นิสสัน นาวารา (อังกฤษ: Nissan Navara) เป็นรถกระบะขนาดกลางที่ผลิตโดยนิสสัน เมื่อปี พ.ศ. 2540 โดยมาทดแทนรถกระบะรุ่นเก่าคือ นิสสัน บิ๊กเอ็ม (อังกฤษ: Nissan Big-M) ซึ่งนิสสัน นาวารา เคยมีชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า นิสสัน ฟรอนเทียร์ (อังกฤษ: Nissan Frontier) ด้วย ในประเทศไทย เริ่มมีการจำหน่ายครั้งแรกใน พ.ศ. 2541 ซึ่งได้รับความนิยม และยังมีขายจนถึงปัจจุบัน

นิสสัน นาวารา
ภาพรวม
บริษัทผู้ผลิตนิสสัน
เรียกอีกชื่อนิสสัน ฟรอนเทียร์ (อเมริกาเหนือ)
นิสสัน เอ็นพี 300 (เม็กซิโก, ยุโรป)
เริ่มผลิตเมื่อพ.ศ. 2540–ปัจจุบัน
ตัวถังและช่วงล่าง
ประเภทรถปิกอัพขนาดเล็ก (D21/D22)
รถปิกอัพขนาดกลาง (D40/D23)
รูปแบบตัวถังรถกระบะ 2/4 ประตู
รุ่นที่คล้ายกันนิสสัน เทอรา
นิสสัน เอ็กซ์เทอรา (2542–2558)
นิสสัน พาธไฟน์เดอร์ (2540–2555)
ระยะเหตุการณ์
รุ่นก่อนหน้านิสสัน บิ๊กเอ็ม (D21)
Datsun/Nissan 720
รุ่นต่อไปนิสสัน ฟรอนเทียร์ (รุ่นที่ 3) (อเมริกาเหนือ)

รุ่นที่ 1 (พ.ศ. 2540-2546; D22) แก้

 
นิสสัน นาวารา รุ่นที่ 1 (D22) แต่ใช่ในชื่อ FRONTIER

รุ่นที่ 1 ผลิตระหว่างปี พ.ศ. 2540-2547 แต่ในประเทศไทย ผลิตระหว่างปี พ.ศ. 2541-2550 ใช้รหัสว่า D22 โดยมีเครื่องยนต์ 6 ขนาด คือ 2.4 ,2.5 ,2.7 ,3.0 ,3.2 และ 3.3 ลิตร โดยในประเทศไทยมีจำหน่ายเฉพาะรุ่น 2.7 และ 3.0 ลิตรเท่านั้น และมีเกียร์ 3 แบบคือ เกียร์ธรรมดา 4 สปีด ,เกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด โดยในประเทศไทย รุ่นก่อนไมเนอร์เชนจ์มีชื่อว่า นิสสัน บิ๊กเอ็ม ฟรอนเทียร์ หลังจากไมเนอร์เชนจ์แล้วจึงได้ใช้ชื่อ นิสสัน ฟรอนเทียร์

รุ่นนี้ แม้จะผลิตในตลาดโลกช่วงปี พ.ศ. 2540-2546 แต่ในไทยนั้นผลิตช่วงปี พ.ศ. 2541-2550

รุ่นที่ 2 (พ.ศ. 2547-2557; D40) แก้

 
นิสสัน นาวารา รุ่นที่ 2
 
นิสสัน ฟรอนเทียร์ นาวารา

รุ่นที่ 2 ผลิตระหว่างปี พ.ศ. 2547-2557 แต่ในประเทศไทย ผลิตระหว่างปี พ.ศ. 2550-พ.ศ. 2557 ใช้รหัสว่า D40 โดยมีเครื่องยนต์ 3 ขนาด คือ 2.5 ,3.0 และ 4.0 ลิตร โดยในประเทศไทยมีจำหน่ายเฉพาะรุ่น 2.5 ลิตร และมีเกียร์ 3 แบบ คือเกียร์ธรรมดา 5 สปีด เกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด และมีตัวถังที่ใหญ่ขึ้นมากกว่ารุ่น D22 และมีการปรับโฉม (Minorchange) เมื่อปี พ.ศ. 2554 นอกจากนี้ นิสสันยังเคยผลิตภายใต้แบรนด์ซูซูกิสำหรับจำหน่ายในตลาดอเมริกาในชื่อ ซูซูกิ อีควอเตอร์ (อังกฤษ: Suzuki Equator) อีกด้วย

