ผู้ใช้:Tetiiw/กระบะทราย

เรื่อง การเมืองการปกครองประเทศสวีเดน

ประวัติศาสตร์การปกครองประเทศสวีเดน แก้

ยุคก่อนประชาธิปไตย แก้

ประเทศสวีเดนในยุคกลางตอนต้นการปกครองในระบอบเจ้าผู้ครองที่ดิน เมื่อประเทศได้ถูกพัฒนาขึ้นเป็นรัฐชาติ อำนาจแห่งองค์พระประมุขนั้นขึ้นโดยการสนับสนุนของเจ้าผู้ครองที่ดิน เมื่อราวศตวรรษที่ 16 ความแข็งแรงของรัฐชาติเพิ่มขึ้นจึงได้ทำให้อิสระในการปกครองตนเองของท้องถิ่นลดลงไปตามลำดับ เมื่อราวปลายศตวรรษที่ 17 ระบอบเจ้าผู้ครองที่ดินกลับมาแข็งแรงขึ้นอีกครั้งจึงถือเป็นการพัฒนาการปกครองของประเทศสวีเดนที่สำคัญ และต่อมาในศตวรรษที่ 18 หน่วยการปกครองที่เรียกว่า ซอคเคนหรือพาริสได้ถูกจัดตั้งขึ้นมาและได้ก่อตัวขึ้นอย่างเป็นทางการครั้งแรก

การปฏิรูปการปกครองปี 1862 แก้

การปฏิรูปการปกครองของประเทศสวีเดนถือกำเนิดเป็นการปกครองสมัยใหม่ซึ่งมีการสร้างขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ.1862 อำนาจโดยชอบที่เป็นหน้าที่ของการปกครองมีลักษณะที่ได้ถูกบัญญัติในกฎหมายมีทั้งหมดอยู่สองลักษณะ คือ หน้าที่ที่เกี่ยวกับศาสนาคริสต์และที่ไม่เกี่ยว งานที่ไม่เกี่ยวกับศาสนา เช่น การพัฒนาการศึกษา การขจัดความยากจน การรับผิดชอบในการรักษาพยาบาล ซึ่งอาจจะกล่าวได้ว่าในการปฏิรูปปี ค.ศ.1862 ได้มีการเปิดโอกาสในการที่จะให้ประชาชนได้เข้ามามีบทบาทหน้าที่และมีส่วนร่วมในงานกิจกรรมของหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งต่อมาในปีเดียวกันนี้ภาครัฐได้มีการกระจายอำนาจทางการเงินให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กล่าวคือเป็นการกำหนดให้เทศบาลมีอิสระในเรื่องของภาษีและการกำหนดอัตราภาษี ในขณะเดียวกันผู้ที่เสียภาษีที่อยู่ภายในเทศบาลมีสิทธิและเสรีภาพถูกต้องตามกฎหมาย ในส่วนของการพิจารณาการตัดสินใจของท้องถิ่นหรือภาคที่ตนได้เสียภาษีให้ ซึ่งอำนาจด้านภาษีและการคัดค้านต่อต้านการตัดสินใจของผู้ที่เสียภาษีนี้ยังคงเป็นพื้นฐานการปกครองตนเองของประเทศสวีเดน

การปฏิรูปการจัดโครงสร้างเทศบาล แก้

  • ปี ค.ศ.1862 เทศบาลได้ถูกพัฒนาขึ้นและได้มีการปรับปรุงให้มีจำนวนเทศบาลเขตชนบทจำนวน 2500 แห่ง โดยมาจากเมืองต่างๆ
  • ปี ค.ศ.1950 เป็นยุคแห่งเศรษฐกิจและสังคมอุตสาหกรรมใหม่ ได้มีการเปลี่ยนแปลงขนาดของเทศบาลให้มีประชาชนอาศัยอยู่ภายในมีจำนวนไม่น้อยกว่า 3000 คน ซึ่งเป็นการทำให้เทศบาลมีจำนวนที่ลดน้อยลงกว่า 1000 แห่ง
  • ปี ค.ศ.1952 เทศบาลได้รับมอบหมายอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายที่จะให้รับผิดชอบงานด้านการศึกษาขั้นพื้นฐานเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม รวมถึงการกำหนดให้เทศบาลที่มีขนาดเล็กได้มีการรวมตัวกันบนพื้นฐานของความพึงพอใจของตนเอง เพื่อที่จะได้ลดความแตกต่างลงระหว่างเขตพื้นที่เมืองและเขตพื้นที่ชนบท
  • ปี ค.ศ.1969 รัฐสภาของสวีเดนได้มีการกำหนดกฎเกณฑ์และมาตรฐานขึ้นเพื่อให้เทศบาลที่ยังไม่ได้มีการรวมกันต้องรวมกันให้เสร็จภายในวันที่กำหนด คือ 1 มกราคม ค.ศ.1974 ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้มีข้อสรุปไว้ว่าให้มีเทศบาลเหลือจำนวนทั้งหมดเพียง 289 แห่ง

