วังดยุกแห่งมานตัว

วังดยุกแห่งมานตัว (อังกฤษ: Ducal palace, อิตาลี: Palazzo Ducale di Mantova) เป็นกลุ่มสิ่งก่อสร้างที่เป็นวังที่พำนักของดยุกแห่งมานตัวตั้งอยู่ที่มานตัวในประเทศอิตาลี วังดยุกสร้างราวระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 14 ถึง 17 ส่วนใหญ่สำหรับตระกูลกอนซากาเพื่อใช้เป็นที่พำนักในเมืองหลวงของอาณาจักรดยุก สิ่งก่อสร้างต่างๆ ภายในกลุ่มเชื่อมต่อกันโดยซุ้มระเบียง ลานภายใน และสวน และมีห้องทั้งหมดด้วยกัน 500 ห้องในเนื้อที่ทั้งหมดราว 34,000 ตารางเมตร สิ่งที่มีชื่อเสียงที่สุดของวังคืองานจิตรกรรมฝาผนังตกแต่งห้องเจ้าสาว (ห้องสมรส) ที่เขียนโดยอันเดรีย มานเทนยา[1][2]

วังดยุกแห่งมานตัว
Palazzo Ducale di Mantova
“ปราสาทเซนต์จอร์จ” ของวังดยุกแห่งมานตัว
แผนที่
ข้อมูลทั่วไป
ประเภทวัง
เมืองมานตัว
ประเทศอิตาลี
พิกัด45°9′37″N 10°47′56″E / 45.16028°N 10.79889°E / 45.16028; 10.79889
เริ่มสร้างคริสต์ศตวรรษที่ 14 ถึง 17
จิตรกรรมฝาผนังโดยอันเดรีย มานเทนยา

ประวัติ แก้

ส่วนที่เก่าที่สุดของวังคือ “วังกัปตัน” (Palazzo del Capitano) ที่สร้างเมื่อต้นคริสต์ศตวรรษที่ 14 โดยกัปตันแห่งประชาชนจุยโด บวยนาโคสซิ (ตระกูลของจุยโดปกครองมานตัวระหว่าง ค.ศ. 1271 จนถึง ค.ศ. 1328) และ “วังใหญ่” (Magna Domus) ในปลายคริสต์ศตวรรษ บาร์โทลิโน ดา โนวาราผู้เป็นสถาปนิกทางการก่อสร้างสิ่งก่อสร้างทางการทหารคนสำคัญที่สุดคนหนึ่งของยุคนั้นเป็นผู้ก่อสร้าง “ปราสาทเซนต์จอร์จ”

“วังใหม่” (Domus Nova) มาสร้างเสร็จในอีกศตวรรษหนึ่งต่อมาโดยสถาปนิกลูคา ฟานเชลลิ (Luca Fancelli) ลูคาเป็นผู้รับผิดชอบในการสร้าง “ตำหนักใหม่” (Corte Nuova) ที่รวมทั้งชุดห้องพักของดยุกที่มีจิตรกรรมฝาผนังโดยจูลิโอ โรมาโน

ชาเปลซานตาบาร์บาราของวังสำหรับตระกูลกอนซากาออกแบบโดยจิโอวาน บัตติสตา แบร์ตานิที่สร้างระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 16 และ 17 สถาปนิกอันโตนิโอ มาเรีย วิอานิสร้างชุดห้องพักของวินเชนโซที่ 1 กอนซากา รวมทั้ง “ห้องเมตะมอร์ฟอร์ซิส” และ “ระเบียงเอเลโอโนรา”

ตระกูลกอนซากาพำนักอยู่ในวังระหว่าง ค.ศ. 1328 จนถึง ค.ศ. 1707 เมื่อตระกูลมาสิ้นสุดลง หลังจากนั้นสิ่งก่อสร้างก็เสื่อมโทรมลงอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งมาได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ในคริสต์ศตวรรษที่ 20 ในเป็นพิพิธภัณฑ์

สิ่งก่อสร้าง แก้

ทางเข้าวังอยู่ทางด้านจตุรัสซอร์เดลโลซึ่งเป็นด้านของส่วนที่เก่าที่สุดของวัง --วังกัปตัน และ วังใหญ่ “บันไดดัชเชส” สร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 17 และซ่อมแซมในปี ค.ศ. 1779 โดยเพาโล พอซโซที่นำไปยังห้องโมโรเนที่ตั้งตามชื่องานจิตรกรรมของจิตกรชาวเวโรนาโดเมนนิโค โมโรเน เป็นภาพ “การขับโบนาโคลซิในปี ค.ศ. 1328” (Expulsion of the Bonacolsi in 1328) (ฉากจากจตุรัสซอร์เดลโล) ชั้นล่างของวังกัปตันเป็นห้องแรกของจัวสตาลลาที่มีรายภาพเหมือนของตระกูลกอนซากา ที่เดิมติดต่อไปยังห้อง “ห้องเมตะมอร์ฟอร์ซิส” และ “ห้องพิซาเนลโล” ที่ตามมาด้วย หลังปี ค.ศ. 1433 อันโตนิโอ ปิซาโน ได้รับจ้างให้เขียนจิตรกรรมฝาผนังฉาก “การแข่งขัน” และอื่นๆ แต่เขียนไม่เสร็จ

ระเบียงใหม่สร้างในปี ค.ศ. 1778 โดยจูเซปเป ปิแอร์มารินิเพื่อเชื่อมห้องพักจัวสตาลลากับหัองพักของดยุก ที่เป็นที่ตั้งของฉากแท่นบูชาหลายแท่นที่สร้างตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 16 จนถึงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 18 โดยฟรานเชสโค บอร์กานิ, คาร์โล โบโนนิ, สปาโยเลตโตและอื่นๆ ระเบียงสิ้นสุดลงด้วย “ห้องนักขมังธนู” (Sala degli Arcieri) ที่มีงานฉากแท่นบูชาฉากสำคัญโดยปีเตอร์ พอล รูเบนส์ ที่เดิมเป็นส่วนหนึ่งของบานพับภาพของวัดซานทิสสิมาทรินิตาในเมืองมานตัวเป็นภาพ “ตระกูลกอนซากาในการชื่นชมพระตรีเอกานุภาพ”

ห้องต่อมาเป็น “ห้องกระจก” (Galleria degli Specchi) ที่สร้างเป็นระเบียงเปิดตกแต่งเป็นศิลปะฟื้นฟูคลาสสิคระหว่างปี ค.ศ. 1773 ถึงปี ค.ศ. 1779 เพดานเป็นจิตรกรรมฝาผนังโดยลูกศิษย์สองคนของจุยโด เรนิ

ระเบียงภาพ แก้

อ้างอิง แก้

  1. Paoletti, John T.; Gary M. Radke (2005). Art, Power, and Patronage in Renaissance Italy. Upper Saddle River: Pearson/Prentice Hall. pp. 356–359.
  2. Schneider Adams, Laurie (2001). Italian Renaissance Art. Boulder: Westview Press. pp. 262–267..

แหล่งข้อมูลอื่น แก้

  วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ วังดยุกแห่งมานตัว