รุ่นนี้ แม้จะผลิตในตลาดโลกเมื่อปี พ.ศ. 2547-ปัจจุบัน แต่ในไทยนั้นผลิตช่วงปี พ.ศ. 2550-ปัจจุบัน เนื่องจากความขัดแย้งระหว่างสยามกลการและนิสสัน กว่าที่นิสสันจะเข้ามาซื้อหุ้นและลงทุนเองได้ก็คือเมื่อปี พ.ศ. 2546 และเตรียมเปลี่ยนโฉมในปี พ.ศ. 2557 เมื่อครบ 11 ปีในการทำตลาดพอดี โดยก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่า นิสสัน และ มิตซูบิชิ จะพัฒนารถกระบะร่วมกัน แต่ปัจจุบันได้ยุติความร่วมมือในการพัฒนารถกระบะแล้ว คงเหลือแต่ความร่วมมือในการผลิตรถ K-Car และการผลิตรถซีดานขนาดใหญ่สำหรับตลาดญี่ปุ่นเท่านั้น

รุ่นที่ 3 (พ.ศ. 2557-ปัจจุบัน; D23) แก้

โฉมที่สาม (D23)
 
ภาพรวม
เรียกอีกชื่อเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอ็กซ์-คลาส
นิสสัน เอ็นพี 300
นิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา
เรโนลท์ อลาสคัน
เริ่มผลิตเมื่อกรกฎาคม พ.ศ. 2557–ปัจจุบัน
แหล่งผลิต
ผู้ออกแบบมาโมรุ เอากิ (พ.ศ. 2556)
ตัวถังและช่วงล่าง
ประเภทรถปิกอัพขนาดกลาง
โครงสร้าง
ระบบส่งกำลัง
เครื่องยนต์
ระบบเกียร์
  • เกียร์ธรรมดา 6-สปีด
  • เกียร์อัตโนมัติ 7-สปีด
มิติ
ระยะฐานล้อ3,150 mm (124 in)
ความยาว5,255 mm (207 in)
ความกว้าง1,850 mm (73 in)
ความสูง1,820 mm (72 in)
 
ด้านหลัง

ในวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2557 นิสสันได้เผยโฉมนาวารารุ่นที่สาม (รู้จักกันในชื่อ เอ็นพี 300 นาวารา) ใช้รหัสตัวถังว่า D23 โฉมนี้จะไม่มีสายการผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกา แต่จะมีสายการผลิตในโรงงานแห่งใหม่ที่จังหวัดสมุทรปราการ ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2557 และจะเริ่มส่งมอบเมื่อเดือนสิงหาคม โฆษกนิสสันอเมริกาเหนือ นายแดน บีดอร์ ได้กล่าวไว้ว่ารุ่นนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนโฉมกับฟรอนเทียร์ โฉม D40 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา[1][2][3][4] สำหรับรุ่นยุโรปได้ใช้เครื่องยนต์ 2.3 ลิตร จากนิสสัน เอ็นวี 400[5]

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอ็กซ์-คลาส แก้

 
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอ็กซ์-คลาส

ในวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้เผยโฉมรถกระบะต้นแบบ 2 คัน ชื่อว่า "เอ็กซ์-คลาส" โดยเอ็กซ์-คลาส จะใช้พื้นฐานเดียวกัน กับนิสสัน นาวารา โฉมนี้ และจะได้ขึ้นสายผลิตในโรงงานที่ประเทศสเปน (บาร์เซโลนา) และที่ประเทศอาเจนติน่า (คอร์โดบา)[6] เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอ็กซ์-คลาส จะไม่มีการทำตลาดในประเทศไทย

เรโนลท์ อลาสคัน แก้

เรโนลท์ ได้เผยโฉมกระบะเวอร์ชั่นผลิตจริง บนพื้นฐานของนิสสัน นาวารา หลังจากที่ได้ให้ชมตัวต้นแบบไปแล้ว ในงานปารีส มอเตอร์โชว์ เดือนตุลาคม ปี พ.ศ. 2559

ตงฟง ริช 6 แก้

 
Dongfeng Rich 6

เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2561 ตงฟงได้เผยโฉมกระบะเวอร์ชั่นผลิตจริง บนพื้นฐานของนิสสัน นาวารา ชื่อ ตงฟง ริช 6

NAVARA Minorchange 2020 Facelift แก้

Nissan NAVARA Minorchange ที่ออกมาใน Video Teaser ” NISSAN NEXT from A-Z นั้น ทำให้เราได้เห็นความเปลี่ยนแปลงงานดีไซน์ครั้งหน้าครั้งใหญ่ แนวทางการออกแบบอ้างอิงจากกระบะยักษ์รุ่นพี่ Nissan Titan มาเต็มๆ ไฟหน้าขนาดใหญ่รูปทรงเหลี่ยม แบ่งส่วนของไฟ LED Daytime Running Lights เป็นแบบ 2 ชั้น ขนาบอยู่ข้างๆ กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ ที่ขยายขนาดใหญ่กว่าเดิมมาก

