ทฤษฎีสองชาติ
ทฤษฎีสองชาติ (อักษรเทวนาครี:दो क़ौमी नज़रिया; อูรดู: دو قومی نظریہ, do qaumi nazariya; อังกฤษ: Two-Nation Theory) หมายถึง อุดมการณ์ที่ว่าเอกลักษณ์พื้นฐานของชาวมุสลิมในอนุทวีปอินเดีย คือ ศาสนาของพวกเขา หาใช่ภาษาหรือลักษณะเชื้อชาติไม่ และด้วยเหตุนี้ ชาวอินเดียที่นับถือศาสนาฮินดูและที่นับถือศาสนาอิสลามจึงถือว่าเป็นคนละสัญชาติที่แตกต่างกัน โดยไม่คำนึงถึงชาติพันธุ์หรือลักษณะร่วมอื่น ๆ[1][2] ทฤษฎีสองชาติเป็นหลักการก่อตั้งของขบวนการปากีสถาน (นั่นคือ อุดมการณ์ก่อตั้งประเทศปากีสถาน) และการแบ่งประเทศอินเดียใน ค.ศ. 1947 อุดมการณ์ที่ว่าศาสนาเป็นปัจจัยกำหนดการจำกัดความสัญชาติของชาวอินเดียมุสลิมยังได้เป็นแหล่งที่มาของแรงบันดาลใจขององค์การชาตินิยมฮินดูหลายองค์กร ซึ่งก่อให้เกิดการจำกัดความใหม่ที่แตกต่างกันของชาวอินเดียมุสลิมว่าเป็นชาวต่างชาติมิใช่อินเดีย การขับไล่มุสลิมออกไปจากอินเดีย การก่อตั้งรัฐฮินดูตามกฎหมายขึ้นในอินเดีย การห้ามเปลี่ยนศาสนาเป็นอิสลาม และการเสนอให้มีการเปลี่ยนศาสนาชาวอินเดียมุสลิมให้มานับถือศาสนาฮินดู[3][4][5][6]
การตีความในทฤษฎีสองชาติมีหลายแนวทาง ขึ้นอยู่กับว่า สองสัญชาติสมมุติฐานสามารถอยู่ร่วมกันในดินแดนเดียวกันได้หรือไม่ โดยส่อความถึงความแตกต่างมูลฐาน การตีความหนึ่งถกเถียงเกี่ยวกับอธิปไตยการปกครองตนเอง รวมไปถึงสิทธิที่จะแบ่งแยกดินแดน สำหรับพื้นที่ซึ่งมีชาวมุสลิมอาศัยอยู่เป็นส่วนใหญ่ในอนุทวีปอินเดีย แต่ต้องไม่มีการถ่ายเทประชากร (นั่นคือ ชาวฮินดูและชาวมุสลิมจะยังคงสามารถอาศัยอยู่ร่วมกันได้) การตีความอีกแบบหนึ่งโต้แย้งว่าชาวฮินดูและชาวมุสลิมประกอบกันขึ้นเป็น "สองวิถีชีวิตที่แตกต่างกัน และมักเป็นปฏิปักษ์ต่อกันบ่อยครั้ง และดังนั้น ผู้ที่นับถือศาสนาทั้งสองนี้ไม่สามารถอาศัยอยู่ร่วมกันในชาติเดียวกันได้"[7] ในการตีความดังกล่าว การถ่ายเทประชากร (นั่นคือ ย้ายชาวฮินดูทั้งหมดออกจากพื้นที่ที่มีประชากรมุสลิมอาศัยอยู่เป็นส่วนใหญ่ และย้ายชาวมุสลิมทั้งหมดออกจากพื้นที่ที่มีประชากรฮินดูอาศัยอยู่เป็นส่วนใหญ่) เป็นขั้นตอนที่พึงปรารถนาในการมุ่งหน้าไปสู่การแบ่งแยกออกเป็นสองชาติซึ่ง "ไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ด้วยความสัมพันธ์อันสอดคล้องกัน"[8][9]
การคัดค้านทฤษฎีดังกล่าวมาจากสองแหล่ง หนึ่ง คือ แนวคิดของชาติอินเดียเดียว ซึ่งชาวฮินดูและชาวมุสลิมเป็นประชาคมที่สานเข้าด้วยกัน[10] นี่เป็นหลักการก่อตั้งของสาธารณรัฐอินเดีย ซึ่งเป็นรัฐสมัยใหม่และไม่เกี่ยวข้องกับศาสนาอย่างเป็นทางการ ถึงแม้ว่าหลังจากที่มีการแยกประเทศออกไปแล้ว การโต้เถียงที่ว่าชาวมุสลิมและชาวฮินดูเป็ยคนละสัญชาติกันหรือไม่ก็ได้เกิดขึ้นในประเทศปากีสถานที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นใหม่ด้วยเช่นกัน[11] การคัดค้านจากแหล่งที่สองคือแนวคิดที่ว่าในขณะที่อินเดียมิใช่ชาติเพียงหนึ่งเดียว ไม่ใช่ทั้งของชาวมุสลิมหรือชาวฮินดูจากอนุทวีป แต่มันเป็นของอดีตประชากรของหน่วยปกครองเดียวกันในอนุทวีปซึ่งเป็นชาติที่แท้จริงและสมควรได้รับอธิปไตย[12][13][14]
อ้างอิง แก้
- ↑ Robin W. Winks, Alaine M. Low (2001), The Oxford history of the British Empire: Historiography, Oxford University Press, ISBN 9780199246809
- ↑ Liaquat Ali Khan (1940), Pakistan: The Heart of Asia, Thacker & Co. Ltd.
- ↑ Economic and political weekly, Volume 14, Part 3, Sameeksha Trust, 1979
- ↑ M. M. Sankhdher, K. K. Wadhwa (1991), National unity and religious minorities, Gitanjali Publishing House, ISBN 9788185060361
- ↑ Vinayak Damodar Savarkar, Sudhakar Raje (1989), Savarkar commemoration volume, Savarkar Darshan Pratishthan
- ↑ N. Chakravarty (1990), "Mainstream", Mainstream, Volume 28, Issues 32-52
- ↑ Carlo Caldarola (1982), Religions and societies, Asia and the Middle East, Walter de Gruyter, ISBN 9789027932594
- ↑ S. Harman (1977), Plight of Muslims in India, DL Publications, ISBN 9780950281827
- ↑ M. M. Sankhdher (1992), Secularism in India, dilemmas and challenges, Deep & Deep Publication
- ↑ Rafiq Zakaria (2004), Indian Muslims: where have they gone wrong?, Popular Prakashan, ISBN 9788179912010[ลิงก์เสีย]
- ↑ Pakistan Constituent Assembly (1953), Debates: Official report, Volume 1; Volume 16, Government of Pakistan Press[ลิงก์เสีย]
- ↑ Janmahmad (1989), Essays on Baloch national struggle in Pakistan: emergence, dimensions, repercussions, Gosha-e-Adab
- ↑ Stephen P. Cohen (2004), The idea of Pakistan, Brookings Institution Press, ISBN 9780815715023
- ↑ Ahmad Salim (1991), Pashtun and Baloch history: Punjabi view, Fiction House[ลิงก์เสีย]