โครงสร้างทางการเมืองการปกครอง แก้

ประเทศสวีเดนเป็นประเทศที่มีอำนาจการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ซึ่งอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ดังนั้นพระมหากษัตริย์จึงสามารถที่จะมีการใช้อำนาจทางการบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ โดยบังคับให้การใช้อำนาจจะต้องผ่านสถาบันทางการเมืองก่อนทั้งสิ้น คือ รัฐสภา คณะรัฐมนตรี และองค์กรศาล เพราะฉะนั้นสรุปได้ว่าอำนาจในทางการเมืองการปกครองของประเทศสวีเดนก็อยู่ในมือของประชาชนชาวสวีเดนโดยแท้จริง ดังเช่นภายในเนื้อหาของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันที่กล่าวไว้ว่า “อำนาจทั้งปวงในสวีเดนมาจากประชาชน”

การปกครองระดับชาติ แก้

การปกครองในระดับชาติของประเทศสวีเดนไม่ได้มีความแตกต่างไปจากการปกครองของประเทศอื่น ที่จะต้องประกอบไปด้วยด้วยองค์กรที่ทำหน้าที่ในการออกกฎหมาย การบริหาร เพื่อที่จะมอบหมายอำนาจหน้าที่ในการปฏิบัติให้กับหน่วยงานต่างๆหรือหน่วยงานภายในสังกัดที่อยู่ภายในเขตการปกครองระดับชาติ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการปกครอง ซึ่งหน้าที่โดยทั่วไปขององค์กรการปกครองมีหน้าที่รับผิดชอบในหลายๆเรื่อง อาทิเช่น การศึกษา การบริหารงานด้านความยุติธรรม งานด้านสิ่งแวดล้อม นโยบายต่างประเทศในการป้องกันประเทศ ซึ่งเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบหลัก นอกจากนี้องค์กรการปกครองยังมีหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับสาธารณูปโภคที่สำคัญต่างๆ เช่น การสร้างถนน เส้นทางรถไฟ การสื่อสาร การโทรคมนาคม ซึ่งการปกครองระดับชาติของประเทศสวีเดนประกอบไปด้วยหลากหลายหน่วยงานต่างๆด้วยกันซึ่งมีอำนาจและความรับผิดชอบในภาระหน้าที่การดูแลประชาชนและดูแลประเทศชาติให้พัฒนาไปสู่เป้าหมายที่องค์กรได้ตั้งไว้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งโครงสร้างการปกครองในระดับชาติของประเทศสวีเดนจะประกอบไปด้วย รัฐสภา รัฐบาล กระทรวง สำนักงานของรัฐ ซึ่งแต่ละหน่วยงานต่างเป็นองค์กรที่สำคัญมากในการเมืองการปกครองของประเทศสวีเดน ฉะนั้น หน้าที่ของแต่ละหน่วยงานจึงมีบทบาทอย่างสูงในการเป็นหน่วยการปกครองระดับชาติ ไม่สามารถขาดหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งไปได้ เพราะทุกหน่วยงานในการปกครองระดับชาตินั้นต่างก็มีภาระหน้าที่และความรับผิดชอบที่ต้องปฏิบัติแตกต่างกันออกไปตามที่ได้รับมอบหมายแต่หน่วยงานเหล่านี้ยังคงที่จะมีความเป็นอิสระในการบริหารการทำงานของหน่วยงานตนเอง คือ จะต้องดำเนินการภายใต้ความรับผิดชอบของหน่วยงานของตน ดังนั้น ทุกหน่วยงานจึงต้องอาศัยหลักการทำงานร่วมกันเพื่อให้ระบอบการปกครองระดับชาติของประเทศเกิดประสิทธิภาพและประสิทธิพลสูงสุด ซึ่งก็ถือได้ว่าหน่วยงานเหล่านี้เป็นหน่วยงานที่สำคัญในการดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบาย

