มหาสงครามหุบเขาแห่งสายลม

มหาสงครามหุบเขาแห่งสายลม (ญี่ปุ่น: 風の谷のナウシカโรมาจิKaze no Tani no Naushika) หรือในชื่อภาษาอังกฤษว่า "Nausicaä of the Valley of the Wind" เป็นภาพยนตร์จาก สตูดิโอจิบลิ เข้าฉายเมื่อปี พ.ศ. 2527 กำกับโดยฮะยะโอะ มิยะซะกิ โดยนำเค้าโครงเรื่องมาจากมังงะชื่อเดียวกันที่เป็นผลงานของเขาเอง ภาพยนตร์ของเขามีนัยยะเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและได้รับการสนับสนุนจาก องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล เมื่อเข้าฉายในปี พ.ศ. 2527

มหาสงครามหุบเขาแห่งสายลม
風の谷のナウシカ,

เรื่องย่อ แก้

เรื่องราวเกิดขึ้นในช่วง 1,000 ปีหลังจากเหตุการณ์ "Seven Days of Fire" เหตุการณ์ที่ทำลายอารยธรรมมนุษย์และระบบนิเวศของโลก กลุ่มผู้คนที่กระจัดกระจายถูกแบ่งแยกจากกลุ่มอื่นด้วย "ทะเลเน่า (Sea of Decay)" (fukai ในภาษาญี่ปุ่น) เกิดป่าของเชื้อรามีพิษ ที่เป็นศูนย์ของเหล่าแมลงขนาดยักษ์มากมาย มนุษย์จำเป็นต้องใส่หน้ากากเพื่อป้องกันไอพิษจากป่า นาอุซิกา (Nausicaä) เป็นชื่อของเจ้าหญิงในประเทศเล็กๆ แห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ ณ หุบผาสายลม ดำเนินชีวิตอยู่อย่างสงบสุขบนผืนดินที่ยังอุดมสมบูรณ์ผืนน้อยๆ นาอุซิกา พยายามที่จะค้นหาสาเหตุของปรากฏการณ์นี้ และหวังจะหาหนทางในการอยู่ร่วมกัน แต่ผู้คนในเมืองอื่นๆ กลับไม่เห็นด้วยและต้องการทำลายล้างป่าและ Sea of Decay จนเกิดเป็นสงครามครั้งใหญ่ กับภารกิจของเจ้าหญิงตัวน้อยๆ ที่มีภารกิจแห่งการประนีประนอม

ท้ายที่สุดแล้ว นาอุซิกา (Nausicaä) ได้พบว่าภายใต้ป่านั้นมีอากาศบริสุทธิ์ และแท้จริงแล้วป่าได้ช่วยกรองพิษซึ่งก่อให้เกิดแหล่งน้ำสะอาดใต้พื้นดิน

มังงะ แก้

เนาซิก้า เวอร์ชันมังงะของมิยาซากิ ถูกเขียนขึ้นมากว่า 13 ปี ก่อนจะหยุดไปเพื่อทำภาพยนตร์กับสตูดิโอจิบลิ ได้รับการตีพิมพ์ในนิตยสาร Animage ของโทคุมะ โชเท็น ซึ่งตอนแรกได้รับตีพิมพ์ในเดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2525 และตอนสุดท้ายในเดือน มีนาคม พ.ศ. 2527 ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เรื่องราวในมังงะนั้นไปไกลและซับซ้อนกว่าในภาพยนตร์มากทีเดียว ในภาพยนตร์ เป็นการเล่าเรื่องอย่างหยาบๆ ซึ่งตรงกับ 1 ใน 4 ส่วนแรกของมังงะ และมีการปรับเปลี่ยนเรื่องบางส่วนให้เข้ากับความเป็นภาพยนตร์

จุดแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ – สีสันของสิ่งแวดล้อมต่างๆ ในมังงะจะมีความสลับซับซ้อนกว่าในภาพยนตร์ เนาซิก้า เป็นตัวละครที่แสดงการมีพลัง มีอำนาจ ขณะที่แง่มุมด้านทักษะความสามารถไม่ค่อยได้รับการขยายความมากนัก

Mehve แก้

Mehve (ญี่ปุ่น: メーヴェ) มีความหมายถึงเครื่องบิน/เครื่องร่อนที่นั่งหรือโดยสารได้คนเดียว แม้ไม่ได้ติดอาวุธ แต่นักบินก็สามารถกว้างหรือหย่อนระเบิดลูกเล็ก เพื่อสร้างความสับสนให้กับศัตรูได้ มีความยาวปีกถึงปีกอยู่ที่ 4 เมตรโดยประมาณ ไม่มีสิ่งป้องกันตัวเมื่อนักบินร่อนอยู่ในอากาศ แม้ว่าคุณสมบัติการใช้งานของมันจะไม่กระจ่างชัดนัก มันก็เคลื่อนได้ช้าเพียงพอที่นักบินจะขึ้นไปและควบคุมมันโดยไม่ต้องใช้อะไรอื่นนอกจากสองแขนและน้ำหนักตัว mehve ยังมีคุณสมบัติ V/STOL คือมีระยะการบินขึ้นและลงจอดที่สั้น ชื่อ 'mehve' ของมันมาจากคำภาษาเยอรมันว่า 'Möwe' ซึ่งหมายถึง 'นกนางนวล' เป็นชื่อได้มาจากรูปร่างและสีขาวของมัน

เป็นที่น่าสังเกตว่า หุบผาสายลม อยู่ใกล้กับทะเล ดังนั้น จะมีลมที่พัดจากทะเลอยู่ตลอดเวลา ซึ่งจะช่วยป้องกันผู้คนจากบรรยากาศที่เป็นพิษของทะเลเน่าได้ และเมื่อเร็วๆ นี้ Japanese-led OpenSky Project สามารถผลิต Mehve ที่ใช้งานจริงได้แล้ว[1]

อ้างอิง แก้

  1. OpenSky (ญี่ปุ่น)

[Www.google.com]