การเปลี่ยนแปลงงานดีไซน์ครั้งนี้ ทำให้ NAVARA ปรับแนวทางการออกแบบ ที่ดูบึกบึนแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด เน้นแนวทางลุย มากกว่าจะออกไปทางสปอร์ต และ ฉีกแนวทางการดีไซน์ออกจาก SUV/PPV อย่าง Nissan Terra ชัดเจนยิ่งขึ้น ที่เปลี่ยนไปเป็นแนวสปอร์ตกว่าเดิม

นอกเหนือจากงานออกแบบแล้ว สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปสำหรับกระบะ NAVARA คือ ขุมพลังใหม่ จากเดิม เครื่องยนต์ดีเซล 2.5 เทอร์โบ จะต้องถูกเปลี่ยนเป็น ดีเซล 2.3 เทอร์โบคู่

Nissan ประเทศไทย ไม่รอช้า เพราะตลาดกระบะในไทย ยอดขายสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา แต่ถ้าหากมาดูเฉพาะกลุ่ม Compact Pick-up ไทยก็จะมียอดขายเป็นอันดับ 1 ของโลกในกลุ่มนี้ ดังนั้น Nissan NAVARA Minorchange ก็เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในบ้านเราวันที่ 9 พฤศจิกายน นี้

Nissan Navara MY 2022 Facelift แก้

หลังจากที่ Nissan Navara Minorchange ที่มาถูกปรับใหม่ ทั้งหน้าตา เครื่องยนต์ ตลอดจนอุปกรณ์ Option ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลก ณ ประเทศไทย เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2020 ส่งผลให้จำนวนยอดขายในบ้านเราดีขึ้นประมาณหนึ่ง สามารถขยับจากท้ายตารางขึ้นมาอยู่อันดับ 4 ของกลุ่มกระบะ 1 ตัน ได้อีกครั้ง ล่าสุด Nissan Motor (ประเทศไทย) เตรียมกระตุ้นความเคลื่อนไหว และเพิ่มความน่าสนใจให้กับ Navara อีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวรุ่นปรับอุปกรณ์ MY 2022 เสริมทัพด้วยรุ่นพิเศษ Special Edition ในวันเสาร์ ที่ 11 มิถุนายน 2022 นี้

Nissan Navara MY 2022 คาดว่าจะถูกติดตั้งอุปกรณ์ Option ที่ยังขาดหายไป อาทิ เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า สำหรับรุ่น PRO-4X เป็นต้น เสริมด้วยรุ่น Special Edition ที่ได้รับการตกแต่งพิเศษจากโรงงาน เพื่อสร้างความแตกต่างจากรุ่นปกติ และต่อกรกับคู่แข่ง นอกจากนี้ ยังเปิดตัวพร้อมแบรนด์แอมบาสเดอร์ด้วยเช่นกันคือ แบรี่-ณเดชน์ คูกิมิยะ[7]

นอกจากนี้ มีการยกเลิกทำตลาด รุ่น Chassis Cab 2.5 Turbo, 2.5 Turbo S 6MT Single Cab, S 2.5 Turbo King Cab, Calibre V 2.3 Turbo King Cab, Calibre V 2.3 Turbo 6MT King Cab & Double Cab, Calibre V 2.3 Twin-Turbo 7AT Double Cab และ VL 2.3 Twin-Turbo 7AT 4×4 Double Cab อีกทั้งขึ้นราคารุ่น 2.5 Turbo SL / SL 4×4 6MT Single Cab, SL 2.5 Turbo 6MT King Cab, Calibre V 2.3 Twin-Turbo 7AT King Cab, PRO-2X และ PRO-4X Double Cab

อ้างอิง แก้

  1. "Nissan officially unveils new Navara". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-07-15. สืบค้นเมื่อ 15 July 2015.
  2. http://www.bangkokpost.com/most-recent/414828/nissan-early-with-new-plant
  3. "Nissan Posts Teaser for New Pickup on Instagram – News – Car and Driver - Car and Driver Blog". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-02-27. สืบค้นเมื่อ 15 July 2015.
  4. Brandon Turkus. "Nissan reveals NP300 Navara pickup, is it the next Frontier? [w/videos] [UPDATE]". Autoblog. สืบค้นเมื่อ 15 July 2015.
  5. "2016 Nissan Navara unveiled".
  6. "New Mercedes X-Class arrives and the 'premium pick-up' is born". Auto Express. สืบค้นเมื่อ 27 October 2016.
  7. นิสสัน นาวารา ใหม่ รุ่นปี 2022 มาแล้ว ชู “ณเดชน์” พร้อม “แบล็คอิดิชั่นใหม่” เสริมความเข้ม

แหล่งข้อมูลอื่น แก้