มหาวิทยาลัยดุ๊ก

มหาวิทยาลัยดุ๊ก (อังกฤษ: Duke University) เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนในสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่ที่เมืองเดอแรม ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1838 ที่เมืองไทรนิทีภายใต้ชื่อ Brown's Schoolhouse และได้ย้ายมายังเมืองเดอแรมในปี ค.ศ. 1892[6] และเปลี่ยนชื่อเป็นมหาวิทยาลัยดุ๊ก เพราะได้รับการบริจาคเงินจากราชายาสูบ เจมส์ บูแคนัน ดุ๊ก ปัจจุบันมีนักศึกษาระดับปริญญาตรี 6,578 คน (ค.ศ.2010) และมีพื้นที่ภายในมหาวิทยาลัยจำนวน 8,709 เอเคอร์ ใช้ระบบเทอมการศึกษาตามรูปแบบปฏิทินการศึกษา มหาวิทยาลัยดุ๊กจัดอยู่ในอันดับที่ 9 ของการจัดอันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดประจำปีค.ศ.2011 มหาวิทยาลัยดุ๊กมีชื่อเสียงในด้านวิชาการหลายด้าน ซึ่งในปี 2551 ทางนิตยสารยูเอสนิวส์จัดอันดับมหาวิทยาลัยในส่วนระดับปริญญาตรีเป็นอันดับ 8 ของประเทศ[7] ซึ่งนอกจากนี้ยังมีชื่อเสียงมากในด้านกีฬา โดยได้แข่งขันในลีกแอตแลนติกโคสต์คอนเฟอเรนซ์ ซึ่งได้ชนะเลิศบาสเกตบอลระดับมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ 4 ครั้ง

Duke University
ชื่อเดิมBrown School (1838–1841)
Union Institute (1841–1851)
Normal College (1851–1859)
Trinity College (1859–1924)
คติพจน์Eruditio et Religio (ลาติน)[1]
คติพจน์อังกฤษ
Knowledge and Faith[2]
ประเภทมหาวิทยาลัยเอกชน
สถาปนาพ.ศ. 2381
ทุนทรัพย์4.8 พันล้าน ดอลลาร์สหรัฐ [3]
อธิการบดีRichard H. Brodhead
อาจารย์3,138 คน [4]
ผู้ศึกษา14,248 คน [4]
ปริญญาตรี6,504 คน [4]
บัณฑิตศึกษา7,744 คน [4]
ที่ตั้ง, ,
36°0′4″N 78°56′20″W / 36.00111°N 78.93889°W / 36.00111; -78.93889
วิทยาเขตเขตเมือง
8,610 เอเคอร์ (34.8 ตารางกิโลเมตร)
สีน้ำเงินเข้ม และ ขาว [5]
   
ฉายาBlue Devils
เว็บไซต์duke.edu
Logo of Duke University
อาคารฟอนเดอร์เฮย์เดนพาวิลเลียน ในมหาวิทยาลัยดุ๊ก

ประวัติมหาวิทยาลัยและเจมส์ บูแคนัน ดุ๊ก แก้

ในปีค.ศ. 1838 มหาวิทยาลัยดุ๊กได้เริ่มต้นขึ้นภายใต้ชื่อ Brown's Schoolhouse และถูกเปลี่ยนชื่อเป็น วิทยาลัยไทรนิที ในปีค.ศ. 1859