การปกครองระดับภูมิภาค แก้

การปกครองระดับภูมิภาคมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับการปกครองส่วนท้องถิ่นอยู่ในหลายภาคส่วน หน่วยในการปกครองระดับภูมิภาคเรียกว่า เคาน์ตี และหน่วยในการปกครองระดับท้องถิ่นเรียกว่า เทศบาล ล้วนที่จะต้องอยู่ภายใต้กฎหมายการปกครองท้องถิ่นฉบับปี ค.ศ.1991 ( Local Government Act 1991 ) ซึ่งเป็นฉบับที่ใช้ในเวลาปัจจุบันนี้ ซึ่งในการปกครองทั้งสองระดับนี้ คือในระดับเคาน์ตีและระดับท้องถิ่นต่างก็มีบทบาทและภาระอำนาจหน้าที่ที่ชัดเจนและถูกกำหนดในการปฏิบัติหน้าที่ที่มีความเป็นระบบของตนเองซึ่งอยู่ภายใต้กฎหมายการปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งการปกครองทั้งสองระดับนี้ต่างมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด โครงสร้างการปกครองระดับภูมิภาคประกอบไปด้วย สภาแห่งเคาน์ตี บอร์ดบริหารเคาน์ตี คณะกรรมาธิการด้านบริหารและคณะกรรมาธิการพิเศษ และหน่วยบริหารของท้องถิ่น ซึ่งแต่ละหน่วยงานต่างปฏิบัติตามภาระหน้าที่ที่สอดคล้องกันและมีหน้าที่ในการรับผิดชอบที่คล้ายคลึงกัน อาทิเช่น การให้ความดูแลรักษาทางการแพทย์ การศึกษา การท่องเที่ยว ด้านเศรษฐกิจและสังคม ด้านศาสนาและวัฒนธรรม ด้านสาธารณูปโภค และความร่วมมือกับต่างประเทศ เป็นต้น

การปกครองส่วนท้องถิ่น แก้

การปกครองส่วนท้องถิ่นของประเทศสวีเดน มีเทศบาลเป็นลำดับชั้นในการปกครองในหน่วยระดับล่างสุด ซึ่งถือได้ว่าเป็นพื้นฐานของประชาชน ซึ่งทำหน้าที่ในการบริหารและกำหนดกฎระเบียบข้อบังคับหรือมาตรฐานต่างๆเป็นการเฉพาะในท้องถิ่น ปัจจุบันนี้มีจำนวนองค์กรการปกครองส่วนท้องถิ่นอยู่ทั้งหมด 289 เทศบาลทั่วประเทศ ซึ่งแต่ละหน้าที่และความรับผิดชอบที่สำคัญของเทศบาลนั้นจะเน้นในเรื่องของความเป็นอยู่โดยทั่วไปของประชาชนในเขตเทศบาลนั้นๆ

สถาบันทางการเมือง แก้

โดยตามหลักรัฐธรรมนูญของประเทศสวีเดนฉบับปี ค.ศ.1974 ซึ่งถือว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่ใช้ภายในปัจจุบันของประเทศสวีเดนนั้น ได้มีการแบ่งสถาบันหลักทางการเมืองของประเทศออกเป็นทั้งหมด 3 ส่วน คือ สถาบันบริหาร สถาบันนิติบัญญัติ และสถาบันตุลาการ

สถาบันบริหาร แก้

สถาบันบริหาร ประกอบไปด้วย ประมุขแห่งรัฐและคณะรัฐมนตรี ซึ่งแต่ละตำแหน่งแต่ละหน้าที่นั้นก็ย่อมมีหน้าที่การทำงานที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละบริบท ซึ่งถูกกำหนดโดยหลักกฎหมายไว้อย่างชัดเจนในบทบาทของแต่ละภาคส่วน ยกตัวอย่างเช่น หน้าที่และความรับผิดชอบของรัฐบาลหรือคณะรัฐมนตรีจะมีการรับผิดชอบในหน้าที่ของเรื่องในการร่างกฎหมายงบประมาณเพื่อเสนอต่อรัฐสภา จัดสรรงบประมาณให้กับหน่วยงานต่างๆ เป็นต้น

