กัสปาร์ เดอ กอลีญี

กัสปาร์ เดอ กอลีญี, แซเญอร์เดอชาตียง (ฝรั่งเศส: Gaspard de Coligny, Seigneur de Châtillon; 16 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1519 - 24 สิงหาคม ค.ศ. 1572) เป็นขุนนางชาวฝรั่งเศส และผู้บังคับบัญชากองทัพเรือแห่งฝรั่งเศสผู้มีชื่อเสียงว่าเป็นอูเกอโนต์ผู้มีวินัยและผู้นำในสงครามศาสนาของฝรั่งเศส

กัสปาร์ เดอ กอลีญี
Gaspard de Coligny

กัสปาร์ เดอ กอลีญี
ขุนนางฝรั่งเศส
เกิด 16 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1519
เสียชีวิต 24 สิงหาคม ค.ศ. 1572 (53 ปี)
บิดา กัสปาร์ที่ 1 เดอ กอลีญี
มารดา หลุยส์ เดอ มงมอร็องซี
ภรรยา ชาร์ล็อต เดอ ลาวาล
ขุนนางฝรั่งเศส - กษัตริย์ฝรั่งเศส - ประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส

ประวัติ แก้

บรรพบุรุษ แก้

กอลีญีถือกำเนิดมาในตระกูลขุนนางจากภูมิภาคเบอร์กันดี ตระกูลกอลีญีสืบเชื้อสายมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 11 และรับราชการภายใต้พระเจ้าหลุยส์ที่ 11 กัสปาร์ที่ 1 เดอ กอลีญี บิดาของกอลีญีหรือที่รู้จักกันในตำแหน่ง "มาร์แชลแห่งชาตียง" รับราชการในสงครามอิตาลีระหว่าง ค.ศ. 1494 จนถึง ค.ศ. 1516 สมรสในปี ค.ศ. 1514 และได้รับแต่งตั้งให้เป็นมาร์แชลแห่งฝรั่งเศสในปี ค.ศ. 1516 กัสปาร์ที่ 1 มีบุตรกับหลุยส์ เดอ มงมอร็องซีด้วยกันสามคน ได้แก่ ออแด เดอ กอลีญี, กัสปาร์ และฟร็องซัว เดอ กอลีญีแห่งอ็องเดอโล ทั้งสามคนมีบทบาทสำคัญในช่วงแรกของสงครามศาสนาของฝรั่งเศส

เบื้องต้น แก้

กอลีญีเกิดที่ชาตียง-ซูร์-ลวง เมื่อวันที่16 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1519 เมื่อมีอายุได้ 22 ปี กอลีญีก็เข้ามาในราชสำนัก และทำความรู้จักกับฟร็องซัว ดุ๊กแห่งกีซ

ในการยุทธการในปี ค.ศ. 1543 กอลีญีแสดงความสามารถอย่างกล้าหาญและได้รับบาดเจ็บระหว่างการยึดมงเมดีและแบ็ง ในปี ค.ศ. 1544 กอลีญีก็ร่วมในรณรงค์ทางทหารในอิตาลีภายใต้ฟร็องซัวแห่งว็องโดม เคานต์แห่งอ็องเกียง และได้รับบรรดาศักดิ์เป็นขุนนางในยุทธการที่เชเรโซเล เมื่อกลับมาถึงฝรั่งเศส กอลีญีก็ได้เข้าร่วมในโครงการทางทหารหลายโครงการ และได้รับแต่งตั้งให้เป็นนายพันของกองทหารราบในเดือนเมษายน ค.ศ. 1547 จากการแสดงถึงความสามารถอันเป็นเยี่ยม และ ความมีประสิทธิภาพในการเป็นนักปฏิรูป ปีเดียวกันนั้นกอลีญีก็สมรสกับชาร์ล็อต เดอ ลาวาล (เสียชีวิต ค.ศ. 1568) เมื่อโคลด ดานโบ (1552) เสียชีวิตกอลีญีก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้บังคับบัญชากองทัพเรือแห่งฝรั่งเศสแทนที่ และได้รับหน้าที่ให้มีความรับผิดชอบในการป้องกันแซ็ง-ก็องแต็ง แม้ว่าจะทำการป้องกันอย่างเข้มแข็งแต่แซ็ง-ก็องแต็งถูกยึดได้ กอลีญีจึงถูกจำขังและถูกปล่อยตัวหลังจากทำการเสียค่าไถ่ไปเป็นจำนวน 50,000 คราวน์

