ยูบาริ

นครในกิ่งจังหวัดโซราจิ จังหวัดฮกไกโด ประเทศญี่ปุ่น

ยูบาริ (ญี่ปุ่น: 夕張市โรมาจิYūbari-shi) เป็นนครในกิ่งจังหวัดโซราจิ ของจังหวัดฮกไกโด ในประเทศญี่ปุ่น มีครัวเรือนทั้งสิ้น 5,789 ครัวเรือน[1] และตัวเมืองทอดยาวไปตามหุบเขาราว 25 กิโลเมตร นครยูบาริเคยมีจำนวนประชากรสูงสุดที่ 116,908 คน ณ สิ้นเดือนเมษายน ค.ศ. 1961

ยูบาริ

夕張市
จากบนซ้าย: เมลอนยูบาริ, เขายูบาริ, แม่น้ำยูบาริ, พิพิธภัณฑ์เหมืองถ่านหินยูบาริ, ป้อมเมลอนยูบาริ และสถานที่จัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ
จากบนซ้าย: เมลอนยูบาริ, เขายูบาริ, แม่น้ำยูบาริ, พิพิธภัณฑ์เหมืองถ่านหินยูบาริ, ป้อมเมลอนยูบาริ และสถานที่จัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ
ธงของยูบาริ
ธง
ตราอย่างเป็นทางการของยูบาริ
ตรา

ที่ตั้งของยูบาริ (เน้นสีชมพู) ในกิ่งจังหวัดโซราจิ
แผนที่
ยูบาริตั้งอยู่ในประเทศญี่ปุ่น
ยูบาริ
ยูบาริ
ที่ตั้งในประเทศญี่ปุ่น
พิกัด: 43°3′N 141°58′E / 43.050°N 141.967°E / 43.050; 141.967
ประเทศธงของประเทศญี่ปุ่น ญี่ปุ่น
ภูมิภาคฮกไกโด
จังหวัด ฮกไกโด
กิ่งจังหวัดโซราจิ
การปกครอง
 • นายกเทศมนตรีสึกาซะ อัตสึยะ (厚谷 司)
พื้นที่
 • ทั้งหมด763.07 ตร.กม. (294.62 ตร.ไมล์)
ประชากร
 (31 มีนาคม ค.ศ. 2023)
 • ทั้งหมด6,697 คน
 • ความหนาแน่น8.78 คน/ตร.กม. (22.7 คน/ตร.ไมล์)
เขตเวลาUTC+09:00 (เวลามาตรฐานญี่ปุ่น)
รหัสท้องถิ่น01209-2
ที่อยู่ศาลาว่าการ4-2 Honchō, Yūbari-shi, Hokkaido
068-0492
เว็บไซต์www.city.yubari.lg.jp
สัญลักษณ์
ดอกไม้กุหลาบพันปี
ต้นไม้ซากูระ

เมืองนี้มีชื่อเสียงจากผลิตผลเมลอนยูบาริและเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติแฟนทาสติกยูบาริ ใน ค.ศ. 2006

ประวัติ แก้

นครยูบาริจัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 1943 จากเมืองเหมืองถ่านหิน ซึ่งในช่วงที่เหมืองมีการดำเงินงานมากที่สุดนั้น มีแรงงานมากกว่า 120,000 คน ซึ่งต่อมาเหมืองก็ได้ปิดกิจการลง ใน ค.ศ. 1980 จึงมีความพยายามในการเปลี่ยนฐานเศรษฐกิจจากอุตสาหกรรมถ่านหินมาเป็นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เงินอุดหนุนจำนวนมากถูกอัดฉีดโดยรัฐบาลรวมถึงการกู้ยืมเงินเพื่อลงทุนในด้วยอสังหาริมทรัพย์และการท่องเที่ยว แต่นักท่องเที่ยวก็ยังคงมีจำนวนน้อยมาก

ใน ค.ศ. 2007 เมืองยูบาริตกเป็นข่าวจากการล้มละลายและปฏิเสธรัฐบาลกลางสำหรับความช่วยเหลือ บริการต่าง ๆ ในเมืองถูกตัดขาดอย่างรุนแรง จากวิกฤติครั้งนี้ทำให้มีการขายสวนสนุกและพิพิธภัณฑ์[2] อย่างไรก็ตาม สวนสนุกก็ถูกรื้อถอนทำลายในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2008[3] ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2007 การที่ข้าราชการและพนักงานของรัฐราวครึ่งหนึ่งลาออก เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะปรับปรุงสถานการณ์การคลังของท้องถิ่น โดยที่เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ออกมากล่าวว่าพวกเขา "รู้สึกไม่มีความรับผิดชอบ" สำหรับปัญหาทางการเงินของเมือง[4]

อ้างอิง แก้

  1. 住民基本台帳人口・世帯数 (Yubari city census data)
  2. "Tokyo Cuts Aid, and Hinterland Withers in Japan", article by Norimitsu Onish in the New York Times, January 27, 2007
  3. "asahi.com: In Yubari, even less amusement now, June 6, 2008". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-06-07. สืบค้นเมื่อ 2008-06-07.
  4. "Most high-ranking officials of bankrupt municipal gov't feel no sense of responsibility[ลิงก์เสีย], Mainichi Daily News, March 7, 2007.
  • Kazama Kensuke. Kazama Kensuke shashinshū: Yūbari (風間健介写真集:夕張) / Kensuke Kazama Photographic Collection: Yubari. Sapporo: Jyuryousya, 2005. ISBN 4-902269-14-7. A collection of Kazama's black-and-white photographs of Yūbari and its mines after their closure. All text and captions in both Japanese and English.
  • Toda Reiko. Yūbari tankōbushi (夕張炭坑節, Song of the Yūbari mines). Tokyo: Shõbunsha, 1985. ISBN 4-7949-7009-9. Black-and-white photo documentary of the last five hundred days of mining in Yūbari, a period during which a disaster occurred. (ญี่ปุ่น)

ข้อมูลเพิ่มเติม แก้