ได้ออกแบบ และควบคุมการก่อสร้างอาคารหลาย ๆ หลัง ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ได้แก่ วัดญาณสังวราราม, วัดตรีทศเทพวรวิหาร, วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร, วัดถ้ำผาปล่อง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น

ใน พ.ศ. 2530 หม่อมราชวงศ์มิตรารุณ เกษมศรี ยังได้ออกแบบเมรุหน้าพลับพลาอิสริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส ซึ่งใช้เป็นเมรุในพระราชพิธีต่อมาจนทุกวันนี้

ลำดับของตำแหน่งทางราชการ:

  • 2482: ช่างตรีแผนกสำรวจกองผังเมืองและช่างสุขาภิบาล กรมโยธาธิการ
  • 2484: ช่างตรีแผนกออกแบบ กองสถาปัตยกรรม กรมโยธาธิการ
  • 2485: ช่างตรีแผนกสถาปัตยกรรม กองแบบแผนและผังเมือง
  • 2492: รักษาการตำแหน่งหัวหน้าแผนกแบบแผน กองแบบแผนและผังเมือง กรมโยธาธิการ
  • 2494: ผู้ช่วยโทแผนกแบบแปลน กองสถาปัตยกรรม กรมศิลปากร
  • 2494: ช่างโทหัวหน้าแผนกแบบแผน กรมศิลปากร
  • 2495: หัวหน้าแผนกตรวจงาน กองสถาปัตยกรรม กรมศิลปากร
  • 2496: นายช่างผู้ช่วยโท กองหัตถศิลป์ กรมศิลปากร
  • 2498: นายช่างโท กองหัตถศิลป์ กรมศิลปากร
  • 2504: นายช่างศิลปเอก กองหัตถศิลป์ กรมศิลปากร
  • 2507: หัวหน้ากองมหาดเล็ก สำนักพระราชวัง

ผลงานดีเด่นระหว่างปฏิบัติราชการกรมศิลปากร แก้

ผลงานส่วนบุคคล แก้

 
อาคารไทยลายทอง โรงแรมมณเฑียร
  • เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญในการออกแบบบ้านพักอาศัยทั้งในแบบสากล และแบบบ้านไทย
  • ออกแบบตึกจงกลนี วัฒนวงศ์ในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
  • ออกแบบอาคารไทยลายทอง เป็นการนำอาคารแบบไทยมาปรับปรุงใช้เป็นอาคารพาณิชย์ ของโรงแรมมณเฑียร ถนนสุรวงศ์

รางวัลและเกียรติคุณ แก้

  • 2513: ปริญญาสถาปัตยกรรมศาสตรมหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • 2514: ปริญญาดุษฎีกิตติมศักดิ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
  • 2530: รางวัลศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (สถาปัตยกรรม) โดยสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ
  • 2537: ปริญญาสถาปัตยกรรมศาสตรดุษฎีบัญฑิตกิตติมศักดิ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • 2538: ได้รับยกย่องเป็นปูชนียบุคคลด้านสถาปัตยกรรม จากคณะกรรมการวันอนุรักษ์มรดกไทย

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ แก้

อ้างอิง แก้

  1. "หม่อมราชวงศ์มิตรารุณ เกษมศรี". สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 มีนาคม 2016.
  2. ราชกิจจานุเบกษา. "ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 เมษายน 2022. เล่ม ๑๐๖ ตอนที่ ๒๑๔ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๔. 4 ธันวาคม 2532.
  3. ราชกิจจานุเบกษา. "ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 1 ธันวาคม 2022. เล่ม ๑๐๓ ตอนที่ ๒๑๓ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๗. 3 ธันวาคม 2529.
  4. ราชกิจจานุเบกษา. "แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 มิถุนายน 2022. เล่ม ๙๕ ตอนที่ ๕๑ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๗. 12 พฤษภาคม 2521.
  5. ราชกิจจานุเบกษา. "ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 ตุลาคม 2022. เล่ม ๑๑๔ ตอนที่ ๒๙ ข หน้า ๑๘. 16 ธันวาคม 2540.
  6. ราชกิจจานุเบกษา. "แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 ตุลาคม 2022. เล่ม ๘๘ ตอนที่ ๑๒๕ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๑๔. 19 พฤศจิกายน 2514.
  7. ราชกิจจานุเบกษา. "แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญราชรุจิ". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 ตุลาคม 2022. เล่ม ๘๘ ตอนที่ ๑๔๒ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๙. 18 ธันวาคม 2514.

แหล่งข้อมูลอื่น แก้