ผู้นำของฝ่ายโปรเตสแตนต์ แก้

 
กัสปาร์ เดอ กอลีญี โดยห้องเขียนภาพของ Jan Antonisz van Ravesteyn

เมื่อมาถึงช่วงนี้กอลีญีก็หันไปเป็นอูเกอโนต์หรือผู้ถือโปรเตสแตนต์โดยอิทธิพลของฟร็องซัวน้องชาย จดหมายฉบับแรกที่ทราบที่ฌ็อง กาลแว็ง เขียนถึงกอลีญีลงวันที่ 4 กันยายน ค.ศ. 1558 กอลีญีสนับสนุนฝ่ายอูเกอโนต์อย่างลับ ๆ โดยการส่งกลุ่มหนึ่งลี้ภัยไปตั้งถิ่นฐานในบราซิลภายใต้การนำของเพื่อนในราชนาวีผู้บังคับบัญชากองทัพเรือนีกอลา ดูร็อง เดอ วีลแกญงในการตั้งอาณานิคมแอนตาร์กติกฝรั่งเศส (France Antarctique) ในรีโอเดจาเนโรในปี ค.ศ. 1555 แต่ในปี ค.ศ. 1567 ก็ถูกขับออกจากบราซิลโดยโปรตุเกส นอกจากนั้นแล้วกอลีญีก็พยายามที่จะก่อตั้งอาณานิคมที่ฟอร์ตแคโรไลน์ในฟลอริดาของสเปนที่นำโดยฌ็อง รีโบในปี ค.ศ. 1562 แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ในปี ค.ศ. 1566 และ ค.ศ. 1570 ฟร็องซิสก์ และอ็องเดร ดาลแบญก็ให้ความร่วมมือกับกอลีญีในโครงการที่จะสร้างความสัมพันธ์กับดินแดนทางใต้ แม้ว่าจะลงทุนลงแรงสนับสนุนโครงการต่าง ๆ เหล่านี้ แต่โครงการก็ต้องมายุติลงเมื่อกอลีญีมาถูกสังหารในปี ค.ศ. 1572 ระหว่างการสังหารหมู่วันเซนต์บาโทโลมิว[1][2]

หลังจากการเสด็จสวรรคตของพระเจ้าอ็องรีที่ 2 กอลีญีก็เข้าเป็นฝ่ายเดียวกับหลุยส์ เดอ บูร์บง เจ้าชายแห่งกงเดในฐานะผู้นำของฝ่ายอูเกอโนต์ และทำการเรียกร้องให้มีการยอมรับความต่างศาสนา และ การปฏิรูปต่างๆ ในปี ค.ศ. 1560 ระหว่างการประชุมของสภาชนชั้นสูง (Assembly of Notables) ที่ฟงแตนโบล ความเป็นปฏิปักษ์ระหว่างกอลีญีกับฟร็องซัว ดยุกแห่งกีซ ก็รุนแรงขึ้นจนถึงกับกลายเป็นการต่อสู้ เมื่อสงครามกลางเมืองเริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1562 กอลีญีก็ตัดสินใจยกอาวุธหลังจากที่ได้ลังเลอยู่เป็นเวลานาน และพร้อมเสมอที่จะพยายามเจรจาต่อรอง ในการต่อสู้ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกอลีญีมิได้แสดงถึงความเป็นอัจฉริยะอันสามารถ แต่การกระทำของกอลีญีเป็นการกระทำที่แสดงถึงความมีวิจารณญาณและความอดทนอันมุ่มมั่น กอลีญีจึงถือกันว่าเป็น "le héros de la mauvaise fortune" หรือ "วีรบุรุษยามยาก"

