ฤดูแล้ง เป็นฤดูในเขตร้อน เป็นช่วงที่มีอากาศแห้งและมีฝนตกน้อย โดยฤดูแล้งนั้น เป็นนิยามที่มักใช้ในเขตร้อน โดยมักกินเวลาตั้งแต่เดือนตุลาคมจนถึงประมาณเดือนมีนาคม ในช่วงต้นของฤดูแล้ง ปริมาณหยาดน้ำฟ้าโดยรวมจะลดลงเป็นอย่างมากและแทบจะไม่มีหยาดน้ำฟ้าเลยในช่วงกลางฤดูแล้งจนกว่าจะถึงช่วงต้นฤดูฝนอีกครั้ง ในระหว่างที่อยู่ในช่วงฤดูแล้ง สภาพอากาศที่เห็นได้ชัดคือ จะลักษณะฟ้าโปร่ง แดดแรง ความชื้นต่ำ มีปริมาณหยาดน้ำฟ้าเฉลี่ยน้อยกว่า 60 มิลลิเมตร[1] ส่วนอุณหภูมินั้น ขึ้นอยู่กับละติจูดและทิศทางของลมประจำฤดูที่พัดเข้ามาในเขตนั้นๆ จากลักษณะเด่นของฤดูแล้งดังที่กล่าวมานั้น ทำให้ช่วงฤดูแล้งมักมีปัญหาด้านน้ำสำหรับอุปโภคบริโภค และกระทบกับการเกษตร เนื่องจากการระเหยของน้ำอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีหยาดน้ำฟ้าใหม่เข้ามาทดแทน หรือมีมาทดแทนน้อย[2]

ฟ้าโปร่ง และแดดแรง เป็นลักษณะเด่นของสภาพอากาศในฤดูแล้ง

จากผลของลักษณะภูมิอากาศดังกล่าว ทำให้พืชที่มีอยู่ในเขตนี้ มักมีการปรับตัวโดยการทิ้งใบในช่วงฤดูแล้ง[3]และมักมีเปลือกหุ้มลำต้นที่หนา เพื่อลดการคายน้ำ หรือมักเป็นพืชตระกูลหญ้าที่มักตายไปในช่วงฤดูแล้ง แต่มีการผลิตเมล็ดก่อนก่อนถึงฤดูแล้ง ทำให้เมื่อเริ่มมีหยาดน้ำฟ้าเพิ่มมากขึ้น จึงสามารถงอกลูกหลานชุดใหม่ออกมาได้

อ้างอิง แก้

  1. M. C. Peel. "Updated world map of the K ̈oppen-Geiger climate classification" (PDF). Hydrology and Earth System Sciences. สืบค้นเมื่อ 8 มิถุนายน 2563. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  2. "ฤดูแล้ง 63 ทุกภาคส่วนต้องตรียมการรับมือ". สยามรัฐ. สืบค้นเมื่อ 8 มิถุนายน 2563. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  3. "ประเภทของป่าไม้". กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช. สืบค้นเมื่อ 8 มิถุนายน 2563. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)