ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2014 นัดชิงชนะเลิศ

การแข่งขัน ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2014 นัดชิงชนะเลิศ เป็นการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศของ ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2014, เป็นทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลที่เป็นเจ้าภาพโดย ประเทศโมร็อกโก. ครั้งนี้เป็นนัดชิงชนะเลิศครั้งที่ 10 ของ ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก, ทัวร์นาเมนต์ที่มีการจัดขึ้นโดยฟีฟ่าระหว่างสโมสรที่เป็นผู้ชนะจากแต่ละทีมแต่ละสมาพันธ์จากหกทวีป, เช่นเดียวกับแชมป์ลีกจากชาติเจ้าภาพ.

ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2014 นัดชิงชนะเลิศ
สนาม สตาด เดอ มาร์ราคิช เป็นสนามที่ใช้ในเกมนัดชิงชนะเลิศ
รายการฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2014
วันที่20 ธันวาคม พ.ศ. 2557
สนามสตาด เดอ มาร์ราคิช, มาร์ราคิช
ผู้เล่นยอดเยี่ยม
ประจำนัด
เซร์คีโอ ราโมส (เรอัลมาดริด)
ผู้ตัดสินวัลเตร์ โลเปซ (กัวเตมาลา)
ผู้ชม38,345 คน
สภาพอากาศกลางคืนท้องฟ้าสดใส
18 องศาเซลเซียส (64 องศาฟาเรนไฮต์)
59% ความชื้นสัมพัทธ์
2013
2015


รอบชิงชนะเลิศเป็นการตัดสินกันระหว่าง สโมสรจากสเปน เรอัลมาดริด, เป็นตัวแทนของ ยูฟ่า ในฐานะครองแชมป์ของ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และสโมสรจากอาร์เจนตินา ซาน ลอเรนโซ, เป็นตัวแทนของ คอนเมบอล ในฐานะครองแชมป์ของ โกปาลีเบร์ตาโดเรส. จะลงเล่นที่ สตาด เดอ มาร์ราคิช ในเมือง มาร์ราคิช เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2557. สโมสรจากสเปนชนะนัดนี้ 2–0 และพวกเขาชนะฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลกได้เป็นครั้งแรกอีกด้วย,[1] และเป็นครั้งที่สี่ของพวกเขาในการนับความสำเร็จสโมสรโลกตั้งแต่ ค.ศ. 1960, 1998 และ 2002 อินเตอร์คอนติเนนตัล คัพ, เทียบเท่ากับสถิติของ มิลาน.[2]

ภูมิหลัง แก้

เรอัลมาดริด แก้

เรอัลมาดริด ได้สิทธิ์สำหรับทัวร์นาเมนต์ในฐานะทีมชนะเลิศของ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2013–14, ด้วยการเอาชนะ 4–1 หลังต่อเวลาพิเศษในการพบกับ อัตเลติโกเดมาดริด ใน นัดชิงชนะเลิศ. นี่เป็นครั้งที่สองของเรอัลมาดริดที่ได้เข้าร่วมในทัวร์นาเมนต์, หลังจากการสถาปนาทัวร์นาเมนต์ด้วยการจบอันดับที่สี่ในปี ค.ศ. 2000. พวกเขาลงเล่นห้าครั้งใน อินเตอร์คอนติเนนตัล คัพ, ก่อนหน้าที่จะเปลี่ยนแปลงชื่อรายการมาเป็น ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก, กับชัยชนะสามครั้งในปี (1960, 1998, 2002) และแพ้สองครั้งในปี (1966, 2000). พวกเขาเข้าสู่นัดชิงชนะเลิศหลังจากเอาชนะสโมสรจากเม็กซิโก ครูซ อาซูล ในรอบรองชนะเลิศ.

ซาน ลอเรนโซ แก้

ซาน ลอเรนโซ ได้สิทธิ์สำหรับทัวร์นาเมนต์ในฐานะทีมชนะเลิศของ โกปาลีเบร์ตาโดเรส ฤดูกาล 2014, ด้วยการเอาชนะจากการรวมผลสองนัด 2–1 ในนัดที่พบกับ นาซิโอนัล ใน นัดชิงชนะเลิศ. นี่เป็นครั้งแรกของซาน ลอเรนโซที่เข้าร่วมในทัวร์นาเมนต์. พวกเขาได้เข้ามาถึงนัดชิงชนะเลิศหลังจากที่เอาชนะสโมสรจากนิวซีแลนด์ ออคแลนด์ ซิตี ในรอบรองชนะเลิศ.