ในปี ค.ศ. 1569 ความพ่ายแพ้และการสิ้นพระชนม์ของเจ้าชายแห่งกงเดในยุทธการที่ฌาร์นักทำให้เหลือกอลีญีเป็นผู้นำอยู่คนเดียวของกองทัพฝ่ายโปรเตสแตนต์ เมื่อได้รับชัยชนะที่อาร์แน-เลอ-ดุก กอลีญีก็ทำการตกลงสัญญาสันติภาพแซ็ง-แฌร์แม็ง-อ็อง-แล (ค.ศ. 1570) จากนั้นก็ทำการสมรสเป็นครั้งที่สองกับฌาเกอลีน เดอ มงแบล เคาน์เทสแห่งอ็องทร์มงและกลับเข้าราชสำนักในปี ค.ศ. 1571 กอลีญีกลายเป็นคนโปรดของพระเจ้าชาร์ลที่ 9 ผู้เป็นพระมหากษัตริย์ผู้อ่อนแอและง่ายต่อการยุยง อย่างรวดเร็ว

กอลีญีพยายามหาวิธีที่จะลดอิทธิพลของพระราชมารดา และจากฝักฝ่ายของตระกูลกีซที่มีต่อพระเจ้าชาร์ลที่ 9 ลง กอลีญีถวายคำแนะนำให้ส่งกองทัพที่นำโดยคนของพระเจ้าชาร์ลเองที่ประกอบด้วยทหารจากทั้งที่เป็นโรมันคาทอลิกและโปรเตสแตนต์ไปยังเนเธอร์แลนด์ของสเปน ความโปรดปรานกอลีญีที่เพิ่มมากขึ้นของพระเจ้าชาร์ลและข้อเสนออันบ้าบิ่นของฝ่ายอูเกอโนต์ทำให้แคทเธอรีน เดอ เมดีชี พระราชมารดาของพระเจ้าชาร์ลทรงเพิ่มความหวาดระแวงยิ่งขึ้น

การลอบสังหารและการสังหารหมู่ แก้

 
"นายพลกอลีญีสร้างความประทับใจแก่ฆาตกร" โดย Joseph-Benoît Suvée
 
"ความตายของนายพลกอลีญี" จาก "Foxe's Book of Martyrs" ฉบับ ค.ศ. 1887 โดยโครนไฮม์
 
อนุสาวรีย์กัสปาร์ เดอ กอลีญี โดยกุสตาฟว์ โครก (ค.ศ. 1827- ค.ศ. 1905)

เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ค.ศ. 1572 กอลีญีถูกยิงกลางถนนโดยชายชื่อโมร์แวร์จากบ้านที่เป็นของตระกูลกีซ แต่กระสุนเพียงแต่ทำให้นิ้วมือขวาขาด แต่ไปโดนเอาที่ข้อศอกซ้าย ผู้พยายามลอบสังหารหลบหนีไปได้

นักประวัติศาสตร์มีความเห็นต่างกันว่าใครเป็นผู้จ้างให้โมร์แวร์พยายามสังหารกอลีญี แต่โดยทั่วไปแล้วก็เห็นกันว่ามีอยู่สามข้อที่อาจจะเป็นไปได้ คือ ตระกูลกีซ, แคทเธอรีน เดอ เมดีชี หรือเฟร์นันโด อัลบาเรซ เด โตเลโด ดุ๊กที่ 3 แห่งอัลบา ในนามของพระเจ้าเฟลิเปที่ 2 แห่งสเปน เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น พระเจ้าชาร์ลก็ทรงส่งแพทย์ประจำพระองค์ไปดูแลกอลีญี และทรงไปเยี่ยมด้วยพระองค์เอง แต่พระราชินีแคทเธอรีนทรงกันไม่ให้ทั้งสองคนได้มีโอกาสได้สนทนากันเป็นการส่วนตัว

ในอาทิตย์เดียวกันในวาระการเสกสมรสระหว่างเจ้าหญิงมาร์เกอริตแห่งวาลัว พระราชธิดาในพระราชินีแคทเธอรีนและพระขนิษฐาในพระเจ้าชาร์ลกับพระเจ้าอ็องรีแห่งนาวาร์ ผู้เป็นโปรเตสแตนต์ ก็มีการหวาดระแวงกันว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายจากฝ่ายโปรเตสแตนต์ที่ต้องการที่จะแก้แค้นเพราะการพยายามลอบสังหารกอลีญี

ในคืนวันที่ 24 สิงหาคม กอลีญีก็ถูกโจมตีทำร้ายที่บ้าน คนใช้ของดุ๊กแห่งกีซคนใหม่ ชาลส์ ดีอาโนวิตซ์ หรือที่รู้จักกันว่า "แบม" (Besme หรือ Bême) ใช้ดาบแทงเข้าไปที่ทรวงอกของกอลีญี และกระโดดหนีออกทางหน้าต่าง ในที่สุดกอลีญีก็เสียชีวิตขณะที่ฝ่ายกีซอีกคนหนึ่งตัดหัวกอลีญี