สถาบันนิติบัญญัติ แก้

สถาบันนิติบัญญัติ ประกอบไปด้วย รัฐสภาสวีเดน ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนราษฎรที่ได้รับเลือกตั้งมาจากประชาชนทั่วประเทศจำนวน 349 คน การจะมาเป็นตัวแทนเข้ามาทำหน้าที่ในสภาได้ผู้สมัครต้องผ่านระบบการเลือกตั้งเข้ามา การเลือกตั้งของประเทศสวีเดนมุ่งที่จะจำกัดพรรคการเมืองที่มีขนาดเล็กไม่ให้สามารถเข้ามาในสภาได้ เพราะประเทศสวีเดนจะใช้การเลือกตั้งแบบเขตคนเดียวซึ่งเป็นจำนวนทั้งหมด 310 ที่นั่ง และสำหรับอีก 39 ที่นั่ง จะถูกแบ่งออกเป็นระบบสัดส่วน ซึ่งอาจจะกล่าวได้ว่าหากพรรคการเมืองใดก็ตามที่ได้รับคะแนนเสียงในเลือกตั้งทั่วประเทศจากประชาชนได้น้อยกว่าร้อยละ 4 หรือมิฉะนั้นจะต้องได้รับคะแนนเสียงจากประชาชนภายในแต่ละเขตเลือกตั้งจะต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 12 หน้าที่ที่สำคัญของรัฐสภาสวีเดนถูกจัดการแบ่งออกเป็นทั้งหมด 5 ด้าน คือ การออกกฎหมาย การพิจารณางบประมาณของประเทศ การควบคุมรัฐสภา การดูแลนโยบายต่อต่างประเทศ และการดูแลการดำเนินการเรื่องประชาคมยุโรป ซึ่งแต่ละบทบาทหน้าที่ในการทำงานต่างๆถือว่าเป็นหน้าที่ที่สำคัญต่อการพัฒนาประเทศเป็นอย่างมากไม่สามารถขาดการทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งไปได้ และในการจัดโครงสร้างรัฐสภาของประเทศสวีเดนสามารถแบ่งออกได้ดังนี้ บอร์ดรัฐสภา คณะกรรมาธิการ 16 คณะ คณะกรรมาธิการที่ปรึกษากิจการยุโรป สำนักเลขาธิการรัฐสภา ห้องประชุมรัฐสภา และพรรคการเมือง

สถาบันตุลาการ แก้

สถาบันตุลาการจัดเป็นหนึ่งในสามสถาบันในอำนาจอธิปไตย อันประกอบไปด้วยฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร โดยสถาบันตุลาการมีอำนาจหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายและการวินิจฉัยหรือตัดสินคดีความต่างๆ ซึ่งก็คือ ศาล นั้นเอง ระบบศาลในประเทศสวีเดน แบ่งออกได้เป็น 3 ระดับนั้นคือ ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา ซึ่งต่างก็มีหน้าที่เดียวกันก็คือเพื่อรักษาความยุติธรรมและความถูกต้องให้กับประชาชนภายในประเทศ ซึ่งโดยทั่วไปศาลจะไม่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับนักการเมืองเลยเด็ดขาด และโดยทั่วไปพระมหากษัตริย์จะใช้อำนาจผ่านทางฝ่ายตุลาการ

องค์กรประชาธิปไตย แก้

ผู้แทนที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน แก้

ในการเมืองการปกครองของประเทศสวีเดนนั้นในแต่ละท้องที่ก็จะมีเจ้าหน้าที่หรือตัวแทนของรัฐบาลคอยปฏิบัติงานอยู่ เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระหน้าที่ของรัฐบาลกลางและการดูแลประชาชนได้อย่างทั่วถึงมากขึ้นโดยเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่นั้นก็จะมาจากการเลือกตั้งของประชาชน โดยผู้แทนที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ก็เปรียบเหมือนกับตัวแทนของประชาชนทุกคน ที่ประชาชนได้เลือกขึ้นมาเพื่อที่จะมีหน้าที่ในการพัฒนาชุมชนหรือท้องถิ่นให้ดียิ่งขึ้นและเพื่อพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานต่างๆรวมไปถึงระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ให้ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนได้อย่างมากขึ้น

การมีส่วนร่วมของภาคประชาชน แก้

ในปัจจุบันการปกครองของประเทศสวีเดนนั้นได้มีการสนับสนุนให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจมากขึ้น อาทิเช่น การเลือกตั้ง ที่เปิดโอกาสให้ประชาชนได้เลือกตัวแทนของตนขึ้นมาในการบริหารประเทศทั้งในระดับภูมิภาคและในระดับท้องถิ่น

รัฐธรรมนูญสวีเดน แก้

รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันของประเทศสวีเดนมีลักษณะที่เป็นรูปแบบพิเศษที่ประกอบด้วยความสำคัญพื้นฐานตามหลักกฎหมายอยู่ทั้งหมด 4 ฉบับ ซึ่งเป็นมูลฐานของรัฐธรรมนูญฉบับเดียว ซึ่งประกอบไปด้วย