ใน ปี.ค.ศ. 1881เจมส์ บอนแสค (James Bonsack) สามารถประดิษฐ์เครื่องมวนใบยาด้วยกระดาษอัตโนมัติ บอนแสคได้ผลิตใบยาที่ห่อด้วยกระดาษออกมาอย่างรวดเร็วและมากมาย โดยเรียกผลิตภัณฑ์นี้ว่าซิกาแรต (บุหรี่) แต่ปัญหาเริ่มขึ้นเมื่อบอนแสคไม่ทราบว่าจะเอาบุหรี่ที่ผลิตออกมานี้ไปขายให้ใครจึงตัดสินใจนำเครื่องจักรไปขายต่อให้ เจมส์ บูแคนัน ดุ๊ก (James Buchanan Duke) ที่เมืองเดอแรม (Durham) รัฐนอร์ทแคโรไลนา ด้วยประสิทธิภาพของเครื่องมวนใบยาอัตโนมัติ ดุ๊ก ได้ตั้งบริษัทผลิตใบยาใหญ่โตขึ้นที่รัฐนิวยอร์ก ใช้วิธีการโฆษณาเจาะตลาดอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศ ในเวลาไม่นานบุหรี่ก็เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายส่งผลให้บริษัทของเขากลายเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อดุ๊กร่ำรวยอย่างมหาศาลเขาจึงตัดสินใจสร้างมูลนิธิ The Duke Endowment ขึ้นเพื่อช่วยเหลือสังคม และเงินบริจาคก้อนหนึ่งได้ถูกจัดเก็บไว้เพื่อช่วยเหลือวิทยาลัยไทรนิทีในเมื่องบ้านเกิดของเขา เพื่อเป็นเกียรติให้แก่ตระกูลดุ๊ก วิลเลียม ฟิวส์ เพรสตัน อาจาร์ใหญ่ของวิทยาลัยไทรนิทีในเวลานั้นได้เปลี่ยนชื่อวิทยาลัยไทรนิทีเป็นมหาวิทยาลัยดุ๊ก

ชื่อเสียงทางด้านวิชาการ แก้

มหาวิทยาลัยดุ๊กประกอบด้วยคณะและวิทยาลัยจำนวน 10 แห่ง ให้บริการแก่นักศึกษาทั้งระดับปริญญาตรีและปริญญาโท หลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษาที่มีชื่อเสียง ได้แก่ Fuqua School of Business, Pratt School of Engineering, School of Law, School of Medicine, Sanford School of Public Policy และ School of Nursing นอกจากนี้มหาวิทยาลัยดุ๊กยังมีหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษาที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับอย่างสูง คือ Divinity School และ Nicholas School of the Environment

ชื่อเสียงทางด้านกีฬา แก้

มหาวิทยาลัยยังมีชื่อเสียงมากในด้านกีฬา โดยได้แข่งขันในลีกแอตแลนติกโคสต์คอนเฟอเรนซ์ ทีมกีฬาของมหาวิทยาลัยดุ๊กชื่อ Duke Blue Devils ยังคงประเพณีการแข่งขันกีฬาระหว่างมหาวิทยาลัยระหว่างมหาวิทยาลัยดุ๊ก และมหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนา แชเปิลฮิลล์ ซึ่งเป็นที่ทราบดีว่ามีนักกีฬาบาสเก็ตบอลที่มีชื่อเสียงเข้าร่วมการแข่งขัน เสมอ มหาวิทยาลัยดุ๊กเป็น 1 ใน 5 ของมหาวิทยาลัยที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในการแข่งขันบาสเก็ตบอลภายในประเทศ

บุคคลสำคัญจบจากมหาวิทยาลัย แก้

อ้างอิง แก้

  1. King, William E. "Shield, Seal and Motto". Duke University Archives. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-06-12. สืบค้นเมื่อ July 6, 2011.
  2. "About - Duke Divinity School". Duke Divinity School. สืบค้นเมื่อ July 4, 2011.
  3. As of June 30, 2010. "Duke University's Endowment" (Article). Duke University. สืบค้นเมื่อ February 9, 2011. Beneficiary of Duke Endowment
  4. 4.0 4.1 4.2 4.3 4.4 "Quick Facts about Duke". Duke Office of News & Communications. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-06-05. สืบค้นเมื่อ July 4, 2011.
  5. "The origin of Duke Blue". Duke University Archives. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-06-12. สืบค้นเมื่อ 2008-05-23.
  6. "King, William E. A Brief Narrative History. Duke University Libraries, 2002". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-10-10. สืบค้นเมื่อ 2008-03-19.
  7. America's Best Colleges 2008. U.S. News & World Report, 2007.

แหล่งข้อมูลอื่น แก้