คอลลอยด์ (อังกฤษ: colloid) เป็นสารผสมที่ดูเหมือนจะเป็นเนื้อเดียวกันแต่เป็นแขวนลอย โดยแบ่งเป็นส่วนเนื้อเดียว (continous phase) และอนุภาคคอลลอยด์คู่ (dispersed phase) ซึ่งตัวอนุภาคคอลลอยด์จะมีขนาดระหว่าง 10-7-10-4 เซนติเมตร หรือมากกว่าขนาดรูกระดาษเซลโลเฟน แต่น้อยกว่ารูกระดาษกรอง อนุภาคคอลลอยด์จะเกาะตัวใหญ่กว่าโมเลกุล แต่ไม่ใหญ่มาก จะแยกชั้นชัดเจน เช่น นม(Milk) ควัน(smoke)

นมเป็นคอลลอยด์ชนิดหนึ่ง

ประเภทของคอลลอยด์ แก้

  อนุภาคคอลลอยด์
ก๊าซ
ของเหลว
ของแข็ง
ส่วนเนื้อเดียว ก๊าซ
ไม่มี
(เพราะก๊าซละลายก๊าซได้)
ละอองลอย (Liquid Aerosol)
ตัวอย่าง: หมอก
ละอองแข็งลอย(Solid Aerosol)
ตัวอย่าง: ควัน
ของเหลว โฟม
ตัวอย่าง: วิปครีม
อิมัลชัน(Emulsion)
ตัวอย่าง: นม, มายองเนส
โซล
ตัวอย่าง: สี, น้ำหมึก, เลือด
ของแข็ง โฟม
ตัวอย่าง: หินพัมมิช
เจล(Gel)
ตัวอย่าง: เนย, เจลลาติน
โซล
ตัวอย่าง: ruby glass

ปรากฏการณ์ต่าง ๆ ในคอลลอยด์ แก้

 
ปรากฏการณ์ทินดอลล์

ปรากฏการณ์ทินดอลล์ แก้

ปรากฏการณ์ทินดอลล์ (Tyndall Effect) คือปรากฏการณ์กระเจิงแสง เมื่อฉายลำแสงไปในสารคอลลอยด์บางชนิด อนุภาคคอลลอยด์จะช่วยกระเจิงแสงและทำให้มองเห็นเป็นลำแสงได้ เช่นการทอแสงของอากาศที่มีละอองฝุ่นอยู่ ค้นพบโดย จอห์น ทินดอล ในปี พ.ศ. 2412 เช่น หมอก ฝุ่น

การเคลื่อนที่แบบบราวน์ แก้

การเคลื่อนที่แบบบราวน์ (Brownian Motion) คือการเคลื่อนที่ของอนุภาคคอลลอยด์ซึ่งเกิดจากการเคลื่อนที่แบบสุ่ม โดยการชนไปมาของอนุภาคจากส่วนเนื้อเดียว ซึ่งโรเบิร์ต บราวน์ค้นพบปรากฏการณ์นี้ในการส่องควันโดยกล้องจุลทรรศน์

การวิ่งของโมเลกุลกับความเร็วแสงที่ผ่านสารละลายคอลลอยด์ แก้

จากปรากฏการทินดอลล์คือปรากฏการณ์กระเจิงแสง โมเลกุลที่อยู่ภายในอนุภาคคอลลอยด์ จะเกิดประกฏการ undoll ultra tony Effect (u.u.t.e) หลังการเกิดประกฏการณ์ จะเกิดปฏิกิริยาย้อนกลับทางด้านแสง ความเร็วของแสงจะลดลงครึ่งหนึ่ง ตามทฤษฏี ของ sir.horinton flash ที่กล่าวว่า "ความเร็วของแสงเป็นพลังงานที่สามารถสัมผัสได้ด้วยแสงเท่านั้น"

อ้างอิง แก้

  • Lyklema, J. “Fundamentals of Interface and Colloid Science”, vol.2, page.3.208, 1995
  • Chemistry The Central Science, 7th Ed. by Rodil,Ma.Lourdes C. ISBN 013533480

ดูเพิ่ม แก้