เส้นทางสู่นัดชิงชนะเลิศ แก้

  เรอัลมาดริด ทีม   ซาน ลอเรนโซ
ยูฟ่า สมาพันธ์ คอนเมบอล
ชนะเลิศของ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2013–14 การเข้ารอบ ชนะเลิศของ โกปาลีเบร์ตาโดเรส ฤดูกาล 2014
บาย รอบเพลย์ออฟ บาย
บาย รอบก่อนรองชนะเลิศ บาย
4–0   ครูซ อาซูล
(ราโมส 15', แบนเซมา 36', เบล 50', อิสโก 72')
รอบรองชนะเลิศ 2–1 (หลังต่อเวลาพิเศษ)   ออคแลนด์ ซิตี
(บาร์ริเอนโตส 45+2', มาตอส 93')

นัด แก้

สรุปผลการแข่งขัน แก้

รายละเอียด แก้

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
เรอัลมาดริด
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ซาน ลอเรนโซ
GK 1   อีเกร์ กาซียัส (กัปตัน)
RB 15   ดาเนียล การ์บาคัล   30'    73'
CB 4   เซร์คีโอ ราโมส   22'    89'
CB 3   เปปี
LB 12   มาร์เซลู   44'
CM 23   อิสโก
CM 8   โทนี โครส
RM 11   แกเร็ธ เบล
LM 10   ฮาเมส โรดรีเกซ
FW 7   คริสเตียโน โรนัลโด
FW 9   การีม แบนเซมา
ผู้เล่นสำรอง:
GK 13   เกย์ลอร์ นาบัส
GK 25   เฟร์นันโด ปาเชโก
DF 2   ราฟาแอล วาราน   89'
DF 5   ฟาบีอู กูเองเตรา   44'
MF 6   ซามี เคดีรา
FW 14   คาเบียร์ เอร์นันเดซ
DF 17   อัลบาโร อาร์เบโลอา   73'
DF 18   นาโช
FW 20   เคเซ
MF 24   อาเซียร์ อียาร์ราเมนดี
MF 26   อัลบาโร เมดรัน
ผู้จัดการทีม:
  การ์โล อันเชลอตตี
GK 12   เซบัสตีอัน โตร์ริโก
RB 7   คูลิโอ บุฟฟารินี   55'
CB 14   วัลเตร์ คันเนมันน์   85'
CB 3   มาริโอ เยเปส   61'
LB 21   เอมมานูเอล มัส
DM 20   เนสตอร์ ออร์ติโกซา   12'
DM 5   ควน เมร์ซิเอร์ (กัปตัน)
CM 8   เอนโซ คาลินสกี
RM 30   กอนซาโล เวรอน   57'
LM 11   ปาโบล บาร์ริเอนโตส   16'
CF 9   มาร์ติน คาอูเตรุกซิโอ   68'
ผู้เล่นสำรอง:
GK 1   เลโอ ฟรันโก
GK 33   โคเซ เดเว็คคี
DF 2   เมาโร เซ็ตโต   61'
MF 10   เลอันโดร โรมักโญลี   57'
DF 13   รามิโร อาริอัส
FW 15   เฮคตอร์ บียาลบา
FW 22   นิโกลัส บลันดี
MF 24   ควน กาบายาโร
FW 26   เมาโร มาโตส   68'
DF 27   มาตีอัส กาตาลัน
DF 29   ฟาบริซิโอ ฟอนตานินี
MF 31   ฟาคุนโด ควิกญอน
ผู้จัดการทีม:
  เอ็ดการ์โด เบาซา

ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำนัด:
เซร์คีโอ ราโมส (เรอัลมาดริด)[3]

ผู้ช่วยผู้ตัดสิน:
Leonel Leal (Costa Rica)
Gerson López (Guatemala)
ผู้ตัดสินที่สี่:
Noumandiez Doué (Ivory Coast)
ผู้ตัดสินที่ห้า:
Songuifolo Yéo (Ivory Coast)

ข้อมูลในการแข่งขัน[4]

  • 90 นาที.
  • ต่อเวลาพิเศษไปอีก 30 นาที เมื่อทั้งสองทีมเสมอกันในเวลาปกติ
  • ตัดสินด้วยการดวลลูกจุดโทษ เพื่อหาผู้ชนะ
  • รายชื่อผู้เล่นตัวสำรองมีได้สูงสุดถึง 12 คน
  • การเปลี่ยนตัวผู้เล่นสามารถเปลี่ยนได้สูงสุดแค่ 3 คน

อ้างอิง แก้

  1. "Real Madrid coast to Morocco 2014 title". FIFA. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-10-16. สืบค้นเมื่อ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2557. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  2. Regarding it as world club title de facto, cf. "Real Madrid turn winning run into a world title". FIFA. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-12-25. สืบค้นเมื่อ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2557. In terms of making history, Real, who have now equalled Milan’s record of four World and Intercontinental Cup wins, ... {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
    "Real Madrid claim FIFA Club World Cup". UEFA. สืบค้นเมื่อ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2557. Madrid equal AC Milan's record of four world club titles, having both also lifted the old European-South American Cup three times before clinching the successor trophy, each under Carlo Ancelotti. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  3. "Ramos outshines the rest". FIFA.com. 20 ธันวาคม พ.ศ. 2557. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-12-17. สืบค้นเมื่อ 2016-12-13. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)
  4. "Regulations – FIFA Club World Cup Morocco 2014" (PDF). FIFA. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2014-12-03. สืบค้นเมื่อ 2016-12-13.

แหล่งข้อมูลอื่น แก้