ความเสี่ยงด้านปฏิบัติการ
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
ความเสี่ยงด้านปฏิบัติการ (อังกฤษ: Operational risk หมายถึง โอกาส ความเป็นไปได้ และความน่าจะเป็น ที่จะเกิดความบกพร่อง การทุจริต หรือความผิดพลาด ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ป้องกันได้ กับทั้งเหตุสุดวิสัยทั้งในรูปอุบัติเหตุ ภัยธรรมชาติ รวมถึงภัยคุกคามโดยมนุษย์ อันจะนำไปสู่ความเสียหาย ความชะงักงัน และ/หรือการล่วงละเมิดกฎเกณฑ์ต่าง ๆ กระทั่งเป็นผลร้ายและรุนแรงต่อสถานภาพทางการเงิน การดำเนินธุรกิจ และความมั่นคงน่าเชื่อถือของสถาบันโดยรวม
สำหรับสถาบันการเงินที่ไม่ใช้ธนาคาร แก้
สำหรับกรณีที่เป็นสถาบันการเงิน หลักเกณฑ์การกำกับดูแลเงินกองทุนตามกรอบบาเซิลสอง ระบุว่าเป็นผลมาจาก ความล้มเหลว หรือด้อยประสิทธิภาพ ในด้านการบวนการบริหารจัดการภายใน บุคลากร และระบบการทำงานต่าง ๆ หรือจากเหตุการณ์ภายนอกสถาบันการเงิน โดยแบ่งออกเป็น 7 ประเภทเหตุการณ์ ได้แก่
- การทุจริตภายใน
- กระบวนการฉ้อโกงจากภายนอก
- การเป็นนายจ้างที่บกพร่อง ละเลยต่อความรับผิดชอบ รวมถึงความไม่ปลอดภายในสถานที่ทำงาน
- ความเสียหายที่เกิดกับลูกค้า จากการออกผลิตภัณฑ์ รวมทั้งพฤติกรรมการดำเนินธุรกิจ
- ความเสียหายต่อสินทรัพย์ทางกายภาพ
- การชะงักงันในการดำเนินธุรกิจ และความล้มเหลวของระบบต่าง ๆ
- การดำเนินการ ส่งมอบ และการบริหารจัดการเชิงกระบวนการต่าง ๆ
ซึ่งในการนี้ไม่รวมความเสี่ยงด้านชื่อเสียง และความเสี่ยงเชิงกลยุทธ์/ธุรกิจ
การบริหารจัดการความเสี่ยงด้านปฏิบัติการ แก้
ในขณะที่การบริหารจัดการความเสี่ยง (ด้านการเงิน) ขาลง มักจะเกี่ยวข้องแต่กับเหตุการณ์ความเสียหายที่เกิดขึ้นบ่อย แต่ผลกระทบไม่รุนแรง กับที่เกิดขึ้นไม่บ่อย แต่ผลกระทบรุนแรง การบริหารจัดการความเสี่ยงด้านปฏิบัติการก็เช่นกัน เพียงแต่อาจจะยิ่งกว่า คือลักษณะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยมาก ๆ ในขณะที่ความเสียหายเล็กน้อย กับที่โอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก ๆ ในขณะที่ความเสียหายคิดเป็นมูลค่าสูงลิ่ว ขึ้นอยู่กับประเภทธุรกิจ คำนึงร่วมกันกับประเภทเหตุการณ์
สำหรับสถาบันการเงินโดยเฉพาะ บทบัญญัติเกณฑ์บาเซิลสอง ระบุแบ่งประเภทธุรกิจออกเป็น 8 สาย ได้แก่
- การดำเนินการทางการเงินสำหรับกิจการมหาชน
- การทำธุรกรรมซื้อขายและเป็นนายหน้าค้า
- กิจการธนาคารสำหรับลูกค้ารายย่อย
- กิจการธนาคารทั่วไป
- การชำระเงินและเคลียร์บัญชี
- การเป็นตัวแทนทำธุรกรรมทางการเงิน
- การบริหารสินทรัพย์
- การเป็นนายหน้าสำหรับลูกค้ารายย่อย
จะเห็นว่า 7 ประเภทเหตุการณ์ กับ 8 ประเภทธุรกิจ ประกอบกันขึ้นเป็นตาราง 8 คูณ 7 หรือ 56 ช่อง แต่ละช่องไว้จดบันทึกกรณีเหตุการณ์ความบกพร่อง ทุจริต ผิดพลาด หรือเหตุสุดวิสัย อันจะเกิดขึ้นได้กับสถาบันการเงินแต่ละแห่ง ทุก ๆ แห่ง
การสร้างแบบจำลองเชิงวิเคราะห์ในรูปการแจกแจงความน่าจะเป็น แก้
โดยในแบบจำลองอาจจะใช้ตัวแปรสุ่มซึ่งนับจำนวนเหตุการณ์ บันทึกระยะห่าง (เวลา) ระหว่าง 2 เหตุการณ์ที่ใกล้เคียงกัน และ/หรือแสดงค่าความสูญเสียเป็นจำนวนเงินหรือเปรียบเทียบเป็นจำนวนเงิน
ในมุมมองทางการเงิน ประเด็นพิเศษในการจำลองแบบความเสี่ยงด้านปฏิบัติการคือ โดยนิยาม หรืออย่างน้อยก็ในการสร้างแบบจำลอง เหตุการณ์ที่ปรากฏขึ้นจากความเสี่ยงด้านปฏิบัติการ แต่ละครั้งนั้นถือว่าเกิดขึ้นโดยอิสระจากกัน