ภูเขาไฟฮาเลอาคาลา

ภูเขาไฟฮาเลอาคาลา(Haleakala) คำว่าฮาเลคาลา มาจาภาษาโพลินีเซียน หมายความว่า "บ้านแห่งพระอาทิตย์" มีความสูงกว่า 3000 เมตร ตั้งอยู่บนเกาะเมาอีซึ่งเป็นเกาะใหญ่อันดับสองในหมู่เกาะฮาวาย บนยอดภูเขาไฟเป็นหุบเขาขนาดใหญ่และเป็นอุทยานแห่งชาติฮาเลอาคาลานับเป็นหุบภูเขาไฟที่สูงและใหญ่ที่สุดในโลก หุบภูเขาไฟมีเส้นรอบวงกว้างถึง 32 กิโลเมตร ซึ่งต่างจากภูเขาไฟอื่น เพราะว่าแต่ละด้านไม่เท่ากัน ทางด้านตะวันออกจะถูกกัดกร่อนมากกว่าจนเป็นหุบเขา ปากหุบเขากว้าง 11 กิโลเมตร มีเนื้อที่บนหุบเขากว่า 49 ตารางกิโลเมตร ประกอบไปด้วยป่า ทะเลทราย ทุ่งหญ้าปศุสัตว์ และทะเลสาบ ทางด้านตะวันตกและด้านใต้เป็นพื้นที่แห้งแล้ง พื้นผิวเป็นทรายหลากสี มีกองเถ้าสีแดงรวม 16 กอง ตั้งกระจายรอบๆ บางเถ้าสูงกว่า 306 เมตร ภูเขาไฟฮาเลอาคาลา ระเบิดครั้งสุดท้ายเมื่อปี ค.ศ 1790 อุณหภูมิเฉลี่ยบนยอดเขา 5-15 องศา อาการเย็นสบายตลอดปี


ความเชื่อของชาวพื้นเมือง แก้

ชาวพื้นเมืองบนเกาะเชื่อกันว่า ครั้งหนึ่งพระอาทิตย์รู้สึกง่วง และอยากกลับไปนอนจึงรีบลอยข้ามท้องฟ้า เป็นเหตุให้เกาะได้รับแสงสว้างไม่กี่ชั่วโมง ฮินา มารดาของเทพเจ้าเมาอีโกรธมาก เพราะวันที่สั้นลงทำให้ผ้าที่ทำจากเปลือกไม้ของนางไม่แห้งสนิท เทพเจ้าเมาอีจึงคิดอุบายขึ้น โดยใช้ใยมะพร้าวถึกเป็นเชือก จากนั้นก็นอนรอเวลาที่พระอาทิตย์จะขึ้นเหนือยอดเขาฮาเลอาคาลา เมื่อพระอาทิตย์ขึ้น เทพเจ้าเมาอีจึงโยนบ่วงคล้องรัศมีที่เพิ่มโผล่ขึ้นมา ทำให้จับพระอาทิตย์ได้ พระอาทิตย์สัญญาว่าต่อไปจะลอยผ่านเกาะนี้อย่างช้าๆเพื่อให้ฮินาและชาวเกาะได้รับแสงอาทิตย์ตลอดวัน หุบเขาบนภูเขาไฟฮาเลอาคาลา มีความสำคัญต่อประเพณีและวัฒนธรรมของชาวเกาะ พวกชาวพื้นเมืองเคยนำอาหารไปวางที่หุบเขาเพื่อบวงสรวงเทพเจ้า และเคยเป็นที่ทำพิธีฝังศพของบรรดาหัวหน้าเผ่าชาวเกาะฮาวายอีกด้วย

พืชพรรณ แก้

 
ต้นซิลเวอร์ซอร์ด

มีต้นไม่เพียงไม่กี่ชนิดที่ขึ้นได้แต่ยังพอมีหญ้าและพุ่มไม้ที่หยั่งรากบนเถ้าถ่านภูเขาไฟได้ มีต้นซิลเวอร์ซอร์ด ซึ่งเป็นต้นอีกชนิดที่สามารถอยู่ได้ มีลักษณะลำต้นอวบหน้า อาจสูงได้ถึง 2 เมตร หลังจากขึ้นจะโตอยู่ได้ราว 20 ปี เป็นต้นที่มีดอกสีม่วงสวยงาม หลังจากออกดอกแล้วต้นก็จะตาย และเป็นพืชคุ้มครองอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีสัตว์อื่นๆที่อาศัยอยู่เช่น แพะ หมู นกทะเลเพเทร็ล และ ห่านฮาวาย


20°42′35″N 156°15′12″W / 20.70972°N 156.25333°W / 20.70972; -156.25333