เมื่อกอลีญีเสียชีวิตลงแล้ว ฝ่ายโรมันคาทอลิกก็ดำเนินการไล่ฆ่าฝ่ายโปรเตสแตนต์ที่เดินทางเข้ามาร่วมงานเสกสมรสในปารีสที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปเป็นจำนวนหลายพันคน ในเหตุการณ์ที่มาเรียกกันว่า "การสังหารหมู่วันเซนต์บาโทโลมิว"

เอกสารของกอลีญีถูกยึดและเผาโดยพระราชินีแคทเธอรีน ที่ปีแยร์ เดอ บูร์แดล อ้างว่ารวมทั้งหนังสือเกี่ยวกับประวัติของสงครามกลางเมืองที่เป็นงานเขียนที่ดีจากมุมมองที่เป็นกลางและควรค่าต่อการตีพิมพ์

การสมรสและบุตรธิดา แก้

กับภรรยาคนแรกชาร์ล็อต เดอ ลาวาล (ค.ศ. 1530- ค.ศ. 1568):

กับภรรยาคนที่สอง ฌาเกอลีน เดอ มงแบล (ค.ศ. 1541-ค.ศ. 1588)

  • เบอาทริส เดอ กอลีญี

อ้างอิง แก้

  1. (E.T. Hamy, "Francisque et Andre d'Albaigne: cosmographes lucquois au service de la France"; "Nouveau documents sur les frères d'Albaigne et sur le projet de voyage et de découvertes présenté à la cour de France"; and "Documents relatifs à un projet d’expéditions lointaines présentés à la cour de France en 1570", in Bulletin de Géographie Historique et Descriptive, Paris, 1894, pp.405-433; 1899, pp.101-110; and 1903, pp.266-273.)
  2. E.T. Hamy, "Francisque et Andre d'Albaigne: cosmographes lucquois au service de la France"; "Nouveau documents sur les frères d'Albaigne et sur le projet de voyage et de découvertes présenté à la cour de France"; and "Documents relatifs à un projet d’expéditions lointaines présentés à la cour de France en 1570", in Bulletin de Géographie Historique et Descriptive, Paris, 1894, pp.405-433; 1899, pp.101-110; and 1903, pp.266-273.

บรรณานุกรม แก้

  •   บทความนี้ ประกอบด้วยข้อความจากสิ่งพิมพ์ซึ่งปัจจุบันเป็นสาธารณสมบัติChisholm, Hugh, บ.ก. (1911). สารานุกรมบริตานิกา ค.ศ. 1911 (11 ed.). สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์. {{cite encyclopedia}}: |title= ไม่มีหรือว่างเปล่า (help)
  • Jean du Bouchet, Preuves de l'histoire généalogique de l'illustre maison de Coligny (Paris, 1661)
  • François Hotman, Vita Colinii (1575), translated as La vie de messire Gaspar de Colligny Admiral de France, (1643; facsimile edition prepared by Émile-V. Telle (Geneva: Droz) 1987).
  • L. J. Delaborde, Gaspard de Coligny (1879-1882)
  • Erich Marcks, Gaspard von Coligny, sein Leben und das Frankreich seiner Zeit (Stuttgart, 1892)
  • H. Patry, "Coligny et la Papauté," in the Bulletin du protestantisme français (1902)
  • Arthur Whiston Whitehead, Gaspard de Coligny, Admiral of France (1904)
  • Charles Merki, L'Amiral de Coligny (1909).
  • J. Shimizu, Conflict of Loyalties: Politics and Religion in the Career of Gaspard de Coligny, Admiral of France, 1519-1572 (Geneva) 1970. Coligny's political motivations are stressed.
  • A Paris colloquy on Admiral de Coligny and his times in 1972 resulted in a volume of essays, Actes du colloque l'Amiral de Coligny et son temps (Paris) 1974.
  • GeneaNet Genealogical database
  • L'Amiral Coligny, Martyr Huguenot: Sermon par Alfred V. Wittmeyer bilingual commemorative sermon from 1925
  • Encyclopedia Britannica