  1. กฎหมายว่าด้วยกลไกของรัฐบาล (The Instrument of Government : IG)
  2. กฎหมายว่าด้วยการสืบสันตติวงศ์ (The Act of Succession : AS)
  3. กฎหมายว่าด้วยเสรีภาพของสื่อ (The Freedom of Press Act : FPA)
  4. กฎหมายพื้นฐานว่าด้วยเสรีภาพในการแสดงออก (The Fundamental Law on Freedom of Expression : FLFE)

ความเป็นมาของรัฐธรรมนูญสวีเดน แก้

องค์ประกอบของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันซึ่งประกอบไปด้วยหลักกฎหมายพื้นฐานสำคัญทั้งสี่ฉบับ ซึ่งเป็นหลักกฎหมายที่มีความเก่าแก่เป็นอย่างมากและถือว่าเป็นหลักกฎหมายที่มีความสำคัญต่อประเทศสวีเดนเป็นอย่างมากอีกเช่นกัน ซึ่งหลักกฎหมายทั้งสี่ฉบับนี้ถือได้ว่าได้ถูกพัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่องและยาวนานกว่าจะมาเป็นหลักกฎหมายที่มีรูปแบบการปกครองที่มีความสมบูรณ์และมีความชัดเจนเป็นอย่างยิ่งในปัจจุบัน และเหตุการณ์ที่สำคัญมากอีกเหตุการณ์หนึ่งคือการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญครั้งยิ่งใหญ่ในปี ค.ศ.1974 ซึ่งถือว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันของประเทศสวีเดนที่ยังคงใช้อยู่ในปัจจุบัน แต่กว่าจะมาเป็นรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันได้ก็มีการเปลี่ยนแปลงในเนื้อหาต่างๆในรัฐธรรมนูญอยู่นับหลายครั้ง

ลักษณะเด่นของรัฐธรรมนูญสวีเดน แก้

  1. เป็นรัฐธรรมนูญที่ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากในเรื่องของสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ซึ่งไม่มีแม้แต่กฎหมายอื่นใดที่จะสามารถล่วงละเมิดได้ นอกจากนี้แล้วรัฐธรรมนูญยังมุ่งเน้นในเรื่องของการไม่เลือกปฏิบัติ ทั้งในเรื่องของเชื้อชาติและสีผิว จึงสรุปได้ว่ารัฐธรรมนูญของประเทศสวีเดนจะเน้นในเรื่องของการรักษาสิทธิและเสรีภาพเป็นอย่างมาก
  2. เป็นรัฐธรรมนูญที่มีการเอาแนวคิดของข้อตกลงระหว่างประเทศมาปรับใช้และเอาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของรัฐธรรมนูญ ซึ่งถือว่าเป็นแนวคิดที่สำคัญที่ได้ผ่านการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง
  3. เป็นรัฐธรรมนูญที่ให้เสรีภาพกับสื่อเป็นอย่างมาก เพราะได้มีการให้สิทธิและเสรีภาพหลายอย่างในการแสดงออกต่างๆ รวมถึงข้อมูลของทางราชการที่ไม่มีการปิดบังและยังมีการเปิดเผยหรือเผยแพร่กับสื่ออย่างกว้างขวางอีกด้วย เช่น อิเล็กทรอนิกส์ หนังสือพิมพ์

บรรณานุกรม แก้

  • ชุลีพร เดชชำ. การปกครองท้องถิ่นประเทศสวีเดน. สำนักพิมพ์ โครงการส่งเสริมการบริหารจัดการที่ดีโดยกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น. (2543). หน้า 3-4
  • ชุลีพร เดชชำ. การปกครองท้องถิ่นประเทศสวีเดน. สำนักพิมพ์ โครงการส่งเสริมการบริหารจัดการที่ดีโดยกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น. (2543). หน้า 5-8
  • ชุลีพร เดชชำ. การปกครองท้องถิ่นประเทศสวีเดน. สำนักพิมพ์ โครงการส่งเสริมการบริหารจัดการที่ดีโดยกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น. (2543). หน้า 16-21
  • รองศาสตราจารย์นรนิติ เศรษฐบุตร. การเมืองการปกครองราชอาณาจักรสวีเดน. สำนักพิมพ์ วิทยาลัยการเมืองการปกครอง. (2548). หน้า 44-76
  • รองศาสตราจารย์นรนิติ เศรษฐบุตร. การเมืองการปกครองราชอาณาจักรสวีเดน. สำนักพิมพ์ วิทยาลัยการเมืองการปกครอง. (2548). หน้า 155-157